*ก่อนอื่นผมต้องขอออกตัวก่อนว่า เป็นครั้งแรกที่ผมมาเขียนรีวิวที่ pantip ถ้าเกิดผิดพลาดตรงไหนรบกวนเพื่อนๆช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ
ขอแนะนำตัวเองก่อน “ ผมชื่อ มังกร นะครับ”
ก่อนที่เราจะไปดูรีวิว ผมขอเล่าจุดเริ่มต้นที่ผมต้องสร้างบ้านหลังนี้ก่อนนะครับ ประมาณ ต้นปี2560 ผมได้แต่งงานกับแฟนผมที่คบกันมา3ปี หลังจากที่เราแต่งงานกัน เราทั้งคู่ก็ต้องแยกกันอยู่ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องที่ทำงานอยู่คนละทาง และปัญหาบ้านไม่มีที่จอดรถ ทำให้เราทั้งคู่ต้องแยกกันอยู่ประมาณ 9เดือน โดยที่เราสองคนตัดสินใจสร้างบ้านแถวฝั่งธน เนื่องจากพ่อตามีที่ดินอยู่แถวนั้นและทางผมและแฟนก็มีเงินไม่มาก ทำให้เราคิดว่าการสร้างบ้านเองน่าจะใช้เงินไม่เยอะมากเพราะมีที่ดินอยู่แล้ว แต่พอได้ลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้วพบว่า จะต้องมี ค่าออกแบบ , ค่ารังวัด , ค่าถมที่ , ค่าทำรั้ว , ค่าสร้างบ้าน , ค่าตกแต่ง , ค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ ทำให้เรามีความคิดว่าซื้อบ้านตามหมู่บ้านเลยดีกว่า แต่ปัญหาคือราคาบ้านกับพื้นที่ใช้สอยไม่ตรงกับความต้องการ ผมเลยคิดว่าการสร้างบ้านเองน่าจะตอบโจทย์เรื่องราคาและพื้นที่ใช้สอย
- อันดับแรกผมเริ่มจาก หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตก่อน ผลที่ได้คือ ไม่รู้จะจ้างใครมาสร้างบ้านดี ข้อมูลมีเยอะมาก ทั้งข้อดีและข้อเสียของการสร้างบ้านเอง ทำให้ผมรู้สึกกลัวจะเจอ ผรม.ทิ้งงาน แต่เหมือนผมจะโชคดีก็คือ ผมได้ปรึกษากับพี่ข้างบ้านโดยเค้าแนะนำสถาปนิกจบใหม่มา พอผมได้คุยกับสถาปนิกคนนั้นผมรู้สึกถึงความกระตือรือร้นและความจริงใจของเค้า คุยกันแค่2วัน ผมก็ตกลงให้เค้าช่วยเขียนแบบให้ โดยทำสัญญาขึ้นมา1ฉบับ


หลังจากที่ผมเซ็นสัญญาจ้างออกแบบนั้น ผมก็ได้เล่าให้คนรอบตัวฟัง ก็มีแต่คำถามว่าทำไมแพงจัง จ้างสถาปนิกทำไม แบบฟรีก็มี ทำให้ผมรู้สึกเฟลมากครับและก็กลับมานั่งคิดว่าเราจ้างสถาปนิกทำไม เดียวนี้ยังจำเป็นอยู่ไหม จ้างผรม. หรือ บริษัทรับสร้างบ้านเลยไม่ดีกว่าหรอ ระหว่างที่สถาปนิกกำลังออกแบบให้ผมอยู่นั้น ผมก็ได้โทรไปถามสถาปนิกตรงๆเลยว่าเดียวนี้สถาปนิกยังจำเป็นอยู่ไหม คำตอบที่ได้ก็คือ “พี่ต้องการบ้านที่พี่ออกแบบเองหรือพี่อยากได้บ้านที่คนอื่นออกแบบให้และถ้าพี่ให้ผมออกแบบราคาบ้านพี่ก็จะไม่แพงเวอร์เพราะผมไม่มีส่วนได้เสียในเรื่องราคา “ พอได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกสบายใจขึ้น (จริงๆน้องสถาปนิกเค้าชี้แจ้งผมละเอียดมาก ว่าการออกแบบบ้านหนึ่งหลังจะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรมั่งทำให้ผมเห็นใจสถาปนิกเลย) หลังจากนั้น1เดือนผมก็ได้แบบบ้านของผม

