ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/37226347
ตอนที่ 2
https://pantip.com/topic/37239222
............
ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณพ่อยกแม่ยกทั้งหลายที่ได้ติดตามและช่วยอุดหนุนวิกสังกะสีของเรา กราบงาม ๆ สำหรับท่านที่ส่งจดหมายน้อยให้กำลังใจ พร้อมมอบมาลัยน้ำใจแก่กระผม
และขออำไพสำหรับท่านที่ถูกนำมาเป็นนักแสดงรับเชิญ หนักนิดเบาหน่อยก็ถือว่าขอเป็นการเพิ่มความครึกครื้นให้แก่ถนน(นักเขียน)เส้นนี้ ถือว่าส่งบทพระเอกให้จารย์จีช่วยกันเนอะ .. ฮี่ ๆ
.........
หมดช่วงวันหยุดแล้ว ผมต้องรอวันเสาร์ถึงจะเชิญจารย์จีมาแสดงต่อได้ แต่รู้สึกแกจะขัดขืนชอบกล อดไม่ได้ก็เลยถาม
“ดูเหมือนจารย์ไม่ค่อยอยากเล่น ทำไมหรือครับ ...”
“ในเรื่องมัวแต่ตั้งวงเหล้า เมื่อไหร่จะได้ปล้ำนางเอก ...” จารย์จีทำหน้ามุ่ย
อ๋อ .. แหมเรื่องนี้นี่เอง ผมรีบบอกแกไปว่าจวนแล้ว แต่ขอให้รอสักแป๊บเพราะตอนนี้เรามีนักแสดงมาเพิ่มละครเลยยืดออกไปอีก
“เพิ่มมาทำไม เกะกะ ให้พระเอกปล้ำนางเอกเลยดีกว่า ...” จารย์จีหน้างอ
เอาน่า .. น้องเค้าเป็นพ่อยกวิกสังกะสีอยากเล่นด้วยครับ ผมเห็นว่ามันก็ครึกครื้นดี อีกอย่างเจ๊ลิแกก็อยากให้เพิ่มนักแสดงหนุ่ม ๆ (กว่าเดิม) เข้ามาด้วย ก็เลยยืดละคร แหะ ๆ.." (ทีจารย์ยังยืดได้เนอะบอกสองตอนจบแต่เล่นยืดไปตั้งสี่ตอน...)
“ก็ได้ ... แต่ก็อย่ายืดนาน ตอนต่อไปก็จีบติดเลยนะ ..”
แหม .. พ่อหนุ่มของเราใจร้อนจัง ผมว่าคนดูก็พากันลุ้นอยู่ คราวนี้อยู่ที่ดารารับเชิญคนใหม่ของเราล่ะครับว่าจะแสดงดีหรือเปล่า ไม่งั้นงานนี้รองเท้าลอยมาเพียบ ฮ่า ๆ ๆ ๆ
…………………………………
….เปิดม่านนนนนนนนนนนนนนน
บ่าย ๆ วันเสาร์ขณะที่ผมกำลังเล่นคนเดียวอยู่หน้าบ้าน
“ไอ้ปอม เอ็งไปไล่แง๊บหางแมวมันทำไม ..” เสียงน้าสอเรียกมาจากประตูรั้ว ในมือแกหิ้วของพะรุงพะรังซึ่งไม่ต้องบอกก็เป็นอันรู้ว่าไม่แคล้วเป็นเบียร์และกับแกล้ม
ผมวิ่งไปรับหน้าเผื่อแกมีอะไรมาฝาก
น้าสอเอามือข้างที่ว่างซึ่งก็หมายถึงมืออันล่างถีบ ๆ ยัน ๆ ผมออก
“อย่ามาพันแข้งพันขา ไปเรียกพ่อเอ็งออกมา ข้าเปรี้ยวปาก”
ผมวิ่งกลับเข้าไปเห่าในบ้าน เห่าได้ไม่กี่ทีพ่อก็โผล่มาและอย่างกับจะรู้เวลากัน แกแวะเข้าในครัวก่อน ออกมาอีกทีในมือก็พร้อมทั้งจานชามและแก้วสุรา
“คุณเปลวแหละคับ ไม่เห็นมาด้วย” พ่อถามขณะช่วยเทกับแกล้มใส่ถ้วย
“ช่วงนี้ไม่รู้หายไปไหนแต่คงรู้เวลา เดี๋ยวก็ตามมาที่นี่เองแหละ“
ไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงแมงกะไซค์ฮอนด้าของน้าเปลวมาเทียบหน้าบ้าน
“โอ้โฮ .. ตายยากจริงคุณเปลว กำลังพูดถึงอยู่พอดี...”
