
พาราณสี เป็นเมืองหลวงของแคว้นกาสีในสมัยพุทธกาล ปัจจุบันตั้งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ห่างจาก รัฐลัคเนาซึ่งเป็นเมืองหลวงของอุตตรประเทศ พาราณสีเมืองที่คนไทยหลายคนรู้จักจดจำว่าเป็นเมืองแห่งแม่น้ำคงคา แต่ในอินเดียจะเรียก "คงคา" ว่า "กังก้า" และพาราณสี ก็ออกเสียงว่า "วาราณสี" ถ้าพูดถึงอายุของเมืองเมืองนี้จริงๆ ก็มีมากกว่า 4,000 ปีละค่ะ และใน4,000ปีที่ผ่านมา เมืองๆนี้ไม่เคยร้างผู้คนเลย ถือว่าเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกด้วย
การเดินทางวันที่ 4 .......... วันที่ 2 มกราคม 2561
การเดินทางไปที่นี้ ชมเลือกรถไฟ โดยโดนหลอกให้ไปซื้อกับบ.ทัวร์ ที่ชื่อ D.T.T.D.C ซึ่งชาร์จราคาสูงเวอร์ ถึงแม้จะต่อรองก็ให้ลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลเราก็ว่ายังแพงอยู่ดี จริงๆอยากไปจองเอง แต่พลาดไปแล้ว ก็ช่างมัน แต่พลาดทั้งๆที่ทำการบ้านไปแน่นแล้วนี้ซิโครตจะเจ็บใจ งั้นเราขอแชร์ความรู้ที่เรามีให้แก่คนที่สนใจจะไป สนใจรถไฟนะ คือในสถานีรถไฟ คุณไม่ต้องไปกังวลว่าคนจะเยอะ เราไม่ต้องไปต่อแถวแย่งกับคนอินเดีย สถานีรถไฟจะมีช่องจำหน่ายตั๋วสำหรับชาวต่างชาติ เออ! ถ้ามีใครมาบอกวันนี้คนเยอะ ให้ไปที่อื่น หรือมีที่อื่นราคาถูกกว่า อย่า!!!ไป!!!เชื่อ!!!! ไม่งั้นคุณจะรู้สึกเสียดายเงินเช่นเรา
เริ่มต้นจากการย้ายร่างจากที่พักในอากรา มาที่สถานีรถไฟ ซึ่งมีคนบอกว่าให้ไปก่อน 3 ชั่วโมง แต่ !! จะให้กูไปก่อนทำเพื่อ ???? ในเมื่อรถไฟบ้านคุณ

เรทเป็น 3 - 4 ชั่วโมง เอ่อเห่อ นั่งหนาวกันไปดิเห้ยยยยย!!!!

ก็อนอนรถไฟไปอ่ะนะ (ปล.2รูปล่างนี้ถ่ายจากมือถือนะอาจไม่คมชัดสวยมากนักนะค่ะ)


นั่งกันข้ามวันข้ามคืนเลยละค่ะ นั่งยันเช้ายันเย็นของอีกวัน ตลอดทั้งวันจะมี Chai (จัย แต่ถ้าฟังเสียงคนขายมันจะออกว่า ไช) ซึ่งมันคือชาอินเดียที่หอมและอร่อยมาก ลองกินดูนะค่ะ เรากินเยอะกินทั้งวัน ไม่มีท้องเสียค่ะ
(คนไทยชอบเหยียดอาหารอินเดียซึ่งบางเมนูโครตอร่อยค่ะและนี้กินยับมากจบทริปท้องยังไม่เสียเลยค่ะ)