แบบแปลนชั้น1

แบบแปลนชั้น2
*ตอนสร้างจริงมีเปลี่ยนแปลงภายในหลายจุดเลยครับเนื่องจากมีแพลนจะทำห้องไว้รับเลี้ยงเด็กครับ
แบบบ้านภายนอก




พอผมเห็นแปลนบ้านที่สถาปนิกออกแบบมาผมชอบเลยครับภายนอกแทบไม่ได้ให้เค้าเปลี่ยนแปลงอะไรเลยมีแค่ภายในที่เปลี่ยนแปลง
โดยตอนแรกผมตั้งงบค่าสร้างบ้านไว้3ล้านไม่รวมอย่างอื่น แต่ความโลภมันบังตาปรับโน้นเพิ่มนี้จนงบบานปลายสถาปนิกประเมินราคาใหม่กลายเป็น3.5ล้าน ราคานี้แค่คุยกันคร่าวๆนะครับผมยังไม่ได้เห็นรายละเอียดวัสดุว่าดีแค่ไหนจะสร้างได้จริงรึเปล่าผมก็ยังไม่แน่ใจ
*รูปนี้สถาปนิกเรนเดอร์ให้ดูครับ เนื่องจากผมบ่นว่าบ้านจะออกมาสวยไหม

- พอแบบบ้านเสร็จผมก็ได้ขอรังวัดที่ดิน โดยได้ไปติดต่อ...................เสียค่าดำเนินการ 6,000 บาท
พอถึงวันนัดรังวัดที่ดิน ผมกับเจ้าของที่ดินข้างเคียงมาถึงก็ยืนคุยกันรอ จนท..................... สักประมาณครึ่งชม. ก็เห็นรถกระบะคันนึงมีคนนั่งข้างหลัง4คน ผมก็เดาว่าเป็นรถจาก....................แน่ๆ พอรถจอดเสร็จมีชายคนนึงลงจากรถมา บ่นมาแต่ไกลว่า “แดดร้อน
ไหนบอกที่ดินไม่มีต้นไม้ไง ดูซิต้นไม้เยอะแยะแถมมีน้ำด้วย ผมจะลงไปดูหลักหมุดได้ไง !@#$%&*@!#$%!@#$%^&*!@#$%^“
ผม : ที่ของผมมันติดถนน3มุมเหลืออีกแค่1มุมอยู่ในน้ำเราวัด3มุมแล้วลากไปชนมุมที่4ได้ไหมครับ
ชายคนนั้น : ไม่ได้ต้องหามุด4มุมเลย
ลุงแถวนั้น : คุณไม่มีกล้องหรอยิงไปก็ได้แล้ว
ชายคนนั้น : ผมไม่ใช่กล้องวัด
ผม: แล้วจะทำไงดีครับ
ชายคนนั้น : ถ้าให้คนงานของผมลงไปหาหมุดผมขอค่าแรง4,000 ที่ข้างเคียงเค้าก็จ่ายผมแล้วด้วย
ผม: คุณจ่ายเงินไปแล้วหรอครับ
ที่ข้างเคียง : ใช่ค่ะ รวมค่ารังวัดด้วยก็10,000 บาท
ผม:สรุปผมต้องจ่ายเงินเพิ่มใช่ไหม
ชายคนนั้น: ใช่ครับ เพราะผมจะให้คนงานลงไปหาหมุด จะให้ผมลงไปเดียวผมเลอะแล้วจะกลับไปทำงานต่อได้ไง
ผม:หยิบเงินใส่ซองไปโดยดีไม่งั้นวันนี้งานไม่เดินแน่
ปล. รู้สึกติดลบมากกับเหตุการณ์นี้
-หลังจากรังวัดเสร็จอีก30วัน ผมก็ได้จ้างคนถมที่ พื้นที่69ตรว. ลึกประมาณ1เมตร ถมสูงขึ้นจากถนนอีก50เซนติเมตร มีต้นไม้ใหญ่อีก1-2ต้นเหมารวมทุกอย่าง 250,000 บาท รู้สึกว่าแพงๆ แต่ลุงรับถมที่ ทำงานดีมากวันเดียวเสร็จเอารถอัดดินให้แน่นและดินไม่เลอะถนนในซอยด้วยงานเนียบมาก