ตอนนี้ครบแก๊งค์วงเบียร์เลยครึกครื้นใหญ่ ส่วนผมได้ปีกไก่ปิ้งมาหนึ่งปีก และแค่เคี้ยวคำแรกก็รู้ว่าเจ๊ลิแกกลับมาแล้ว
เรื่องราววันนี้ก็ไม่พ้นประเด็นที่จะจีบพี่อ้อม
“ทุ่มสุดตัวเลยครู งานนี้ได้แฟนไม่พอยังได้ฝากท้องกับป้าซูซี่ในฐานะหลานเขย สองต่อเข้าฮอร์ส ฮิ ๆ “ น้าเปลวเชียร์สุดลิ่มทิ่มประตู
“ผมพร้อมจะทุ่มเต็มที่ล่ะคุณ แต่มันมีปัญหาอยู่หน่อย” พ่อว่าขรึม ๆ
“เอ .. ครูมีปัญหาอะไรครับ” น้าเปลวเอียงคอ
“ไอ้ผมน่ะไม่มีหรอกคุณ แต่ทางน้องอ้อมโน่นสิจะมี พอมานั่งนึกดูดี ๆ ก็เริ่มคิดได้ว่าเขาจะมาสนใจพ่อหม้ายจน ๆ อย่างผมหรือ...”
“มันก็ต้องลองกันหน่อยน่ะครับ ไม่ลองก็ไม่รู้ ครูจะยอมแพ้แต่แรกรึ” น้าเปลวทำเป็นยกเบียร์ขึ้นจิบแล้วมองด้วยหางตา
พ่อตบเข่าฉาด “อ๊ะ .. ไม่ยอมสิ เพียงแต่มันร้างวงการไปนาน เลยนึกไม่ออกเท่านั้นเองว่าจะเข้าอีท่าไหนดี แต่เท่าที่รู้จะเข้าไปหมาหยอกไก่แบบพวกคุณสองคนจีบสาวแถวในซอยเห็นจะไม่ได้แน่”
“จีบสาวลักษณะมั่น ๆ แบบน้องอ้อมนี่ ผมว่าเธอน่าจะชอบอะไรที่แปลกใหม่ เร้าใจ ฉะนั้นต้องจู่โจมแบบไม่ให้เธอรู้ตัว” น้าเปลวพูดสำเนียงพระเอก ดูเป็นการเป็นงาน
“ฮะ ๆ ฟังดูเข้าท่า แล้วไงต่อ” พ่อยิ้มกริ่ม
“ต้องไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และปิดทางที่จะทำให้เราหน้าแตกได้ ซึ่งก็คือครูต้องไม่ทะเร่อทะร่าเข้าไปแบบดื้อ ๆ ”
“แล้วมันต้องเข้าไปอีท่าไหนล่ะครับ”
“ไปแบบจะจีบคล้ายไม่จีบ มีเยื่อใยในความไม่มี เรียกว่ารุกอำพรางถอย ...”
คราวนี้พ่อถึงกับเกาหัว ถลึงตาใส่น้าเปลว ส่วนกุนซือของเราก็หัวเราะแหะว่าต่อ
“แหะ.. คือ.. ยังนึกไม่ออกครับครู.. วุ้ย ครูก็รู้ว่าไอ้ผมมันประเภทบู๊ดุเด็ดเผ็ดมัน ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ถ้าจะได้สาวก็ต้องฟ้าผ่าต้นมะพร้าวให้สาวพุ่งเข้ามากอด จะมาให้นึกบทจีบสาวหัวมันยังไม่แล่น ...”
