คือก่อนอื่นแนะนำตัวเจ้าจขกทก่อนนะครับ จบกทเองเป็นคนอ้อนเเอ้น( ไม่รู้จะอธิบายยังไง555) ก็เหมือนตุ๊ดทั่วไปนั่นแหละแต่ไม่ได้อยากแต่งหญิง555 ออกจะเป็นเกย์สะมากกว่า
ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนสอนพาษาจีนนะครับ เดี๋ยวเล่าไปจะได้ไม่งงกัน
เรื่องมันเรี่มต้นเมื่อตอนม.4 ทั้งชั้นก็จะมีอยู่3ห้องก็คือ: 4/1 4/2 4/3 เเต่ทีนี้ม.ต้นของจีนมันจะสุดเเค่ม.3 พอม.4ปุบ ก็กลายเป็นม.ปลาย เเล้วโรงเรียนเรา ก็จะสลับ , ย้ายห้อง ให้นักเรียนจากห้องนึงมาอยู่รวมกับในห้องนึง (ทุกคนโดนหมด5555) เเล้วทีนี้ผมโดนย้ายไปอยู่ห้อง 4/1 (ซึ่งตอนม.3นั้นผมอยู่ห้อง 3/3) ย้ายไปใหม่ฯมันก็ไม่ได้ปลับตัวไรยากนัก เพราะทุกคนในห้องเองก็เป็นนักเรียนร่วมรุ่นกันอยู่เเล้ว .ตอนย้ายไปใหม่ฯ เเล้วทีนี้สายตาก็ไป สะดุดกับนักเรียนผู้ชายคนหนึ่ง , ที่
ทั้งวันเอาเเต่นั่งหวีผมเเล้วก็ชอบพก กระจกเล็กๆติดตัวตลอดเวลา(จริงฯน่ะ555) , มันนั่งโตะด้านหน้าสุดติดกับปะตูห้อง , เอาจริงฯตอนเเรกที่เห็น เเทบจะไม่ชอบขี้หน้ากันด้วยช้ำ , เพาะมันขี้เกักนิด1 เอาเป็นว่าตอนม.4 ไม่มีห่าอะไรเลย5555 ข้ามไปเลยละกัน5555
มาถืงตอนม.5 , เราเลี่มพอ สนิทกันขึ้นมาบ้าง, เลยรู้มาจากเพื่อนว่ามันเป็นลูกชายของรองประธานโรงเรียน , ที่ย้ายมาเรียนต่อที่นี้ตอนม.2 (ตอนนั้นเรายังไม่รู้จักกันเลย , หน้านี้ก็เเทบจะไม่เคยเห็น) , มันเองก็เป็นคนค่อนข้างมีถานะเหมือนกัน , เเล้วยังรู้มาอีกว่ามันอยู่ที่จีนมาตั้งเเต่เด็กฯ (มันมีเชื้อสายจีนอยู่ด้วย), มันส่วนใหญ่ก็เลยพูดเเต่พาษาจีน , บางทีเราคุยกันก็ต้องคุยเป็นจีนเลย(มันพูดไทยก็เกั่งนะ5555) , มันเองเป็นคนที่เรียนเกั่งมาก(เเต่ตอนนั้นผมเกั่งกว่า)5555 เรา2คนเองก็เรียนติดท๋อบ5ปะจำห้องตลอด555(ไม่ได้ชมตัวเองนะ5555)
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มันเริ่มขึ้นตอนช่วงขึ้นม.6 ใหม่ๆ , ด้วยความที่เป็นม.ปลายปีสุดท้าย , เราอยากพูดจีนเก่งขึ้นก็เลยไปคุยกับมันไปบ่อย , ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด , เวลาเรียนก็ชอบย้ายไปนั่งกับมัน , คุยกับมันทุกวัน , วันไหนที่ไม่ได้เจอหน้ามันนี้เเทบจะบ้าตาย.
