ก็คิดอยู่ว่าจะเขียนกระทู้นี้ดี หรือ ไม่ดี น๊าาาา
เกริ่นก่อน
ผมเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ อยู่ในระหว่างการรักษา ยังไม่หายดี เลยหันมาขี่จักรยานออกกำลังให้ร่างกายดีขึ้น ตอนนี้ปั่นมาได้เดือนกว่าๆ ผมก็ปั่นไปเรื่อยเปื่อย 20-100 ก.ม. ปั่นแบบไป-กลับ มาบ้านที่แม่แตง ไปไหนก็ใช้จักรยาน น้องมอเตอร์ไซด์แอบร้องไห้ ไม่ใช่นักปั่นมืออาชีพนะครับ จนวันนึงอยากลองทำอะไรสนุกๆดู ขี่ไกลๆบ้าง ก็เลยคิดว่าไปอ่างขางละกัน ไม่เคยไปอ่างขาง
รายละเอียดของทริปนี้
ทริปนี้ผมวางแผนไว้ว่าไป 8 กลับ 10 ม.ค.2561 เป้าหมายคือ ไปทางอรุโณทัย
ข้าวของที่เอาไปด้วย ตามรูปเลยครับ เต็นท์,ถุงนอน,ที่นอน และเสื้อผ้า 5 ชุดใส่กระเป๋าตะแกรงท้าย รวมๆ ก็ 10 กว่าโล
เริ่มกันเลย
วันจันทร์ 8 ม.ค.2561
เริ่มปั่นออกจากบ้าน ประมาณ 11.00 น. ก็ปั่นไปเรื่อยๆ ผ่านเชียงดาว จากนั้นพอเลยเชียงดาวมาก็จะมีทางเลี้ยวเข้าไปเส้น 1178 ทางซ้ายมือ จากถนนเส้น 107
ตอนปั่นเข้าเมืองงาย ทางราบเรียบ สบายๆ ปั่นไปชิวๆชมบ้านชมเมือง พอหลังจากนั้นก็เริ่มเป็นทางขึ้นๆลงๆแล้ว เนินแล้วเนินเล่า
ผมไปหยุดที่ อุทยานแห่งชาติผาแดง ตอน 16.00 น.ของวันนี้ เพราะใกล้มืด แถมแรงก็หดหายไปเยอะ แล้วก็ไม่คุ้นทางด้วย แล้วก็ออกไปซื้อของกินในหมู่บ้านมากิน อาบน้ำตกแล้วก็เข้านอน


วันอังคาร 9 ม.ค.2561
ตื่นแต่เช้ามาหาข้าวกินที่เดิม แล้วก็ไปอาบน้ำที่ตกศรีสังวาลย์ จากนั้นก็กลับมาเก็บเต็นท์เดินทางต่อ ล่อไป 11.00 น.ก็ปั่นไปเรื่อยๆสักพักก็จะเจอด่านทหาร

ก็เลี้ยวขวาไปทางอรุโณทัย จากจุดนี้ถึงอ่างขาง 51 ก.ม.(เหมือนใกล้เลย 555+) ผ่านบ่อน้ำผุดเมืองงะ ก็จะเจอโครงการหลวงหนองเขียว ผมแวะไปซื้อสปอนเซอร์สีฟ้าๆที่โครงการหลวงขวดนึง เจ้าหน้าที่ผู้ชายใจดีมากๆครับ ใส่น้ำแข็งให้ในกระติกน้ำแล้วเทใส่สปอนเซอร์ให้ผมด้วย ขอบคุณครับ


จากนั้นผมก็ปั่นต่อไปเรื่อยๆ จนผ่านตลาดอรุโณทัย ว้าววว มี 7-11 ด้วย เลยซื้อแซนวิชมา 2 ชิ้นกับน้ำ 600 มล. 1 ขวด หลังจากลงเนินมาก็เจอร้านของกินมากมาย ลังเลว่าจะกินดีไหม แล้วก็เลี้ยวขวาไปตามป้ายที่เขียนว่าอ่างขาง
ตอนนี้แหละที่ผมกำลังจะพลาดครั้งยิ่งใหญ่ เพราะไม่ยอมกินข้าวก่อนไปต่อ หวังว่าจะมีร้านข้าวอีก จากนั้นก็ปั่นไปเรื่อยๆทางตอนแรกๆก็ราบๆมีขึ้นนิดๆ ปั่นสบายๆ น่าจะซัก 10 ก.ม.

