เริ่มเรื่อง คือแม่ลืมแฟนเก่าที่เคยคบกันก่อนแต่งงานกับพ่อ ตั้งแต่สมัยสาวๆไม่ได้ แม่จึงตัดสินใจที่จะหย่ากับพ่อ เพื่อไปอยู่กับผู้ชายคนนั้น ทิ้งลูก3คนที่อนาคตกำลังสดใสให้อยู่กับพ่อเพียงคนเดียว และแม่กำลังจะออกจากบ้านวันนี้!!! (มาตั้งกระทู้สดๆ ร้อนๆ)
แต่ก่อนครอบครัวผมเป็นครอบครัวที่มีความสุขมาก เพราะผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแม่เลย จนตอนผมจะจบม.3 แม่ลาออกจากงานที่กรุงเทพเพื่อกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัด เรื่องราวก็เริ่มเกิดขึ้น แม่ติดต่อกับผู้ชายคนนี้ทุกวันลับหลังพ่อ ร้ายแรงขนาดที่ว่าแม่โทรไปหาเมียเขาแล้วบอกเมียเขาว่า ฉันขอสามีเธอได้ไหมฉันรักเขามาก และได้ยินมาจากปากฝั่งญาติผู้ชายประมาณว่าที่ผู้ชายคบๆเลิกๆ และเมียเค้ายอมให้มาคุยกับแม่เรื่อยๆ เพราะแม่ใช้หนี้ธกส. ให้ผู้ชาย!!! (ผมนี่อึ้งเลย) ทำให้เหตุการณ์เกิดขึ้นใหญ่โตมากครอบครัวและคนรอบข้างก็เริ่มรู้มากขึ้นจนถึงหูพ่อ พ่อจึงตัดสินใจลาออกจากงานที่กรุงเทพซึ่งได้เงินดีมาก เพื่อที่จะกลับไปอยู่ต่างจังหวัดกับแม่ เมื่อพ่อกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดกับแม่แล้วลักษณะงานที่ทำก็ไม่เหมือนเดิม ต้องเปลี่ยนงานใหม่พ่อกับแม่ตกลงกันว่าจะไปทำโต๊ะจีน ซึ่งงานหนักมากทำตั้งแต่เช้าของวันหนึ่งถึงเช้าของอีกวันหนึ่ง ได้ค่าแรงประมาณ 300 กว่าบาท ตอนนี้เป็นช่วงที่ลำบากมาก ในทุกๆวันหลังเลิกเรียนผมกับน้องต้องช่วยกันหาของเก่าขาย เพื่อช่วยกันหารายได้เสริม แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือพ่อไม่เคยรู้เลยว่า ขณะที่พ่อทำโต๊ะจีน ลับหลังแม่ก็ไปคุยกับผู้ชายคนนั้นหลายครั้งเข้า คนในหมู่บ้านของแม่ก็เริ่มสงสารพ่อ เลยตัดสินใจพูดความจริงให้พ่อฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อพ่อรู้พ่อก็ร้องไห้หนักมากและขนของกลับมาที่หมู่บ้านตัวเอง จนในที่สุดฝั่งแม่ยายและญาติพี่น้องเลยบอกให้พ่อพาแม่ไปรดน้ำมนต์อยู่ประมาณอาทิตย์นึงเพราะคิดว่าโดนของ แต่ที่จริงแล้วหลังจากกลับมาจากวัดแม่ก็บอกพ่อว่ากลับไปอยู่กรุงเทพอีกครั้งไหม เพราะถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปยังเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นอยู่ ฉันเลิกรักเขาไม่ได้แน่ๆ ด้วยความที่พ่อรักแม่มาก พ่อก็กลับมาอยู่กรุงเทพอีกครั้งนึง