มันชอบเรียกเราว่า亲爱กับ老婆ในพาษาจีนที่เเปลว่า ที่รัก กับ เมีย , เราเองก็เรียกมันกลับว่า สามี เหมือนกัน , จนเเทบไม่ได้เรียกชื่อจริงกันเลย , เรียกไปเรียกมา ตัวเองกลับเป็ยฝ่ายไปชอบเค้าชะงั้น55555
เวลาเราถ่ายรูบรวมกับเพื่อนฯ , เราชอบทำมือเป็นท่าหัวใจข้าง1 เเล้วมันก็ทำอีกข้าง1 มาต่อกัน . ปะมานว่าเวลาจะถ่ายรูบทีไร มันรู้เลยว่าต้องทำท่านี้กับเรา 55555
จนเมื่อใกล้ถืงวันเกีดมันเมื่อเดือน12ที่ผ่านมานี้เอง , ผมถามมันว่าอยากได้อะไร จะชื้อให้, เเล้วมันก็ตอบว่า: อยากได้ผมมาเป็นเเฟน ( ตอนนั้นเราเดีนอยู่ด้วนกันเเค่2 คน) ผมก็เลยเเกล้งตอบไปว่า:เป็นเดี๋ยวนี้เลยก็ได้น่ะ . เเล้วเรา2 คนก็หัวเราะออกมาเเล้วก็เดีนต่อไป , ตอนนั้นผมเองก็รู้ดีอยู่เเล้วว่ามันพูดเล่นฯ , เพราะผมเองก็เป็นเเบบนี้(ตุ๋ด) มันไม่มีทางเป็นไปได้ . เเต่ตอนนั้นใจผมกลับเตั้นเเรง เเถมยังเก็บเอาไปคิดเป็นตุเป็นตะ เเล้วก็มโนไปเรื่อย.....
เเต่เเล้ว ก็ไม่รู้ว่าตั้งเเต่เมื่อไหร่ มันเรี่มตีตัวออกห่างจากผม , จากที่คุยกันตลอดก็เเทบจะไม่ได้คุยกันเลย , เหมือนมันคงรู้ตัว ว่าผมคิดกับมันเกีนคำ ว่า"เพื่อน"ไปเเล้ว ,มันเองก็คงจะ"อึดอัด"อยู่เหมือนกันนั้นเเหละ. ผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งเเต่เมื่อไหร่ ที่มันกายเป็นเเบบนั้น เรี่มเฉยเมยใส่ผม , ชวนคุยด้วย ก็เหมือนไม่อยากคุย ......
สุดท้ายก็กลายเป็นเเบบนี้มาใกล้จะเดือนนึงเเล้ว , ปีนี้พวกเราเรียนอยู่ ม.6 เเล้วด้วย, มันคงจะเป็นปีสุดท้ายที่อยู่ด้วยกัน , ปีสุดท้ายที่มาโรงเรียนเเล้วเห็นหน้ากันทุกวัน ......
ตอนนี้ก็เดือน1 เเล้ว, เดือน6พวกเราก็เรียนจบ ม.ปลายกันเเล้ว , มันเองก็มีเเผนว่าจะไปเรียนต่อที่ เซี่ยงไฮ้ , ผมเองก็มีเเผนเหมือนกันว่าจะไปต่อจีน , เเต่คงไม่ได้ไปเมืองเดียวกันกับมันหรอก.
ยังเหลือเวลาอีก5เดือน , ไม่รู้ว่าเรา2คนจะยังเป็นเเบบนี้ต่อไปมั้ย , บางทีผมเองก็เเอบร้องไห้อยู่เหมือนกัน , มันเสยใจที่เเบบเราคิดไปเอง ,มโนไปเอง .
สุดท้ายยังไม่รู้จักชื่อมันเลยเนอะ (5555) มันชื่อว่า:เฉิน . ตามปะสาชื่อจีนที่เรียกกัน .