จากนั้นก็เริ่มเจอทางขึ้น โอ้แม่เจ้า!!! จะขึ้นยาวไปไหน โอ้แม่เจ้า!!! บางทีก็เจอทั้งชันทั้งยาว จนเริ่มล้า เริ่มลงมาเดินบ้าง เพื่อเซฟพลังงาน อีกอย่างแรงก็เริ่มจะปั่นจนสุดไม่ไหวแล้วมันเป็นทางขึ้นชันๆยาวๆ บางทีเดินๆอยู่ก็คิดว่ากลับไปตรงตลาดอรุโณทัยดีกว่ามั้ง? สุดท้ายก็ไปต่อ(คงมีซักร้าน) ทีนี้เริ่มหิวข้าว แต่ไม่เห็นร้านอาหารซักร้านเดียว มีแต่ต้นไม้กับภูเขา
13.00 น.จนต้องเอาแซนวิชออกมากินแทนข้าวตอนบ่ายโมง(นั่งกินข้างๆถนนที่เป็นพื้นกว้างๆหน่อย เอาจักรยานหลบไว้ด้วย)
กินแล้วก็เดินทางกันต่อไป เจออีกแล้วทางขึ้น บอกตรงๆ มันเหนื่อยนะเฟร้ย ก็ไม่ยอมแพ้พยายามไปต่อไปหาร้านของกินให้เจอ แล้วเข็นจักรยานที่มีของ 10 โล ขึ้นเขานี่ต้องเดินไปพักไป ไม่งั้นหัวใจจะทะลุอกมาข้างนอก สุดๆจริงๆ แถมกินน้ำจนหมด นี่แค่ช่วงแรกๆนะครับ


14.30 น.ในที่สุดก็ลงจากเขามาเจอร้านอาหารยูนานจนได้ ร้านอยู่ซ้ายมือตรงดิ่งไปหาน้ำเปล่าก่อนเลย แล้วก็สั่งก๋วยเตี๋ยวยูนานมากินต่อทันที พร้อมๆกับดูดโค้กแคนจนหมดกระป๋อง ปกติปั่นในชุมชนไม่เคยขาดของกิน ครั้งนี้รู้แล้วว่า น้ำสำรองมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เลยสำรองน้ำไปด้วย
ตรงจุดพักนี้เป็นจุดที่มีด่านอีกด่าน ผมก็เลยถามพี่ทหารว่า ข้างหน้านี้มีร้านแบบนี้อีกมั้ยครับ พี่แกบอกว่ามีนี่รู้สึกสบายใจเลย
เดินทางต่อผ่านด่านมา ร้องอีกจ๊ากกกก ขึ้นอย่างชัน ปั่นได้จนหมดแล้วก็ต้องลงมาเข็นต่อไปจนสุด มันชันมาก พอสุดแล้วก็ปั่นต่อเจอจุดพักอีกจุด แต่มันห่างจากจุดที่ผ่านมาไม่มาก ยังไม่หิว แถมยังเป็นทางลงด้วย เลยปล่อยไหลยาวไปต่อ
16.20 น.มาถึงตรงที่มีโฮมสเตย์กับร้านอาหาร ถึงจะเพิ่งกินข้าวมา แต่ก็คิดว่ากินไปก่อนดีกว่า ก็เลยกินเลย สั่งก๋วยเตี๋ยวมาชามนึง พี่ที่ร้านอาหารบอกว่า"ใกล้ถึงแล้ว อีกนิดเดียว"พอกินเสร็จก็ซื้อขนมติดไปด้วยเผื่อหิว แล้วก็ไปต่อ
เอาอีกแล้ว ขึ้นกันต่อไป ปั่นไปได้จนสุดแรงก็ลงไปเข็นต่อ ไกลแท้กว่าจะถึงยอด

