ละครรักซาบซึ้งตรึงใจ น้ำตาไหลย้อยท่วมจอ @@@ ข้าชื่อจารย์จี เรื่องนี้พี่ขอเป็นพระเอก 3 @@@

ตอนที่ 1    https://pantip.com/topic/37226347
ตอนที่ 2    https://pantip.com/topic/37239222
   
         ............

         ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณพ่อยกแม่ยกทั้งหลายที่ได้ติดตามและช่วยอุดหนุนวิกสังกะสีของเรา   กราบงาม ๆ สำหรับท่านที่ส่งจดหมายน้อยให้กำลังใจ พร้อมมอบมาลัยน้ำใจแก่กระผม  

         และขออำไพสำหรับท่านที่ถูกนำมาเป็นนักแสดงรับเชิญ  หนักนิดเบาหน่อยก็ถือว่าขอเป็นการเพิ่มความครึกครื้นให้แก่ถนน(นักเขียน)เส้นนี้   ถือว่าส่งบทพระเอกให้จารย์จีช่วยกันเนอะ .. ฮี่ ๆ

         .........

        หมดช่วงวันหยุดแล้ว ผมต้องรอวันเสาร์ถึงจะเชิญจารย์จีมาแสดงต่อได้  แต่รู้สึกแกจะขัดขืนชอบกล  อดไม่ได้ก็เลยถาม

    “ดูเหมือนจารย์ไม่ค่อยอยากเล่น  ทำไมหรือครับ ...”

    “ในเรื่องมัวแต่ตั้งวงเหล้า   เมื่อไหร่จะได้ปล้ำนางเอก  ...” จารย์จีทำหน้ามุ่ย

      อ๋อ  .. แหมเรื่องนี้นี่เอง  ผมรีบบอกแกไปว่าจวนแล้ว   แต่ขอให้รอสักแป๊บเพราะตอนนี้เรามีนักแสดงมาเพิ่มละครเลยยืดออกไปอีก

    “เพิ่มมาทำไม  เกะกะ  ให้พระเอกปล้ำนางเอกเลยดีกว่า ...”  จารย์จีหน้างอ

    เอาน่า .. น้องเค้าเป็นพ่อยกวิกสังกะสีอยากเล่นด้วยครับ  ผมเห็นว่ามันก็ครึกครื้นดี  อีกอย่างเจ๊ลิแกก็อยากให้เพิ่มนักแสดงหนุ่ม ๆ (กว่าเดิม) เข้ามาด้วย  ก็เลยยืดละคร  แหะ  ๆ.."  (ทีจารย์ยังยืดได้เนอะบอกสองตอนจบแต่เล่นยืดไปตั้งสี่ตอน...)
    
    “ก็ได้  ... แต่ก็อย่ายืดนาน  ตอนต่อไปก็จีบติดเลยนะ ..”

    แหม .. พ่อหนุ่มของเราใจร้อนจัง ผมว่าคนดูก็พากันลุ้นอยู่  คราวนี้อยู่ที่ดารารับเชิญคนใหม่ของเราล่ะครับว่าจะแสดงดีหรือเปล่า  ไม่งั้นงานนี้รองเท้าลอยมาเพียบ  ฮ่า ๆ ๆ ๆ


            …………………………………



           ….เปิดม่านนนนนนนนนนนนนนน



            บ่าย ๆ วันเสาร์ขณะที่ผมกำลังเล่นคนเดียวอยู่หน้าบ้าน

           “ไอ้ปอม  เอ็งไปไล่แง๊บหางแมวมันทำไม ..”   เสียงน้าสอเรียกมาจากประตูรั้ว  ในมือแกหิ้วของพะรุงพะรังซึ่งไม่ต้องบอกก็เป็นอันรู้ว่าไม่แคล้วเป็นเบียร์และกับแกล้ม

            ผมวิ่งไปรับหน้าเผื่อแกมีอะไรมาฝาก

            น้าสอเอามือข้างที่ว่างซึ่งก็หมายถึงมืออันล่างถีบ ๆ ยัน ๆ ผมออก    

           “อย่ามาพันแข้งพันขา  ไปเรียกพ่อเอ็งออกมา  ข้าเปรี้ยวปาก”

            ผมวิ่งกลับเข้าไปเห่าในบ้าน  เห่าได้ไม่กี่ทีพ่อก็โผล่มาและอย่างกับจะรู้เวลากัน แกแวะเข้าในครัวก่อน  ออกมาอีกทีในมือก็พร้อมทั้งจานชามและแก้วสุรา  

            “คุณเปลวแหละคับ ไม่เห็นมาด้วย”  พ่อถามขณะช่วยเทกับแกล้มใส่ถ้วย

            “ช่วงนี้ไม่รู้หายไปไหนแต่คงรู้เวลา  เดี๋ยวก็ตามมาที่นี่เองแหละ“

           ไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงแมงกะไซค์ฮอนด้าของน้าเปลวมาเทียบหน้าบ้าน

            “โอ้โฮ .. ตายยากจริงคุณเปลว  กำลังพูดถึงอยู่พอดี...”