ในช่วงก่อนที่พ่อกับแม่จะมาอยู่กรุงเทพและพาน้องอีกสองคนมาอยู่ที่กรุงเทพด้วย ตอนเกิดเหตุผมรู้แต่ผมก็พยายามหนีปัญหาตลอด ผมหนีไปอยู่บ้านแฟนและไปอยู่วงหมอลำ ไม่กลับบ้านเป็นเดือนๆ ในช่วงที่จะจบม.3พอดี จนในที่สุดผมเริ่มรู้สึกว่าถ้าผมหนีปัญหาโดยวิธีนี้และไม่กลับไปเรียนหนังสือ อนาคตที่ผมสร้างไว้มันจะเป็นอย่างไร ผมจึงกลับมาเรียนต่อ แล้วผมก็คิดถูกเพราะการที่ผมกลับมาหมายความว่าผมตั้งใจเรียนมากขึ้น ทั้งในระดับม.ต้นและม.ปลายทำให้ผมเป็นคนที่ได้ gpax เยอะที่สุดในโรงเรียน และตอนม.4 ผมยังได้รับรางวัลนักเรียนพระราชทานอีกด้วยครับ ซึ่งผมก็มีความภูมิใจมาก แล้วผมก็ตั้งใจเรียนมาเรื่อยๆ
ตัดภาพมาที่พ่อกับแม่ต่อครับ ตอนนี้มาอยู่กรุงเทพได้ประมาณ 6 ปีแล้ว เรื่องราวที่เงียบหายไปนานก็เริ่มแดงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเริ่มมีสายแปลกๆ โทรเข้ามาหาแม่บ่อยขึ้นทุกวัน จนวันนึงผมกลับจากมหาลัย ผมเลยลองโอนสายเบอร์แปลกเข้ามาเบอร์ผมดู ปรากฎว่าตอนหกโมงเช้าของทุกวันจะมีเบอร์นี้โทรเข้ามาหาแม่ตลอด พอผมรับก็เป็นเสียงผู้ชายเรียกหาแม่ แต่พอมันได้ยินเสียงผมมันก็วางสายไป และมันก็พยายามโทรแบบนี้ทุกวัน ผมพูดให้พ่อฟังตลอดแต่พ่อก็รู้ดีอยู่แล้วครับ กลายเป็นพ่อที่พูดอีกหลายเรื่องที่ยังไม่รู้ให้ฟัง
ในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมาตรงกับช่วงปิดเทอมใหญ่ ผมก็ได้ไปทำงนร้านอาหารครับ ไม่ค่อยมีเวลาได้พูดคุยกับครอบครัวเลยเพราะเลิกตีหนึ่งทุกวัน แล้วพ่อก็ต้องมารับผมอย่างนี้ทุกวัน ช่วงนั้นสงสารพ่อมากต้องนอนดึกตื่นเช้า แต่พ่อก็ไม่อยากให้เราขับรถในกทม. เอง และที่เลือกทำเพราะมันอยู่ใกล้บ้านไม่ต้องเสียค่าเช่าหอที่สิ้นเปลือง ระหว่างที่พ่อมารับกลับบ้านทุกวันพ่อก็จะพูดเรื่องแม่ให้ผมฟัง เช่น ทุกตอนเช้า กลางวัน เย็น แม่จะออกไปคุยโทรศัพท์นอกบ้าน บางวันก็ไม่ทานข้าว หนักกว่านั้นทุกตี4-6โมงเช้า แม่จะเข้าไปคุยโทรศัพท์ในห้องน้ำทุกวัน พ่อก็เครียดและคิดมากนอนไม่หลับ จนวันนั้นกลับจากทำงานเหนื่อยมากเพื่อนร่วมงานก็ตามนั้นบวกกับพ่อพูดเรื่องแม่ว่าแม่กำลังจะไปแล้วนะ ผู้ชายเขามารออยู่ที่หมอชิต ผมของขึ้นมาก!!! พอกลับถึงบ้านสภาพที่เห็นคือแม่เก็บเสื้อผ้าข้าวของไว้เรียบร้อยแล้ว ผมจึงตัดสินใจถามแม่ออกไปตรงๆ(พูดคุยดีๆ ผมไม่ขึ้นเสียงกับแม่สักคำ) คำตอบที่ได้รับคือ อืม! ผมจึงพูดต่อไปถึงเรื่องบาปบุญคุณโทษ นรกสวรรค์ แต่แม่บอกว่าความสุขของแม่ แม่ตัดสินใจแล้วปล่อยแม่ไปเถอะ และก่อนจะคุยกันจบประโยคนึงที่หลุดออกมาจากปากของแม่คือ"แค่เกิดมาเป็นกระเทย!! กูก็เสียใจมากพออยู่แล้ว"