สิ่งที่ผมทำคือ ปั่นขึ้นไปก่อน ไม่ไหวก็ลงมาเข็นต่อ ไหวก็ขึ้นปั่นต่อ ไม่ไหวก็ลงมาเข็นต่อ ทำวนไปอยู่อย่างนี้ จากมีแสงก็มืดลงก็ไม่หยุดไปต่อจะไปให้ถึง เปิดไฟท้าย เปิดไฟหน้าฝ่าความมืดไปต่อ
21.00 น. สุดท้ายเหลืออีก 4 ก.ม.ก็จะถึงฐานปฏิบัติการดอยหลวงอ่างขางแล้ว แต่!!! ขามันไม่ไปแล้ว ก้าวไม่ออก พอดีมีรถผ่านแล้วแสงไฟมันสาดไปเห็นข้างทางเป็นลานดินกว้างๆอยู่ เอาฟร๊ะ นอนพักซักพักจะได้มีแรงไปต่อ กางเต็นท์นอนมันตรงนี้เลย
วันพุธที่ 10 ม.ค.2561
3.00 น.เก็บเต็นท์ ไปต่อด้วยความมืด ลงผ่านหมู่บ้านที่มีฝูงหมาและทางสุดแย่ ขี่มาซักพักก็งงว่าทำไมยังไม่ถึง มันน่าจะเกินแล้วนะ 4 ก.ม. เลยเปิด Google Map ดู สรุปขี่เลยทางขึ้นฐานปฏิบัติการดอยหลวงอ่างขางมาแล้ว ก็เลยตามเลย ไปต่อเลยช่างมัน
5.30 น. ลากยาวจนมาถึงลานกางเต็นท์ป่าสนของเกษตรหลวงอ่างขาง ไม่เห็นเจ้าหน้าที่ แต่ไงขอนอนพักอีกซักแป๊บละกัน กางเต็นท์นอนกันอีกรอบ เพราะยังไม่เห็นมีใครตื่น งั้นขอนอนด้วยคนน๊ะ

8.00 น.ตื่นมา ก็หิวมากๆ เดินตรงไปร้านข้าวตรงนั้นก่อนเลย ประหนึ่งเหมือนถึงที่หมายแล้ว สั่งกระเพราหมู+ไข่ดาว นั่งจิบไมโลร้อนๆ ซื้อน้ำเปล่าอีก 2 ขวด แล้วก็ฝากพี่เจ้าของร้านชาร์จแบตมือถือ แล้วก็มานอนเล่นในเต็นท์ต่ออีกพัก

10.30 น. เก็บเต็นท์เดินทางลงไปที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เพราะอ่านในเวปเห็นมีที่กางเต็นท์ด้านใน จากป่าสนลงไปนี่สบายหน่อยทางลง ตลอดจนถึง เข้าไปถามเจ้าหน้าที่ก่อนเลยว่า ข้างในมีที่พักมั้ยครับ? ไม่มีครับ มีแต่จุดกางเต็นท์ตรงป่าสน หง่ะก็ผมเพิ่งจะลงมาเมื่อกี้นี้เอง แล้วทางลงขนาดนั้นขาขึ้นไม่ต้องพูดถึง เลยถามว่าแถวๆนี้มีที่พักอื่นมั้ยครับ? ผมจะได้เอาของลงก่อนไปเที่ยวข้างใน จะได้ปั่นสบายๆ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามีตรงป้อมตำรวจ ผมก็เลยเข็นจักรยานไปดู เห็นเจ้าหน้าที่กำลังทำความสะอาดสถานที่อยู่ แต่พี่แกแนะนำให้เข้าไปข้างในซอยข้างๆอนามัย
เป็นของการไฟฟ้า เข้าไปข้างในหน่อย ก็เข็นเข้าไป ติดต่อเจ้าหน้าที่เรียบร้อย จะรออะไรก็กางเต็นท์สิครับ เอาของโยนไว้ในเต็นท์ให้หมด เตรียมเที่ยว

บังเอิ๊ญ บังเอิญ มีเสียงทักมาจากน้องผู้ชายคนนึง ที่ขี่รถมอเตอร์ไซด์เข้ามา พี่คนที่เอาจักรยานขึ้นมาใช่มั้ย? ใช่แล้วครับ ผมนี่แหละ แล้วก็เล่าให้ฟังว่าไม่ไหวนอนพักข้างทาง มีแอบตกใจ ก็แหม ทำยังไงได้มันหมดแรงแล้วหนิ
12.00 น.ซื้อบัตรเข้าชม 50 บ.เข้าไปกินอาหารข้างในสโมสร แอบงงๆตรง ต้องซื้อคูปองด้วยหรอ 555+ ก็เลยกินข้าวหมกไก่จานนึง ไปนั่งกินคนเดียว ใกล้ต้นซากุระ

