India in my dreams ตอน สวัสดีนิวเดลีที่รัก #1


สวัสดีค่ะ เพื่อนชาวพันทิป ทู๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกคน

กระทู้นี้ ชมจะพาไปเที่ยว อินเดียยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ขออนุญาตเรียกตัวเองว่า ชม เพราะเราชื่อชมพู่ บ่ใช่ชมพู่อารยาเด้ออออ ชมพู่เฉยๆนี้ละ


ขอเกริ่นนำ ยืดเยื้อหน่อยนะ....................
คือ เราก็ไม่เข้าใจนะว่า คนที่ชอบว่า ชอบเหยียดอินเดียเนี๋ย เขาไปเจอกันมาจริงๆหรือยัง เพราะเราไม่เจออะไรแบบที่เขาว่าเลย
เรื่องกลิ่น ........... คือ ไม่มีอะไรเหม็นมากมายแบบหยี้จะอ้วก เหม็นแทบแย่แบบที่คนไทยชอบว่าเขา
"อย่าลืมผ้าปิดจมูก"
"คนอินเดียไม่ชอบอาบน้ำ เหม็นสาป"
"เหม็นเครื่องเทศน์มาก"
"เหม็นคนอินเดีย ตั้งแต่ขึ้นเครื่อง"

คือ คุ๊ณค่ะ ไม่ขนาดนั้นค่ะ ไปกับพี่อีกคน เรายังคุยกันเลยว่า ทำไมผู้เขียนกระทู้บางคนเขียนเวอร์จัง มันไม่ได้อแย่รึเป็นอะไรแบบนั้นเลย
ใช่ค่ะ ไม่มีกลิ่นอะไรแบบนั้นเลย

เรื่องเครื่องเทศน์คงแล้วแต่คน สำหรับเราไม่เหม็นขนาดนั้นค่ะ ถามว่ากลิ่นมันเด่นเตะจมูกมั้ย อืมใช่ค่ะ อาหารบางอย่าง เช่น ชิกเก้น บิยานี ฉุนค่ะ คล้ายๆข้าวหมกไก่บ้านเรา แต่ไม่ได้เหม็น ไม่ได้กินยากค่ะ ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น

อ่านกระทู้อื่นๆมา ก่อนไปค่อนข้างกังวล กลัวกินไม่ได้เลยเอามาม่าไป ปรากฏว่าต้องบังคับเพื่อนกันว่า เราต้องกินมาม่าที่เราเอามาบ้างนะ คือเราจะมากินแต่อาหารเเขกไม่ได้นะ เราซื้อมาม่ากันมาแล้ว สุดท้ายก็ ........... เอามาม่าไว้กินเปล่าๆ กินเล่นบนรถไฟ  เพราะเรา 2 คนร้องจะกินแต่อาหารอินเดีย อร่อยเวอร์ค่ะ

เรื่องกลิ่น ถามว่ามีมั้ย มีค่ะ กลิ่นขี้อ่ะค่ะ เออก็ไม่ได้บอกว่าไปแล้วจะเจอสวยหรูหอมหวานเหมือนในทุ้งลาเวนเดอร์ฝั่งยุโรป แต่มันไม่ได้เลวร้ายย่ำแย่อย่างที่คนไทยบางคนกล่าวหาเขา เออมามาเข้าเรื่องกันดีกว่า เน๊อะ!




วันที่ 30 ธันวาคม 2560
เราขึ้นเครื่องเวลาหกโมงกว่าๆ เครื่องออก เจ็ดโมง ทริปนี้เรื่อง SIM ใช้ AIS SIM 2Fly 399 บาท ทริป 8 วันจบทริปเน็ตยังเหลือเลยค่ะ สามารถหาซื้อได้ที่ ร้านหน่อยที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเปิดบริการ 24 ชั่วโมงนะค่ะ


สภาพอากาศในวันนั้นท้องฟ้าสดใสมากๆ แต่ พอเข้าอินเดียปุ๊ป หมอกมาเลย เครื่องลงไม่ได้ครับ กัปตันประกาศว่าเราจะค่อยๆเอาเครื่องลงเนื่องจากสภาพอากาศมีหมอกหนา พอเครื่องจอดปุ๊ป ความหนาวมาเลย พอเห็นหมอก แม่เอ่ยยยย คิดถึงเสื้อคอเตาหนาๆที่เพิ่งเอาออกไป 2 ตัว ก็คิดว่าคงไม่หนาวมขนาดน้านนนนนนนน อยากจะร้องงงง

