๒๗
ด้านมืดของกร-โกะ
ข้าพเจ้าฝันในคืนวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๘ ฝันถึงลูกพี่ลูกน้องของข้าพเจ้าสองคน คือ กร ลูกพี่ลูกน้องผู้ชาย แลโกะลูกพี่ลูกน้องผู้หญิง ทั้งสองเป็นบุตรแลบุตรีของน้าอ้อย น้าสาวของข้าพเจ้า
กรเกิดพ.ศ. ๒๕๔๖ ส่วนโกะเกิด พ.ศ. ๒๕๔๗ ถ้านับอายุในพ.ศ. ๒๕๖๘ กรจักอายุ ๒๒ ปี ส่วนโกะอายุ ๒๑ อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าต้องกล่าวตามความจริงว่าข้าพเจ้าไม่ได้เจอสองคนนี้เป็นเพลา ๘ ปี แล้ว ข้าพเจ้ามิแน่ใจดอกว่ากรแลโกะบัดนี้จักเป็นอย่างไร แต่ถ้าให้อนุมาน กรคงเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่เกือบ ๒ เมตร หุ่นสมส่วน ส่วนโกะคงเป็นผู้หญิงที่สูง ๑๗๐ เซนติเมตรขึ้นไป รูปร่างผอม มีหน้าอกอย่างน้อยก็คัพบี
...
ในความฝัน ชายวัยกลางคนผู้หนิ่ง ไว้ผมยาวสีดอกเลาประหลัง ฟันหักหลายซี่ อายุ ๕๔ ปี จมูกเล็ก ผิวสีน้ำผึ้ง ไว้หนวดเครา สูงประมาณ ๑๗๕ เซนติเมตร รูปร่างท้วม มักสวมเสื้อเชิ้ตแลแว่นสายตายาว ลักษณะอื่นๆข้าพเจ้าไม่ทราบ
ชายผู้นี้คือน้องของมารดาข้าพเจ้า คือน้าเติบ ท่านได้ซื้อบ้านหลังใหม่ ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ที่อยู่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
บ้านหลังใหม่ของน้าเติบเป็นบ้านปูนสองชั้น หากแต่ในฝันของข้าพเจ้านั้นข้าพเจ้าไม่ได้เห็นภายนอกของบ้านเลยแม้แต่น้อย แต่ภายในบ้านที่ข้าพเจ้าเห็น บ้านนั้นทาด้วยสีขาว
...
ข้าพเจ้าเข้ามาอยู่ในห้องอันว่างเปล่า ไร้ซึ่งสิ่งของใดๆ มีเพียงหลอดไฟแลเครื่องปรับอากาศที่แถมมากับตัวบ้าน หลอดไฟดังกล่าวเป็นหลอดLED ชนิด E๒๗ แบบ Cool Daylight ขนาด ๒๐ วัตต์ ถูกใส่ไว้ในโคมไฟดาวน์ไลต์ฝังฝ้า ส่วนเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ MITSUBISHI MR. SLIM ขนาด ๑๕,๐๐๐ BTU
ห้องนี้มีพื้นห้องปูด้วยกระเบื้องลายไม้ปาเกต์สีเบจ ที่บัดนี้น้าเติบได้ให้หลานของท่าน ๓ คน คือข้าพเจ้า กร แลโกะ เข้ามานั่งตากแอร์ในห้องอย่างสบายอุราแลไม่ต้องเปิดไฟแต่อย่างใด อันเนื่องมาจากความสว่างไสวของแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่
เราทั้งสามหย่อนก้นนั่งบนพื้นกระเบื้องลายปาเกต์ แลสนทนากันเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งข้าพเจ้าต้องอึ้งเมื่อทั้งกรแลโกะได้เปิดเผยด้านมืดของแต่ละคนออกมาให้ข้าพเจ้ารู้
ทั้งกรแลโกะล้วนสูบบุหรี่แลดื่มเหล้า!