หลายคนไปพาราณสี เพราะ แสวงบุญ บ้างก็ไปเที่ยว บ้างก็ไปซึบซับอารยธรรม เช่นเรา เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบอารยธรรม วัฒนธรรมของเขา แต่เหตุผลหลักที่ไปคือ เราอยากไปถ่ายรูป แนว Life จริงๆจะถ่าย Life ที่ไหนก็ได้อ่ะแหระ แต่อยากถ่ายที่นี้ไง สำหรับเราอินเดียไม่เหม็นนะค่ะ บ้างคนบอกเราปกป้องอินเดียมากๆๆๆ คือไม่ได้ปกป้องนะ แต่เราพูดความจริงอ่ะ ไปถามเพื่อนที่ไปกับเราก็ได้ แต่เขาก็ไม่ฟังกัน เหมือนเขาพูดความคิดเขามาเสร็จ แล้วเขาก็ปิดหูตัวเองไม่ฟังความจริง???? เรารู้สึกว่าเวลาสนทนากับเพื่อนต่างชาติ มันได้รับการแลกเปลี่ยนความคิด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตจริงมากกว่าสนทนากับคนไทยด้วยกัน ก็ไม่ใช่ว่าคนไทยทุกคนจะเป็นประเภทไม่ฟังอะไรนะ บางคนก็ใจกว้างอยู่ รับฟังแลกเปลี่ยนได้ แต่บางคนนี้ไม่ไหวเลย ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่เคยไปแต่ยึดติดแต่ภาพเก่าๆหรือสิ่งที่อ่านเจอมาโดยไม่ฟังเรื่องใหม่ๆ
คงพูดลำบากอ่ะ....เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ใจ ใจคุณเป็นลบ ต่อให้พาไปเจอความจริงตรงหน้าคุณก็คงไม่มอง แต่ถ้าใจคุณกว้างพอ ถ้าใจคุณเป็นกลาง ใจคุณพร้อมจะเรียนรู้และเปิดรับต่อความจริง ต่อสิ่งใหม่ ให้มีภาพลบในหัวอยู่แล้ว มันก็จะถูกลบด้วยความเป็นจริงตรงหน้า ใช่มั้ยละ

เราไปถึงพาราณสี ในช่วงค่ำๆ ประมาณทุ่มเกือบสองทุ่มได้ ออกจากสถานีก็จัดการเรียกริชอร์ เออ!! ไม่ใช่ว่าเรียกดิ....เขากรูเข้ามาหาพวกเรามากกว่า พวกริชอร์ถามจะไปที่ไหน พักที่ไหนแย่งกันถามเลยละ ชื่อที่พักของคุณคืออะไร เรายื่นใบจองที่พักไป ก็มีรายหนึ่ง โอเค ไปกับไอๆ เออไปก็ไป ค่ารถก็คนละ 100 รูปี จากสถานีรถไฟไปที่พักไกลเอาเรื่อง ก็เลยไม่รู้สึกว่าค่ารถแพงเกินไป ถึงที่พักก็อาบน้ำ เอนกายพักร่าง นั่งรถไฟตั้งแต่ 22.30 น. ของวันที่ 2 มกราคม ถึง ราวๆ สองทุ่มของวันที่ 3 มกราคม เมื่อยก้นกันเลยละค่ะ ถ้ารู้ว่าจะเรทขนาดนี้คงยอมจ่ายเอาเฟิร์สคลาสอ่ะค่ะ
การเดินทางวันที่ 5 .......... วันที่ 3 มกราคม 2561
วันนี้ตื่นสาย สายของเราคือ 8-9 โมง อาบน้ำเสร็จ เกือบ 10 โมง จะไปหาข้าวเช้ากิน ปรากฎว่าที่นี้เป็นเมืองที่เปิด ที่ทำอะไรต่อมิอะไรกันตอน 11โมง แล้วกูจะกินข้าวเช้ายังไงฟร๊ะ เรื่องกินเรื่องใหญ่นะเนี่ย ก็เดินๆหาร้านที่เปิดเช้าๆ ก็ไปเจอร้านๆหนึ่ง กำลังเตรียมข้าวของ ก็ถามว่าเปิดยัง เขาบอกเปิดแล้วเลยเข้าไปนั่งไปสั่งอาหาร เวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าไร อาหารก็เสิร์ฟเกือบๆ 11โมง =..= จะบอกว่านอกจาก โดซา ชิ้กเก้น เคอร์รี่ ชิ้กเก้นบิยานี้ ก็โมโมชิลลี่นี้ละที่โครยจะอร่อย
โมโมชิลลี่

ชิ้กเก้น เคอร์รี่+แป้งนาน

โดซา มาซาร่า

มิลล์ คอฟฟี่

หลังจากนั้นก็กลับที่พัก มันจะชิวๆหน่อยนะช่วงเวลาที่อยู่ที่พาราณสีอ่ะ แฮร่ๆ ออกไปท่าน้ำอีกที่ ตอน3โมงเย็น ก็ต้องการชมพระอาทิตย์ตกที่แกทกังก้า ต้องการแค่นั้นแหระ ที่มาที่นี้อ่ะ







เราก็เดินไปตามแกทเรื่อยๆอ่ะนะ คือดีย์อ่ะ ตอนแรกคิดว่าจะโทรมๆกว่าที่พบเจอซะอีก แต่ก็ไม่ใช่ คือเป็นเมืองที่โครตจะมีเสน่ห์อ่ะ รักเลยอ่ะ