            ตอนนี้ครบแก๊งค์วงเบียร์เลยครึกครื้นใหญ่  ส่วนผมได้ปีกไก่ปิ้งมาหนึ่งปีก และแค่เคี้ยวคำแรกก็รู้ว่าเจ๊ลิแกกลับมาแล้ว  

            เรื่องราววันนี้ก็ไม่พ้นประเด็นที่จะจีบพี่อ้อม

            “ทุ่มสุดตัวเลยครู  งานนี้ได้แฟนไม่พอยังได้ฝากท้องกับป้าซูซี่ในฐานะหลานเขย  สองต่อเข้าฮอร์ส ฮิ ๆ “ น้าเปลวเชียร์สุดลิ่มทิ่มประตู

            “ผมพร้อมจะทุ่มเต็มที่ล่ะคุณ  แต่มันมีปัญหาอยู่หน่อย”  พ่อว่าขรึม ๆ

            “เอ .. ครูมีปัญหาอะไรครับ”  น้าเปลวเอียงคอ

            “ไอ้ผมน่ะไม่มีหรอกคุณ แต่ทางน้องอ้อมโน่นสิจะมี พอมานั่งนึกดูดี ๆ ก็เริ่มคิดได้ว่าเขาจะมาสนใจพ่อหม้ายจน ๆ อย่างผมหรือ...”

            “มันก็ต้องลองกันหน่อยน่ะครับ ไม่ลองก็ไม่รู้  ครูจะยอมแพ้แต่แรกรึ”  น้าเปลวทำเป็นยกเบียร์ขึ้นจิบแล้วมองด้วยหางตา

            พ่อตบเข่าฉาด   “อ๊ะ ..  ไม่ยอมสิ เพียงแต่มันร้างวงการไปนาน  เลยนึกไม่ออกเท่านั้นเองว่าจะเข้าอีท่าไหนดี แต่เท่าที่รู้จะเข้าไปหมาหยอกไก่แบบพวกคุณสองคนจีบสาวแถวในซอยเห็นจะไม่ได้แน่”

            “จีบสาวลักษณะมั่น ๆ แบบน้องอ้อมนี่  ผมว่าเธอน่าจะชอบอะไรที่แปลกใหม่  เร้าใจ  ฉะนั้นต้องจู่โจมแบบไม่ให้เธอรู้ตัว”  น้าเปลวพูดสำเนียงพระเอก  ดูเป็นการเป็นงาน

           “ฮะ ๆ ฟังดูเข้าท่า  แล้วไงต่อ”    พ่อยิ้มกริ่ม

           “ต้องไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และปิดทางที่จะทำให้เราหน้าแตกได้ ซึ่งก็คือครูต้องไม่ทะเร่อทะร่าเข้าไปแบบดื้อ ๆ ”

            “แล้วมันต้องเข้าไปอีท่าไหนล่ะครับ”    

           “ไปแบบจะจีบคล้ายไม่จีบ  มีเยื่อใยในความไม่มี  เรียกว่ารุกอำพรางถอย  ...”

           คราวนี้พ่อถึงกับเกาหัว  ถลึงตาใส่น้าเปลว   ส่วนกุนซือของเราก็หัวเราะแหะว่าต่อ

           “แหะ.. คือ.. ยังนึกไม่ออกครับครู.. วุ้ย  ครูก็รู้ว่าไอ้ผมมันประเภทบู๊ดุเด็ดเผ็ดมัน ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ถ้าจะได้สาวก็ต้องฟ้าผ่าต้นมะพร้าวให้สาวพุ่งเข้ามากอด  จะมาให้นึกบทจีบสาวหัวมันยังไม่แล่น   ...”

            “แล้วยังไงหัวถึงจะแล่น ...”  พ่อกัดฟันกรอด คงจะโมโห ฟังมาตั้งนานไม่ได้เรื่องสักอย่าง

           “ก็ต้องให้เมาก่อนซิครู... เดี๋ยวหัวก็แล่น...”   น้าเปลวเอามือควานหาขวดเบียร์   ปรากฏว่าไปอยู่ตรงหน้าน้าสอโน่น  

            “ช่ายค้าบ ผมเห็นด้วย  เอื้อก !! “  

            น้าสอสะง่อกสะแง่กอ้อแอ้ออกมาขณะที่พ่อกะน้าเปลวมัวแต่คุยกัน  น้าสอก็ดวดเบียร์ของแกไปเรื่อย ๆ และตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเมาเกินหน้าเพื่อนฝูงไปแล้วเรียบร้อย

            “งั้นก็ตกลงตามนี้”   พ่อรีบสรุปเมื่อเห็นว่าน้าสอชักจะล้ำหน้าไปหน่อย  จากนั้นก็ชวนน้าเปลวรีบสปีดให้ทัน

            ผมนั่งฟังอยู่ด้วยก็ต้องยอมรับว่าคำพูดของน้าเปลวฟังดูขลังไม่น้อย  ดูท่างานนี้ พ่อคงจะมีหวัง