“แล้วยังไงหัวถึงจะแล่น ...” พ่อกัดฟันกรอด คงจะโมโห ฟังมาตั้งนานไม่ได้เรื่องสักอย่าง
“ก็ต้องให้เมาก่อนซิครู... เดี๋ยวหัวก็แล่น...” น้าเปลวเอามือควานหาขวดเบียร์ ปรากฏว่าไปอยู่ตรงหน้าน้าสอโน่น
“ช่ายค้าบ ผมเห็นด้วย เอื้อก !! “
น้าสอสะง่อกสะแง่กอ้อแอ้ออกมาขณะที่พ่อกะน้าเปลวมัวแต่คุยกัน น้าสอก็ดวดเบียร์ของแกไปเรื่อย ๆ และตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเมาเกินหน้าเพื่อนฝูงไปแล้วเรียบร้อย
“งั้นก็ตกลงตามนี้” พ่อรีบสรุปเมื่อเห็นว่าน้าสอชักจะล้ำหน้าไปหน่อย จากนั้นก็ชวนน้าเปลวรีบสปีดให้ทัน
ผมนั่งฟังอยู่ด้วยก็ต้องยอมรับว่าคำพูดของน้าเปลวฟังดูขลังไม่น้อย ดูท่างานนี้ พ่อคงจะมีหวัง
………………
ผ่านไปจากบ่ายก็เข้าเวลาเย็น ในวงก็บ่นกันพึมพำว่าว่าเบียร์หมด พ่อแกว่าจะไปเอาเหล้าในบ้านออกมา ส่วนน้าสอก็ว่าอยากกินเบียร์ต่อเพราะกำลังเพลิน แต่ก็ขี้เกียจออกไปซื้อ
“ลองบริการดิลิเวอรี่ไหมครับ ...” น้าเปลวว่า
“โอ๊ะ .. ในซอยนี้ทันสมัยขนาดมีบริการส่งด้วยเร๊อะ ไม่เบา ..” น้าสอทำสีหน้าทึ่ง
“ไม่มีหรอกครับ ...” น้าเปลวหัวเราะแหะ “...ผมก็ว่าให้เท่ห์ไปงั้นแหละ ก็แค่สั่งไก่ปิ้งเจ๊ลิแล้วก็ขอแกซื้อเบียร์มาให้ด้วย ฝากวินมอไซด์เข้ามา ...”
“อ๊ะ .. เข้าท่า เดี๋ยวผมโทรเอง ผมมีเบอร์แก.. “
พ่อหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็พ่อก็กดโทรศัพท์ออก พร้อมเปิดสปีกเกอร์โฟนให้ทุกคนได้ยินกันทั่ว
“...โหลววว นี่ใครพูดดด...” ปลายสายทางโน้นว่ามา
“เจ๊ลิพูดครับ ..” พ่อว่าไป
“ไม่ช่ายย .. นี่ใคร นี่ใครพูด...”
“...ก็เจ๊ลิไง ... “ พ่อพูดตอบ วงเหล้าหัวเราะเกรียว
“บ่แม่น... ฮาบ่ได้ถามตางเพ้ ฮาถามตางปู้นแหน่ เดวฮาด่าแล้วเน้อ ..” ปลายทางออกเสียงในฟิล์มมาเป็นชุด เล่นเอาพ่อถึงกับคอย่น ส่วนน้าสอกับน้าเปลวพากันขำกลิ้ง
“..ผมจารย์จีครับเจ๊ ...” พ่อหยุดเล่นก่อนจะเปลืองตัวไปกว่านี้
“อ๋อ... จารย์เหรอค้า... ขอโทษค่ะที่พูดไม่ค่อยเพราะนะค้า นึกว่าไอ้พวกวินปากซอยมันโทรมาแซว ..พอดีไอ้พวกนั้นมันก็ปากหมาอย่างนี้นี่แหละค่า ...”
พ่อคอย่นอีกครั้ง รีบพูดสวนไป สงสัยกลัวเจ๊จะด่าวินมอไซด์แบบเมื่อตะกี้ให้ฟังอีก
“ไม่เป็นไรเจ๊ พอดีจะสั่งไก่ปิ้ง แล้วก็ ... จะรบกวนอะไรหน่อย “
“ได๋ค่า .. จารย์จะให้ทำไรค้า...”