“กรสูบบุหรี่”
“โกะก็สูบบุหรี่”
“กรกินเหล้า”
“โกะก็กินเหล้า”
ข้าพเจ้าพูดอะไรไม่ออกในคำจำนรรจาของญาติผู้น้องทั้งสอง แต่ก็มิได้รู้สึกผิดหวังแต่ประการใด ฉับพลันข้าพเจ้าเกิดข้อสงสัยประการหนึ่งที่ไม่ถามก็ไม่ได้
“แม่รู้เรื่องนี้รึเปล่า ?”
“หึ”
โกะอุทานด้วยคำพูดที่พวก GEN Z มักใช้กัน ซึ่งแปลว่า “ไม่” นั่นเอง
“ถ้าแม่รู้ แม่คงผิดหวังมากเลยนะเนี่ย”
กรกับโกะได้ยินข้าพเจ้าพาทีดังนั้น ก็ทำหน้าจ๋อยไปตามๆกัน ข้าพเจ้าจึงพูดขึ้นต่อมาว่า
“แล้วมาบอกพี่จ๊ะทำไมเนี่ย”
“กรแค่อยากให้พี่จ๊ะรู้ว่ากรไม่ใช่คนดีขนาดนั้น”
ขนาดนั้นที่ว่า คงหมายถึงน้าอ้อย มารดาของพวกเขา
“แต่พี่จ๊ะก็กินเหล้าสูบบุหรี่นี่ ใช่ไหม โกะจำได้ แม่เคยพูดอยู่”
ข้าพเจ้ายิ้มจนเห็นฟันเหลืองที่ได้ฤกษ์ขูดหินปูนเสียจนเต็มแก่ ก่อนจักบอกญาติผู้น้องไปว่า
“เหล้าน่ะกิน แต่ส่วนใหญ่กินเบียร์มากกว่า ส่วนบุหรี่นั้นเลิกสูบตั้งแต่ปี ๖๔ แล้ว”
ทั้งกรแลโกะทำตาลุกวาวเมื่อได้ยินคำพูดของข้าพเจ้า
“พี่จ๊ะจะฟ้องแม่ไหม?” กรถาม
“จะฟ้องทำไมล่ะ?” เมื่อข้าพเจ้าพาทีเสร็จก็ขยิบตาข้างขวาให้กร ๑ ที
เด็กทั้งสองยิ้มให้ข้าพเจ้า แลแน่นอนเทียวว่าข้าพเจ้าคงไม่บอกมารดาของพวกเขา เพราะน้าอ้อยแกคงรับไม่ได้หากล่วงรู้ว่าลูกชายแลลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของแก ทั้งกินเหล้า ทั้งสูบบุหรี่ ซึ่งมันผิดศีลธรรมอันดีในมโนสำนึกของน้าอ้อย ด้วยเหตุที่ว่าน้าอ้อยนั้นเป็นคนปฏิบัติธรรม ยึดมั่นในศีล๕ ฉันนั้นการล่วงรู้ว่าบุตรชายแลบุตรสาวสุดที่รักผิดศีลข้อ๕ คงยังความตกใจแลไม่สบายใจแก่น้าอ้อยผู้เป็นมารดายิ่งนัก
ความจริงเรื่องของน้าอ้อยยังมีมากมายเหลือจักกล่าว หากท่านผู้อ่านถามข้าพเจ้าว่าน้าอ้อยเป็นคนอย่างไร ข้าพเจ้าคงบอกได้ว่าแกเป็นสตรีผู้หนึ่งซึ่ง “มือถือสากปากถือศีล” แน่นอนเทียวว่าน้าอ้อยมิชอบพฤติกรรมของข้าพเจ้าที่เป็น “นักดื่ม” รวมทั้งเคยสูบบุหรี่ เกลือกว่าแกล่วงรู้ว่าทั้งกรแลโกะดื่มเหล้าแลสูบบุหรี่ แกคงไม่สบายใจ แลบ้านคงแตกเป็นแน่
ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงปกปิด “ด้านมืด”ของกร-โกะไว้เป็นความลับ เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์แย่ๆต่อทั้งสองคน ลึกๆแล้วข้าพเจ้ารู้สึกดีใจที่กรแลโกะไม่ได้เป็นมนุษย์ที่มี “ศีลธรรมจ๋า” เฉกเช่นมารดาของพวกเขา
...