ก็เดินๆ ใจอยากลงเรือนะ แต่เพิ่งเอาเฝือกที่เข่าออกก่อนจะมา กลัวเดินผิดท่าเขาเดาะร่วงลงน้ำกล้องพักยุ่งเลย ไม่ได้ห่วงจมน้ำอะไรนะห่วงกล้อง แต่มาแล้วบวกกับคนพายเรือตามตื้อ บวกพี่ที่มาด้วยอยากนั่งก็เลย เอาลงก็ลง






หลังจากขึ้นจากเรือ ที่ท่าน้ำคือเหมือนจะมีพิธีอะไรสักอย่าง อันนี้คือไม่ได้อ่านมาจริงๆ โดยพิธีเขาจะเริ่มค่ำๆหน่อย เราเลยไปหาอะไรกินกันก่อน เดินๆเจอร้านพิซซ่า เออ!!ก็เลยกินกัน เป็นพิซซ่าหน้าเห็ด ชีส หัวหอม อะไรอีกไม่รู้จำไม่ได้

กินเสร็จแล้ว รอจนถึงเวลา เริ่มพิธีด้วยเสียงระฆัง มันคล้ายๆพิธีลอยกระทงบ้านเรา แต่ดูขลังกว่า



หลังจากนั้นก็เดินกลับห้อง ตอนมาคือ มีคนบอกอย่าเดินกลางค่ำกลางคืนน่ากลัว แต่2คนนี้ไม่รู้สึกแบบนั้นเลย ไม่เห็นจะน่ากลัว ผู้คนเขาออกจะใจดี น่ารัก เป็นมิตร นี้ไปเดินตัดหน้าเขา แล้วเขาเซแล้วรถสวนมาทางเขา เขาหันมายิ้มให้ ไม่มีต่อว่าหรือทำหน้าหงุดหงิดเลย พี่ที่มาด้วยบอกนึกว่าจะด่า ยิ้มให้เฉยเลย
อย่างงนะบางที่เราก็ใช้คำว่าพี่บางที่ก็เพื่อน ที่มาด้วยเขามาเป็นเพื่อนร่วมทริปแต่เขาอายุเป็นพี่เราอ่ะ มากัน2คนนี้ละ ญคู่
ต่อๆๆ
v
v
India in my dreams ตอน พาราณสี (Varanasi) ชีวิตที่แท้จริงเริ่มที่นี้
กลับมาต่อในทริปอินเดีย วันที่ 5 และ 7
ดูกระทู้เที่ยววันที่ 1 และ 2 ในกรุงนิวเดลี คลิกนี้เลยจ้า >> https://pantip.com/topic/37260309
ดูกระทู้เที่ยววันที่ 3 และ 4 ในอากรา คลิกนี้เลยจ้า >> https://pantip.com/topic/37263717
ติดตาทเรื่องราวการเดินทางอื่นๆของเราได้ที่ เพจ แบกกล้องชิวเที่ยวคนเดียว ตามลิงก์นี้เลยนร้า >> https://www.facebook.com/chommy.travel.alone/ นะค่ะ
กระทู้นี้ ชมจะพาไปเยือนพาราณสี ชีวิตเรียลๆ ชีวิตที่แท้จริง เป็นเมืองที่โครตจะมีเสน่ห์อ่ะคร้า
พาราณสี เป็นเมืองหลวงของแคว้นกาสีในสมัยพุทธกาล ปัจจุบันตั้งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ห่างจาก รัฐลัคเนาซึ่งเป็นเมืองหลวงของอุตตรประเทศ พาราณสีเมืองที่คนไทยหลายคนรู้จักจดจำว่าเป็นเมืองแห่งแม่น้ำคงคา แต่ในอินเดียจะเรียก "คงคา" ว่า "กังก้า" และพาราณสี ก็ออกเสียงว่า "วาราณสี" ถ้าพูดถึงอายุของเมืองเมืองนี้จริงๆ ก็มีมากกว่า 4,000 ปีละค่ะ และใน4,000ปีที่ผ่านมา เมืองๆนี้ไม่เคยร้างผู้คนเลย ถือว่าเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกด้วย
การเดินทางวันที่ 4 .......... วันที่ 2 มกราคม 2561
