ปีใหม่แล้วก็อยากทำอะไรใหม่ๆบ้าง เลยคิดว่าลองเขียนรีวิวหนังสือที่ตัวเองชอบอ่านแล้วคิดว่า "เห้ย หนังสือเล่มนี้มันน่าสนใจดี เจ๋งดี" (ส่วนมากใช้เวลาอ่านฟรีที่ร้านเยอะกว่าซื้อกลับมานอนอ่านเอง เนื่องจากแฟนช๊อปปิ้งนานมาก ไม่มีอะไรทำ ก็เลยชอบไปหมกตัวอยู่ร้านหนังสือเป็นหลัก ๕๕)
เล่มนี้ก็เช่นกัน ไปสะดุดตาที่หน้าปกพร้อมคำนิยมอีกเพียบตั้งแต่ปกหน้ายาวไปยันปกหลัง คือจะเยอะไปไหน พอลองพลิกดูเป็นหนังสือที่แต่งโดยพี่ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา คือโดยส่วนตัวก็ชอบดูรายการของพี่แกที่ช่อง Thai PBS เมื่อนานมานู้นอยู่แล้ว สำหรับคนอื่นผมไม่แน่ใจนะ แต่สำหรับผมเองผมว่าแกมองอะไรคมดี มองในมุมที่แตกต่างแต่เป็นมิตร พอแกมาเขียนหนังสือก็ตามอ่านบ้างประปรายแล้วแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย ซึ่งโดยปกติผมชอบอ่านแนวๆพวกประวิติศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเอามาวิเคราะห์วิจารณ์อีกนี่ยิ่งชอบเลย และยิ่งมีประมาณ 200 ปลายๆกว่าหน้าก็ยิ่งชอบ เพราะไม่ชอบอ่านเยอะ ๕๕๕๕
เกริ่นไปซะยาว เข้าเรื่องเลยละกัน
PAST จะนำคุณกลับไปสู่ห้วงเวลาในประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำซึ่งได้เปลี่ยนโลกและประเทศไทยไปตลอดกาล ตั้งแต่เรื่องราวของไทยครั้งพระเจ้าตากสินกู้กรุงถึงช่วงกรุงธนบุรี ข้ามไปยังความขัดแย้งระหว่างก๊กทั้งสามอันโด่งดังที่เรารู้จักกันในชื่อสามก๊ก กระโดดข้ามฝั่งไปยังยุโรปเพื่อไปหาจุดกำเนิดของแนวคิดที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล ซึ่งส่งผลมายังความเป็นความตายของสยามประเทศในท้ายที่สุด ซึ่งความเปลี่ยนแปลงพลิกโฉมประวัติศาสตร์นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้ผู้ริเริ่มซึ่งมีทั้งความกล้าหาญ ความคิดนอกกรอบ และมีใจที่แน่วแน่ที่จะให้เกิดสิ่งๆนั้นขึ้นมา ซึ่งเราอาจเรียกพวกเขาเหล่านั้นได้ว่า Start-up ยุคบุกเบิกของหน้าประวัติศาสตร์ สอดแทรกไปด้วยเรื่องราวและแนวคิดของ icon ในแต่ละยุคสมัยอย่าง ขงจื้อ หรือแม้กระทั่ง อดัม สมิธ
> ชีวิตดั่งนิยายของพระเจ้าตากสิน จากลูกชาวจีนพ้นทะเล ถึงจุดสูงสุดของสยามประเทศ ทั้งโลดโผนและมีสีสัน สิ่งใดทีผลักดันให้ท่านก้าวมาถึงจุดนี้
> มหาบุรุษจากตังเสียนามว่าโลซก หากขงเบ้งคือยอดกุนซือแห่งยุคผู้นำพาคนที่ไม่มีอะไรอย่างเล่าปี่ไปสู่จุดสูงสุดได้ แต่หากปราศจากโลซก เรื่องราวที่สนุกสนานเต็มไปด้วยการชิงไหงชิงพริบอย่างสามก๊กก็ไม่อาจจะเกิดขึ้น
> จุดเริ่มต้นของศิลปวิทยาการทั้งปวงมักมีจุดกำเนิดมาจากมหาวิทยาลัยอันเก่าแก่ชื่อดังนาๆในยุโรป แต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงทั้งโลกไปตลอดกาลกลับไม่มีชื่อมหาวิทยาลัยเหล่านี้เป็นส่วนร่วมเลย เพราะอะไร