“ฝากซื้อเบียร์ร้านพี่แอ๊ดให้หกขวดครับ ..”
“โอเช ...แล้วไก่กี่ไม้ค้า ... “
“ไก่ไม้นึงครับ ...”
“จ๊าน ... “ เสียงเปลี่ยนเป็นแหลมปรี๊ด “... ไม่ฝากซื้อเบียร์ซะอย่างเดียวเลยเล่า จะเอาไก่ให้เกะกะไปทำไม เมื่อวานไอ้วินมอไซด์ก็ ....”
“พูดเล่นครับ เหมาหมดเลยครับ ...” รู้สึกพ่อจะตัดสินใจเหมาไก่ปิ้งได้เร็วมาก ฮ่า ๆ หวานผมล่ะ
“อุ๊ยยย ใจดีจังเลย ... “ ปลายสายว่ามาเสียงใส
“ขายไก่หมดแล้วมากินเบียร์ด้วยกันไหม ... “พ่อผมแหย่ไปอีก
“ตามบายค่ะจารย์ เบียร์ลิไม่ค่อยถนัด ชอบแต่แอลกอฮอล์แรง ๆ น้ำใสแจ๋ว ...”
“เตกิล่าหรือว้อดก้าครับ ...”
“เหล้าเถื่อนค่า ... นี่มีเหล้าข้าวโพดมาจากบนดอยที่ลำพูน จุดไฟลุกพรึ่บ จารย์จะลองไหมค้า...”
พ่อหัวเราะเจื่อน ๆ ปฏิเสธไป เจ๊ลิเลยบอกมาต่อ
“เดี๋ยวให้เด็กไปส่งให้ค่า พอดีหลานมาจากเชียงใหม่ วัน ๆ มันเอาแต่นั่งอยู่หน้าคอมเล่นเกมส์ เลยชวนมาเที่ยวกรุงเทพ...
.............................
ละครรักซาบซึ้งตรึงใจ น้ำตาไหลย้อยท่วมจอ @@@ ข้าชื่อจารย์จี เรื่องนี้พี่ขอเป็นพระเอก 3 @@@
ตอนที่ 2 https://pantip.com/topic/37239222
............
ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณพ่อยกแม่ยกทั้งหลายที่ได้ติดตามและช่วยอุดหนุนวิกสังกะสีของเรา กราบงาม ๆ สำหรับท่านที่ส่งจดหมายน้อยให้กำลังใจ พร้อมมอบมาลัยน้ำใจแก่กระผม
และขออำไพสำหรับท่านที่ถูกนำมาเป็นนักแสดงรับเชิญ หนักนิดเบาหน่อยก็ถือว่าขอเป็นการเพิ่มความครึกครื้นให้แก่ถนน(นักเขียน)เส้นนี้ ถือว่าส่งบทพระเอกให้จารย์จีช่วยกันเนอะ .. ฮี่ ๆ
.........
หมดช่วงวันหยุดแล้ว ผมต้องรอวันเสาร์ถึงจะเชิญจารย์จีมาแสดงต่อได้ แต่รู้สึกแกจะขัดขืนชอบกล อดไม่ได้ก็เลยถาม
“ดูเหมือนจารย์ไม่ค่อยอยากเล่น ทำไมหรือครับ ...”
“ในเรื่องมัวแต่ตั้งวงเหล้า เมื่อไหร่จะได้ปล้ำนางเอก ...” จารย์จีทำหน้ามุ่ย
อ๋อ .. แหมเรื่องนี้นี่เอง ผมรีบบอกแกไปว่าจวนแล้ว แต่ขอให้รอสักแป๊บเพราะตอนนี้เรามีนักแสดงมาเพิ่มละครเลยยืดออกไปอีก
“เพิ่มมาทำไม เกะกะ ให้พระเอกปล้ำนางเอกเลยดีกว่า ...” จารย์จีหน้างอ
เอาน่า .. น้องเค้าเป็นพ่อยกวิกสังกะสีอยากเล่นด้วยครับ ผมเห็นว่ามันก็ครึกครื้นดี อีกอย่างเจ๊ลิแกก็อยากให้เพิ่มนักแสดงหนุ่ม ๆ (กว่าเดิม) เข้ามาด้วย ก็เลยยืดละคร แหะ ๆ.." (ทีจารย์ยังยืดได้เนอะบอกสองตอนจบแต่เล่นยืดไปตั้งสี่ตอน...)