การเดินทางไปที่นี้ ชมเลือกรถไฟ โดยโดนหลอกให้ไปซื้อกับบ.ทัวร์ ที่ชื่อ D.T.T.D.C ซึ่งชาร์จราคาสูงเวอร์ ถึงแม้จะต่อรองก็ให้ลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลเราก็ว่ายังแพงอยู่ดี จริงๆอยากไปจองเอง แต่พลาดไปแล้ว ก็ช่างมัน แต่พลาดทั้งๆที่ทำการบ้านไปแน่นแล้วนี้ซิโครตจะเจ็บใจ งั้นเราขอแชร์ความรู้ที่เรามีให้แก่คนที่สนใจจะไป สนใจรถไฟนะ คือในสถานีรถไฟ คุณไม่ต้องไปกังวลว่าคนจะเยอะ เราไม่ต้องไปต่อแถวแย่งกับคนอินเดีย สถานีรถไฟจะมีช่องจำหน่ายตั๋วสำหรับชาวต่างชาติ เออ! ถ้ามีใครมาบอกวันนี้คนเยอะ ให้ไปที่อื่น หรือมีที่อื่นราคาถูกกว่า อย่า!!!ไป!!!เชื่อ!!!! ไม่งั้นคุณจะรู้สึกเสียดายเงินเช่นเรา
เริ่มต้นจากการย้ายร่างจากที่พักในอากรา มาที่สถานีรถไฟ ซึ่งมีคนบอกว่าให้ไปก่อน 3 ชั่วโมง แต่ !! จะให้กูไปก่อนทำเพื่อ ???? ในเมื่อรถไฟบ้านคุณ
(คนไทยชอบเหยียดอาหารอินเดียซึ่งบางเมนูโครตอร่อยค่ะและนี้กินยับมากจบทริปท้องยังไม่เสียเลยค่ะ)
หลายคนไปพาราณสี เพราะ แสวงบุญ บ้างก็ไปเที่ยว บ้างก็ไปซึบซับอารยธรรม เช่นเรา เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบอารยธรรม วัฒนธรรมของเขา แต่เหตุผลหลักที่ไปคือ เราอยากไปถ่ายรูป แนว Life จริงๆจะถ่าย Life ที่ไหนก็ได้อ่ะแหระ แต่อยากถ่ายที่นี้ไง สำหรับเราอินเดียไม่เหม็นนะค่ะ บ้างคนบอกเราปกป้องอินเดียมากๆๆๆ คือไม่ได้ปกป้องนะ แต่เราพูดความจริงอ่ะ ไปถามเพื่อนที่ไปกับเราก็ได้ แต่เขาก็ไม่ฟังกัน เหมือนเขาพูดความคิดเขามาเสร็จ แล้วเขาก็ปิดหูตัวเองไม่ฟังความจริง???? เรารู้สึกว่าเวลาสนทนากับเพื่อนต่างชาติ มันได้รับการแลกเปลี่ยนความคิด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตจริงมากกว่าสนทนากับคนไทยด้วยกัน ก็ไม่ใช่ว่าคนไทยทุกคนจะเป็นประเภทไม่ฟังอะไรนะ บางคนก็ใจกว้างอยู่ รับฟังแลกเปลี่ยนได้ แต่บางคนนี้ไม่ไหวเลย ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่เคยไปแต่ยึดติดแต่ภาพเก่าๆหรือสิ่งที่อ่านเจอมาโดยไม่ฟังเรื่องใหม่ๆ
คงพูดลำบากอ่ะ....เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ใจ ใจคุณเป็นลบ ต่อให้พาไปเจอความจริงตรงหน้าคุณก็คงไม่มอง แต่ถ้าใจคุณกว้างพอ ถ้าใจคุณเป็นกลาง ใจคุณพร้อมจะเรียนรู้และเปิดรับต่อความจริง ต่อสิ่งใหม่ ให้มีภาพลบในหัวอยู่แล้ว มันก็จะถูกลบด้วยความเป็นจริงตรงหน้า ใช่มั้ยละ
