ทะเลใต้ดีต่อใจเสมอ
สวัสดีค่ะทุกคน เมื่อปีใหม่ได้ไปเที่ยวกระบี่มาค่ะ ก็เลยอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆชาวบลูแพลนเน็ตกัน ทะเลใต้เมืองไทยนี่เป็นอะไรที่ฟินสุดๆแล้ววว ตามไปดูกันค่ะ
นี่ก็มารีวิวที่นี่เป็นครั้งแรก ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้าา เป็นคนที่ชอบเล่าเรื่อง ยังไงน่าจะยาวหน่อย หวังว่าจะชอบกันนะคะ อิอิ
**ไปครั้งนี้จะไปค้างที่เกาะพีพี 2 คืน แล้วก็กลับมาที่กระบี่ 2 คืนค่ะ
**รูปจะมีทั้งที่ถ่ายจากโทรศัพท์และกล้องใหญ่นะคะ
เนื่องด้วยงานที่ออฟฟิศลางานค่อนข้างลำบาก ไม่รู้ช่วงเทศกาลงานจะเข้ามั้ย ทำให้กว่าจะได้จองตั๋วก็ปลายพ.ย.แล้ว ทั้งๆที่แพลนไว้นานแล้วว่าปีใหม่จะไปเที่ยวแต่ก็จองตั๋วไม่ได้สักทีเพราะงานไม่แน่นอน
เปิดไปดูตั๋วเครื่องบินรวมค่าโหลดกระเป๋า โอ้แม่เจ้าา ถูกสุดก็ 7,000 กว่าบาทแล้ว ผู้หญิงเราส่วนใหญ่คงจะต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋ากันอยู่แล้วใช่มั้ยคะ เพราะพวกเครื่องสำอางก็เป็นน้ำๆเยอะเหลือเกิน แต่เอาจริงๆถึงจะไม่ซื้อน้ำหนักหรือไปดูสายการบินที่แถมน้ำหนักแล้วก็สู้ราคาไม่ไหวอยู่ดี ก็เลยตัดสินใจว่า แม้จะประหยัดได้นิดหน่อย เลือกนั่งรถบัสขาไป ขากลับน่าจะเหนื่อย ก็สู้ราคาตั๋วเครื่องบินขากลับแล้วกัน! (ขากลับค่าเครื่องบินประมาณ 4,500 บาท)
จองลิกไนท์ทัวร์ 800 กว่าบาทขึ้นรถที่สายใต้ใหม่ ออกเดินทางเย็นวันที่ 29 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่ทุกๆคนก็เดินทางเหมือนกัน ใครไปช่วงเทศกาลต้องเผื่อเวลาหน่อยนะคะ ระหว่างทางไปขนส่งนี่รถไปได้เรื่อยๆ มาติดตอนใกล้ๆถึงนี่แหละค่ะ
ไปถามชานชาลาที่เจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ รถเข้าเทียบเยอะมาก ดูดีๆนะคะว่ารถที่จอดนี่ตารางเวลาเท่าไหร่ เดินทางไปไหน
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง มีแวะพักกินข้าวที่หัวหินประมาณ 20 นาที