*รถคันสีขาวของคนอื่นนะครับไม่ใช่ของผม
-หลังจากแบบบ้านเสร็จ+ถมที่แล้ว ผมก็คุยกับสถาปนิกเรื่องหาผรม. ซึ่งผมก็พอมีคนรู้จักรับสร้างบ้านอยู่บ้างแต่ประวัติของแต่ละคนมีปัญหาเรื่องเงินซะส่วนใหญ่ทำให้ผมไม่ไว้ใจ ก็เลยลองถามสถาปนิกไปเล่นๆว่า
ผม : ถ้าจ้างคุณสร้างบ้านจะทำได้ไหมครับ
สถาปนิก : ตอนนี้ผมก็กำลังสร้างบ้านให้คนอื่นอยู่
ผม : อ้าว.....รับสร้างบ้านด้วยหรอครับนึกว่าเขียนแบบอย่างเดียว
สถาปนิก : ผมรับสร้างบ้านและเขียนแบบด้วยอะครับ
ผม : แบบนี้คุณก็สร้างบ้านให้ผมได้สิครับ
สถาปนิก : ได้ครับถ้าคุณจะจ้างผมๆก็ทำให้ครับ
สรุป ผมก็เลยจ้างสถาปนิกทั้งออกแบบ+สร้างบ้านให้เลยครับ โดยสถาปนิกมีผรม.ประจำอยู่แล้วส่วนตัวสถาปนิกเองจะเป็นคนคุมผรม.อีกที โดยผมขอให้สถาปนิกทำสัญญาว่าจ้างให้ละเอียดเท่าที่จะทำให้ได้ เพราะว่ากลัวจะเสียเปรียบเหมือนกัน
อันนี้เป็นลิ้งค์ที่ผมเข้ามาถามในพันทิปเรื่องสัญญาครับ
https://pantip.com/topic/37266348
-ในระหว่างที่รอสถาปนิกติดต่อกรมที่ดินเพื่อขออนุญาตการก่อสร้าง ผมก็มีความคิดขึ้นมาว่าพอสร้างบ้านเสร็จเราจะแต่งบ้านยังไง
ค่าบิ้วอินแพงไหม ผมก็หาข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งบ้าน สิ่งที่เจอก็คือ ราคาแพงพอๆกับสร้างบ้านเลย อย่างบริษัท KIRIN งานเค้าสวยมาก แต่ราคาก็สูงเหมือนกัน ผมก็เลยปรึกษาสถาปนิกว่าจะทำไงดีหลังจากสร้างบ้านเสร็จผมจะเหลือเงินไม่มาก สถาปนิกก็ให้คำแนะนำมาว่าพี่ลองหาแบบพวกฝ้าหลุม กำแพง พื้น และเคาเตอร์ครัว ถ้าผมทำให้ได้มันจะช่วยให้พี่ประหยัดเงินไปมาก ผมก็หาข้อมูลเช่นเคยโดยส่วนใหญ่จะหารูปบ้านใน Pinterest และ Houzz ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านของเมืองนอก ผมก็นึกน่าตาบ้านผมไม่ออกว่าห้องจะกว้างเท่าไร จะทำตามแบบในรูปได้ไหม ปวดหัวพอๆกับหาแปลนบ้าน ในที่สุดผมก็เลยตัดสินใจจ้างอินทีเรียมาออกแบบบ้านให้โดยที่บ้านผมยังไม่ได้สร้างด้วยซ้ำ โดยสถาปนิกแนะนำอินทีเรียให้ ผมก็ตกลงทำสัญญาจ้างออกแบบภายใน โดยจ้างออกแบบแค่100ตรม.
- ใช้เวลาประมาณเกือบเดือน ภายในบ้านผมก็ออกมาแบบนี้ครับ