ในโลกแห่งความจริงนั้น กรแลโกะสูบบุหรี่แลดื่มเหล้าหรือไม่ ข้าพเจ้าก็มิอาจทราบได้ เพราะเป็นระยะเพลานานแล้วที่ข้าพเจ้ามิได้เจอลูกพี่ลูกน้อง ๒ คนนี้ หากว่าในโลกแห่งความเป็นจริงดันเหมือนโลกแห่งความฝันแล้วนั้น ข้าพเจ้าก็ยินดีปิดบังเป็นความลับได้โดยไม่มีปัญหา
...
หลังจากเราสามคนนั่งตากแอร์ในห้องว่างเปล่าสักพักแล้วนั้น ชายเจ้าของบ้านก็เปิดประตูไม้สังเคราะห์เข้ามา พร้อมกับรอยยิ้มตามประสาหนุ่มวัยทอง
“ไป ไปกินไก่เคเอฟซีกัน” น้าเติบพูด
“เย้!” โกะส่งเสียงดังลั่นเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด
ข้าพเจ้ากับกรยิ้ม แล้วจากนั้นจึงเดินออกจากห้อง ข้าพเจ้าปิดประตูไม้สังเคราะห์สีน้ำตาล แล้วเดินลงบันไดไม้เทียมสีทอง ตามหลังกรซึ่งตามหลังโกะ และตามหลังน้าเติบอีกที
แม้นห้องข้างบนจักเป็นห้องว่างเปล่า หากแต่ห้องข้างล่างโดยเฉพาะบริเวณห้องครัว มีโต๊ะทานข้าวอยู่แล้ว มันเป็นโต๊ะทานข้าวแบบ ๔ ที่นั่ง โต๊ะเป็นสีน้ำตาลทำจากไม้จริง รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขาโต๊ะ ๒ ขาที่ถูกดีไซน์ให้แข็งแรงเข้ากับยุคสมัย มีความยาว ๑๓๕ เซนติเมตร กว้าง ๘๐ เซนติเมตร แลสูง ๗๕ เซนติเมตร ผนวกกับเก้าอี้ทานข้าว ๔ ที่นั่งสีน้ำตาล หากแต่มิได้เป็นสีน้ำตาลล้วนทั้งหมด เนื่องจากส่วนของเบาะรองนั่งเป็นสีเบจ โดยตัวเก้าอี้ทานข้าวนี้ทำจากไม้จริงยกเว้นเบาะรองนั่งซึ่งเป็นหนังสังเคราะห์ PU เก้าอี้มีทั้งหมด ๔ ขา แลมีพนักพิง มีความสูง ๗๘ เซนติเมตร ทั้งนี้โต๊ะกินข้าวแลเก้าอี้เป็นของยี่ห้อ FURDINI ซึ่งซื้อมาจาก HOMEPRO บัดนี้เก้าอี้ทั้ง ๔ ตัวถูกจับจองโดยคน ๔ คน ๓ Generation
…
ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ KFC ถูกบรรจุไว้ในถุงพลาสติกที่มีตราสัญลักษณ์ KFC แลมีรูปผู้พันแซนเดอร์ส ผู้ก่อตั้งแบรนด์KFCผู้ล่วงลับอยู่บนถุง ถุงนั้นมีหลายใบ แต่มีถุงใบหนึ่งซึ่งห่อถังกระดาษใบใหญ่ที่มีตราสัญลักษณ์ KFC แลรูปผู้ก่อตั้ง ถังใบนี้บรรจุไก่ทอดไว้มากมายหลายชิ้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้น้าเติบสั่งผ่านแอปพลิเคชัน LINEMAN โดยสั่งเป็นชุด “ไก่สุขใจ” กอปรด้วย ไก่ทอด ๑๒ ขิ้น (ซึ่งน้าเติบเลือกเป็นสูตร HOT & SPICY ทั้งหมด),ไก่วิงซ์แซ่บ ๙ ชิ้น, ชิกเก้นป๊อบ ๑๔ ชิ้น เลือกเครื่องเคียงได้ ๑ อย่างซึ่งน้าเติบเลือกเป็นเฟรนช์ฟรายส์จัมโบ้ ทั้งนี้ราคาในพ.ศ.๒๕๖๘ จะอยู่ที่ ๖๖๙ บาท ซึ่งมีโพรโมชันส่งฟรีเมื่อสั่งครบ ๕๐๐ บาท แน่นอนว่าครั้งนี้น้าเติบไม่ต้องจ่ายค่าส่งแต่อย่างใด