ผมอึ้งมากน้ำตาเริ่มไหลและเกิดคำถามในใจว่า การตั้งใจเรียนและทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้มันไม่สามารถลบล้างการเกิดมาผิดเพศจากความคิดของแม่ได้เลย และคืนนั้นเองแม่ก็จากไป แต่ยังไงไม่รู้ตอนเช้าแม่ก็กลับมา เหมือนสวรรค์มาโปรด แต่ความทุกข์มันก็ยังอยู่ในใจเพราะผมเริ่มรู้สึกห่างตัวห่างใจจากแม่มากขึ้น
จนมาถึงตอนนี้ แม่กับพ่อถูกจ้างออกจากงานพร้อมกันทั้งสองคน เพราะโรงงานปิดตัวเศรษฐกิจไม่ค่อยดีตอนนี้ก็ไม่มีงานทำครับ แม่ก็หย่ากับพ่อพอดี แต่แม่ไม่ยอมไปจากพ่อเพราะฝ่ายชายยังไม่พร้อมทิ้งลูกทิ้งเมียเขามา และเงินทุกบาทแม่จะใช้ของพ่อทั้งหมดจะไม่เอาของตัวเองออกมาใช้ ถ้าซื้ออะไรไปก็จะมาทวงเอากับพ่อคืนมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แม้แม้จะให้ลูกไปก็ยังทวงคืนจากพ่อ ผมสงสารพ่อมากครับ! แต่พ่อก็สอนผมและน้องเสมอว่าอย่าเกลียดแม่นะ แม่ก็คือแม่ ให้เขาจากเราไปด้วยดี จนมาถึงนาทีนี้แม่ก็กำลังจะไปจริงๆ!
ต่อไปจะมีพ่อเพียงคนเดียวที่แบกรับภาระหนักอึ้ง ทั้งค่าใช้จ่ายในบ้าน ลูก3คน ญาติที่ต่างจังหวัด งานก็ยังไม่มี อายุจะ50ปีแล้ว ใครเค้าจะจ้าง หรือถ้าจ้างค่าแรงก็คงไม่พอกับค่าใช้จ่ายแน่ๆ บวกกับร่างกายพ่อที่เสื่อมถอยลงทุกวัน
ในส่วนของผมและน้องอีก2คน เราก็พยายามคุยกัน ให้กำลังใจ และจะช่วยแบ่งเบาพ่อ
ผมและน้องคนกลาง ปิดเทอมเราก็ทำงานพาร์ทไทม์ครับ หรือในกิจกรรมของมหาลัยถ้ามีงานจ้างล้างห้องน้ำอะไรแบบนี้ ผมก็ทำครับ ทำทุกงานที่รู้และได้เงิน แต่มันอาจจะไม่ได้ทำตลอดเพราะการเรียนที่สูงและเครียดขึ้น ตอนนี้ผมเรียนอยู่ปี3 ครูมศวครับ ต้องเรียน5ปี เกรดผม3.83 มันก็ค่อนข้างหนักครับที่ต้องทำอะไรให้ดีพร้อมกันหลายๆอย่างแต่ผมก็พยายามนึกถึงพ่อไว้ ส่วนตัวผมก็พยายามขอทุนมหาลัยและยืมกยศครับ น้องคนกลางเรียนอยู่มหาลัยปี2 มน. เกรดประมาณ3.00 น้องคนเล็กเรียนอยู่ม.1 มัธยมวัดสิงห์ เกรด4.00 มันถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่สำหรับพ่อค่าใช้จ่ายที่จะมาแบกรับลูกที่เรียนมหาลัยถึง2คนและมัธยมพร้อมกันเพียงคนเดียว ขณะที่พึ่งถูกออกจากงาน(ตอนทำงานพ่อก็ได้เงินเดือนประมาณหมื่นสาม) ไปอีก3-4 ปี มันจะไหวมั้ย
พ่อต้องเครียดหนักแน่ๆ ร่างกายพ่อตอนนี้ผอมโสมากๆ พ่อจะไหวมั้ย สงสารพ่อมากๆ ผมไม่อยากให้อนาคตของลูกพ่อที่ตั้งใจกันทุกคนพังลงไป เพราะปัญหามันรุมเร้าเหลือเกิน ผมควรทำอย่างไรดีครับ!!!!!