เราไม่รู้ว่ามีใครกังวลเกี่ยวกับ ตม. เหมือนเราไหม แต่จะบอกว่า ไม่ถามอะไรเลย พี่ท่านรับพาสปอร์ตและ e-Visa ของเราไป แล้วถามแค่ว่า
พี่ ตม. : ยัวร์ เนม สุภมัส (ออกเสียแบบนี้เลย ขออนุญาตทับศัพท์เพื่อให้ได้อรรถรส แต่จริงๆเราชื่อสุภมาส)
เรา : เยส

แค่นี้............ แล้วก็ทำตามวิธีของเขา สแกนนิ้ว ถ่ายรูป ซึ่งขั้นตอนนี้มีรูปแปะไว้ที่เคาว์เตอร์ ตม. อธิบายชัดเจนไม่ต้องกังวล
หลังจากที่ผ่านกระบวนการที่สนามบินเสร็จแล้ว เอาละท่านผู้ชม เราจะพาท่านเข้าอินเดียจริงๆละนะ เราเข้าใจกลางนิวเดลีด้วย เมโท รถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งสายรถไฟของเขามีเยอะมาก นี้คืออินเดียที่คนชอบหยี???? ซึ่งสายรถไฟเยอะมากๆ มากกว่าบ้านเรา และปลั๊กไฟก็มีเยอะมากๆ ในห้องน้ำก็มี แบตโทรศัพท์หมดตรงไหน หาห้องน้ำซะ


พ้นจากสนาถีรถไฟเราใช้การเดินไปที่พัก ซึ่งต้องจ้ำอ้าวเอามากๆ เพราะแขกตามตื้อให้ขึ้นรถหรอ?? ป่าว กรูปวดขรี้ อ่ะ แล้วเพื่อนที่ไปด้วยก็อยากจะแวะชิมโรตี เราก็แบบจะมาอยากกินอัลไลตอนนี้ ไปเช็คอินก่อนได้โปรด ............. ตัดภาพมาหลังเช็คอินเสร็จ ที่แรกที่จะไปคือ Red Fort ก็นั่งริชอร์ ไป ให้ที่พักเรียกให้ 100รูปี ต่อเที่ยว การขึ้นริชอร์ ขอให้ต่อรองให้ชัดเจนก่อนนะค่ะ ต่อคน รึ ต่อเที่ยว หน่วยเป็นอะไร ดอร์ลา หรือ รูปี เอาจริงๆนะทุกอย่างในอินเดียดีหมดดีเกินคาด แต่ที่เป็นไปตามคาดหมาย รึเหมือนที่กล่าวหาอินเดียเป็นจริงอยู่ 2 เรื่องสำหรับเราคือ

1. ขรี้เยอะ
2. ย่านค้าขาย พ่อค้าแม่ค้า ตุ๊กๆ ชาร์จราคาเวอร์

อันนี้จริง ต้องระวัง มีทุกลูกไม้ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังเป็นลำดับไปนะค่ะ


Red Fort หรือป้อมแดง หรือที่ชาวอินเดียเรียกว่า  ลา คิลลาห์ (Lal Qil'ah) หรือ หรือ ลาล คิลา (Lal Qila) มันก็คือป้อมปราการนั้นเอง โดยป้อมปราการแห่งนี้ใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์โมกุล และยังเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงแห่งใหม่ในรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน ที่มีชื่อว่า "ชาห์ชะฮันนาบาด" (Shahjahanabad) ซึ่งเป็นเมืองแห่งที่ 7 ที่ก่อตั้งภายในบริเวณเขตเดลี โดยพระองค์ทรงย้ายมาจากอัคราเพื่อที่จะสร้างความสวยงามและอลังการในรัชสมัยของพระองค์ โดยใช้โอกาสนี้ในการสร้างสรรค์สิ่งก่อสร้างและอาคารใหม่ๆได้ตามที่สนพระทัย ซึ่งเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ที่เดลีจนถึงปีค.ศ. 1857 เมื่อจักรพรรดิบาฮาดูร์ชาห์ซาฟาร์ เสด็จลี้ภัยจากรัฐบาลของบริติชอินเดีย

