ใครก็ตามที่ถือพาสปอร์ตสัญชาติไทยและเคยเข้าไปเที่ยวในประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะคนที่เข้าจากทางด่านปอยเปตน่าจะเคยถูกเรียกเก็บเงิน 100 บาททั้งขาเข้าและขาออก หรือเรียก 200 บาท แค่ขาใดขาหนึ่ง หรืออื่น ๆ
เมื่อก่อน ผมก็เคยจ่าย แต่พอได้มีโอกาสไปอีกก็เริ่มเอะใจ ก็เลยลองค้นหาข้อมูลดูบวกกับถามคนท้องที่ แล้วก็ไปลองเอง
ในที่นี้ผมจะไม่พูดถึงพวกเรียกเงิน 20 บาทช่วยเขียน Arrival/Departure card นะครับ เพราะเขียนเองตลอด
แล้วเดี๋ยวจะมาสอนวิธีการกรอกใบ ตม. ของกัมพูชาให้ใน Comment ทีหลังนะครับ
มาตรงที่เข้าแถวปั้ม Passport เลย ตามปกติ ถ้าจ่าย 100 ขั้นตอนคือ
1.ยื่น Passport
2.เจ้าหน้าที่กัมพูชาดู และอาจให้เรียกสแกนนิ้ว 4 นิ้วบ้าง 5 นิ้วบ้าง แล้วแต่ บางทีก็ไม่ต้องสแกน
3.จนท.จะชูนิ้ว 1 นิ้ว หรือ ชูแบ็งค์ 100 ขึ้นมา
4.ยอมจ่ายเพราะความไม่รู้
5.จนท.ปั้มให้ ไม่ถามอะไรสักคำ ใบที่กรอกถ้ากรอกเองแล้วผิดเขาจะแก้ให้เลย
ทีนี้พอไม่ยอมจ่าย จนท. ตม. ของกัมพูชาก็จะมีลูกตื้อต่าง ๆ ขอแยกเป็นทีละ Level
Level 1 : ถามคำถาม
พวกนี้ง่ายสุด พอ จนท. โชว์แบ็งค์ 100 บาทไทยขึ้นมา เราก็แค่ส่ายหัว หรือจะพูดว่า “ไม่จ่าย ๆ“ “อ็อดเมียนลูยยย“ “No!. Why do I have to pay ??" ฯลฯ ตามแต่สกิลภาษาของแต่ละคน จนท. ก็จะทำหน้าเซ็ง ๆ ประมาณ 5 วิ แล้วก็เริ่มถามคำถาม เช่น
- จะไปที่ไหน
- ไปกี่วัน (+ ทำไมไปเยอะจัง/ทำไมไปแค่นี้ วันเดียวเที่ยวพอหรออออ ฯลฯ)
- ไปทำอะไร
- ไปกี่คน
คำถามทั้งหมดจะถามเป็นภาษาไทย จนท. ตม.กัมพูชาที่ปอยเปตพูดไทยได้ดีมาก ๆ แทบทุกคน เราก็แค่ตอบไปตามความจริง สุดท้ายเขาก็จะคืน passport ให้
จริง ๆ Level 1 นี่ไม่ควรเป็น Level เพราะมันเป็นหน้าที่ปกติของ จนท. ตรวจคนเข้าเมือง ที่จะต้องถามอยู่แล้ว แต่เราดันไปจ่ายกันจนเรื่องปกติกลายเป็นไม่ปกติ ส่วนเรื่องไม่ปกติ กลับกลายเป็นปกติ
Level 2 : ลดราคาให้ (!!!?)
อันนี้คือ พอเราไม่ยอมจ่าย จนท. ตม. ก็จะทำหน้าแบบว่าขอความเห็นใจ (หื้มมม!!!?) แล้วบอก ขอ 20, 40 บาท แล้วแต่ หรือถ้าตอบไปว่ามากันหลายคนตั้งแต่ทีแรก เขาก็อาจจะขอ 4 คน 200 บาท (เจอมาจริง ๆ "4 คน ซองรอยดายมาย ชวยนอยยย นาาา" )
เราก็ยืนยันเหมือนเดิม ไม่จ่าย ส่ายหัว ๆ จนท. ก็จะคืนพาสปอร์ตให้
Level 3 : Do you speak English?