> จากเจมส์ วัตต์ สู่ จอร์จ สตีเฟนสัน พวกเขาคือใคร มีส่วนอย่างไรต่อการพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์โลก อันสะเทือนถึงความเป็นความตายของสยามประเทศ
ด้วยลีลาการเขียนและการใช้ภาษาที่สวยงามแต่เรียบง่าย แฝงไปด้วยความคมคายที่ทำให้หลายๆประโยคผมต้องมานั่งอ่านซ้ำเพื่อตีความให้ลึกขึ้น เนื้อหากระชับไม่ยืดยาวเป็นหนังไทยยุคเก่า เหมาะมากหากชอบอ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์เป็นทุนเดิม การเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆน่าสนใจมาก เรื่องราวที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยจริงๆในหนังสือเล่มนี้ ยังมีอะไรรอให้ท่านเข้าไปค้นหาอีกเยอะครับ
เล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีมากของผมในรอบหลายปี จับขึ้นมาอ่านปุ๊ปก็ซื้อไปเสพที่บ้านต่อทันใด (และอ่านต่อจนจบได้ ๕๕๕) จะอ่านผ่านๆเพื่อความบันเทิงก็ดี จะอ่านแบบจริงจังเพื่อเข้าใจกับคำว่าจิตวิญญาณของยุคก็ได้ครับลับสมองดีเหมือนกัน ผมเองก็เหมือนมีดทื่อ พอเรียนจบมาทำงานก็ไม่ค่อยจะได้จับหนังสือหนังหามาอ่านลับสมองประดับปัญญากับเขาเท่าไร ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีรับปีใหม่ละกันนะครับทั้งสำหรับผมและท่านอื่นๆด้วย
ท้ายสุดนี้ก็ขอบคุณที่เสียเวลาเข้ามาอ่านนะครับ หากมีโอกาสจะลองเอาเล่มอื่นๆมารีวิวให้อ่านกัน
[CR] รีวิวหนังสือ "PAST (ปัญญาอดีต)" : Start-up ผู้พลิกโฉมประวัติศาสตร์โลก และจิตวิญญาณแห่งยุคสมัย
เล่มนี้ก็เช่นกัน ไปสะดุดตาที่หน้าปกพร้อมคำนิยมอีกเพียบตั้งแต่ปกหน้ายาวไปยันปกหลัง คือจะเยอะไปไหน พอลองพลิกดูเป็นหนังสือที่แต่งโดยพี่ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา คือโดยส่วนตัวก็ชอบดูรายการของพี่แกที่ช่อง Thai PBS เมื่อนานมานู้นอยู่แล้ว สำหรับคนอื่นผมไม่แน่ใจนะ แต่สำหรับผมเองผมว่าแกมองอะไรคมดี มองในมุมที่แตกต่างแต่เป็นมิตร พอแกมาเขียนหนังสือก็ตามอ่านบ้างประปรายแล้วแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย ซึ่งโดยปกติผมชอบอ่านแนวๆพวกประวิติศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเอามาวิเคราะห์วิจารณ์อีกนี่ยิ่งชอบเลย และยิ่งมีประมาณ 200 ปลายๆกว่าหน้าก็ยิ่งชอบ เพราะไม่ชอบอ่านเยอะ ๕๕๕๕
เกริ่นไปซะยาว เข้าเรื่องเลยละกัน