พนักงาน LINEMAN มาส่งไก่ KFC แก่น้าเติบตั้งแต่ตอนที่ข้าพเจ้าแลลูกพี่ลูกน้องยังอยู่ห้องว่างข้างบน บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่คน ๔ คนจักได้ทานกลางวันอันแสนวิเศษนี้
“ไซรถึงหม้ายมีไก่ทอดสูตรผู้พันอะน้าเติบ มีแต่สูตร HOT & SPICY เพ”
[1] ข้าพเจ้าถามผู้เป็นน้าชาย
“หม้ายมี น้าเติบหม้ายได้สั่ง เพราะว่าไก่ทอดผู้พันมันเค็ม HOT & SPICY หรอยหวา
[2]” ผู้เป็นน้าตอบ
หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงพูดไปอีกนานพอสมควร มีเพียงเสียงเคี้ยวไก่ KFC อย่างเอร็ดอร่อยของคน ๔ คน เป็นช่วงเพลาที่ดีที่สุดครั้งหนึ่ง แม้ในความเป็นจริงนั้นมันเป็นการยากเหลือเกินที่คน ๔ คนในเรื่องนี้จักมารวมตัวกันได้ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง
จ๊ะ เสือไบ
๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๘
[1] แปลว่า ทำไมถึงไม่มีไก่ทอดสูตรผู้พันอะน้าเติบ มีแต่สูตร HOT & SPICY ทั้งนั้น
[2] แปลว่า ไม่มี น้าเติบไม่ได้สั่ง เพราะว่าไก่ทอดผู้พันมันเค็ม HOT & SPICY มันอร่อยกว่า
เรื่องสั้น ชุด "ฝันSTory" ตอน ด้านมืดของกร-โกะ โดย จ๊ะ เสือไบ
ข้าพเจ้าฝันในคืนวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๘ ฝันถึงลูกพี่ลูกน้องของข้าพเจ้าสองคน คือ กร ลูกพี่ลูกน้องผู้ชาย แลโกะลูกพี่ลูกน้องผู้หญิง ทั้งสองเป็นบุตรแลบุตรีของน้าอ้อย น้าสาวของข้าพเจ้า
กรเกิดพ.ศ. ๒๕๔๖ ส่วนโกะเกิด พ.ศ. ๒๕๔๗ ถ้านับอายุในพ.ศ. ๒๕๖๘ กรจักอายุ ๒๒ ปี ส่วนโกะอายุ ๒๑ อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าต้องกล่าวตามความจริงว่าข้าพเจ้าไม่ได้เจอสองคนนี้เป็นเพลา ๘ ปี แล้ว ข้าพเจ้ามิแน่ใจดอกว่ากรแลโกะบัดนี้จักเป็นอย่างไร แต่ถ้าให้อนุมาน กรคงเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่เกือบ ๒ เมตร หุ่นสมส่วน ส่วนโกะคงเป็นผู้หญิงที่สูง ๑๗๐ เซนติเมตรขึ้นไป รูปร่างผอม มีหน้าอกอย่างน้อยก็คัพบี
ในความฝัน ชายวัยกลางคนผู้หนิ่ง ไว้ผมยาวสีดอกเลาประหลัง ฟันหักหลายซี่ อายุ ๕๔ ปี จมูกเล็ก ผิวสีน้ำผึ้ง ไว้หนวดเครา สูงประมาณ ๑๗๕ เซนติเมตร รูปร่างท้วม มักสวมเสื้อเชิ้ตแลแว่นสายตายาว ลักษณะอื่นๆข้าพเจ้าไม่ทราบ