อันนี้จะคล้าย Level 1 คำถามคล้าย ๆ กัน เพิ่มเติมคือ อยู่ ๆ จนท. ตม. กัมพูชาก็จะลืมภาษาไทยไปซะอย่างงั้น และพูดอังกฤษกับเราแทน เราก็ตอบไป พูดอังกฤษได้ก็พูด พูดไม่ได้ หรือขี้เกียจนึกก็ไม่ต้องพูด รัวภาษาไทยไปเลย 99 % จนท.ฟังไทยรู้เรื่อง
เพิ่มเติม:
- ถ้าเราฟังภาษาอังกฤษสำเนียงกัมพูชา (ซึ่งฟังง่ายกว่าอินเดียนิดเดียว) ไม่รู้เรื่อง เอ๋อ ๆ ใส่ไป ก็อาจโดน จนท.ค่อนแคะกลับมา ว่าเนี่ย พูดอังกฤษเป็นม้ย ฟังรู้เรื่องป่าววว ซึ่งก็ไม่ต้องไปโกรธ นิ่งเข้าไว้
- ถ้าไม่อยากเสี่ยงด่านนี้ หากไปกันหลายคน ให้เอาคนใจกล้า ปากไว พูดอังกฤษ (และ/หรือเขมร) ได้ดี เข้าแถวนำหน้าเป็นคนแรก คนอื่นให้ต่อแถวอยู่ช่องเดียวกันอย่าแยกช่องเด็ดขาด ถึงเวลาตอนคนแรกไม่จ่าย ตม. จะถามว่ามากี่คน ก็บอกจำนวน แล้วชี้ให้ดูข้างหลังเราเลยว่า เนี่ย ๆ มาด้วยกัน พอคนแรกผ่าน คนหลังก็จะผ่านได้ทั้งหมด โดยไม่โดนเรียกเก็บ 100 บาท และไม่โดนถามอะไรเลยด้วย
Level 4 : เขียนผิด เขียนไม่ครบ เขียนใหม่
ใบ Arrival/Departure card ของกัมพูชาจะมีคำถามเยอะแยะ บางคำถามก็งง ๆ ปกติเราก็จะเว้น ๆ ไว้ (เท่าที่แอบเหล่พวกรับจ้างเขียน ก็เว้นหลายช่องเหมือนกัน)
ช่องว่าง ๆ พวกนี้ ถ้าเรายอมจ่ายไป 100 บาท ดี ๆ จนท. จะกรอกเพิ่มให้เอง แต่พอเราไม่ยอมจ่าย เขาก็จะให้เราเขียนเอง ตรงนี้ เดี๋ยวผมจะลงตัวอย่างการกรอกใบ ตม. แบบผ่านแน่นอน เอาไว้ใน comment นะครับ
ด่านนี้ จะมีกับดัก 1 จุด ตรงบัตรด้าน Departure ที่จะแม็กติดกับ Passport ไว้ใช้ขากลับ
จะมีช่องหนึ่ง เขียนว่า “For Cambodian only" และจะพูดแบบมึน ๆ ว่าให้กรอกทุกช่อง วงช่องนี้มาด้วย ย้ำ ไม่ต้องไปกรอกช่องนี้ ไม่งั้นอาจมีกรอกผิด เขียนใบใหม่วุ่นวายต่าง ๆ
สรุป 100 บาท (เข้า1 ออก1 เป็น 200 บาท) คืออะไร
- คือค่าปิดปาก ตม. ให้ไม่ต้องถามคำถามที่เขาต้องถาม
- คือค่าแก้ใบ Arrival/Departure ให้ ถ้าเราเขียนผิด
- คือเงินที่เข้ากระเป๋า จนท. ตม.กัมพูชาเอง ไม่ได้กลายไปเป็นงบประมาณที่ถูกต้องเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวกัมพูชาแต่อย่างใด
เพิ่มเติม :
- จากที่สอบถามคนในพื้นที่ บอกว่า ปกติ ถ้าเป็นคนท้องถิ่น ที่ไปมาบ่อย ๆ ที่เข้าไปในส่วนอื่นของกัมพูชา ไม่ได้ไปแค่บ่อนในปอยเปต มีstampของฝั่งกัมพูชาเยอะ ๆ เจ้าหน้าที่จะไม่ค่อยเรียกเก็บ จะชอบเรียกนักท่องเที่ยว ที่ passport ไม่เคยมีstampของกัมพูชามาก่อน