เราคิดว่าผู้อ่านคงไม่เน้นประวัติความเป็นมาเราขอย่อๆเอาละกันนะ พอมาถึงเรดฟอร์ท มันตระการตามากแบบตลึงตกในภวังค์ รัวชัตเตอร์กันแบบไม่สนใจใคร ไม่สนใจทาง และนั้นเอง แปร๊ดดดดด!!!!
เรา : พี่ปิ!!!!!!!!! เดี๋ยว!!!!!
ไม่ทันแล่วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
พี่ปิ : ชมมมมมมมมมมมมมมมมม พี่เหยียบขี้ @#@$(_|e_%(#_(%%(+^(*_)#|
เราก็ขำไปฟังพี่แกโวยวายไป .................. ก็อย่ามัวตลึงจนไม่มองทางกันเน๊อะ
พี่ปิ : ชมว่านี้มันขี้อะไร
เรา : เอออออออออออออออ ชมว่าไม่ใช่ขี้หมา แต่ถ้าเป็นขี้หมา หมาคงท้องเสีย (อยากตอบว่าขี้คน แต่สงสารจิตใจพี่เขา)
พี่ปิ : นี้รองเท้าใหม่ของพี่
เรา : เอานะ!!!!! ....เดี๋ยวค่อยไปล้าง ตอนนี้ยีๆถูๆกับพื้นไปก่อน


เราก็ไปเดินงง ที่ซื้อตั๋วเข้าอยู่ไหน ................. ในใจก็คิดว่าอยู่ข้างบน จะไปเรดฟอร์ทต้องเดินขึ้นไป จริงๆทางมันก็ไม่ได้ชันมากนะ จริงๆอยากเดินแต่ด้วยความ งง ว่าซื้อตั๋วตรงไหน ละไอ่ที่เขาต่อแถวแย่งซื้อนี้ใช่ป่าว มันมีแต่ภาษาฮินดีอ่ะ ก็พยายามถาม แต่เขาไม่ยอมคุยเป็นภาษาอังกฤษ เขารัวภาษาฮินดีใส่ แล้วไล่เราให้ไปซื้อ พอซื้อมา สลัดเอ่ย!!!! มันคือตั๋วรถรับส่งขึ้นลง ซึ่งกูเดินเองได้มั้ยละ 40รูปี 2คน

พอขึ้นไปถึงก็ไปงง หาแถวซื้อตั๋ว คือคนเยอะมาก แล้วก็ต่อแถวไป มีเด็กผู้หยิงน่ารักคนหนึ่ง เดินมาบอกว่า เรา2คนนะเข้าแถวผิด ต้องไปอีกที่นี้ สำหรับคนอินเดีย เราก็แบบ มุขอะไรอีกป่าวว่ะ จะหลอกเอาทริปหรืออะไรป่าวว่ะ

แต่ป่าว!!!! เข้าผิดจริงๆ คนอินเดียน่ารักมาก ใจดีมาก ไม่ได้มีแค่คนนี้นะ คือเขาใจดี น่ารักเฮฮากันหมด ยกเว้นย่านค้าขาย กับพวกรถตุ๊กๆนั้นแหระที่ไม่ค่อยโอเคอ่ะนะ ค่าเข้าเรดฟอร์ท 530 รูปี แต่ถ้าโชว์พาสปอร์ตไทย มันจะเหลือแค่ 35 รูปี ดีจริงน่ารักมากกกกกกก

ไทยและอินเดียลงนามความตกลงด้านวัฒนธรรม กระชับความสัมพันธ์ผ่านการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ การศึกษา และวัฒนธรรม นั้นเป็นเหตุผลที่เราได้ส่วนลด และถ้าคุณดูในตั๋วเข้าชมต่างๆ บนหัวตั๋วของคุณจะระบุว่าเป็นตั๋วสำหรับชาวอินเดีย ไม่ใช่ชาวต่างชาติ น่าประทับใจไปอีก


แล้วเราก็เข้ามาข้างใน บอกตรงๆ อยากซื้อของมาก แต่ด้วยความที่ว่ามันเป็นวันแรก แล้วถ้าซื้อเลยก็ต้องแบกไปด้วย ก็เลยตัดใจยังไม่ซื้อละกัน
ถ้าถามว่าทำไมอยากไปอินเดีย บอกตรงๆเลย แฟนอยู่อินเดีย 5555555555555+ หลายคนอาจจะคิดในใจแล้วว่า อ่ออีนี้มันมีแฟนอยู่นู้นไงมันถึงมองบวก
เห้ยยยย!!! แต่มันไม่ได้แย่อย่างที่คนไทยชอบว่าเขาจริงๆนะ สาบานด้วยเกียรติ์อันน้อยนิดเลยว่า ไม่ได้เข้าข้างเขาเพราะแฟนเป็นคนอินเดีย เหตุผลที่สองคือ เราชอบสถาปัตยกรรมของเขา เราชอบถ่ายรูปตึกรามบ้านช่อง วิวทิวทัศน์อ่ะ พอเราเห็นโลเคชั่นที่นี้ เราเลยอยากไป