พ่อกับแม่หย่ากัน(แม่ไม่ลืมแฟนเก่า)ตอนนี้ผมกับน้องเรียนมหาลัยและมัธยมพร้อมกัน3คน อยู่กับพ่อที่ถูกจ้างออก สงสารพ่อจังครับ
แต่ก่อนครอบครัวผมเป็นครอบครัวที่มีความสุขมาก เพราะผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแม่เลย จนตอนผมจะจบม.3 แม่ลาออกจากงานที่กรุงเทพเพื่อกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัด เรื่องราวก็เริ่มเกิดขึ้น แม่ติดต่อกับผู้ชายคนนี้ทุกวันลับหลังพ่อ ร้ายแรงขนาดที่ว่าแม่โทรไปหาเมียเขาแล้วบอกเมียเขาว่า ฉันขอสามีเธอได้ไหมฉันรักเขามาก และได้ยินมาจากปากฝั่งญาติผู้ชายประมาณว่าที่ผู้ชายคบๆเลิกๆ และเมียเค้ายอมให้มาคุยกับแม่เรื่อยๆ เพราะแม่ใช้หนี้ธกส. ให้ผู้ชาย!!! (ผมนี่อึ้งเลย) ทำให้เหตุการณ์เกิดขึ้นใหญ่โตมากครอบครัวและคนรอบข้างก็เริ่มรู้มากขึ้นจนถึงหูพ่อ พ่อจึงตัดสินใจลาออกจากงานที่กรุงเทพซึ่งได้เงินดีมาก เพื่อที่จะกลับไปอยู่ต่างจังหวัดกับแม่ เมื่อพ่อกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดกับแม่แล้วลักษณะงานที่ทำก็ไม่เหมือนเดิม ต้องเปลี่ยนงานใหม่พ่อกับแม่ตกลงกันว่าจะไปทำโต๊ะจีน ซึ่งงานหนักมากทำตั้งแต่เช้าของวันหนึ่งถึงเช้าของอีกวันหนึ่ง ได้ค่าแรงประมาณ 300 กว่าบาท ตอนนี้เป็นช่วงที่ลำบากมาก ในทุกๆวันหลังเลิกเรียนผมกับน้องต้องช่วยกันหาของเก่าขาย เพื่อช่วยกันหารายได้เสริม แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือพ่อไม่เคยรู้เลยว่า ขณะที่พ่อทำโต๊ะจีน ลับหลังแม่ก็ไปคุยกับผู้ชายคนนั้นหลายครั้งเข้า คนในหมู่บ้านของแม่ก็เริ่มสงสารพ่อ เลยตัดสินใจพูดความจริงให้พ่อฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อพ่อรู้พ่อก็ร้องไห้หนักมากและขนของกลับมาที่หมู่บ้านตัวเอง จนในที่สุดฝั่งแม่ยายและญาติพี่น้องเลยบอกให้พ่อพาแม่ไปรดน้ำมนต์อยู่ประมาณอาทิตย์นึงเพราะคิดว่าโดนของ แต่ที่จริงแล้วหลังจากกลับมาจากวัดแม่ก็บอกพ่อว่ากลับไปอยู่กรุงเทพอีกครั้งไหม เพราะถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปยังเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นอยู่ ฉันเลิกรักเขาไม่ได้แน่ๆ ด้วยความที่พ่อรักแม่มาก พ่อก็กลับมาอยู่กรุงเทพอีกครั้งนึง