“ก็ได้ ... แต่ก็อย่ายืดนาน ตอนต่อไปก็จีบติดเลยนะ ..”
แหม .. พ่อหนุ่มของเราใจร้อนจัง ผมว่าคนดูก็พากันลุ้นอยู่ คราวนี้อยู่ที่ดารารับเชิญคนใหม่ของเราล่ะครับว่าจะแสดงดีหรือเปล่า ไม่งั้นงานนี้รองเท้าลอยมาเพียบ ฮ่า ๆ ๆ ๆ
…………………………………
….เปิดม่านนนนนนนนนนนนนนน
บ่าย ๆ วันเสาร์ขณะที่ผมกำลังเล่นคนเดียวอยู่หน้าบ้าน
“ไอ้ปอม เอ็งไปไล่แง๊บหางแมวมันทำไม ..” เสียงน้าสอเรียกมาจากประตูรั้ว ในมือแกหิ้วของพะรุงพะรังซึ่งไม่ต้องบอกก็เป็นอันรู้ว่าไม่แคล้วเป็นเบียร์และกับแกล้ม
ผมวิ่งไปรับหน้าเผื่อแกมีอะไรมาฝาก
น้าสอเอามือข้างที่ว่างซึ่งก็หมายถึงมืออันล่างถีบ ๆ ยัน ๆ ผมออก
“อย่ามาพันแข้งพันขา ไปเรียกพ่อเอ็งออกมา ข้าเปรี้ยวปาก”
ผมวิ่งกลับเข้าไปเห่าในบ้าน เห่าได้ไม่กี่ทีพ่อก็โผล่มาและอย่างกับจะรู้เวลากัน แกแวะเข้าในครัวก่อน ออกมาอีกทีในมือก็พร้อมทั้งจานชามและแก้วสุรา
“คุณเปลวแหละคับ ไม่เห็นมาด้วย” พ่อถามขณะช่วยเทกับแกล้มใส่ถ้วย
“ช่วงนี้ไม่รู้หายไปไหนแต่คงรู้เวลา เดี๋ยวก็ตามมาที่นี่เองแหละ“
ไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงแมงกะไซค์ฮอนด้าของน้าเปลวมาเทียบหน้าบ้าน
“โอ้โฮ .. ตายยากจริงคุณเปลว กำลังพูดถึงอยู่พอดี...”
ตอนนี้ครบแก๊งค์วงเบียร์เลยครึกครื้นใหญ่ ส่วนผมได้ปีกไก่ปิ้งมาหนึ่งปีก และแค่เคี้ยวคำแรกก็รู้ว่าเจ๊ลิแกกลับมาแล้ว
เรื่องราววันนี้ก็ไม่พ้นประเด็นที่จะจีบพี่อ้อม
“ทุ่มสุดตัวเลยครู งานนี้ได้แฟนไม่พอยังได้ฝากท้องกับป้าซูซี่ในฐานะหลานเขย สองต่อเข้าฮอร์ส ฮิ ๆ “ น้าเปลวเชียร์สุดลิ่มทิ่มประตู
“ผมพร้อมจะทุ่มเต็มที่ล่ะคุณ แต่มันมีปัญหาอยู่หน่อย” พ่อว่าขรึม ๆ
“เอ .. ครูมีปัญหาอะไรครับ” น้าเปลวเอียงคอ
“ไอ้ผมน่ะไม่มีหรอกคุณ แต่ทางน้องอ้อมโน่นสิจะมี พอมานั่งนึกดูดี ๆ ก็เริ่มคิดได้ว่าเขาจะมาสนใจพ่อหม้ายจน ๆ อย่างผมหรือ...”