วันแรกนี้ได้แค่เรดฟอร์ท หลังจากนั้น เราก็ตกลงกันว่าจะไปจองตั๋วรถไฟกัน ก้นั่งรถไปสถานีรถไฟนิวเดลี 150 รูปี ต่อเที่ยว คิดว่าเป็นเงินไทยกี่บาทง่ายๆคือ หาร 2 ไปเลย พอถึงจุดหมายเราก็เดินๆไป ปรากฏว่า พี่ที่ด้วยอยากได้หมวกเรยแวะร้านนั้น ละก็เจอคนอินเดียพูดเก่งคนหนึ่ง พูดชักชวนว่าให้ไปซื้อกับสถานีนี้ D.T.T.D.C เพราะวันนี้สถานีคนเยอะ ไปที่นี้ดีกว่า เราอ่ะไม่ไว้ใจตั้งแต่แรก เพราะดูในรายการหนังพาไปมาว่าเขาจะหลอกเราไปบริษัททัวร์ พี่ที่ไปด้วยตกลงจะไป เราก็ถามเขาว่า

เรา : มันคืออะไรเขาบอกมั้ย
พี่ปิ : สถานี เขาบอกว่าเป็นสถานี
เรา : สถานีชัวร์นะ ไม่ใช่บริษัททัวร์นะ มันไม่ค่อยดีนะทัวร์อะ
พี่ปิ : เขาบอกว่าวันนี้สถานีรถไฟนิวเดลีคนเยอะ ให้ไปที่นี้ได้เหมือนกัน
เรา : ถ้าเป็นสถานีก็โอเค

พอรถจอดที่หมายปุ๊ป !!!!!!!! สลัดเอ๊ย!!!!!! บริษัททัวร์เว่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ่เชรี้ยยยยยยยยยยยยย!!!! แต่มาแล้วจะดึงพี่ไม่ให้เข้าก็ไม่ได้ ส่งคนมารอรับดักตอนลงรถเลยจ้า เขาแทบจะรื้อแผนเที่ยวใหม่หมด แต่เราคือยืนยันแบบนี้ และตอนแรกเรียกราคา 7500รูปีต่อคน กูไม่มีตังเว่ย!!!!
เขามาด้วยเล่ห์ เราต้องตอกกลับด้วยเล่ห์ อาจจะไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมเท่าเขาแต่ก็ต้องพยายามไม่เสียเปรียบมากนัก เราบอกเราทั้งคู่เป็นนักเรียน ไม่มีตังขนาดนั้น ด้วยความที่ว่าเรา อายุ 25 เขาขอดูพาสปอร์ต เราให้ของเรา เขาขอดูของพี่เรา พี่เราออกตัวว่าลืมเอามาจากที่พัก พยายามขอดูของพี่หลายรอบมาก แต่พี่ปีก็ไม่หลุดเลย คือพี่เขาเป็นนักเดินทางสกิลสูงกว่าเราเลยละคือมันเป็นครั้งแรกเลยหาเพื่อนไปจริงๆชอบเที่ยวคนเดียว ส่วนใหญ่ออกทริปคนเดียว แต่นี้ครั้งแรกเพื่อความอุ่นใจเลยหาเพื่อนเก่งๆไปด้วย และมันไม่ได้น่ากลัว เราเจอผู้หญิงเที่ยวคนเดียวในอินเดียเยอะมาก ผู้หญิงไทยก็มี และครั้งต่อไปกะไปคนเดียวนี้ละจ้า อะเข้าเรื่องต่อเน๊อะ สุดท้ายเนี๋ยทัวร์ที่เราได้มา คือ 5500รูปีต่อคน มีค่ารถบัสไปอักรา ทัวร์วันเดย์ทริปในเดลี ค่ารถไฟไปกลับพาราณสี ซึ่งบอกตรงๆว่า ไม่คุ้มกับ 5500 ที่เสียไปเลยจ้า อยากรู้ว่าทำไมไม่คุ้มก็อ่านไปเรื่อยๆนร่ะ

ต่อๆ
V
V
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่