ชายผู้นี้คือน้องของมารดาข้าพเจ้า คือน้าเติบ ท่านได้ซื้อบ้านหลังใหม่ ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ที่อยู่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
บ้านหลังใหม่ของน้าเติบเป็นบ้านปูนสองชั้น หากแต่ในฝันของข้าพเจ้านั้นข้าพเจ้าไม่ได้เห็นภายนอกของบ้านเลยแม้แต่น้อย แต่ภายในบ้านที่ข้าพเจ้าเห็น บ้านนั้นทาด้วยสีขาว
ข้าพเจ้าเข้ามาอยู่ในห้องอันว่างเปล่า ไร้ซึ่งสิ่งของใดๆ มีเพียงหลอดไฟแลเครื่องปรับอากาศที่แถมมากับตัวบ้าน หลอดไฟดังกล่าวเป็นหลอดLED ชนิด E๒๗ แบบ Cool Daylight ขนาด ๒๐ วัตต์ ถูกใส่ไว้ในโคมไฟดาวน์ไลต์ฝังฝ้า ส่วนเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ MITSUBISHI MR. SLIM ขนาด ๑๕,๐๐๐ BTU
ห้องนี้มีพื้นห้องปูด้วยกระเบื้องลายไม้ปาเกต์สีเบจ ที่บัดนี้น้าเติบได้ให้หลานของท่าน ๓ คน คือข้าพเจ้า กร แลโกะ เข้ามานั่งตากแอร์ในห้องอย่างสบายอุราแลไม่ต้องเปิดไฟแต่อย่างใด อันเนื่องมาจากความสว่างไสวของแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่
เราทั้งสามหย่อนก้นนั่งบนพื้นกระเบื้องลายปาเกต์ แลสนทนากันเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งข้าพเจ้าต้องอึ้งเมื่อทั้งกรแลโกะได้เปิดเผยด้านมืดของแต่ละคนออกมาให้ข้าพเจ้ารู้
ทั้งกรแลโกะล้วนสูบบุหรี่แลดื่มเหล้า!
“กรสูบบุหรี่”
“โกะก็สูบบุหรี่”
“กรกินเหล้า”
“โกะก็กินเหล้า”
ข้าพเจ้าพูดอะไรไม่ออกในคำจำนรรจาของญาติผู้น้องทั้งสอง แต่ก็มิได้รู้สึกผิดหวังแต่ประการใด ฉับพลันข้าพเจ้าเกิดข้อสงสัยประการหนึ่งที่ไม่ถามก็ไม่ได้
“แม่รู้เรื่องนี้รึเปล่า ?”
“หึ”
โกะอุทานด้วยคำพูดที่พวก GEN Z มักใช้กัน ซึ่งแปลว่า “ไม่” นั่นเอง
“ถ้าแม่รู้ แม่คงผิดหวังมากเลยนะเนี่ย”
กรกับโกะได้ยินข้าพเจ้าพาทีดังนั้น ก็ทำหน้าจ๋อยไปตามๆกัน ข้าพเจ้าจึงพูดขึ้นต่อมาว่า
“แล้วมาบอกพี่จ๊ะทำไมเนี่ย”
“กรแค่อยากให้พี่จ๊ะรู้ว่ากรไม่ใช่คนดีขนาดนั้น”
ขนาดนั้นที่ว่า คงหมายถึงน้าอ้อย มารดาของพวกเขา
“แต่พี่จ๊ะก็กินเหล้าสูบบุหรี่นี่ ใช่ไหม โกะจำได้ แม่เคยพูดอยู่”
ข้าพเจ้ายิ้มจนเห็นฟันเหลืองที่ได้ฤกษ์ขูดหินปูนเสียจนเต็มแก่ ก่อนจักบอกญาติผู้น้องไปว่า
“เหล้าน่ะกิน แต่ส่วนใหญ่กินเบียร์มากกว่า ส่วนบุหรี่นั้นเลิกสูบตั้งแต่ปี ๖๔ แล้ว”
ทั้งกรแลโกะทำตาลุกวาวเมื่อได้ยินคำพูดของข้าพเจ้า
“พี่จ๊ะจะฟ้องแม่ไหม?” กรถาม
“จะฟ้องทำไมล่ะ?” เมื่อข้าพเจ้าพาทีเสร็จก็ขยิบตาข้างขวาให้กร ๑ ที