ในช่วงก่อนที่พ่อกับแม่จะมาอยู่กรุงเทพและพาน้องอีกสองคนมาอยู่ที่กรุงเทพด้วย ตอนเกิดเหตุผมรู้แต่ผมก็พยายามหนีปัญหาตลอด ผมหนีไปอยู่บ้านแฟนและไปอยู่วงหมอลำ ไม่กลับบ้านเป็นเดือนๆ ในช่วงที่จะจบม.3พอดี จนในที่สุดผมเริ่มรู้สึกว่าถ้าผมหนีปัญหาโดยวิธีนี้และไม่กลับไปเรียนหนังสือ อนาคตที่ผมสร้างไว้มันจะเป็นอย่างไร ผมจึงกลับมาเรียนต่อ แล้วผมก็คิดถูกเพราะการที่ผมกลับมาหมายความว่าผมตั้งใจเรียนมากขึ้น ทั้งในระดับม.ต้นและม.ปลายทำให้ผมเป็นคนที่ได้ gpax เยอะที่สุดในโรงเรียน และตอนม.4 ผมยังได้รับรางวัลนักเรียนพระราชทานอีกด้วยครับ ซึ่งผมก็มีความภูมิใจมาก แล้วผมก็ตั้งใจเรียนมาเรื่อยๆ
ตัดภาพมาที่พ่อกับแม่ต่อครับ ตอนนี้มาอยู่กรุงเทพได้ประมาณ 6 ปีแล้ว เรื่องราวที่เงียบหายไปนานก็เริ่มแดงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเริ่มมีสายแปลกๆ โทรเข้ามาหาแม่บ่อยขึ้นทุกวัน จนวันนึงผมกลับจากมหาลัย ผมเลยลองโอนสายเบอร์แปลกเข้ามาเบอร์ผมดู ปรากฎว่าตอนหกโมงเช้าของทุกวันจะมีเบอร์นี้โทรเข้ามาหาแม่ตลอด พอผมรับก็เป็นเสียงผู้ชายเรียกหาแม่ แต่พอมันได้ยินเสียงผมมันก็วางสายไป และมันก็พยายามโทรแบบนี้ทุกวัน ผมพูดให้พ่อฟังตลอดแต่พ่อก็รู้ดีอยู่แล้วครับ กลายเป็นพ่อที่พูดอีกหลายเรื่องที่ยังไม่รู้ให้ฟัง
ในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมาตรงกับช่วงปิดเทอมใหญ่ ผมก็ได้ไปทำงนร้านอาหารครับ ไม่ค่อยมีเวลาได้พูดคุยกับครอบครัวเลยเพราะเลิกตีหนึ่งทุกวัน แล้วพ่อก็ต้องมารับผมอย่างนี้ทุกวัน ช่วงนั้นสงสารพ่อมากต้องนอนดึกตื่นเช้า แต่พ่อก็ไม่อยากให้เราขับรถในกทม. เอง และที่เลือกทำเพราะมันอยู่ใกล้บ้านไม่ต้องเสียค่าเช่าหอที่สิ้นเปลือง ระหว่างที่พ่อมารับกลับบ้านทุกวันพ่อก็จะพูดเรื่องแม่ให้ผมฟัง เช่น ทุกตอนเช้า กลางวัน เย็น แม่จะออกไปคุยโทรศัพท์นอกบ้าน บางวันก็ไม่ทานข้าว หนักกว่านั้นทุกตี4-6โมงเช้า แม่จะเข้าไปคุยโทรศัพท์ในห้องน้ำทุกวัน พ่อก็เครียดและคิดมากนอนไม่หลับ จนวันนั้นกลับจากทำงานเหนื่อยมากเพื่อนร่วมงานก็ตามนั้นบวกกับพ่อพูดเรื่องแม่ว่าแม่กำลังจะไปแล้วนะ ผู้ชายเขามารออยู่ที่หมอชิต ผมของขึ้นมาก!!! พอกลับถึงบ้านสภาพที่เห็นคือแม่เก็บเสื้อผ้าข้าวของไว้เรียบร้อยแล้ว ผมจึงตัดสินใจถามแม่ออกไปตรงๆ(พูดคุยดีๆ ผมไม่ขึ้นเสียงกับแม่สักคำ) คำตอบที่ได้รับคือ อืม! ผมจึงพูดต่อไปถึงเรื่องบาปบุญคุณโทษ นรกสวรรค์ แต่แม่บอกว่าความสุขของแม่ แม่ตัดสินใจแล้วปล่อยแม่ไปเถอะ และก่อนจะคุยกันจบประโยคนึงที่หลุดออกมาจากปากของแม่คือ"แค่เกิดมาเป็นกระเทย!! กูก็เสียใจมากพออยู่แล้ว"