สุดท้ายนี้ก็อยากจะบอกอะไรกับมันนิด1 มันคงไม่เข้าใจหรอก เพาะมันอ่านไทยไม่ออก(พูดเกั่งอยู่ เเต่อ่านไม่ค่อยจะได้)5555
-กูไม่น่าไปหลงรักคนบ้าฯอย่างมืง ที่วันฯเอาเเต่นั่งหวีผมอยู่นั้นเเหละ , ว่างทีไร
ก็หวีเเต่ผม55555
-คนบ้าที่
ฉลาดเเถมเรียนเกั่งโครตฯ
-กูไม่น่าหลงรักคนบ้า ที่
โครตตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษเลย
-คนบ้าที่
ชอบท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษแต่ไม่รู้จักวิธีใช้มัน55555555
- คนบ้าที่
กูอยากคุยด้วยทั้งวัน
-คนบ้าที่
ทำกูร้องไห้ได้
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณมากนะครับ ที่เข้ามาอ่านจนจบ สามารถแสดงความคิดเห็นได้นะครับ
Bye
จะมีสักครั้งไหมที่ตุ๋ดคนหนึ่งจะสมหวังกับความรัก
ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนสอนพาษาจีนนะครับ เดี๋ยวเล่าไปจะได้ไม่งงกัน
เรื่องมันเรี่มต้นเมื่อตอนม.4 ทั้งชั้นก็จะมีอยู่3ห้องก็คือ: 4/1 4/2 4/3 เเต่ทีนี้ม.ต้นของจีนมันจะสุดเเค่ม.3 พอม.4ปุบ ก็กลายเป็นม.ปลาย เเล้วโรงเรียนเรา ก็จะสลับ , ย้ายห้อง ให้นักเรียนจากห้องนึงมาอยู่รวมกับในห้องนึง (ทุกคนโดนหมด5555) เเล้วทีนี้ผมโดนย้ายไปอยู่ห้อง 4/1 (ซึ่งตอนม.3นั้นผมอยู่ห้อง 3/3) ย้ายไปใหม่ฯมันก็ไม่ได้ปลับตัวไรยากนัก เพราะทุกคนในห้องเองก็เป็นนักเรียนร่วมรุ่นกันอยู่เเล้ว .ตอนย้ายไปใหม่ฯ เเล้วทีนี้สายตาก็ไป สะดุดกับนักเรียนผู้ชายคนหนึ่ง , ที่
มาถืงตอนม.5 , เราเลี่มพอ สนิทกันขึ้นมาบ้าง, เลยรู้มาจากเพื่อนว่ามันเป็นลูกชายของรองประธานโรงเรียน , ที่ย้ายมาเรียนต่อที่นี้ตอนม.2 (ตอนนั้นเรายังไม่รู้จักกันเลย , หน้านี้ก็เเทบจะไม่เคยเห็น) , มันเองก็เป็นคนค่อนข้างมีถานะเหมือนกัน , เเล้วยังรู้มาอีกว่ามันอยู่ที่จีนมาตั้งเเต่เด็กฯ (มันมีเชื้อสายจีนอยู่ด้วย), มันส่วนใหญ่ก็เลยพูดเเต่พาษาจีน , บางทีเราคุยกันก็ต้องคุยเป็นจีนเลย(มันพูดไทยก็เกั่งนะ5555) , มันเองเป็นคนที่เรียนเกั่งมาก(เเต่ตอนนั้นผมเกั่งกว่า)5555 เรา2คนเองก็เรียนติดท๋อบ5ปะจำห้องตลอด555(ไม่ได้ชมตัวเองนะ5555)
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มันเริ่มขึ้นตอนช่วงขึ้นม.6 ใหม่ๆ , ด้วยความที่เป็นม.ปลายปีสุดท้าย , เราอยากพูดจีนเก่งขึ้นก็เลยไปคุยกับมันไปบ่อย , ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด , เวลาเรียนก็ชอบย้ายไปนั่งกับมัน , คุยกับมันทุกวัน , วันไหนที่ไม่ได้เจอหน้ามันนี้เเทบจะบ้าตาย.