พอไปถึงที่ท่ารถ ก็จะมีคนมาถามเต็มไปหมดว่าจะไปไหน แต่นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องไปไหนต่อ 5555 (ไม่รู้ว่าคนวัยทำงาน พนักงานออฟฟิศกินเงินเดือนเป็นแบบเรารึเปล่า คือสมัยเรียนเนี่ย จะมีเวลาแพลนเที่ยวเยอะมากกก สนุกกับการแพลนมาก พอทำงานแล้วอะไรๆก็ไปด้นสดตลอดเพราะไม่มีเวลาเลย T_T) ก็เลยไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน จ่ายเงินค่าเข้าห้องน้ำด้วยนะคะ ห้องน้ำโอเคอยู่ค่ะ เสร็จแล้วก็เสิร์ชหาข้อมูล เราจะไปพักที่เกาะพีพีกัน 2 คืนแรก ก็จะต้องไปขึ้นเรือที่ท่า อบจ. เพื่อขึ้นเรือต่อไปเกาะพีพีค่ะ ก็ไปถามคนขายตั๋วแถวนั้นว่าจะไปท่าเรือ อบจ. เค้าก็เรียกรถให้ เหมาไป 3 คน 200 บาท (เค้าบอกว่าปกติคิดคนละ 50 บาท แต่เรามากัน 3 คนจ่าย 200 เหมาไปเลย นี่ก็อ่ะๆๆ จัดไปค่ะ)
ไปถึงท่าเรือ อบจ.ก็เจอโต๊ะทัวร์มากมาย ด้วยความที่มีคนเค้าลากกระเป๋าเราไปแล้ว ถอนตัวก็ลำบากเลยต้องซื้อตั๋วกับเค้า โดนไปคนละ 450 บาท ทั้งๆที่จริงๆอ่านในพันทิปมาคนละ 300-350 บาท แต่ถ้าเดินเข้าไปข้างในสุด ซื้อ 200 ก็ได้ (ตั๋วราคาคนพื้นที่) ตอนแรกก็ต่อแล้วนะ แบบ อ้าววไม่ใช่ 300-350 หรอคะ เค้าก็บอกว่าไม่มีราคานี้ ราคานี้เป็นราคาคนพื้นที่ แล้วเค้าก็บอกว่าถ้าซื้อไป-กลับถึงได้ราคา 700 แต่จากที่พันทิปเค้าบอกมาว่า ขากลับไปซื้อบนเกาะได้คนละ 200 นี่ก็แบบ ชั้นไม่ยอม ชั้นต้องได้ 200 ก็เลยซื้อขาไปขาเดียว 5555
พอเดินเข้าไปก็จะเจอที่ขายตั๋วในสุดที่พันทิปบอกนี่แหละว่ามาซื้อที่นี่ 200 ได้ ตรงนั้นจะเป็นที่นั่งเวิ้งใหญ่มาก ก็นั่งรอแถวนั้น แล้วก็โทรหารีสอร์ทที่จองไว้ ซึ่งเราจองไว้ที่ Paradise Resort Phi Phi ค่ะ เค้าก็บอกว่าพอไปถึงให้เดินหาป้ายชื่อโรงแรม (คือเหมือนตอนคนมายืนรอรับที่สนามบินเลยค่ะ) แล้วเดี๋ยวจะมีบริการเรือเข้าไปถึงรีสอร์ท
พอใกล้เวลาก็เอาตั๋วที่ซื้อมาไปแลกตั๋วอีกรอบ แบบงงๆว่าไม่รู้ว่าจะต้องแลกทำไม ก็เลยถามเจ้าหน้าที่ตรงนั้นอีกทีเลยว่า มันต้องราคา 450 หรอคะ!! สรุปเค้าก็คอนเฟิร์มอีกรอบว่า ใช่ค่ะ ราคานักท่องเที่ยว เอ่อออสรุปซื้อข้างในก็ 450 สินะ ก็แบบเห้อออ ทำไมมันแพงขนาดนี้
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงท่าเรือเกาะพีพี เดินออกมา ตรงท่าเรือ ก่อนเข้าเกาะต้องเสียคนละ 20 บาท พอจ่ายเงินเดินออกมาเรียบร้อยก็เดินหาป้ายชื่อรีสอร์ท ฝากกระเป๋าเค้าไว้ เพราะต้องรออีกประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เดินเข้าไปหาอะไรกิน เจอแมคก็เข้าก่อนเลย แต่ก็ได้พบว่า แพงมากกกกกกกกกกกกกกกก แบบ 3 คนกินคนละเซ็ต หมดไป 600 กว่าบาท =_="!!
