คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ออกซิเจนทำให้ติดไฟ ไฮโดรเจนทำให้ไฟติด แสดงว่าถึงแม้จะมีไฮโดรเจนที่ทำให้ไฟติด
แต่ไม่มีออกซิเจนที่ทำให้ติดไฟ ไฟก็จะไม่ติดใช่ไหมครับ
ใช่ครับ หากเราจุดไฟใส่ในพื้นที่ ที่มีแต่ Hydrogen ล้วน ๆ โดยไม่มี Oxygen เลย ไฟก็ไม่ติดครับ
เนื่องจาก Hydrogen ต้องการ Oxidizer (ก็คือ Oxygen) ในการติดไฟเผาไหม้ ตามสมการนี้ครับ

นอกจาก Oxygen แล้ว ยังสามารถใช้แก้สที่เป็น Oxidizer ตัวอื่นได้ เช่น Chlorine Fluorine
Nitric Oxide Nitrogen Dioxide ..... ก็คือมันสามารถทำให้ Hydrogen ติดไฟได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว
ก็ไม่ควรใช้คำว่า ติดไฟ เนื่องจากปฏิกิริยาของ Hydrogen กับแก้สที่เป็น Oxidizer นั้นจะรุนแรง
อย่างเช่น Hydrogen กับ Chlorine ก็จะรุนแรงกว่าติดไฟมากครับ คือจะ ระเบิด ได้เลย และที่แปลกก็คือ
ปฏิกิริยาของ Hydrogen กับ Chlorine เกิดได้ด้วยการใช้ แสง UV จากหลอด LED เล็ก ๆ นี่เอง ส่องเข้าไป
มันจะระเบิดได้ทันที
เมื่อมีออกซิเจนที่ทำให้ติดไฟแต่ไม่มีไฮโดรเจน ไฟก็ยังติดได้ ผลสรุปคือ ออกซิเจน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไฟติดใช่ไหมครับ
คือหากเรามีเฉพาะ Oxygen อย่างเดียว และเราจุดไฟใส่มัน มันก็จะไม่ติดไฟครับ
แต่หากเราจุดไฟใส่อะไรบางอย่าง เช่น กระดาษ มันก็จะติดไฟไหม้ได้เนื่องจากมี Oxygen ช่วย
ซึ่ง Oxygen คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไฟติด ถูกต้องแล้ว
แล้วก๊าซที่เป็นตัวกลางช่วยให้ติดไฟนอกจากออกซิเจนมีตัวไหนบ้าง แล้ว ก๊าซไวไฟมีตัวไหนนอกจาก ไฮโดรเจนบ้าง
ก็ตามที่อธิบายในข้อ 1. เลยครับ ก๊าซเหล่านั้นเรียกว่า Oxidizer gas
ส่วนก๊าซไวไฟตัวอื่น ๆ เราเรียกว่า Flammable gas มีดังนี้ครับ .....
Acetylene Ammonia Arsine Butane Carbon Monoxide Cyclopropane Ethane
Ethylene Ethyl Chloride Hydrogen Isobutan Methane Methyl Chloride Propane
Propylene Silane ....... ซึ่งก๊าซพวกนี้จะติดไฟที่อุณหภูมิระหว่าง 450 - 650 องศา C (แล้วแต่ชนิด)
แต่ไม่มีออกซิเจนที่ทำให้ติดไฟ ไฟก็จะไม่ติดใช่ไหมครับ
ใช่ครับ หากเราจุดไฟใส่ในพื้นที่ ที่มีแต่ Hydrogen ล้วน ๆ โดยไม่มี Oxygen เลย ไฟก็ไม่ติดครับ
เนื่องจาก Hydrogen ต้องการ Oxidizer (ก็คือ Oxygen) ในการติดไฟเผาไหม้ ตามสมการนี้ครับ

นอกจาก Oxygen แล้ว ยังสามารถใช้แก้สที่เป็น Oxidizer ตัวอื่นได้ เช่น Chlorine Fluorine
Nitric Oxide Nitrogen Dioxide ..... ก็คือมันสามารถทำให้ Hydrogen ติดไฟได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว
ก็ไม่ควรใช้คำว่า ติดไฟ เนื่องจากปฏิกิริยาของ Hydrogen กับแก้สที่เป็น Oxidizer นั้นจะรุนแรง
อย่างเช่น Hydrogen กับ Chlorine ก็จะรุนแรงกว่าติดไฟมากครับ คือจะ ระเบิด ได้เลย และที่แปลกก็คือ
ปฏิกิริยาของ Hydrogen กับ Chlorine เกิดได้ด้วยการใช้ แสง UV จากหลอด LED เล็ก ๆ นี่เอง ส่องเข้าไป
มันจะระเบิดได้ทันที
เมื่อมีออกซิเจนที่ทำให้ติดไฟแต่ไม่มีไฮโดรเจน ไฟก็ยังติดได้ ผลสรุปคือ ออกซิเจน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไฟติดใช่ไหมครับ
คือหากเรามีเฉพาะ Oxygen อย่างเดียว และเราจุดไฟใส่มัน มันก็จะไม่ติดไฟครับ
แต่หากเราจุดไฟใส่อะไรบางอย่าง เช่น กระดาษ มันก็จะติดไฟไหม้ได้เนื่องจากมี Oxygen ช่วย
ซึ่ง Oxygen คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไฟติด ถูกต้องแล้ว
แล้วก๊าซที่เป็นตัวกลางช่วยให้ติดไฟนอกจากออกซิเจนมีตัวไหนบ้าง แล้ว ก๊าซไวไฟมีตัวไหนนอกจาก ไฮโดรเจนบ้าง
ก็ตามที่อธิบายในข้อ 1. เลยครับ ก๊าซเหล่านั้นเรียกว่า Oxidizer gas
ส่วนก๊าซไวไฟตัวอื่น ๆ เราเรียกว่า Flammable gas มีดังนี้ครับ .....
Acetylene Ammonia Arsine Butane Carbon Monoxide Cyclopropane Ethane
Ethylene Ethyl Chloride Hydrogen Isobutan Methane Methyl Chloride Propane
Propylene Silane ....... ซึ่งก๊าซพวกนี้จะติดไฟที่อุณหภูมิระหว่าง 450 - 650 องศา C (แล้วแต่ชนิด)
แสดงความคิดเห็น
ออกซิเจนทำให้ติดไฟ ไฮโดรเจนทำให้ไฟติด