เปิดประตูบ้านเข้ามาจะเจอห้องรับแขกแต่จะมีประตูบานเฟี้ยมกันห้องครัวครับ

พอเปิดประตูบานเฟี้ยมก็จะเจอห้องครัวครับ

ห้องนั่งเล่นกับห้องครัวจะเชื่อมต่อกันครับไม่รู้ว่าจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นมากน้อยแค่ไหน

ห้องน้ำผมชอบมากครับเปลี่ยนแค่โคมไฟอย่างเดียว


ห้องนอนชั้นบนครับก็ยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไรไม่เหมือนที่คิดไว้


ห้องนี้จะเป็นห้องนั่งเล่นในห้องนอนครับเป็นห้องที่ให้อินทีเรียแก้ใหม่หลายรอบมาก
ดูในรูปแล้วก็ยังไม่สวยอยู่ดีเลยไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่จ้างอินทีเรีย
-หลังจากที่ผมดูรูปที่อินทีเรียออกแบบให้มันก็ยังไม่ตอบโจทย์ผมอยู่ดีครับ สิ่งที่ผมอยากได้จริงๆก็คือบ้านที่ออกมาสวยเหมือนในรูปที่เราดูใน Pinterest แต่ในแบบเหมือนกับบ้านของคนทั่วไปที่ซื้อของใน sb มาวางไว้ดูไม่สมกับเงินที่ต้องจ้างอินทีเรียเลย ด้วยความที่เกรงใจอินทีเรียผมไม่กล้าบอกเค้าตรงๆว่าแบบที่ออกมาไม่สวยนะ ผมก็เลยปรึกษาคนที่แนะนำอินทีเรียมาให้ผม นั้นก็คือ สถาปนิก
ผม: ผมขอปรึกษาเรื่องอินทีเรียหน่อยครับ
สถาปิก: ได้ครับ มีปัญหาอะไรรึเปล่า
ผม: คือแบบภายในที่อินทีเรียออกมาให้ผมนั้นไม่สวยเลยอะครับ
สถาปนิก: อาจจะยังไม่ได้ใส่แสงไฟลงไปครับเลยยังไม่สวย
ผม: ถ้าใส่ไฟแล้วภาพมันจะสวยขึ้นหรอครับ
สถาปนิก: มันจะสวยขึ้นครับ
* ภาพหลังจากทำเรนเดอร์แล้วออกมาสวยใช้ได้เลยแต่ไม่รู้สร้างจริงจะสวยเหมือนแบบในรูปไหม

มองจากมุมนี้สวยมากครับ

ห้องที่ผมชอบมากที่สุดก็คือห้องครัวออกแบบมาได้สวยอย่างที่คิดไว้เลย แต่ติดตรงเวลาใช้งานจริงจะเหม็นขนาดไหน

เคาเตอร์ครัวใช้ทำเป็นโต๊ะกินข้าวด้วยครับเพราะพื้นที่แคบ

ห้องนั่งเล่นเอาไว้นั่งดูวิวนอกบ้านแต่อินทีเรียไม่ได้ทำภาพอีกฝั่งให้

ห้องน้ำเป็นอีกห้องที่ชอบมาก พวกกระเบื้องกับผนังเดินเลือกกับสถาปนิกและอินทีเรียรู้สึกดีมากเพราะอินทีเรียเค้าจะเลือกแต่ของที่สวยๆส่วนสถาปนิกเค้าก็จะคุมงบให้ถ้าของถูกแต่ไม่สวยอินทีเรียก็จะไม่เอา
*รูปสุดท้ายละครับห้องนั่งเล่นข้างบนแก้10รอบได้จนน่าตาออกมาเป็นแบบนี้