เราไปถึงพาราณสี ในช่วงค่ำๆ ประมาณทุ่มเกือบสองทุ่มได้ ออกจากสถานีก็จัดการเรียกริชอร์ เออ!! ไม่ใช่ว่าเรียกดิ....เขากรูเข้ามาหาพวกเรามากกว่า พวกริชอร์ถามจะไปที่ไหน พักที่ไหนแย่งกันถามเลยละ ชื่อที่พักของคุณคืออะไร เรายื่นใบจองที่พักไป ก็มีรายหนึ่ง โอเค ไปกับไอๆ เออไปก็ไป ค่ารถก็คนละ 100 รูปี จากสถานีรถไฟไปที่พักไกลเอาเรื่อง ก็เลยไม่รู้สึกว่าค่ารถแพงเกินไป ถึงที่พักก็อาบน้ำ เอนกายพักร่าง นั่งรถไฟตั้งแต่ 22.30 น. ของวันที่ 2 มกราคม ถึง ราวๆ สองทุ่มของวันที่ 3 มกราคม เมื่อยก้นกันเลยละค่ะ ถ้ารู้ว่าจะเรทขนาดนี้คงยอมจ่ายเอาเฟิร์สคลาสอ่ะค่ะ
การเดินทางวันที่ 5 .......... วันที่ 3 มกราคม 2561
วันนี้ตื่นสาย สายของเราคือ 8-9 โมง อาบน้ำเสร็จ เกือบ 10 โมง จะไปหาข้าวเช้ากิน ปรากฎว่าที่นี้เป็นเมืองที่เปิด ที่ทำอะไรต่อมิอะไรกันตอน 11โมง แล้วกูจะกินข้าวเช้ายังไงฟร๊ะ เรื่องกินเรื่องใหญ่นะเนี่ย ก็เดินๆหาร้านที่เปิดเช้าๆ ก็ไปเจอร้านๆหนึ่ง กำลังเตรียมข้าวของ ก็ถามว่าเปิดยัง เขาบอกเปิดแล้วเลยเข้าไปนั่งไปสั่งอาหาร เวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าไร อาหารก็เสิร์ฟเกือบๆ 11โมง =..= จะบอกว่านอกจาก โดซา ชิ้กเก้น เคอร์รี่ ชิ้กเก้นบิยานี้ ก็โมโมชิลลี่นี้ละที่โครยจะอร่อย
โมโมชิลลี่
หลังจากนั้นก็กลับที่พัก มันจะชิวๆหน่อยนะช่วงเวลาที่อยู่ที่พาราณสีอ่ะ แฮร่ๆ ออกไปท่าน้ำอีกที่ ตอน3โมงเย็น ก็ต้องการชมพระอาทิตย์ตกที่แกทกังก้า ต้องการแค่นั้นแหระ ที่มาที่นี้อ่ะ
ก็เดินๆ ใจอยากลงเรือนะ แต่เพิ่งเอาเฝือกที่เข่าออกก่อนจะมา กลัวเดินผิดท่าเขาเดาะร่วงลงน้ำกล้องพักยุ่งเลย ไม่ได้ห่วงจมน้ำอะไรนะห่วงกล้อง แต่มาแล้วบวกกับคนพายเรือตามตื้อ บวกพี่ที่มาด้วยอยากนั่งก็เลย เอาลงก็ลง
หลังจากขึ้นจากเรือ ที่ท่าน้ำคือเหมือนจะมีพิธีอะไรสักอย่าง อันนี้คือไม่ได้อ่านมาจริงๆ โดยพิธีเขาจะเริ่มค่ำๆหน่อย เราเลยไปหาอะไรกินกันก่อน เดินๆเจอร้านพิซซ่า เออ!!ก็เลยกินกัน เป็นพิซซ่าหน้าเห็ด ชีส หัวหอม อะไรอีกไม่รู้จำไม่ได้
กินเสร็จแล้ว รอจนถึงเวลา เริ่มพิธีด้วยเสียงระฆัง มันคล้ายๆพิธีลอยกระทงบ้านเรา แต่ดูขลังกว่า
หลังจากนั้นก็เดินกลับห้อง ตอนมาคือ มีคนบอกอย่าเดินกลางค่ำกลางคืนน่ากลัว แต่2คนนี้ไม่รู้สึกแบบนั้นเลย ไม่เห็นจะน่ากลัว ผู้คนเขาออกจะใจดี น่ารัก เป็นมิตร นี้ไปเดินตัดหน้าเขา แล้วเขาเซแล้วรถสวนมาทางเขา เขาหันมายิ้มให้ ไม่มีต่อว่าหรือทำหน้าหงุดหงิดเลย พี่ที่มาด้วยบอกนึกว่าจะด่า ยิ้มให้เฉยเลย
อย่างงนะบางที่เราก็ใช้คำว่าพี่บางที่ก็เพื่อน ที่มาด้วยเขามาเป็นเพื่อนร่วมทริปแต่เขาอายุเป็นพี่เราอ่ะ มากัน2คนนี้ละ ญคู่
ต่อๆๆ
v
v