“มันก็ต้องลองกันหน่อยน่ะครับ ไม่ลองก็ไม่รู้ ครูจะยอมแพ้แต่แรกรึ” น้าเปลวทำเป็นยกเบียร์ขึ้นจิบแล้วมองด้วยหางตา
พ่อตบเข่าฉาด “อ๊ะ .. ไม่ยอมสิ เพียงแต่มันร้างวงการไปนาน เลยนึกไม่ออกเท่านั้นเองว่าจะเข้าอีท่าไหนดี แต่เท่าที่รู้จะเข้าไปหมาหยอกไก่แบบพวกคุณสองคนจีบสาวแถวในซอยเห็นจะไม่ได้แน่”
“จีบสาวลักษณะมั่น ๆ แบบน้องอ้อมนี่ ผมว่าเธอน่าจะชอบอะไรที่แปลกใหม่ เร้าใจ ฉะนั้นต้องจู่โจมแบบไม่ให้เธอรู้ตัว” น้าเปลวพูดสำเนียงพระเอก ดูเป็นการเป็นงาน
“ฮะ ๆ ฟังดูเข้าท่า แล้วไงต่อ” พ่อยิ้มกริ่ม
“ต้องไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และปิดทางที่จะทำให้เราหน้าแตกได้ ซึ่งก็คือครูต้องไม่ทะเร่อทะร่าเข้าไปแบบดื้อ ๆ ”
“แล้วมันต้องเข้าไปอีท่าไหนล่ะครับ”
“ไปแบบจะจีบคล้ายไม่จีบ มีเยื่อใยในความไม่มี เรียกว่ารุกอำพรางถอย ...”
คราวนี้พ่อถึงกับเกาหัว ถลึงตาใส่น้าเปลว ส่วนกุนซือของเราก็หัวเราะแหะว่าต่อ
“แหะ.. คือ.. ยังนึกไม่ออกครับครู.. วุ้ย ครูก็รู้ว่าไอ้ผมมันประเภทบู๊ดุเด็ดเผ็ดมัน ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ถ้าจะได้สาวก็ต้องฟ้าผ่าต้นมะพร้าวให้สาวพุ่งเข้ามากอด จะมาให้นึกบทจีบสาวหัวมันยังไม่แล่น ...”
“แล้วยังไงหัวถึงจะแล่น ...” พ่อกัดฟันกรอด คงจะโมโห ฟังมาตั้งนานไม่ได้เรื่องสักอย่าง
“ก็ต้องให้เมาก่อนซิครู... เดี๋ยวหัวก็แล่น...” น้าเปลวเอามือควานหาขวดเบียร์ ปรากฏว่าไปอยู่ตรงหน้าน้าสอโน่น
“ช่ายค้าบ ผมเห็นด้วย เอื้อก !! “
น้าสอสะง่อกสะแง่กอ้อแอ้ออกมาขณะที่พ่อกะน้าเปลวมัวแต่คุยกัน น้าสอก็ดวดเบียร์ของแกไปเรื่อย ๆ และตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเมาเกินหน้าเพื่อนฝูงไปแล้วเรียบร้อย
“งั้นก็ตกลงตามนี้” พ่อรีบสรุปเมื่อเห็นว่าน้าสอชักจะล้ำหน้าไปหน่อย จากนั้นก็ชวนน้าเปลวรีบสปีดให้ทัน
ผมนั่งฟังอยู่ด้วยก็ต้องยอมรับว่าคำพูดของน้าเปลวฟังดูขลังไม่น้อย ดูท่างานนี้ พ่อคงจะมีหวัง
………………
ผ่านไปจากบ่ายก็เข้าเวลาเย็น ในวงก็บ่นกันพึมพำว่าว่าเบียร์หมด พ่อแกว่าจะไปเอาเหล้าในบ้านออกมา ส่วนน้าสอก็ว่าอยากกินเบียร์ต่อเพราะกำลังเพลิน แต่ก็ขี้เกียจออกไปซื้อ
“ลองบริการดิลิเวอรี่ไหมครับ ...” น้าเปลวว่า
“โอ๊ะ .. ในซอยนี้ทันสมัยขนาดมีบริการส่งด้วยเร๊อะ ไม่เบา ..” น้าสอทำสีหน้าทึ่ง
“ไม่มีหรอกครับ ...” น้าเปลวหัวเราะแหะ “...ผมก็ว่าให้เท่ห์ไปงั้นแหละ ก็แค่สั่งไก่ปิ้งเจ๊ลิแล้วก็ขอแกซื้อเบียร์มาให้ด้วย ฝากวินมอไซด์เข้ามา ...”