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุป สิ่งที่ได้จากสถาปนิกและอินทีเรียที่ผมเจอนะครับ ความรู้สึกเป็นกันเองและความใส่ใจต่องานครับ อาจเพราะทั้ง2คนยังเป็นวัยรุ่นอยู่จึงต้องการสร้างผลงานให้ออกมาดี ผมก็ขออวยพรให้ทั้ง2คนมีงานเข้ามาเยอะๆนะครับ
(ถ้าบ้านผมสร้างเสร็จจะมารีวิวต่อตอน2นะครับ)
ปล. (ตัวอักษรครบ9,990)
[CR] [REVIEW] แชร์ประสบการณ์จ้างสถาปนิกและอินทีเรียออกแบบบ้าน (2561)
ขอแนะนำตัวเองก่อน “ ผมชื่อ มังกร นะครับ”
ก่อนที่เราจะไปดูรีวิว ผมขอเล่าจุดเริ่มต้นที่ผมต้องสร้างบ้านหลังนี้ก่อนนะครับ ประมาณ ต้นปี2560 ผมได้แต่งงานกับแฟนผมที่คบกันมา3ปี หลังจากที่เราแต่งงานกัน เราทั้งคู่ก็ต้องแยกกันอยู่ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องที่ทำงานอยู่คนละทาง และปัญหาบ้านไม่มีที่จอดรถ ทำให้เราทั้งคู่ต้องแยกกันอยู่ประมาณ 9เดือน โดยที่เราสองคนตัดสินใจสร้างบ้านแถวฝั่งธน เนื่องจากพ่อตามีที่ดินอยู่แถวนั้นและทางผมและแฟนก็มีเงินไม่มาก ทำให้เราคิดว่าการสร้างบ้านเองน่าจะใช้เงินไม่เยอะมากเพราะมีที่ดินอยู่แล้ว แต่พอได้ลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้วพบว่า จะต้องมี ค่าออกแบบ , ค่ารังวัด , ค่าถมที่ , ค่าทำรั้ว , ค่าสร้างบ้าน , ค่าตกแต่ง , ค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ ทำให้เรามีความคิดว่าซื้อบ้านตามหมู่บ้านเลยดีกว่า แต่ปัญหาคือราคาบ้านกับพื้นที่ใช้สอยไม่ตรงกับความต้องการ ผมเลยคิดว่าการสร้างบ้านเองน่าจะตอบโจทย์เรื่องราคาและพื้นที่ใช้สอย
- อันดับแรกผมเริ่มจาก หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตก่อน ผลที่ได้คือ ไม่รู้จะจ้างใครมาสร้างบ้านดี ข้อมูลมีเยอะมาก ทั้งข้อดีและข้อเสียของการสร้างบ้านเอง ทำให้ผมรู้สึกกลัวจะเจอ ผรม.ทิ้งงาน แต่เหมือนผมจะโชคดีก็คือ ผมได้ปรึกษากับพี่ข้างบ้านโดยเค้าแนะนำสถาปนิกจบใหม่มา พอผมได้คุยกับสถาปนิกคนนั้นผมรู้สึกถึงความกระตือรือร้นและความจริงใจของเค้า คุยกันแค่2วัน ผมก็ตกลงให้เค้าช่วยเขียนแบบให้ โดยทำสัญญาขึ้นมา1ฉบับ