มันชอบเรียกเราว่า亲爱กับ老婆ในพาษาจีนที่เเปลว่า ที่รัก กับ เมีย , เราเองก็เรียกมันกลับว่า สามี เหมือนกัน , จนเเทบไม่ได้เรียกชื่อจริงกันเลย , เรียกไปเรียกมา ตัวเองกลับเป็ยฝ่ายไปชอบเค้าชะงั้น55555
เวลาเราถ่ายรูบรวมกับเพื่อนฯ , เราชอบทำมือเป็นท่าหัวใจข้าง1 เเล้วมันก็ทำอีกข้าง1 มาต่อกัน . ปะมานว่าเวลาจะถ่ายรูบทีไร มันรู้เลยว่าต้องทำท่านี้กับเรา 55555
จนเมื่อใกล้ถืงวันเกีดมันเมื่อเดือน12ที่ผ่านมานี้เอง , ผมถามมันว่าอยากได้อะไร จะชื้อให้, เเล้วมันก็ตอบว่า: อยากได้ผมมาเป็นเเฟน ( ตอนนั้นเราเดีนอยู่ด้วนกันเเค่2 คน) ผมก็เลยเเกล้งตอบไปว่า:เป็นเดี๋ยวนี้เลยก็ได้น่ะ . เเล้วเรา2 คนก็หัวเราะออกมาเเล้วก็เดีนต่อไป , ตอนนั้นผมเองก็รู้ดีอยู่เเล้วว่ามันพูดเล่นฯ , เพราะผมเองก็เป็นเเบบนี้(ตุ๋ด) มันไม่มีทางเป็นไปได้ . เเต่ตอนนั้นใจผมกลับเตั้นเเรง เเถมยังเก็บเอาไปคิดเป็นตุเป็นตะ เเล้วก็มโนไปเรื่อย.....
เเต่เเล้ว ก็ไม่รู้ว่าตั้งเเต่เมื่อไหร่ มันเรี่มตีตัวออกห่างจากผม , จากที่คุยกันตลอดก็เเทบจะไม่ได้คุยกันเลย , เหมือนมันคงรู้ตัว ว่าผมคิดกับมันเกีนคำ ว่า"เพื่อน"ไปเเล้ว ,มันเองก็คงจะ"อึดอัด"อยู่เหมือนกันนั้นเเหละ. ผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งเเต่เมื่อไหร่ ที่มันกายเป็นเเบบนั้น เรี่มเฉยเมยใส่ผม , ชวนคุยด้วย ก็เหมือนไม่อยากคุย ......
สุดท้ายก็กลายเป็นเเบบนี้มาใกล้จะเดือนนึงเเล้ว , ปีนี้พวกเราเรียนอยู่ ม.6 เเล้วด้วย, มันคงจะเป็นปีสุดท้ายที่อยู่ด้วยกัน , ปีสุดท้ายที่มาโรงเรียนเเล้วเห็นหน้ากันทุกวัน ......
ตอนนี้ก็เดือน1 เเล้ว, เดือน6พวกเราก็เรียนจบ ม.ปลายกันเเล้ว , มันเองก็มีเเผนว่าจะไปเรียนต่อที่ เซี่ยงไฮ้ , ผมเองก็มีเเผนเหมือนกันว่าจะไปต่อจีน , เเต่คงไม่ได้ไปเมืองเดียวกันกับมันหรอก.
ยังเหลือเวลาอีก5เดือน , ไม่รู้ว่าเรา2คนจะยังเป็นเเบบนี้ต่อไปมั้ย , บางทีผมเองก็เเอบร้องไห้อยู่เหมือนกัน , มันเสยใจที่เเบบเราคิดไปเอง ,มโนไปเอง .
สุดท้ายยังไม่รู้จักชื่อมันเลยเนอะ (5555) มันชื่อว่า:เฉิน . ตามปะสาชื่อจีนที่เรียกกัน .
สุดท้ายนี้ก็อยากจะบอกอะไรกับมันนิด1 มันคงไม่เข้าใจหรอก เพาะมันอ่านไทยไม่ออก(พูดเกั่งอยู่ เเต่อ่านไม่ค่อยจะได้)5555
-กูไม่น่าไปหลงรักคนบ้าฯอย่างมืง ที่วันฯเอาเเต่นั่งหวีผมอยู่นั้นเเหละ , ว่างทีไร
-คนบ้าที่
-กูไม่น่าหลงรักคนบ้า ที่
-คนบ้าที่
- คนบ้าที่
-คนบ้าที่
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณมากนะครับ ที่เข้ามาอ่านจนจบ สามารถแสดงความคิดเห็นได้นะครับ