ลูกชายปอดรั่ว เข้า รพ ขาดสอบ โดน ม.ปลดออกจาก สถานะนักศึกษา อย่างงี้ได้เหรอ

ลูกชายผมเรียนปี 2 มหาลัยหัวเฉียว แล้ว สอบวันที่ 13-16  ธค.60 วันที่13 ลูกชายผมก็ไปสอบตามปกติ แต่เย็นวันนั้น ตอนประมาณ ห้าทุ่ม ลูกชายแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ต้องรีบพาไป รพ จุฬารัตน์ 3  หลังจากเอกซเรย์แล้ว คุณหมอบอกปอดรั่ว ไปข้างหนึ่ง ต้องรีบเจาะเอาลมออก คืนนั้นตีสามหมอก็ ทำการเจาะ แล้วต่อสายยาง ใช้เครื่องดูลม ออกจากปอด พอตอนเช้า ซึ่งเป็นวันสอบ วันที่สอง ลูกชายก็ไลน์ หาเพื่อน หาอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ประจำวิชา  ซึ่งอาจารย์ก็บอกไม่เป็นไร ออก รพ ค่อยมาทำการ ขอสอบย้อนหลังได้ และลูกชายก็นอนรักษา อยู่ รพ จนถึง วันที่21 ธค. หมอบอกลมออกยังไม่หมด จะให้นอน รพ ต่ออีกสองสามวัน  ทางผมมองว่า ตั้งเจ็ดวันแล้ว ลมยังออกไม่ไหมดอีก เลยขอย้าย รพ กลับไปหาหมอเฉพาะทาง ที่โคราช ตามคำแนะนำของเพื่อน อีกสองวัน อาการดีขึ้น เลยกลับมาบ้าน ที่สมุทรปราการ วันที่ 24 พอวันที่ 25 ซึ่งเป็นวันจันทร์ เลยพาลูกชาย ไปติดต่อ ที่มหาลัยพร้อมใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จในการรักษา  เพื่อขอสอบย้อนหลัง ตามคำแนะนำของซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ประจำวิชา อาจารย์หัวหน้าสาย  ทุกคนก็โอเคร บอกให้รอหัวหน้าคณะเซ็นต์ ไปนั่งรอ อยู่ประมาณสามชั่วโมง อาจารย์ที่ปรึกษาเลยโทรตามให้บอกกำลังกินข้าว(พานักศึกษาสาวสองคนไปกินข้าวข้างนอก) พอกลับมาถึง จะให้เซ็นต์ อาจารย์หัวหน้าคณะ เซ็นต์กลับไม่ยอมเซ็นต์ บอกถอดสถานะออกจาก นศษ ไปแล้ว แถมบอกว่าถ้าหายไปเป็นปี แล้วค่อยกลับมาขอสอบล่ะทำไง ทางเราก็บอกว่าไม่ได้หายไป ลูกป่วยอยู่ รพ  ใบเสร็จค่ารักษา ใบรับรองแพทย์ ก็เอามาด้วย ถามอาจารย์ที่ปรึกษาแล้วเขาบอกว่าได้ เขาตอบว่า อาจารย์ไม่รู้ระเบียบ เราก็งง แล้วถามเรา  ถ้าให้สอบ คุณมั่นใจเหรอว่าลูกคุณ จะสอบผ่าน เพราะถ้าสอบใหม่ ข้อสอบต้องยากกว่าเก่า  ซึ่งทางเราก็บอกไม่เป็นไร ขอโอกาสแค่ให้เด็กได้สอบ เพราะที่หายไปก็ป่วยอยู่ รพ ไม่ได้เกเร ไปไหน  
     อาจารย์ที่ปรึกษาเลยจะพาไปหาอธิการ  หน.คณะ ก็บอกไม่ต้องไปหรอก โทรคุยแล้วอธิการไม่ให้(แล้วโทรคุยตอนไหน)  พอจะไปหา ก็บอกไม่ต้องไป อธิการไม่เข้า เหมือนกันท่าทุกทาง เหมือนกลัวจะเข้าไปหาอธิการ ไม่รู้จะทำไง เลยกลับบ้าน มาทำหนังสือขอความเป็นธรรม ถึงอธิการ ให้ลูกชายไปส่งวันที่ 28 ธค  ก็โดนกันท่า ไม่ให้ส่งอีก บอกอธิการไม่เข้า (แค่รับหนังสือ)ให้มาหลังปีใหม่
    เป็นถึง รศ.ดร.ก็น่าจะมีจิตรสำนึก ของความเป็นครู น่าจะให้โอกาสเด็กบ้าง  นะครับ
                                                ขอบคุณ..ทุกท่าน ที่เข้ามาอ่าน มีไรแนะนำได้นะครับ
  
          ปล.ลูกชายเรียนอยู่ ปี 2 ไม่ใช่เด็กเกเร  หรือกร้าวร้าวอะไร ป่วยจริง ใบเสร็จ ใบรับรองแพทย์ รูปถ่าย ก็มี