หลังจากที่ผมเซ็นสัญญาจ้างออกแบบนั้น ผมก็ได้เล่าให้คนรอบตัวฟัง ก็มีแต่คำถามว่าทำไมแพงจัง จ้างสถาปนิกทำไม แบบฟรีก็มี ทำให้ผมรู้สึกเฟลมากครับและก็กลับมานั่งคิดว่าเราจ้างสถาปนิกทำไม เดียวนี้ยังจำเป็นอยู่ไหม จ้างผรม. หรือ บริษัทรับสร้างบ้านเลยไม่ดีกว่าหรอ ระหว่างที่สถาปนิกกำลังออกแบบให้ผมอยู่นั้น ผมก็ได้โทรไปถามสถาปนิกตรงๆเลยว่าเดียวนี้สถาปนิกยังจำเป็นอยู่ไหม คำตอบที่ได้ก็คือ “พี่ต้องการบ้านที่พี่ออกแบบเองหรือพี่อยากได้บ้านที่คนอื่นออกแบบให้และถ้าพี่ให้ผมออกแบบราคาบ้านพี่ก็จะไม่แพงเวอร์เพราะผมไม่มีส่วนได้เสียในเรื่องราคา “ พอได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกสบายใจขึ้น (จริงๆน้องสถาปนิกเค้าชี้แจ้งผมละเอียดมาก ว่าการออกแบบบ้านหนึ่งหลังจะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรมั่งทำให้ผมเห็นใจสถาปนิกเลย) หลังจากนั้น1เดือนผมก็ได้แบบบ้านของผม
*ตอนสร้างจริงมีเปลี่ยนแปลงภายในหลายจุดเลยครับเนื่องจากมีแพลนจะทำห้องไว้รับเลี้ยงเด็กครับ
พอผมเห็นแปลนบ้านที่สถาปนิกออกแบบมาผมชอบเลยครับภายนอกแทบไม่ได้ให้เค้าเปลี่ยนแปลงอะไรเลยมีแค่ภายในที่เปลี่ยนแปลง
โดยตอนแรกผมตั้งงบค่าสร้างบ้านไว้3ล้านไม่รวมอย่างอื่น แต่ความโลภมันบังตาปรับโน้นเพิ่มนี้จนงบบานปลายสถาปนิกประเมินราคาใหม่กลายเป็น3.5ล้าน ราคานี้แค่คุยกันคร่าวๆนะครับผมยังไม่ได้เห็นรายละเอียดวัสดุว่าดีแค่ไหนจะสร้างได้จริงรึเปล่าผมก็ยังไม่แน่ใจ
*รูปนี้สถาปนิกเรนเดอร์ให้ดูครับ เนื่องจากผมบ่นว่าบ้านจะออกมาสวยไหม
- พอแบบบ้านเสร็จผมก็ได้ขอรังวัดที่ดิน โดยได้ไปติดต่อ...................เสียค่าดำเนินการ 6,000 บาท
พอถึงวันนัดรังวัดที่ดิน ผมกับเจ้าของที่ดินข้างเคียงมาถึงก็ยืนคุยกันรอ จนท..................... สักประมาณครึ่งชม. ก็เห็นรถกระบะคันนึงมีคนนั่งข้างหลัง4คน ผมก็เดาว่าเป็นรถจาก....................แน่ๆ พอรถจอดเสร็จมีชายคนนึงลงจากรถมา บ่นมาแต่ไกลว่า “แดดร้อน
ไหนบอกที่ดินไม่มีต้นไม้ไง ดูซิต้นไม้เยอะแยะแถมมีน้ำด้วย ผมจะลงไปดูหลักหมุดได้ไง !@#$%&*@!#$%!@#$%^&*!@#$%^“
ผม : ที่ของผมมันติดถนน3มุมเหลืออีกแค่1มุมอยู่ในน้ำเราวัด3มุมแล้วลากไปชนมุมที่4ได้ไหมครับ
ชายคนนั้น : ไม่ได้ต้องหามุด4มุมเลย
ลุงแถวนั้น : คุณไม่มีกล้องหรอยิงไปก็ได้แล้ว