เริ่มผ่อนคลาย ทำงานทางมือถือ ,คุยกับเพื่อนชาวต่างชาติที่กำลังเดินทางไปเชียงรายนิดหน่อย
แล้วก็มานั่งกินชาเขียวของสโมสร คนเดียวตามฟอร์ม

ที่เหลือผมคงไม่ลงเวลาแล้วหล่ะครับ เพราะเที่ยวถ่ายรูปข้างในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางแบบเพลินๆไปเรื่อย จนหมดวันก็ออกไปกินกระเพราเนื้อ+ไข่ดาวที่ร้านอาหารอิสลาม นอกสถานีแล้วก็ขึ้นไปที่เต็นท์เพื่อพักผ่อน คุยกับเต็นท์อื่นชิวๆ
การที่จะเอาจักรยานขึ้นมาบนอ่างขางเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ขอแค่มี ความไม่ประมาท,ความตั้งใจอันแรงกล้า และกำลังใจจากข้างทาง
แต่บอกตามตรงว่ามันเหนื่อยมากๆ ทางที่ดีเอามอเตอร์ไซด์ หรือ รถยนต์ มาจะสบายกว่า
ขอบคุณสำหรับทุกๆนิ้วโป้งที่ยกขึ้นมาเป็นแรงใจให้ผมครับ ถือเป็นอีกส่วนที่พาให้ก้าวไปจนถึงอ่างขางสำเร็จ
ปล.ถ้านับไม่ผิดน่าจะมีทางขึ้นยาวๆ 15-16 รอบ ได้มั้ง ขึ้นทางอรุโณทัยทางแคบ ต้องค่อยๆมา หลบให้รถไปก่อนดีสุด มากับเพื่อนน่าจะสนุกดี รึเปล่าไม่รู้นะ 555+ แล้วขากลับผมก็ปั่นกลับนะ ทริปนี้ไม่มีโบก ไม่มีพึ่งพาอย่างอื่น ไปด้วยกำลังตัวเองล้วนๆ จนกลับถึงบ้าน วันที่ 12 ม.ค.2561 14.30 น. ใช้เวลาเกินไปนิดหน่อย
ปั่นจักรยานคนเดียว ไป-กลับ จากแม่แตง-ดอยอ่างขาง-แม่แตง
เกริ่นก่อน
ผมเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ อยู่ในระหว่างการรักษา ยังไม่หายดี เลยหันมาขี่จักรยานออกกำลังให้ร่างกายดีขึ้น ตอนนี้ปั่นมาได้เดือนกว่าๆ ผมก็ปั่นไปเรื่อยเปื่อย 20-100 ก.ม. ปั่นแบบไป-กลับ มาบ้านที่แม่แตง ไปไหนก็ใช้จักรยาน น้องมอเตอร์ไซด์แอบร้องไห้ ไม่ใช่นักปั่นมืออาชีพนะครับ จนวันนึงอยากลองทำอะไรสนุกๆดู ขี่ไกลๆบ้าง ก็เลยคิดว่าไปอ่างขางละกัน ไม่เคยไปอ่างขาง
รายละเอียดของทริปนี้
ทริปนี้ผมวางแผนไว้ว่าไป 8 กลับ 10 ม.ค.2561 เป้าหมายคือ ไปทางอรุโณทัย
ข้าวของที่เอาไปด้วย ตามรูปเลยครับ เต็นท์,ถุงนอน,ที่นอน และเสื้อผ้า 5 ชุดใส่กระเป๋าตะแกรงท้าย รวมๆ ก็ 10 กว่าโล
เริ่มกันเลย
วันจันทร์ 8 ม.ค.2561
เริ่มปั่นออกจากบ้าน ประมาณ 11.00 น. ก็ปั่นไปเรื่อยๆ ผ่านเชียงดาว จากนั้นพอเลยเชียงดาวมาก็จะมีทางเลี้ยวเข้าไปเส้น 1178 ทางซ้ายมือ จากถนนเส้น 107
ตอนปั่นเข้าเมืองงาย ทางราบเรียบ สบายๆ ปั่นไปชิวๆชมบ้านชมเมือง พอหลังจากนั้นก็เริ่มเป็นทางขึ้นๆลงๆแล้ว เนินแล้วเนินเล่า