เด็กทั้งสองยิ้มให้ข้าพเจ้า แลแน่นอนเทียวว่าข้าพเจ้าคงไม่บอกมารดาของพวกเขา เพราะน้าอ้อยแกคงรับไม่ได้หากล่วงรู้ว่าลูกชายแลลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของแก ทั้งกินเหล้า ทั้งสูบบุหรี่ ซึ่งมันผิดศีลธรรมอันดีในมโนสำนึกของน้าอ้อย ด้วยเหตุที่ว่าน้าอ้อยนั้นเป็นคนปฏิบัติธรรม ยึดมั่นในศีล๕ ฉันนั้นการล่วงรู้ว่าบุตรชายแลบุตรสาวสุดที่รักผิดศีลข้อ๕ คงยังความตกใจแลไม่สบายใจแก่น้าอ้อยผู้เป็นมารดายิ่งนัก
ความจริงเรื่องของน้าอ้อยยังมีมากมายเหลือจักกล่าว หากท่านผู้อ่านถามข้าพเจ้าว่าน้าอ้อยเป็นคนอย่างไร ข้าพเจ้าคงบอกได้ว่าแกเป็นสตรีผู้หนึ่งซึ่ง “มือถือสากปากถือศีล” แน่นอนเทียวว่าน้าอ้อยมิชอบพฤติกรรมของข้าพเจ้าที่เป็น “นักดื่ม” รวมทั้งเคยสูบบุหรี่ เกลือกว่าแกล่วงรู้ว่าทั้งกรแลโกะดื่มเหล้าแลสูบบุหรี่ แกคงไม่สบายใจ แลบ้านคงแตกเป็นแน่
ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงปกปิด “ด้านมืด”ของกร-โกะไว้เป็นความลับ เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์แย่ๆต่อทั้งสองคน ลึกๆแล้วข้าพเจ้ารู้สึกดีใจที่กรแลโกะไม่ได้เป็นมนุษย์ที่มี “ศีลธรรมจ๋า” เฉกเช่นมารดาของพวกเขา
...
ในโลกแห่งความจริงนั้น กรแลโกะสูบบุหรี่แลดื่มเหล้าหรือไม่ ข้าพเจ้าก็มิอาจทราบได้ เพราะเป็นระยะเพลานานแล้วที่ข้าพเจ้ามิได้เจอลูกพี่ลูกน้อง ๒ คนนี้ หากว่าในโลกแห่งความเป็นจริงดันเหมือนโลกแห่งความฝันแล้วนั้น ข้าพเจ้าก็ยินดีปิดบังเป็นความลับได้โดยไม่มีปัญหา
...
หลังจากเราสามคนนั่งตากแอร์ในห้องว่างเปล่าสักพักแล้วนั้น ชายเจ้าของบ้านก็เปิดประตูไม้สังเคราะห์เข้ามา พร้อมกับรอยยิ้มตามประสาหนุ่มวัยทอง
“ไป ไปกินไก่เคเอฟซีกัน” น้าเติบพูด
“เย้!” โกะส่งเสียงดังลั่นเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด
ข้าพเจ้ากับกรยิ้ม แล้วจากนั้นจึงเดินออกจากห้อง ข้าพเจ้าปิดประตูไม้สังเคราะห์สีน้ำตาล แล้วเดินลงบันไดไม้เทียมสีทอง ตามหลังกรซึ่งตามหลังโกะ และตามหลังน้าเติบอีกที
แม้นห้องข้างบนจักเป็นห้องว่างเปล่า หากแต่ห้องข้างล่างโดยเฉพาะบริเวณห้องครัว มีโต๊ะทานข้าวอยู่แล้ว มันเป็นโต๊ะทานข้าวแบบ ๔ ที่นั่ง โต๊ะเป็นสีน้ำตาลทำจากไม้จริง รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขาโต๊ะ ๒ ขาที่ถูกดีไซน์ให้แข็งแรงเข้ากับยุคสมัย มีความยาว ๑๓๕ เซนติเมตร กว้าง ๘๐ เซนติเมตร แลสูง ๗๕ เซนติเมตร