PAST จะนำคุณกลับไปสู่ห้วงเวลาในประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำซึ่งได้เปลี่ยนโลกและประเทศไทยไปตลอดกาล ตั้งแต่เรื่องราวของไทยครั้งพระเจ้าตากสินกู้กรุงถึงช่วงกรุงธนบุรี ข้ามไปยังความขัดแย้งระหว่างก๊กทั้งสามอันโด่งดังที่เรารู้จักกันในชื่อสามก๊ก กระโดดข้ามฝั่งไปยังยุโรปเพื่อไปหาจุดกำเนิดของแนวคิดที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล ซึ่งส่งผลมายังความเป็นความตายของสยามประเทศในท้ายที่สุด ซึ่งความเปลี่ยนแปลงพลิกโฉมประวัติศาสตร์นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้ผู้ริเริ่มซึ่งมีทั้งความกล้าหาญ ความคิดนอกกรอบ และมีใจที่แน่วแน่ที่จะให้เกิดสิ่งๆนั้นขึ้นมา ซึ่งเราอาจเรียกพวกเขาเหล่านั้นได้ว่า Start-up ยุคบุกเบิกของหน้าประวัติศาสตร์ สอดแทรกไปด้วยเรื่องราวและแนวคิดของ icon ในแต่ละยุคสมัยอย่าง ขงจื้อ หรือแม้กระทั่ง อดัม สมิธ
> ชีวิตดั่งนิยายของพระเจ้าตากสิน จากลูกชาวจีนพ้นทะเล ถึงจุดสูงสุดของสยามประเทศ ทั้งโลดโผนและมีสีสัน สิ่งใดทีผลักดันให้ท่านก้าวมาถึงจุดนี้
> มหาบุรุษจากตังเสียนามว่าโลซก หากขงเบ้งคือยอดกุนซือแห่งยุคผู้นำพาคนที่ไม่มีอะไรอย่างเล่าปี่ไปสู่จุดสูงสุดได้ แต่หากปราศจากโลซก เรื่องราวที่สนุกสนานเต็มไปด้วยการชิงไหงชิงพริบอย่างสามก๊กก็ไม่อาจจะเกิดขึ้น
> จุดเริ่มต้นของศิลปวิทยาการทั้งปวงมักมีจุดกำเนิดมาจากมหาวิทยาลัยอันเก่าแก่ชื่อดังนาๆในยุโรป แต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงทั้งโลกไปตลอดกาลกลับไม่มีชื่อมหาวิทยาลัยเหล่านี้เป็นส่วนร่วมเลย เพราะอะไร
> จากเจมส์ วัตต์ สู่ จอร์จ สตีเฟนสัน พวกเขาคือใคร มีส่วนอย่างไรต่อการพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์โลก อันสะเทือนถึงความเป็นความตายของสยามประเทศ
ด้วยลีลาการเขียนและการใช้ภาษาที่สวยงามแต่เรียบง่าย แฝงไปด้วยความคมคายที่ทำให้หลายๆประโยคผมต้องมานั่งอ่านซ้ำเพื่อตีความให้ลึกขึ้น เนื้อหากระชับไม่ยืดยาวเป็นหนังไทยยุคเก่า เหมาะมากหากชอบอ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์เป็นทุนเดิม การเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆน่าสนใจมาก เรื่องราวที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยจริงๆในหนังสือเล่มนี้ ยังมีอะไรรอให้ท่านเข้าไปค้นหาอีกเยอะครับ
เล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีมากของผมในรอบหลายปี จับขึ้นมาอ่านปุ๊ปก็ซื้อไปเสพที่บ้านต่อทันใด (และอ่านต่อจนจบได้ ๕๕๕) จะอ่านผ่านๆเพื่อความบันเทิงก็ดี จะอ่านแบบจริงจังเพื่อเข้าใจกับคำว่าจิตวิญญาณของยุคก็ได้ครับลับสมองดีเหมือนกัน ผมเองก็เหมือนมีดทื่อ พอเรียนจบมาทำงานก็ไม่ค่อยจะได้จับหนังสือหนังหามาอ่านลับสมองประดับปัญญากับเขาเท่าไร ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีรับปีใหม่ละกันนะครับทั้งสำหรับผมและท่านอื่นๆด้วย
ท้ายสุดนี้ก็ขอบคุณที่เสียเวลาเข้ามาอ่านนะครับ หากมีโอกาสจะลองเอาเล่มอื่นๆมารีวิวให้อ่านกัน