ผมไปหยุดที่ อุทยานแห่งชาติผาแดง ตอน 16.00 น.ของวันนี้ เพราะใกล้มืด แถมแรงก็หดหายไปเยอะ แล้วก็ไม่คุ้นทางด้วย แล้วก็ออกไปซื้อของกินในหมู่บ้านมากิน อาบน้ำตกแล้วก็เข้านอน
วันอังคาร 9 ม.ค.2561
ตื่นแต่เช้ามาหาข้าวกินที่เดิม แล้วก็ไปอาบน้ำที่ตกศรีสังวาลย์ จากนั้นก็กลับมาเก็บเต็นท์เดินทางต่อ ล่อไป 11.00 น.ก็ปั่นไปเรื่อยๆสักพักก็จะเจอด่านทหาร
ตอนนี้แหละที่ผมกำลังจะพลาดครั้งยิ่งใหญ่ เพราะไม่ยอมกินข้าวก่อนไปต่อ หวังว่าจะมีร้านข้าวอีก จากนั้นก็ปั่นไปเรื่อยๆทางตอนแรกๆก็ราบๆมีขึ้นนิดๆ ปั่นสบายๆ น่าจะซัก 10 ก.ม.
จากนั้นก็เริ่มเจอทางขึ้น โอ้แม่เจ้า!!! จะขึ้นยาวไปไหน โอ้แม่เจ้า!!! บางทีก็เจอทั้งชันทั้งยาว จนเริ่มล้า เริ่มลงมาเดินบ้าง เพื่อเซฟพลังงาน อีกอย่างแรงก็เริ่มจะปั่นจนสุดไม่ไหวแล้วมันเป็นทางขึ้นชันๆยาวๆ บางทีเดินๆอยู่ก็คิดว่ากลับไปตรงตลาดอรุโณทัยดีกว่ามั้ง? สุดท้ายก็ไปต่อ(คงมีซักร้าน) ทีนี้เริ่มหิวข้าว แต่ไม่เห็นร้านอาหารซักร้านเดียว มีแต่ต้นไม้กับภูเขา
13.00 น.จนต้องเอาแซนวิชออกมากินแทนข้าวตอนบ่ายโมง(นั่งกินข้างๆถนนที่เป็นพื้นกว้างๆหน่อย เอาจักรยานหลบไว้ด้วย)
กินแล้วก็เดินทางกันต่อไป เจออีกแล้วทางขึ้น บอกตรงๆ มันเหนื่อยนะเฟร้ย ก็ไม่ยอมแพ้พยายามไปต่อไปหาร้านของกินให้เจอ แล้วเข็นจักรยานที่มีของ 10 โล ขึ้นเขานี่ต้องเดินไปพักไป ไม่งั้นหัวใจจะทะลุอกมาข้างนอก สุดๆจริงๆ แถมกินน้ำจนหมด นี่แค่ช่วงแรกๆนะครับ
ตรงจุดพักนี้เป็นจุดที่มีด่านอีกด่าน ผมก็เลยถามพี่ทหารว่า ข้างหน้านี้มีร้านแบบนี้อีกมั้ยครับ พี่แกบอกว่ามีนี่รู้สึกสบายใจเลย
เดินทางต่อผ่านด่านมา ร้องอีกจ๊ากกกก ขึ้นอย่างชัน ปั่นได้จนหมดแล้วก็ต้องลงมาเข็นต่อไปจนสุด มันชันมาก พอสุดแล้วก็ปั่นต่อเจอจุดพักอีกจุด แต่มันห่างจากจุดที่ผ่านมาไม่มาก ยังไม่หิว แถมยังเป็นทางลงด้วย เลยปล่อยไหลยาวไปต่อ
16.20 น.มาถึงตรงที่มีโฮมสเตย์กับร้านอาหาร ถึงจะเพิ่งกินข้าวมา แต่ก็คิดว่ากินไปก่อนดีกว่า ก็เลยกินเลย สั่งก๋วยเตี๋ยวมาชามนึง พี่ที่ร้านอาหารบอกว่า"ใกล้ถึงแล้ว อีกนิดเดียว"พอกินเสร็จก็ซื้อขนมติดไปด้วยเผื่อหิว แล้วก็ไปต่อ
เอาอีกแล้ว ขึ้นกันต่อไป ปั่นไปได้จนสุดแรงก็ลงไปเข็นต่อ ไกลแท้กว่าจะถึงยอด