พอถึงเวลาก็ไปขึ้นเรือหางยาวของรีสอร์ท เข้าที่พักไปเช็กอิน แล้วก็ถามเรื่องทัวร์เกาะ ซึ่งที่รีสอร์ทมีขายเลย สะดวกมาก ดูแล้วน่าสนใจ ราคาไม่แพงมาก ไปทัวร์ 3 ชั่วโมง คนละ 600 บาท เลือกไปตอนช่วงเช้า (เริ่มออกเดินทาง 8.30 น.) ตื่นเช้าหน่อยแต่จะได้ไม่ร้อน แสงสวยกว่า
ตรงที่เราพักนี่จะเป็นบริเวณหาดส่วนตัวของโรงแรมต่างๆเลย ซึ่งตรงหาดนี้จะเงียบสงบมาก และที่สำคัญคือน้ำใส สีสวย เล่นน้ำนี่ฟินมากกกกก
ก็ถามพนักงานค่ะว่าปกติถ้ามาพักแถวนี้นี่จะต้องไปหาของกินยังไง เค้าก็บอกว่าปกติก็จะสั่งอาหารของโรงแรมเลย แต่ละโรงแรมเนี่ยจะมีร้านอาหารของตัวเองอยู่แล้ว ก็เลยประเดิมข้าวกลางวันค่ะ สั่งเป็นอาหารตามสั่ง รสชาติกินได้ค่ะ เหมือนเค้าจะทำรสชาติให้เหมาะกับฝรั่งมากกว่าค่ะ
ร้านอาหารด้านหน้ารีสอร์ทนี่ วิวดีมากกก ก็เลยจองโต๊ะวิวริมทะเลไว้สำหรับมื้อเย็นเลยค่ะ
วันแรกก็ไม่มีไรมากค่ะ เดินเล่นเซอร์เวย์ พักผ่อนจากการเดินทางอันยาวนาน
เมนูอาหารเย็นที่โรงแรม มีพวกซีฟู้ด อยากกินปูแต่วันนั้นไม่มีปู เลยสั่งได้แค่ กุ้งเผากับปลาทอดน้ำปลา รสชาติโอเคนะคะ แต่ไม่ว้าวววว แต่ที่อร่อยมากคือไก่ BBQ เนื้อนุ่มแน่นมากกกกกก
น้องแมวที่รีสอร์ท มองอาหารตาปริบๆ
วันที่ 2 ตื่นเช้ามาไปกินอาหารเช้าก่อนไปทัวร์เกาะค่ะ อาหารไม่มากแต่รสชาติพอได้ ระหว่างกินอยู่พนักงานเดินมาถามว่า พอดีมีคู่รักเป็นใบ้ชาวญี่ปุ่นอยากจะขอมาแจมทัวร์ด้วย เราก็จะได้ราคาเหลือคนละ 480 ไม่คิดมาก ตกลงทันใด 555555
เสร็จแล้วก็ไปยืมสนอกเกอร์ของทางรีสอร์ทค่ะ จริงๆเค้ามีตีนกบให้ยืมด้วย แต่ว่าเราไม่เคยใช้ ใช้ไม่เป็น เลยเอามาแค่สนอกเกอร์ค่ะ
ไปด้วยเรือหางยาวของรีสอร์ทลำนี้ค่าา
ไว้เดี๋ยวมาต่อวันที่ 2 นะคะ
[CR] ทะเลใต้ดีต่อใจเสมอ <3 ไปเที่ยวกระบี่ เกาะพีพี ช่วงวันหยุดปีใหม่ ทะเลหนาวๆ x_x
สวัสดีค่ะทุกคน เมื่อปีใหม่ได้ไปเที่ยวกระบี่มาค่ะ ก็เลยอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆชาวบลูแพลนเน็ตกัน ทะเลใต้เมืองไทยนี่เป็นอะไรที่ฟินสุดๆแล้ววว ตามไปดูกันค่ะ
นี่ก็มารีวิวที่นี่เป็นครั้งแรก ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้าา เป็นคนที่ชอบเล่าเรื่อง ยังไงน่าจะยาวหน่อย หวังว่าจะชอบกันนะคะ อิอิ
**ไปครั้งนี้จะไปค้างที่เกาะพีพี 2 คืน แล้วก็กลับมาที่กระบี่ 2 คืนค่ะ
**รูปจะมีทั้งที่ถ่ายจากโทรศัพท์และกล้องใหญ่นะคะ
เนื่องด้วยงานที่ออฟฟิศลางานค่อนข้างลำบาก ไม่รู้ช่วงเทศกาลงานจะเข้ามั้ย ทำให้กว่าจะได้จองตั๋วก็ปลายพ.ย.แล้ว ทั้งๆที่แพลนไว้นานแล้วว่าปีใหม่จะไปเที่ยวแต่ก็จองตั๋วไม่ได้สักทีเพราะงานไม่แน่นอน
จองลิกไนท์ทัวร์ 800 กว่าบาทขึ้นรถที่สายใต้ใหม่ ออกเดินทางเย็นวันที่ 29 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่ทุกๆคนก็เดินทางเหมือนกัน ใครไปช่วงเทศกาลต้องเผื่อเวลาหน่อยนะคะ ระหว่างทางไปขนส่งนี่รถไปได้เรื่อยๆ มาติดตอนใกล้ๆถึงนี่แหละค่ะ
