อยากขอเขาเป็นแฟนครับ แต่กลัวคำตอบ

สวัสดีครับ

ขอบอกก่อนนะครับ ผมเป็นชายรักชาย ตอนนี้ผมแอบรักคนๆหนึ่ง ซึ่ง แอบรักมาพักนึงแล้วตั้งแต่ปีที่แล้วครับ เราสองคนเจอกันบนโลกออนไลน์ ครั้งแรกที่ผมนัดเจอกับเขาผมชวนเค้าไปทานอาหารญี่ปุ่น ซึ่งผมอาสาเป็นคนเลี้ยงอาหารมื้อนี้เอง จากนั้นเราก็คุยกันเรื่อยมา เขาทำงานต่างจังหวัดครับ เราอยู่คนละจังหวัด แต่ทุกเสาร์อาทิตย์เขาต้องมาทำงานในตัวเมืองของจังหวัดที่ผมอยู่ แรกๆ เขาต้องเช่าห้องเอง (สิ้นเปลืองพอควร) และช่วงคุยกันใหม่ๆ ผมอาสาไปรับส่งเขาที่ทำงานอยู่พักนึง เนื่องจากรถเขาเสียส่งซ่อมศูนย์ รับส่งจาก บ.ข.ส. ไปส่งที่คลินิก ก่อนเข้างานผมก็พาเขาทานข้าวเสมอ จนช่วงหลังเริ่มสนิทกัน ผมเลยลองชวนเขามาพักที่ห้อง (เขารักตัวสงวนตัว) กว่าจะตกลงก็นานเหมือนกัน บางครั้งผมพามาเช่าห้องในตึกเดียวกัน จนวันนึงเขาก็ยอมมาพักด้วย ตอนนั้นผมแอบชอบเขาแล้วครับ เขาเคยบอกผมในช่วงแรกว่า “บางคนคุยกันหลายปีแต่ก็ไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้ตกลงกัน”  วันนึงผมไม่อยุ่ผมก็ฝากกุญแจห้องผมไว้ให้เขา ระยะเวลาที่คุยกันเกือบ 8 เดือน เขาเคยบอกคิดถึงผมครั้งนึง คือตอนผมติดงานต่างจังหวัด ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขาบอกว่าก็ปกติมีผมอยู่ด้วย พอไม่อยู่ก็คิดถึง _______เวลาแค่นี้ ตอนนี้ผมรักเขาไปแล้ว รักมาหลายเดือนแล้ว หลายเดือนก่อนผมเคยบอกรักเขาผ่านแชท  เขาบอกว่า “บางครั้งเราสองคนก็ควรมีระยะห่าง อย่าคาดหวังอะไร” บ้างก็บอกว่า “เราเป็นแบบพี่น้อง” แต่ปฏิกิริยาตอนอยู่ด้วยกันเรามันมากกว่านั้น

ผมห่วงเขาเสมอ ระยะหลังเขาได้รถมาแล้ว ผมก็ต้องแอบขี่รถผ่านคลินิก ว่าเขามาถึงที่ทำงานหรือยัง เพราะผมเป็นห่วง แต่ส่วนใหญ่ทุกวันเสาร์ เขาก็จะพักกะผม โดยจะกลับ ตจว วันอาทิตย์ เขาป่วยง่าย ท้องเสียบ่อย ไม่สบายก็บ่อย ผมเลยชอบดูแลเขา ทำอาหารให้ทานบ่อยๆ เช้ามาก็จะบังคับให้ทานอาหาร เพราะเป็นกรดไหลย้อน เวลาป่วยผมก็จะต้องรีบไปรับเขาเพื่อไปทานข้าว จะได้ทานยา ผมพยายามดูแลเขาให้ดีที่สุด (ทั้งที่ผมไม่กล้าคาดหวังให้เขามารักเลย) ทุกอย่างที่ทำไปก็เพราะอยากเห็นเขามีความสุข จนตอนนี้ผมรักเขามาก แต่ผมก็ไม่เคยบอกรักอีกเลย ผมอาศัยการดูแลเขาแทนการบอกรัก ไปเดินห้างผมก็จะคอยถือของให้เขา เวลาผมทำอะไรคล้ายคนเป็นแฟนกันที่สาธารณะเขาไม่เคยอายและปฏิเสธเลย (เช่น ผมชอบเอามือวัดไข้ตอนคนเยอะ เอามือแตะหน้าว่าร้อนไหม ป้อนข้าว ป้อนขนม ซูชิ) บางครั้งก็ไปออกกำลังกายด้วยกัน เขาน่ารักคับ นิสัยดี ผม พยายามดูแลเขาไม่ห่าง เท่าที่ทำได้ เขาดื้อหน่อย งอแงบ้าง โดยเฉพาะตอนป่วย ไม่ค่อยทานยา (หมอส่วนใหญ่คงดื้อพอๆกัน) นอกจากอาการหนักจริงๆ ล่าสุดเขาป่วยอีก เมื่อไม่กี่วันมานี้แต่เขาก็ยอมทานยา ตัวร้อนมาก ผมนอนกอดเขาทั้งคืน จะเช็ดตัวให้แต่เขาบอกไม่เป็นไร (ยังรู้สึกผิดผมควรเช็ดแบบไม่ต้องถาม) จนตอนเช้าทำอาหารให้ทาน แต่อาการก็ดีขึ้น ช่วงแรกเราคุยโทรศัพท์เยอะ สองเดือนแรกมั้ง หลังๆแชทไลน์ เขาตอบช้าบ้าง เวลาโทรหาไม่ค่อยรับเท่าไหร่ ถ้าเขาโทรมา ผมก็จะรีบรับสาย เพราะผมห่วงเขามาก กลัวเขามีปัญหาอะไร แต่ผมก็พยายามไม่คิดมาก เพราะเขาทำงาน 7 วัน เลยคิดว่าเขาอาจต้องการพักผ่อน เวลาเขา กลับบ้านที่ภาคอีสาน เขาจะบอกผมเสมอ เช่น บางทีอาจไม่ได้คุยนะ เพราะกลับบ้าน ไม่ก็จะบอกผมเสมอเวลาจะไปเที่ยว