ผนวกกับเก้าอี้ทานข้าว ๔ ที่นั่งสีน้ำตาล หากแต่มิได้เป็นสีน้ำตาลล้วนทั้งหมด เนื่องจากส่วนของเบาะรองนั่งเป็นสีเบจ โดยตัวเก้าอี้ทานข้าวนี้ทำจากไม้จริงยกเว้นเบาะรองนั่งซึ่งเป็นหนังสังเคราะห์ PU เก้าอี้มีทั้งหมด ๔ ขา แลมีพนักพิง มีความสูง ๗๘ เซนติเมตร ทั้งนี้โต๊ะกินข้าวแลเก้าอี้เป็นของยี่ห้อ FURDINI ซึ่งซื้อมาจาก HOMEPRO บัดนี้เก้าอี้ทั้ง ๔ ตัวถูกจับจองโดยคน ๔ คน ๓ Generation
…
ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ KFC ถูกบรรจุไว้ในถุงพลาสติกที่มีตราสัญลักษณ์ KFC แลมีรูปผู้พันแซนเดอร์ส ผู้ก่อตั้งแบรนด์KFCผู้ล่วงลับอยู่บนถุง ถุงนั้นมีหลายใบ แต่มีถุงใบหนึ่งซึ่งห่อถังกระดาษใบใหญ่ที่มีตราสัญลักษณ์ KFC แลรูปผู้ก่อตั้ง ถังใบนี้บรรจุไก่ทอดไว้มากมายหลายชิ้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้น้าเติบสั่งผ่านแอปพลิเคชัน LINEMAN โดยสั่งเป็นชุด “ไก่สุขใจ” กอปรด้วย ไก่ทอด ๑๒ ขิ้น (ซึ่งน้าเติบเลือกเป็นสูตร HOT & SPICY ทั้งหมด),ไก่วิงซ์แซ่บ ๙ ชิ้น, ชิกเก้นป๊อบ ๑๔ ชิ้น เลือกเครื่องเคียงได้ ๑ อย่างซึ่งน้าเติบเลือกเป็นเฟรนช์ฟรายส์จัมโบ้ ทั้งนี้ราคาในพ.ศ.๒๕๖๘ จะอยู่ที่ ๖๖๙ บาท ซึ่งมีโพรโมชันส่งฟรีเมื่อสั่งครบ ๕๐๐ บาท แน่นอนว่าครั้งนี้น้าเติบไม่ต้องจ่ายค่าส่งแต่อย่างใด
พนักงาน LINEMAN มาส่งไก่ KFC แก่น้าเติบตั้งแต่ตอนที่ข้าพเจ้าแลลูกพี่ลูกน้องยังอยู่ห้องว่างข้างบน บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่คน ๔ คนจักได้ทานกลางวันอันแสนวิเศษนี้
“ไซรถึงหม้ายมีไก่ทอดสูตรผู้พันอะน้าเติบ มีแต่สูตร HOT & SPICY เพ”[1] ข้าพเจ้าถามผู้เป็นน้าชาย
“หม้ายมี น้าเติบหม้ายได้สั่ง เพราะว่าไก่ทอดผู้พันมันเค็ม HOT & SPICY หรอยหวา[2]” ผู้เป็นน้าตอบ
หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงพูดไปอีกนานพอสมควร มีเพียงเสียงเคี้ยวไก่ KFC อย่างเอร็ดอร่อยของคน ๔ คน เป็นช่วงเพลาที่ดีที่สุดครั้งหนึ่ง แม้ในความเป็นจริงนั้นมันเป็นการยากเหลือเกินที่คน ๔ คนในเรื่องนี้จักมารวมตัวกันได้ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง
จ๊ะ เสือไบ
๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๘
[1] แปลว่า ทำไมถึงไม่มีไก่ทอดสูตรผู้พันอะน้าเติบ มีแต่สูตร HOT & SPICY ทั้งนั้น
[2] แปลว่า ไม่มี น้าเติบไม่ได้สั่ง เพราะว่าไก่ทอดผู้พันมันเค็ม HOT & SPICY มันอร่อยกว่า