สวัสดีเพื่อนๆพันทิปทุกคนค่า วันนี้หยกโฮ่จะขอมาแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวแบบสองสาวขาลุย เชียงดาว-เชียงใหม่ 4วัน3คืน แบบคนไม่มีรถ ว่าแล้วก็ไปกันเลยค่ะ บุกเชียงใหม่กันโลดดดดดด

มาค่ะมาเล่ากันเลยดีกว่า ทริปนี้เริ่มมาจากการอยากไปเชียงใหม่ของข้าพเจ้าเองครับผม เนื่องจากเชียงใหม่นี่จังหวัดในฝันเลยนะ ทั้งอยากไปเรียนก็ไม่ได้ไป ไปทำงานก็อยู่แค่ที่ห้างกะที่พัก นอกนั้นก็ร้านอาหารปะปลายมากกกก เลยชวนชะนีไม่มีปัวอย่าง "ออม"เป็นผู้นำทริป เนื่องจากนางไปบ่อยแล้วและเมื่อตกลงกันได้ก็ไปเลยค่ะ "เชียงใหม่" กันนน ทริปนี้วางแผนล่วงหน้า5-6เดือนได้เนื่องจากเราเองทำงานเสาร์-อาทิตย์ด้วย เลยจะต้องแพลน คำนวนวันหยุดให้ดี และเมื่อเราเลือกกันแล้วก็หาตั๋วกันเลย ตอนแรกเรา (ไม่สิ ตรูคนเดียว55) ที่อยากไปรถไฟอันใหม่ สวยๆเก๋ แต่พอเห็นราคาก็คิดว่านั่งเครื่องน่าจะดีกว่า ราคาพอๆกัน เราเลยตั้งสินใจจองเครื่องขากลับกับนกเหลือง ในราคาคนละ 1040 บาท และขาไปก็นั่งกันยาวๆกับนครชัยแอร์ แบบ โกล์ดคลาส ในราคา 586 บาท ลืมบอกไปค่ะวันที่เราไปกัน วันที่ 22 - 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ข้อมูลทริปทั้งหมดครั้งนี้ เป็นชะนีออม ในการหาข้อมูลแต่เพียงผู้เดียว555555555555
เริ่มเดินทางกันเลยเนอะ
วันแรก โกทูเชียงใหม่จ้าววว
เรามาขึ้นรถที่ศุนย์นครชัยแอร์ตรงหมอชิต รถเริ่มออกสองทุ่ม หาอะไรรองท้องกันหน่อยเดี๋ยวจะหิวกันสักก่อน และพอถึงเวลาขึ้นรถก้ไปกันเลย ประสบการณ์ครั้งเเรกของดิฉันกับการนั่งนครชัยแอร์ เฮ้ย!!ก็ดีนะ สภาพรถอะไรดีทุกอย่าง มีการดูแลโดย "พี่สราวุฒิ" นางก็จะเดินบริการแจกน้ำ แจกขนม เราไม่รุ้มาก่อนเลยนะว่าจะมีข้าวให้ พอขึ้นรถไปแจกเยอะมากกกกกกกกกก งงและเสียดายตังที่กินข้าวก่อนขึ้นมามากกกก 555 เอาจริงเราว่ามันเหมือนเครื่องบินเลยนะแต่แค่เปลี่ยนมาวิ่งบนถนนก็เท่านั้นเอง ที่สำคัญมีการประกาศด้วยนะใครเป็นคนขับ ขับความเร็วไม่เกินเท่าไร เวิร์กค่ะบอสส และเราก็หลับกันยาวๆเลยจ้า ตื่นอีกที่ก็เชียงใหม่เลยเด้อ
*เสียใจไม่มีรูปพี่สราวุฒิ นางบริการดีมากนะ สิบสิบสิบไปเลยจ้า
วันที่สอง สวัสดีเชียงใหม่จ้าววว
เราสองชะนีมาถึงเชียงใหม่ตีห้าฟ่าๆได้ และเราก็ตัดสินใจอาบน้ำในอากาศ 16 องศาคร้าบโผมมมม อาบกันที่ศูนย์รถนครชัยแอร์นั่นแหละ ค่าบริการ 10 บาท ถ้าเป็นน้ำอุ่นก็ 20 บาท ซึ่งผมก็ใจสู้อาบน้ำเย็นไปครัชชมันก็จะสั่นๆหน่อย และเราก็เริ่มเดินทางกัน โดยที่นอนของเราคืนนี้คือ "เชียงดาว" จ้า เราจะไปขึ้นรถกันที่ช้างเผือก เห็นเค้าเรียกกันแบบนั้น มันเป็นเหมือนแหล่งขึ้นรถ ท่ารถอะไรแบบนี้ เราก็โบกรถแดงไป ตอนแรกเค้าบอกว่าเหมาไป 2คน 150 บาท เราเลยรอดีกว่า จะเหลือแค่คนละ 40 บาท รอแล้วรอเหล่าก็ไม่มีใครไป ลุงคนขับเลยบอกว่า ลดให้เหลือ 120 บาท เราเลยโอเคและรีบขึ้นรถอย่างไว และเมื่อถึงช้างเผือก เราต้องนั่งรถบัส "เชียงใหม่-ท่าตอน" เพื่อขึ้นไปที่เชียงดาาว ค่าโดยสารคนละ 40 บาท ในรอบนี้รถออกเวลา07.20 น. และก็นั่งยาวๆไปเลย ลงอีกทีก็ที่โลตัสเชียงดาวค่ะ
จำได้ว่ารถยิ่งขับขึ้นไป อากาศยิ่งหนาว แบบหมอกหนา อุณหภูมิอยู่ที่ 11 องศา
และเมื่อเราลงรถที่โลตัส เชียงดาว อยู่ดีๆก็มีคุณลุงเดินเข้ามาหาและบอกว่า ไปเชียงดาวใช่ไหม?? พักที่ไหนละ ?? ไปกะลุงนะเดี๋ยวไปส่ง ชะนีก้งงสิคะ ที่จริงออมมันมีลุงที่ ที่พักให้เบอร์มา ในราคาคนละ 50 บาท แต่ก็อีกแหละลุงคนนี้ 60 บาท เราก็ได้ไปเลยไม่ต้องรอนานกว่าจะมารับอีก เลยขอลุงไปกินข้าวก่อนและไปเจอกันที่จุดนัดพบ เดินมาอีกไม่ไกลมีร้านข้าวอยู่ เป็นร้านข้าวหมู มีอาหารเหนือ และมีของร้อนๆที่คาดว่าน่าจะช่วยเราได้ พอเข้าไปถึงก็สั่งเลยค่ะ ข้าวราดคนละอย่าง ขาหมูมาเป็นกองกลาง และชาร้อนและโอวันตินคนละชุด มือนี้เราโดนไป 130 บาทตกคนละ 65 บาท ถือว่าอิ่มค่ะ อาหารรสชาติดีเลยนะ ขาหมูเปื่อยๆมันนิ่มๆ ชอบเลยค่ะ