                                                         ………………

            ผ่านไปจากบ่ายก็เข้าเวลาเย็น ในวงก็บ่นกันพึมพำว่าว่าเบียร์หมด  พ่อแกว่าจะไปเอาเหล้าในบ้านออกมา  ส่วนน้าสอก็ว่าอยากกินเบียร์ต่อเพราะกำลังเพลิน แต่ก็ขี้เกียจออกไปซื้อ  

            “ลองบริการดิลิเวอรี่ไหมครับ  ...” น้าเปลวว่า

            “โอ๊ะ .. ในซอยนี้ทันสมัยขนาดมีบริการส่งด้วยเร๊อะ  ไม่เบา ..”   น้าสอทำสีหน้าทึ่ง

            “ไม่มีหรอกครับ  ...”  น้าเปลวหัวเราะแหะ   “...ผมก็ว่าให้เท่ห์ไปงั้นแหละ   ก็แค่สั่งไก่ปิ้งเจ๊ลิแล้วก็ขอแกซื้อเบียร์มาให้ด้วย  ฝากวินมอไซด์เข้ามา  ...”

            “อ๊ะ .. เข้าท่า เดี๋ยวผมโทรเอง ผมมีเบอร์แก.. “  

            พ่อหัวเราะชอบใจ  จากนั้นก็พ่อก็กดโทรศัพท์ออก  พร้อมเปิดสปีกเกอร์โฟนให้ทุกคนได้ยินกันทั่ว

            “...โหลววว  นี่ใครพูดดด...”    ปลายสายทางโน้นว่ามา

            “เจ๊ลิพูดครับ ..”  พ่อว่าไป

            “ไม่ช่ายย .. นี่ใคร  นี่ใครพูด...”

           “...ก็เจ๊ลิไง ... “  พ่อพูดตอบ  วงเหล้าหัวเราะเกรียว

            “บ่แม่น... ฮาบ่ได้ถามตางเพ้   ฮาถามตางปู้นแหน่   เดวฮาด่าแล้วเน้อ ..”   ปลายทางออกเสียงในฟิล์มมาเป็นชุด  เล่นเอาพ่อถึงกับคอย่น  ส่วนน้าสอกับน้าเปลวพากันขำกลิ้ง

           “..ผมจารย์จีครับเจ๊ ...”  พ่อหยุดเล่นก่อนจะเปลืองตัวไปกว่านี้

            “อ๋อ... จารย์เหรอค้า... ขอโทษค่ะที่พูดไม่ค่อยเพราะนะค้า  นึกว่าไอ้พวกวินปากซอยมันโทรมาแซว ..พอดีไอ้พวกนั้นมันก็ปากหมาอย่างนี้นี่แหละค่า ...”    

            พ่อคอย่นอีกครั้ง  รีบพูดสวนไป  สงสัยกลัวเจ๊จะด่าวินมอไซด์แบบเมื่อตะกี้ให้ฟังอีก

            “ไม่เป็นไรเจ๊  พอดีจะสั่งไก่ปิ้ง  แล้วก็ ... จะรบกวนอะไรหน่อย “  

           “ได๋ค่า ..  จารย์จะให้ทำไรค้า...”

            “ฝากซื้อเบียร์ร้านพี่แอ๊ดให้หกขวดครับ   ..”

            “โอเช ...แล้วไก่กี่ไม้ค้า ... “

            “ไก่ไม้นึงครับ ...”

            “จ๊าน ... “  เสียงเปลี่ยนเป็นแหลมปรี๊ด  “... ไม่ฝากซื้อเบียร์ซะอย่างเดียวเลยเล่า  จะเอาไก่ให้เกะกะไปทำไม  เมื่อวานไอ้วินมอไซด์ก็ ....”

            “พูดเล่นครับ  เหมาหมดเลยครับ ...”  รู้สึกพ่อจะตัดสินใจเหมาไก่ปิ้งได้เร็วมาก  ฮ่า ๆ  หวานผมล่ะ

            “อุ๊ยยย   ใจดีจังเลย ... “  ปลายสายว่ามาเสียงใส

            “ขายไก่หมดแล้วมากินเบียร์ด้วยกันไหม ... “พ่อผมแหย่ไปอีก

            “ตามบายค่ะจารย์    เบียร์ลิไม่ค่อยถนัด   ชอบแต่แอลกอฮอล์แรง ๆ น้ำใสแจ๋ว ...”

            “เตกิล่าหรือว้อดก้าครับ ...”

            “เหล้าเถื่อนค่า ... นี่มีเหล้าข้าวโพดมาจากบนดอยที่ลำพูน  จุดไฟลุกพรึ่บ  จารย์จะลองไหมค้า...”

              พ่อหัวเราะเจื่อน ๆ ปฏิเสธไป  เจ๊ลิเลยบอกมาต่อ

             “เดี๋ยวให้เด็กไปส่งให้ค่า  พอดีหลานมาจากเชียงใหม่   วัน ๆ มันเอาแต่นั่งอยู่หน้าคอมเล่นเกมส์  เลยชวนมาเที่ยวกรุงเทพ...


             .............................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่