“อ๊ะ .. เข้าท่า เดี๋ยวผมโทรเอง ผมมีเบอร์แก.. “
พ่อหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็พ่อก็กดโทรศัพท์ออก พร้อมเปิดสปีกเกอร์โฟนให้ทุกคนได้ยินกันทั่ว
“...โหลววว นี่ใครพูดดด...” ปลายสายทางโน้นว่ามา
“เจ๊ลิพูดครับ ..” พ่อว่าไป
“ไม่ช่ายย .. นี่ใคร นี่ใครพูด...”
“...ก็เจ๊ลิไง ... “ พ่อพูดตอบ วงเหล้าหัวเราะเกรียว
“บ่แม่น... ฮาบ่ได้ถามตางเพ้ ฮาถามตางปู้นแหน่ เดวฮาด่าแล้วเน้อ ..” ปลายทางออกเสียงในฟิล์มมาเป็นชุด เล่นเอาพ่อถึงกับคอย่น ส่วนน้าสอกับน้าเปลวพากันขำกลิ้ง
“..ผมจารย์จีครับเจ๊ ...” พ่อหยุดเล่นก่อนจะเปลืองตัวไปกว่านี้
“อ๋อ... จารย์เหรอค้า... ขอโทษค่ะที่พูดไม่ค่อยเพราะนะค้า นึกว่าไอ้พวกวินปากซอยมันโทรมาแซว ..พอดีไอ้พวกนั้นมันก็ปากหมาอย่างนี้นี่แหละค่า ...”
พ่อคอย่นอีกครั้ง รีบพูดสวนไป สงสัยกลัวเจ๊จะด่าวินมอไซด์แบบเมื่อตะกี้ให้ฟังอีก
“ไม่เป็นไรเจ๊ พอดีจะสั่งไก่ปิ้ง แล้วก็ ... จะรบกวนอะไรหน่อย “
“ได๋ค่า .. จารย์จะให้ทำไรค้า...”
“ฝากซื้อเบียร์ร้านพี่แอ๊ดให้หกขวดครับ ..”
“โอเช ...แล้วไก่กี่ไม้ค้า ... “
“ไก่ไม้นึงครับ ...”
“จ๊าน ... “ เสียงเปลี่ยนเป็นแหลมปรี๊ด “... ไม่ฝากซื้อเบียร์ซะอย่างเดียวเลยเล่า จะเอาไก่ให้เกะกะไปทำไม เมื่อวานไอ้วินมอไซด์ก็ ....”
“พูดเล่นครับ เหมาหมดเลยครับ ...” รู้สึกพ่อจะตัดสินใจเหมาไก่ปิ้งได้เร็วมาก ฮ่า ๆ หวานผมล่ะ
“อุ๊ยยย ใจดีจังเลย ... “ ปลายสายว่ามาเสียงใส
“ขายไก่หมดแล้วมากินเบียร์ด้วยกันไหม ... “พ่อผมแหย่ไปอีก
“ตามบายค่ะจารย์ เบียร์ลิไม่ค่อยถนัด ชอบแต่แอลกอฮอล์แรง ๆ น้ำใสแจ๋ว ...”
“เตกิล่าหรือว้อดก้าครับ ...”
“เหล้าเถื่อนค่า ... นี่มีเหล้าข้าวโพดมาจากบนดอยที่ลำพูน จุดไฟลุกพรึ่บ จารย์จะลองไหมค้า...”
พ่อหัวเราะเจื่อน ๆ ปฏิเสธไป เจ๊ลิเลยบอกมาต่อ
“เดี๋ยวให้เด็กไปส่งให้ค่า พอดีหลานมาจากเชียงใหม่ วัน ๆ มันเอาแต่นั่งอยู่หน้าคอมเล่นเกมส์ เลยชวนมาเที่ยวกรุงเทพ...
.............................