สืบเนื่องจากคราวก่อนที่พาไปเที่ยวเมืองมรดกโลกในซาฮาร่าและรีวิวที่พักกันมาแล้ว คราวนี้เรามาเที่ยวชมเมืองหลวงของแอลจีเรีย Alger (Algiers ในภาษาอังกฤษ) กับครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37254930
https://pantip.com/topic/37254963
ที่แรกในเมืองหลวง Algiers ที่จะนำเสนอ คือ le Bastion 23 หรือ Palais des Raïs ครับ
ที่นี่เป็นบริเวณติดทะเลที่รวบรวมพระราชวัง ๓ หลัง และบ้านชาวประมงอีก ๖ หลังเข้าไว้ในบริเวณเดียวกัน มีอายุราว ๆ ๒๐๐ กว่าปีมาแล้ว เคยเป็นที่พักอาศัยของผู้ว่าการออตโตมัน (มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน)
แต่ก่อนได้รับความเสียหายมากจากสงคราม จนกระทั่งได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ด้วยดี พระราชวังหลังแรกเน้นกระเบื้องโทนสีฟ้า/ขาว ดูสะอาดตา ระยิบระยับ อีก ๒ หลังออกโทนสีเขียว/น้ำตาลแดงครับ
ปัจจุบันเป็นศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม มีจัดแสดงนิทรรศการศิลปะอยู่เนือง ๆ มีแขวนภาพวาดให้คนสนใจซื้อกลับบ้านไปด้วย แต่งบของผมซื้อได้แค่โปสการ์ดครับ ฮ่า ๆๆๆ
เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ คนมักเข้าใจว่าผมเป็นคนจีน พอมาถึงก็ทักว่า หนีห่าว กัน แต่พอบอกว่าเป็นคนไทย ก็ยกมือสวัสดี ผมประทับใจมาก ไม่คิดว่าคนที่นี่จะรู้จักขนบธรรมเนียมไทยด้วย
ผมมาที่นี่เป็นคนแรก ๆ ตั้งแต่คนขายตั๋วยังไม่มา แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยให้เข้าไปชมก่อนได้ แล้วมาจ่ายเงินทีหลัง เดินเล่นเที่ยวชมได้สบาย ๆ ความเงียบสงบพลอยให้จินตนาการถึงชีวิตของคนสมัยก่อน วิวติดทะเลก็สวยไม่แพ้กันครับ
อันนี้เป็นพระราชวังหลังแรก โทนขาว-ฟ้า



ลายกระเบื้องสวยงาม ไม่หรูหรา ไม่เรียบเกินไป กำลังพอดี ๆ




ทางเดินเชื่อมไปพระราชวังหลังที่ ๒ ได้บรรยากาศลึกลับ ขลัง ๆ ดีครับ



มีศิลปะบนกำแพงแนว Arabesque ให้ชมด้วย เป็นอักขระอาหรับที่เอามาเรียงร้อยกันเป็น pattern ครับ

และแล้วก็มาถึงพระราชวังหลังที่ ๒ โทนสีน้ำตาลเขียว ดูอบอุ่นดี



ส่วนอันนี้คือ Hand of Fatima หรือ Hamsa เป็นเครื่องรางป้องกันภัยที่แพร่หลายในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

ทางเข้าไปยังพระราชวังหลังสุดท้าย

ขึ้นบันได ต๊อก ต๊อก

และนี่คือสิ่งที่เจอหลังจากพ้นบันไดมา


วิวริมทะเลจากพระราชวังครับ

และนี่คือภายนอกของพระราชวัง เป็นเรื่องปกติของโลกอาหรับที่อาคารภายนอกจะดูไม่ค่อยโดดเด่น แต่ภายในหรูหราอลังการยังกับอยู่อีกโลกครับ