ไปถามชานชาลาที่เจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ รถเข้าเทียบเยอะมาก ดูดีๆนะคะว่ารถที่จอดนี่ตารางเวลาเท่าไหร่ เดินทางไปไหน
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง มีแวะพักกินข้าวที่หัวหินประมาณ 20 นาที
พอไปถึงที่ท่ารถ ก็จะมีคนมาถามเต็มไปหมดว่าจะไปไหน แต่นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องไปไหนต่อ 5555 (ไม่รู้ว่าคนวัยทำงาน พนักงานออฟฟิศกินเงินเดือนเป็นแบบเรารึเปล่า คือสมัยเรียนเนี่ย จะมีเวลาแพลนเที่ยวเยอะมากกก สนุกกับการแพลนมาก พอทำงานแล้วอะไรๆก็ไปด้นสดตลอดเพราะไม่มีเวลาเลย T_T) ก็เลยไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน จ่ายเงินค่าเข้าห้องน้ำด้วยนะคะ ห้องน้ำโอเคอยู่ค่ะ เสร็จแล้วก็เสิร์ชหาข้อมูล เราจะไปพักที่เกาะพีพีกัน 2 คืนแรก ก็จะต้องไปขึ้นเรือที่ท่า อบจ. เพื่อขึ้นเรือต่อไปเกาะพีพีค่ะ ก็ไปถามคนขายตั๋วแถวนั้นว่าจะไปท่าเรือ อบจ. เค้าก็เรียกรถให้ เหมาไป 3 คน 200 บาท (เค้าบอกว่าปกติคิดคนละ 50 บาท แต่เรามากัน 3 คนจ่าย 200 เหมาไปเลย นี่ก็อ่ะๆๆ จัดไปค่ะ)
ไปถึงท่าเรือ อบจ.ก็เจอโต๊ะทัวร์มากมาย ด้วยความที่มีคนเค้าลากกระเป๋าเราไปแล้ว ถอนตัวก็ลำบากเลยต้องซื้อตั๋วกับเค้า โดนไปคนละ 450 บาท ทั้งๆที่จริงๆอ่านในพันทิปมาคนละ 300-350 บาท แต่ถ้าเดินเข้าไปข้างในสุด ซื้อ 200 ก็ได้ (ตั๋วราคาคนพื้นที่) ตอนแรกก็ต่อแล้วนะ แบบ อ้าววไม่ใช่ 300-350 หรอคะ เค้าก็บอกว่าไม่มีราคานี้ ราคานี้เป็นราคาคนพื้นที่ แล้วเค้าก็บอกว่าถ้าซื้อไป-กลับถึงได้ราคา 700 แต่จากที่พันทิปเค้าบอกมาว่า ขากลับไปซื้อบนเกาะได้คนละ 200 นี่ก็แบบ ชั้นไม่ยอม ชั้นต้องได้ 200 ก็เลยซื้อขาไปขาเดียว 5555
พอเดินเข้าไปก็จะเจอที่ขายตั๋วในสุดที่พันทิปบอกนี่แหละว่ามาซื้อที่นี่ 200 ได้ ตรงนั้นจะเป็นที่นั่งเวิ้งใหญ่มาก ก็นั่งรอแถวนั้น แล้วก็โทรหารีสอร์ทที่จองไว้ ซึ่งเราจองไว้ที่ Paradise Resort Phi Phi ค่ะ เค้าก็บอกว่าพอไปถึงให้เดินหาป้ายชื่อโรงแรม (คือเหมือนตอนคนมายืนรอรับที่สนามบินเลยค่ะ) แล้วเดี๋ยวจะมีบริการเรือเข้าไปถึงรีสอร์ท
พอใกล้เวลาก็เอาตั๋วที่ซื้อมาไปแลกตั๋วอีกรอบ แบบงงๆว่าไม่รู้ว่าจะต้องแลกทำไม ก็เลยถามเจ้าหน้าที่ตรงนั้นอีกทีเลยว่า มันต้องราคา 450 หรอคะ!! สรุปเค้าก็คอนเฟิร์มอีกรอบว่า ใช่ค่ะ ราคานักท่องเที่ยว เอ่อออสรุปซื้อข้างในก็ 450 สินะ ก็แบบเห้อออ ทำไมมันแพงขนาดนี้
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงท่าเรือเกาะพีพี เดินออกมา ตรงท่าเรือ ก่อนเข้าเกาะต้องเสียคนละ 20 บาท พอจ่ายเงินเดินออกมาเรียบร้อยก็เดินหาป้ายชื่อรีสอร์ท ฝากกระเป๋าเค้าไว้ เพราะต้องรออีกประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เดินเข้าไปหาอะไรกิน เจอแมคก็เข้าก่อนเลย แต่ก็ได้พบว่า แพงมากกกกกกกกกกกกกกกก แบบ 3 คนกินคนละเซ็ต หมดไป 600 กว่าบาท =_="!!