หลังจากเรากินเสร็จก็ เดินขึ้นไปอีกก็เจอกับรถสองแถวของลุงละ พร้อมกับคนร่วมเดินทางอีก 6 ชีวิตได้ และหลังจากนั้นใช้เวลาเดินทางขึ้นเขาประมาณ 45 นาที บอกก่อนว่าทางค่อนข้างอันตรายและเมารถได้ง่าย เราเลยขอกินยาแก้เมาก่อนเลย เดี๋ยวจะหมดสนุก และเมื่อนั่งมาสักพักก็จะผ่านอุทยานซึ่งเราต้องเสียค่าเข้าคนละ 20 บาทค่ะ อีกแปบนึงเราก็มาถึงบนเชียงดาวกันแล้ว โดยวันนี้เราจะพักกันที่ "บ้านสายหมอก" ซึ่งได้โอนมัดจำมาตั้งแต่เดือนสิงหา ซึ่งค่าที่พัก+ค่าอาหาร คนละ 500 บาท (เรามัดจำแค่คนเดียว ที่เหลือจ่ายหน้างานค่ะ) เราขึ้นมาถึงบนนี้ประมาณสองโมงครึ่งของช่วงเช้า พี่ที่ที่พักบอกว่า สามารถไปเดินเล่น นั่งชิวร้านกาแฟก้ได้ เพราะที่พักก็ไม่มีอะไรให้ทำ และโชคดีอีกอย่างคือเต้นท์ที่พักทำความสะอาดเสร็จพอดี สามารถเข้าก่อนเวลาได้ค่ะ ระหว่างรอเราเลยไปเดินเล่นและกินกาแฟที่ "ร้านระเบียงดาว" ซึ่งเป็นร้านกาแฟและที่พักวิวสวย ที่นึงในเชียงดาวเลย ไปดูกันดีกว่า
**เราจะไปตามหาโอโซน ที่กรุงเทพไม่มีกันจ้า**
*บ้านสายหมอก @ เชียงดาว
บรรยายกาศระหว่างเดินไปร้านกาแฟ
และนี่คือบรรยายกาศที่พักของเราเหล่าชะนีค่ะ วิวดีมาก แต่เอาจริงเรามาเร็วเกินไป นั่งคุยกันตั้งแต่เก้าโมงเช้าจนถึงสี่โมงเย็น จบทริปนี้ไป เลิกคุยกันสักเดือนนะออม 55555 และมื้อเย็น ที่พักก็มีอาหารมาให้ แต่เราก็พยายามจะสรรหาของกินตามที่คนอื่นเค้าทำกัน นั่นก็คือสั่งหมูจุ่มมาเพิ่มค่ะ ชุดละ 199 บาท กินกันสองคน กินเข้าไป กินให้อ้วกนะ

อิอิ
วิวมันดีมาก ราคาหลักร้อยวิวหลักล้านน
ตกค่ำมันหนาว เลยสั่งชาร้อนจากที่พักมากิน ราคา 80 บาทเติมน้ำร้อนได้อีก ได้เรื่อยๆ555
วันที่สาม เรามาตามหาไข่ย้อยยยยยยย
เราสองคนรีบตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันตอนตีห้าครึ่ง เราพยายามตั้งกล้องรอเลยนะ แต่เหมือนจะมีอะไรบังอยู่ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะแค่นี้ก็ถือว่าดีใจละ เป็นทริปใหญ่แห่งปีที่มนุษย์เงินเดือนอย่าเราได้สัมผัสอากาศดีๆ ธรรมชาติโอบล้อม ไม่มีการติดตามงานใดใดทั้งสิ้น เพราะกระผมปิดเน็ตคร้าบบบบ
*อาหารเช้าของเรา 500 บาทมันคุ้มจริมๆ
ไว้มาเล่าต่อนะ ตอนนี้ขอไปทำธุระก่อนเด้อค่า
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ หากผิดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ
[CR] รีวิว"เชียงใหม่-เชียงดาว" สองสาว หนาวไม่หวั่น