ถึงตอนนี้ผมยังไม่ได้เฉลยว่า เพราะเหตุใดเมืองหลวงแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า La Blanche (The White) ไว้มาติดตามกันต่อนะครับ อิอิ
----------------------------
หรือใครใจร้อน ก็เข้าไปหาคำตอบได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ
https://www.facebook.com/MemoirsOfMrNomad/ ครับ
แอลจีเรีย (๒): เที่ยวชมมรดกโลกมุสลิมและอาณานิคมฝรั่งเศสที่ Alger la Blanche
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่แรกในเมืองหลวง Algiers ที่จะนำเสนอ คือ le Bastion 23 หรือ Palais des Raïs ครับ
ที่นี่เป็นบริเวณติดทะเลที่รวบรวมพระราชวัง ๓ หลัง และบ้านชาวประมงอีก ๖ หลังเข้าไว้ในบริเวณเดียวกัน มีอายุราว ๆ ๒๐๐ กว่าปีมาแล้ว เคยเป็นที่พักอาศัยของผู้ว่าการออตโตมัน (มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่ประเทศตุรกีในปัจจุบัน)
แต่ก่อนได้รับความเสียหายมากจากสงคราม จนกระทั่งได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ด้วยดี พระราชวังหลังแรกเน้นกระเบื้องโทนสีฟ้า/ขาว ดูสะอาดตา ระยิบระยับ อีก ๒ หลังออกโทนสีเขียว/น้ำตาลแดงครับ
ปัจจุบันเป็นศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม มีจัดแสดงนิทรรศการศิลปะอยู่เนือง ๆ มีแขวนภาพวาดให้คนสนใจซื้อกลับบ้านไปด้วย แต่งบของผมซื้อได้แค่โปสการ์ดครับ ฮ่า ๆๆๆ
เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ คนมักเข้าใจว่าผมเป็นคนจีน พอมาถึงก็ทักว่า หนีห่าว กัน แต่พอบอกว่าเป็นคนไทย ก็ยกมือสวัสดี ผมประทับใจมาก ไม่คิดว่าคนที่นี่จะรู้จักขนบธรรมเนียมไทยด้วย
ผมมาที่นี่เป็นคนแรก ๆ ตั้งแต่คนขายตั๋วยังไม่มา แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยให้เข้าไปชมก่อนได้ แล้วมาจ่ายเงินทีหลัง เดินเล่นเที่ยวชมได้สบาย ๆ ความเงียบสงบพลอยให้จินตนาการถึงชีวิตของคนสมัยก่อน วิวติดทะเลก็สวยไม่แพ้กันครับ
อันนี้เป็นพระราชวังหลังแรก โทนขาว-ฟ้า
ลายกระเบื้องสวยงาม ไม่หรูหรา ไม่เรียบเกินไป กำลังพอดี ๆ
ทางเดินเชื่อมไปพระราชวังหลังที่ ๒ ได้บรรยากาศลึกลับ ขลัง ๆ ดีครับ
มีศิลปะบนกำแพงแนว Arabesque ให้ชมด้วย เป็นอักขระอาหรับที่เอามาเรียงร้อยกันเป็น pattern ครับ
และแล้วก็มาถึงพระราชวังหลังที่ ๒ โทนสีน้ำตาลเขียว ดูอบอุ่นดี
ส่วนอันนี้คือ Hand of Fatima หรือ Hamsa เป็นเครื่องรางป้องกันภัยที่แพร่หลายในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
ทางเข้าไปยังพระราชวังหลังสุดท้าย
ขึ้นบันได ต๊อก ต๊อก
และนี่คือสิ่งที่เจอหลังจากพ้นบันไดมา
วิวริมทะเลจากพระราชวังครับ
และนี่คือภายนอกของพระราชวัง เป็นเรื่องปกติของโลกอาหรับที่อาคารภายนอกจะดูไม่ค่อยโดดเด่น แต่ภายในหรูหราอลังการยังกับอยู่อีกโลกครับ
ถึงตอนนี้ผมยังไม่ได้เฉลยว่า เพราะเหตุใดเมืองหลวงแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า La Blanche (The White) ไว้มาติดตามกันต่อนะครับ อิอิ
----------------------------
หรือใครใจร้อน ก็เข้าไปหาคำตอบได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ https://www.facebook.com/MemoirsOfMrNomad/ ครับ