ชายคนนั้น : ผมไม่ใช่กล้องวัด
ผม: แล้วจะทำไงดีครับ
ชายคนนั้น : ถ้าให้คนงานของผมลงไปหาหมุดผมขอค่าแรง4,000 ที่ข้างเคียงเค้าก็จ่ายผมแล้วด้วย
ผม: คุณจ่ายเงินไปแล้วหรอครับ
ที่ข้างเคียง : ใช่ค่ะ รวมค่ารังวัดด้วยก็10,000 บาท
ผม:สรุปผมต้องจ่ายเงินเพิ่มใช่ไหม
ชายคนนั้น: ใช่ครับ เพราะผมจะให้คนงานลงไปหาหมุด จะให้ผมลงไปเดียวผมเลอะแล้วจะกลับไปทำงานต่อได้ไง
ผม:หยิบเงินใส่ซองไปโดยดีไม่งั้นวันนี้งานไม่เดินแน่
ปล. รู้สึกติดลบมากกับเหตุการณ์นี้
-หลังจากรังวัดเสร็จอีก30วัน ผมก็ได้จ้างคนถมที่ พื้นที่69ตรว. ลึกประมาณ1เมตร ถมสูงขึ้นจากถนนอีก50เซนติเมตร มีต้นไม้ใหญ่อีก1-2ต้นเหมารวมทุกอย่าง 250,000 บาท รู้สึกว่าแพงๆ แต่ลุงรับถมที่ ทำงานดีมากวันเดียวเสร็จเอารถอัดดินให้แน่นและดินไม่เลอะถนนในซอยด้วยงานเนียบมาก
*รถคันสีขาวของคนอื่นนะครับไม่ใช่ของผม
-หลังจากแบบบ้านเสร็จ+ถมที่แล้ว ผมก็คุยกับสถาปนิกเรื่องหาผรม. ซึ่งผมก็พอมีคนรู้จักรับสร้างบ้านอยู่บ้างแต่ประวัติของแต่ละคนมีปัญหาเรื่องเงินซะส่วนใหญ่ทำให้ผมไม่ไว้ใจ ก็เลยลองถามสถาปนิกไปเล่นๆว่า
ผม : ถ้าจ้างคุณสร้างบ้านจะทำได้ไหมครับ
สถาปนิก : ตอนนี้ผมก็กำลังสร้างบ้านให้คนอื่นอยู่
ผม : อ้าว.....รับสร้างบ้านด้วยหรอครับนึกว่าเขียนแบบอย่างเดียว
สถาปนิก : ผมรับสร้างบ้านและเขียนแบบด้วยอะครับ
ผม : แบบนี้คุณก็สร้างบ้านให้ผมได้สิครับ
สถาปนิก : ได้ครับถ้าคุณจะจ้างผมๆก็ทำให้ครับ
สรุป ผมก็เลยจ้างสถาปนิกทั้งออกแบบ+สร้างบ้านให้เลยครับ โดยสถาปนิกมีผรม.ประจำอยู่แล้วส่วนตัวสถาปนิกเองจะเป็นคนคุมผรม.อีกที โดยผมขอให้สถาปนิกทำสัญญาว่าจ้างให้ละเอียดเท่าที่จะทำให้ได้ เพราะว่ากลัวจะเสียเปรียบเหมือนกัน
อันนี้เป็นลิ้งค์ที่ผมเข้ามาถามในพันทิปเรื่องสัญญาครับ https://pantip.com/topic/37266348
-ในระหว่างที่รอสถาปนิกติดต่อกรมที่ดินเพื่อขออนุญาตการก่อสร้าง ผมก็มีความคิดขึ้นมาว่าพอสร้างบ้านเสร็จเราจะแต่งบ้านยังไง