พอถึงเวลาก็ไปขึ้นเรือหางยาวของรีสอร์ท เข้าที่พักไปเช็กอิน แล้วก็ถามเรื่องทัวร์เกาะ ซึ่งที่รีสอร์ทมีขายเลย สะดวกมาก ดูแล้วน่าสนใจ ราคาไม่แพงมาก ไปทัวร์ 3 ชั่วโมง คนละ 600 บาท เลือกไปตอนช่วงเช้า (เริ่มออกเดินทาง 8.30 น.) ตื่นเช้าหน่อยแต่จะได้ไม่ร้อน แสงสวยกว่า
ตรงที่เราพักนี่จะเป็นบริเวณหาดส่วนตัวของโรงแรมต่างๆเลย ซึ่งตรงหาดนี้จะเงียบสงบมาก และที่สำคัญคือน้ำใส สีสวย เล่นน้ำนี่ฟินมากกกกก
ก็ถามพนักงานค่ะว่าปกติถ้ามาพักแถวนี้นี่จะต้องไปหาของกินยังไง เค้าก็บอกว่าปกติก็จะสั่งอาหารของโรงแรมเลย แต่ละโรงแรมเนี่ยจะมีร้านอาหารของตัวเองอยู่แล้ว ก็เลยประเดิมข้าวกลางวันค่ะ สั่งเป็นอาหารตามสั่ง รสชาติกินได้ค่ะ เหมือนเค้าจะทำรสชาติให้เหมาะกับฝรั่งมากกว่าค่ะ
ร้านอาหารด้านหน้ารีสอร์ทนี่ วิวดีมากกก ก็เลยจองโต๊ะวิวริมทะเลไว้สำหรับมื้อเย็นเลยค่ะ
วันแรกก็ไม่มีไรมากค่ะ เดินเล่นเซอร์เวย์ พักผ่อนจากการเดินทางอันยาวนาน
เมนูอาหารเย็นที่โรงแรม มีพวกซีฟู้ด อยากกินปูแต่วันนั้นไม่มีปู เลยสั่งได้แค่ กุ้งเผากับปลาทอดน้ำปลา รสชาติโอเคนะคะ แต่ไม่ว้าวววว แต่ที่อร่อยมากคือไก่ BBQ เนื้อนุ่มแน่นมากกกกกก
น้องแมวที่รีสอร์ท มองอาหารตาปริบๆ
วันที่ 2 ตื่นเช้ามาไปกินอาหารเช้าก่อนไปทัวร์เกาะค่ะ อาหารไม่มากแต่รสชาติพอได้ ระหว่างกินอยู่พนักงานเดินมาถามว่า พอดีมีคู่รักเป็นใบ้ชาวญี่ปุ่นอยากจะขอมาแจมทัวร์ด้วย เราก็จะได้ราคาเหลือคนละ 480 ไม่คิดมาก ตกลงทันใด 555555
เสร็จแล้วก็ไปยืมสนอกเกอร์ของทางรีสอร์ทค่ะ จริงๆเค้ามีตีนกบให้ยืมด้วย แต่ว่าเราไม่เคยใช้ ใช้ไม่เป็น เลยเอามาแค่สนอกเกอร์ค่ะ
ไปด้วยเรือหางยาวของรีสอร์ทลำนี้ค่าา
ไว้เดี๋ยวมาต่อวันที่ 2 นะคะ