21.00 น. สุดท้ายเหลืออีก 4 ก.ม.ก็จะถึงฐานปฏิบัติการดอยหลวงอ่างขางแล้ว แต่!!! ขามันไม่ไปแล้ว ก้าวไม่ออก พอดีมีรถผ่านแล้วแสงไฟมันสาดไปเห็นข้างทางเป็นลานดินกว้างๆอยู่ เอาฟร๊ะ นอนพักซักพักจะได้มีแรงไปต่อ กางเต็นท์นอนมันตรงนี้เลย
วันพุธที่ 10 ม.ค.2561
3.00 น.เก็บเต็นท์ ไปต่อด้วยความมืด ลงผ่านหมู่บ้านที่มีฝูงหมาและทางสุดแย่ ขี่มาซักพักก็งงว่าทำไมยังไม่ถึง มันน่าจะเกินแล้วนะ 4 ก.ม. เลยเปิด Google Map ดู สรุปขี่เลยทางขึ้นฐานปฏิบัติการดอยหลวงอ่างขางมาแล้ว ก็เลยตามเลย ไปต่อเลยช่างมัน
5.30 น. ลากยาวจนมาถึงลานกางเต็นท์ป่าสนของเกษตรหลวงอ่างขาง ไม่เห็นเจ้าหน้าที่ แต่ไงขอนอนพักอีกซักแป๊บละกัน กางเต็นท์นอนกันอีกรอบ เพราะยังไม่เห็นมีใครตื่น งั้นขอนอนด้วยคนน๊ะ
เป็นของการไฟฟ้า เข้าไปข้างในหน่อย ก็เข็นเข้าไป ติดต่อเจ้าหน้าที่เรียบร้อย จะรออะไรก็กางเต็นท์สิครับ เอาของโยนไว้ในเต็นท์ให้หมด เตรียมเที่ยว
บังเอิ๊ญ บังเอิญ มีเสียงทักมาจากน้องผู้ชายคนนึง ที่ขี่รถมอเตอร์ไซด์เข้ามา พี่คนที่เอาจักรยานขึ้นมาใช่มั้ย? ใช่แล้วครับ ผมนี่แหละ แล้วก็เล่าให้ฟังว่าไม่ไหวนอนพักข้างทาง มีแอบตกใจ ก็แหม ทำยังไงได้มันหมดแรงแล้วหนิ
12.00 น.ซื้อบัตรเข้าชม 50 บ.เข้าไปกินอาหารข้างในสโมสร แอบงงๆตรง ต้องซื้อคูปองด้วยหรอ 555+ ก็เลยกินข้าวหมกไก่จานนึง ไปนั่งกินคนเดียว ใกล้ต้นซากุระ
เริ่มผ่อนคลาย ทำงานทางมือถือ ,คุยกับเพื่อนชาวต่างชาติที่กำลังเดินทางไปเชียงรายนิดหน่อย
แล้วก็มานั่งกินชาเขียวของสโมสร คนเดียวตามฟอร์ม
การที่จะเอาจักรยานขึ้นมาบนอ่างขางเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ขอแค่มี ความไม่ประมาท,ความตั้งใจอันแรงกล้า และกำลังใจจากข้างทาง
แต่บอกตามตรงว่ามันเหนื่อยมากๆ ทางที่ดีเอามอเตอร์ไซด์ หรือ รถยนต์ มาจะสบายกว่า
ขอบคุณสำหรับทุกๆนิ้วโป้งที่ยกขึ้นมาเป็นแรงใจให้ผมครับ ถือเป็นอีกส่วนที่พาให้ก้าวไปจนถึงอ่างขางสำเร็จ
ปล.ถ้านับไม่ผิดน่าจะมีทางขึ้นยาวๆ 15-16 รอบ ได้มั้ง ขึ้นทางอรุโณทัยทางแคบ ต้องค่อยๆมา หลบให้รถไปก่อนดีสุด มากับเพื่อนน่าจะสนุกดี รึเปล่าไม่รู้นะ 555+ แล้วขากลับผมก็ปั่นกลับนะ ทริปนี้ไม่มีโบก ไม่มีพึ่งพาอย่างอื่น ไปด้วยกำลังตัวเองล้วนๆ จนกลับถึงบ้าน วันที่ 12 ม.ค.2561 14.30 น. ใช้เวลาเกินไปนิดหน่อย