ค่าบิ้วอินแพงไหม ผมก็หาข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งบ้าน สิ่งที่เจอก็คือ ราคาแพงพอๆกับสร้างบ้านเลย อย่างบริษัท KIRIN งานเค้าสวยมาก แต่ราคาก็สูงเหมือนกัน ผมก็เลยปรึกษาสถาปนิกว่าจะทำไงดีหลังจากสร้างบ้านเสร็จผมจะเหลือเงินไม่มาก สถาปนิกก็ให้คำแนะนำมาว่าพี่ลองหาแบบพวกฝ้าหลุม กำแพง พื้น และเคาเตอร์ครัว ถ้าผมทำให้ได้มันจะช่วยให้พี่ประหยัดเงินไปมาก ผมก็หาข้อมูลเช่นเคยโดยส่วนใหญ่จะหารูปบ้านใน Pinterest และ Houzz ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านของเมืองนอก ผมก็นึกน่าตาบ้านผมไม่ออกว่าห้องจะกว้างเท่าไร จะทำตามแบบในรูปได้ไหม ปวดหัวพอๆกับหาแปลนบ้าน ในที่สุดผมก็เลยตัดสินใจจ้างอินทีเรียมาออกแบบบ้านให้โดยที่บ้านผมยังไม่ได้สร้างด้วยซ้ำ โดยสถาปนิกแนะนำอินทีเรียให้ ผมก็ตกลงทำสัญญาจ้างออกแบบภายใน โดยจ้างออกแบบแค่100ตรม.
- ใช้เวลาประมาณเกือบเดือน ภายในบ้านผมก็ออกมาแบบนี้ครับ
ดูในรูปแล้วก็ยังไม่สวยอยู่ดีเลยไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่จ้างอินทีเรีย
-หลังจากที่ผมดูรูปที่อินทีเรียออกแบบให้มันก็ยังไม่ตอบโจทย์ผมอยู่ดีครับ สิ่งที่ผมอยากได้จริงๆก็คือบ้านที่ออกมาสวยเหมือนในรูปที่เราดูใน Pinterest แต่ในแบบเหมือนกับบ้านของคนทั่วไปที่ซื้อของใน sb มาวางไว้ดูไม่สมกับเงินที่ต้องจ้างอินทีเรียเลย ด้วยความที่เกรงใจอินทีเรียผมไม่กล้าบอกเค้าตรงๆว่าแบบที่ออกมาไม่สวยนะ ผมก็เลยปรึกษาคนที่แนะนำอินทีเรียมาให้ผม นั้นก็คือ สถาปนิก
ผม: ผมขอปรึกษาเรื่องอินทีเรียหน่อยครับ
สถาปิก: ได้ครับ มีปัญหาอะไรรึเปล่า
ผม: คือแบบภายในที่อินทีเรียออกมาให้ผมนั้นไม่สวยเลยอะครับ
สถาปนิก: อาจจะยังไม่ได้ใส่แสงไฟลงไปครับเลยยังไม่สวย
ผม: ถ้าใส่ไฟแล้วภาพมันจะสวยขึ้นหรอครับ
สถาปนิก: มันจะสวยขึ้นครับ
* ภาพหลังจากทำเรนเดอร์แล้วออกมาสวยใช้ได้เลยแต่ไม่รู้สร้างจริงจะสวยเหมือนแบบในรูปไหม
*รูปสุดท้ายละครับห้องนั่งเล่นข้างบนแก้10รอบได้จนน่าตาออกมาเป็นแบบนี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุป สิ่งที่ได้จากสถาปนิกและอินทีเรียที่ผมเจอนะครับ ความรู้สึกเป็นกันเองและความใส่ใจต่องานครับ อาจเพราะทั้ง2คนยังเป็นวัยรุ่นอยู่จึงต้องการสร้างผลงานให้ออกมาดี ผมก็ขออวยพรให้ทั้ง2คนมีงานเข้ามาเยอะๆนะครับ (ถ้าบ้านผมสร้างเสร็จจะมารีวิวต่อตอน2นะครับ)
ปล. (ตัวอักษรครบ9,990)