ผมอึ้งมากน้ำตาเริ่มไหลและเกิดคำถามในใจว่า การตั้งใจเรียนและทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้มันไม่สามารถลบล้างการเกิดมาผิดเพศจากความคิดของแม่ได้เลย และคืนนั้นเองแม่ก็จากไป แต่ยังไงไม่รู้ตอนเช้าแม่ก็กลับมา เหมือนสวรรค์มาโปรด แต่ความทุกข์มันก็ยังอยู่ในใจเพราะผมเริ่มรู้สึกห่างตัวห่างใจจากแม่มากขึ้น
จนมาถึงตอนนี้ แม่กับพ่อถูกจ้างออกจากงานพร้อมกันทั้งสองคน เพราะโรงงานปิดตัวเศรษฐกิจไม่ค่อยดีตอนนี้ก็ไม่มีงานทำครับ แม่ก็หย่ากับพ่อพอดี แต่แม่ไม่ยอมไปจากพ่อเพราะฝ่ายชายยังไม่พร้อมทิ้งลูกทิ้งเมียเขามา และเงินทุกบาทแม่จะใช้ของพ่อทั้งหมดจะไม่เอาของตัวเองออกมาใช้ ถ้าซื้ออะไรไปก็จะมาทวงเอากับพ่อคืนมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แม้แม้จะให้ลูกไปก็ยังทวงคืนจากพ่อ ผมสงสารพ่อมากครับ! แต่พ่อก็สอนผมและน้องเสมอว่าอย่าเกลียดแม่นะ แม่ก็คือแม่ ให้เขาจากเราไปด้วยดี จนมาถึงนาทีนี้แม่ก็กำลังจะไปจริงๆ!
ต่อไปจะมีพ่อเพียงคนเดียวที่แบกรับภาระหนักอึ้ง ทั้งค่าใช้จ่ายในบ้าน ลูก3คน ญาติที่ต่างจังหวัด งานก็ยังไม่มี อายุจะ50ปีแล้ว ใครเค้าจะจ้าง หรือถ้าจ้างค่าแรงก็คงไม่พอกับค่าใช้จ่ายแน่ๆ บวกกับร่างกายพ่อที่เสื่อมถอยลงทุกวัน
ในส่วนของผมและน้องอีก2คน เราก็พยายามคุยกัน ให้กำลังใจ และจะช่วยแบ่งเบาพ่อ
ผมและน้องคนกลาง ปิดเทอมเราก็ทำงานพาร์ทไทม์ครับ หรือในกิจกรรมของมหาลัยถ้ามีงานจ้างล้างห้องน้ำอะไรแบบนี้ ผมก็ทำครับ ทำทุกงานที่รู้และได้เงิน แต่มันอาจจะไม่ได้ทำตลอดเพราะการเรียนที่สูงและเครียดขึ้น ตอนนี้ผมเรียนอยู่ปี3 ครูมศวครับ ต้องเรียน5ปี เกรดผม3.83 มันก็ค่อนข้างหนักครับที่ต้องทำอะไรให้ดีพร้อมกันหลายๆอย่างแต่ผมก็พยายามนึกถึงพ่อไว้ ส่วนตัวผมก็พยายามขอทุนมหาลัยและยืมกยศครับ น้องคนกลางเรียนอยู่มหาลัยปี2 มน. เกรดประมาณ3.00 น้องคนเล็กเรียนอยู่ม.1 มัธยมวัดสิงห์ เกรด4.00 มันถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่สำหรับพ่อค่าใช้จ่ายที่จะมาแบกรับลูกที่เรียนมหาลัยถึง2คนและมัธยมพร้อมกันเพียงคนเดียว ขณะที่พึ่งถูกออกจากงาน(ตอนทำงานพ่อก็ได้เงินเดือนประมาณหมื่นสาม) ไปอีก3-4 ปี มันจะไหวมั้ย
พ่อต้องเครียดหนักแน่ๆ ร่างกายพ่อตอนนี้ผอมโสมากๆ พ่อจะไหวมั้ย สงสารพ่อมากๆ ผมไม่อยากให้อนาคตของลูกพ่อที่ตั้งใจกันทุกคนพังลงไป เพราะปัญหามันรุมเร้าเหลือเกิน ผมควรทำอย่างไรดีครับ!!!!!