เวลาเขาเหนื่อยๆ จากการทำงาน (ทำงานเยอะมาก) ผมก็จะคอยนวดให้เขา บางทีก็นวดให้จนหลับไปเลย สำหรับผมก็มีความสุขดี ลืมบอกไปว่าเขาเป็นคนตลก อารมณ์ดี มุขเยอะ ซึ่งจะคล้ายผม เรามีอะไรฮาๆ ปล่อยมุขใส่กันได้เรื่อย เขาเป็นคนหน้าตาน่ารักครับ ถือว่าหน้าตาดี ก็สไตน์หมอๆ ผมเป็นห่วงเขาเสมอ ชอบซื้อของให้ ทาน โดยเฉพาะยาคูลท์ เพราะอยากให้เขาระบบขับถ่ายดีขึ้น (ท้องเสียง่าย) ซึ่งเวลาผมทำอาหารให้ ผมก็ต้องระวังเป็นพิเศษ หลายครั้งที่ห่อให้เขาทานที่ทำงาน ได้ทานบ้างไม่ทานบ้าง เพราะเป็นคนดื้อ ทานไม่เป็นเวลา เพราะทำงานหนักเช่นเคยเลยตื่นสาย เวลาทานบุฟเฟ่ต์ผมก็ชอบแกะกุ้งให้เขาเยอะๆ เพราะเขาชอบทาน (ผมชอบนั่งดูเขากิน) จนบางครั้งให้ว่าผม ทำไมไม่ทานบ้าง แกะให้คนอื่นแต่ไม่ทาน ยาคูลท์เหมือนกัน ผมซื้อให้ทานอาทิตย์นึง เขาก็จะบังคับให้ผมดื่มบ้าง เพราะมัวแต่ให้เขาดื่ม (เขาบอก) จนตัวเองไม่ทาน

เวลาทานข้าวผมก็จะชอบเป็นคนจ่ายเองบ่อยๆ จนบางครั้งก็โดนต่อว่า หลังๆเลยยอมหารบ้าง บางครั้งผมไม่เอาเงินที่เราไปทานด้วยกัน จนวันนึง เขาแอบเอาเงินไปวางเอาไว้ในซอก เพราะรู้ว่าให้ตรงๆผมก็ไม่เอา พอผมทำความสะอาดก็สงสัย มันมาได้ไง สุดท้ายเขาบอกว่า “ก็เงินของตัวเองไง อยู่ที่ห้องตัวเอง” บางทีเขาจะบอกว่า เขาไม่อยากให้ผมจ่ายคนเดียว ทำไมเขาต้องเอาเปรียบผมด้วย นี่คือนิสัยเขา เขาไม่ชอบเอาเปรียบใคร และผมก็เช่นกัน เขาชอบสวดมนต์ เข้าวัด ฟังธรรมะ ซึ่งผมเองก็ชอบทำบุญอยู่แล้ว ผมชอบฟังเวลาเขาสอนธรรมมะ (ผมแก่กว่าเขา 5 ปี แต่หน้าผมเด็ก อิอิ)

ตอนนี้ผมรักเขามาก แต่สถานะเรามันไม่ชัดเจน ผมอยากขอเขาเป็นแฟน แต่กลัวคำตอบ เพราะเขาเคยพูดช่วงแรกว่า “เขาก็คุยกับอีกคน แต่ไม่ใช่แฟนมั้ง “ นี่คือคำที่เขาพูด ผมเลยคิดว่าคนนั้นคงสนิทมาก ผมมาทีหลัง แต่ระยะหลังเขาไม่พูดอีกเลย รวมถึงประโยคต่างๆเช่น ให้ผมเผื่อใจ เขาก็ไม่พูดอีก เขาไม่ชอบคนที่ “มีอะไรกับคนอื่นไปทั่ว” ผมเลยคิดว่า เขาคงไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ยอมรับว่าเราค่อนข้างสนิท ผมดูแลเขาเสมอ ผมขอโทษเขาในสิ่งที่ผมคิดว่าทำให้เขาไม่สบายใจ หลายครั้งที่เขาขอโทษผม แต่ก็ไม่ได้หนักอะไร มันทั่วๆไป

ผมควรทำยังไงดีอยากขอเป็นแฟน  ก็กลัวคำตอบ เพลง “อยากรู้แต่ไม่อยากถาม” คือเพลงที่เข้ากับผมมาก ผมกลัวเขาจะหายไปจากชีวิต หรือผมควรเงียบ และทำแบบนี้ต่อไป ผมคิดเสมอ ถ้าเขาเจอคนที่ดีกว่า ผมก็พร้อมหลีกทาง เขาเป็นหมอ เราคงต่างกันด้วย บางทีก็แอบคิด ผมอาจไม่เหมาะสมกับเขาที่มีฐานะทางสังคม เขาอาจมีโอกาสเจอคนดีดีอีกมากมาย ถ้าหากเขาเจอคนที่ดูแลเขาได้กว่าผม ผมคงยอมเดินไปเอง .....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่