- คนในพื้นที่ยังบอกอีกว่า คนไทยยังดี เก็บแค่ 100 ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น บางทีโดนกัน 300 - -"
แม้กัมพูชา จะไม่ใช่ประเทศเรา แต่ก็เป็นประเทศในภูมิภาคอาเซียนเหมือนกัน ปัญหาสังคมในประเทศหนึ่ง ย่อมส่งผลกระทบไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมกับเรา เราอย่าไปสร้างปัญหาสังคมให้ชาวกัมพูชาเพิ่ม ด้วยการไปทำให้เจ้าหน้าที่นิสัยเสีย เรียกสินบนกันจนเคยตัว จากความไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม ไม่กล้าสงสัย ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นของเราเลย
เงิน 200 บาท อาจจะไม่ใช่เงินที่มากสำหรับใครหลาย ๆ คน ณ ที่นี้ มันน่าจะเป็นการดีกว่า ถ้าให้เงินนี้
กลายไปเป็นเงินซื้อสินค้าและบริการ จากประชาชนกัมพูชาที่ทำมาหากินอย่างสุจริต แทนที่จะเสียให้กับการทุจริตที่น่าเกลียดแบบนี้
เลิกจ่ายเงิน 100 บาทให้ ตม. กัมพูชากันเถอะครับ จริง ๆ แล้วคนไทยไม่จำเป็นต้องจ่าย
เมื่อก่อน ผมก็เคยจ่าย แต่พอได้มีโอกาสไปอีกก็เริ่มเอะใจ ก็เลยลองค้นหาข้อมูลดูบวกกับถามคนท้องที่ แล้วก็ไปลองเอง
ในที่นี้ผมจะไม่พูดถึงพวกเรียกเงิน 20 บาทช่วยเขียน Arrival/Departure card นะครับ เพราะเขียนเองตลอด
แล้วเดี๋ยวจะมาสอนวิธีการกรอกใบ ตม. ของกัมพูชาให้ใน Comment ทีหลังนะครับ
มาตรงที่เข้าแถวปั้ม Passport เลย ตามปกติ ถ้าจ่าย 100 ขั้นตอนคือ
1.ยื่น Passport
2.เจ้าหน้าที่กัมพูชาดู และอาจให้เรียกสแกนนิ้ว 4 นิ้วบ้าง 5 นิ้วบ้าง แล้วแต่ บางทีก็ไม่ต้องสแกน
3.จนท.จะชูนิ้ว 1 นิ้ว หรือ ชูแบ็งค์ 100 ขึ้นมา
4.ยอมจ่ายเพราะความไม่รู้
5.จนท.ปั้มให้ ไม่ถามอะไรสักคำ ใบที่กรอกถ้ากรอกเองแล้วผิดเขาจะแก้ให้เลย
ทีนี้พอไม่ยอมจ่าย จนท. ตม. ของกัมพูชาก็จะมีลูกตื้อต่าง ๆ ขอแยกเป็นทีละ Level
Level 1 : ถามคำถาม
พวกนี้ง่ายสุด พอ จนท. โชว์แบ็งค์ 100 บาทไทยขึ้นมา เราก็แค่ส่ายหัว หรือจะพูดว่า “ไม่จ่าย ๆ“ “อ็อดเมียนลูยยย“ “No!. Why do I have to pay ??" ฯลฯ ตามแต่สกิลภาษาของแต่ละคน จนท. ก็จะทำหน้าเซ็ง ๆ ประมาณ 5 วิ แล้วก็เริ่มถามคำถาม เช่น
- จะไปที่ไหน
- ไปกี่วัน (+ ทำไมไปเยอะจัง/ทำไมไปแค่นี้ วันเดียวเที่ยวพอหรออออ ฯลฯ)
- ไปทำอะไร
- ไปกี่คน
คำถามทั้งหมดจะถามเป็นภาษาไทย จนท. ตม.กัมพูชาที่ปอยเปตพูดไทยได้ดีมาก ๆ แทบทุกคน เราก็แค่ตอบไปตามความจริง สุดท้ายเขาก็จะคืน passport ให้
จริง ๆ Level 1 นี่ไม่ควรเป็น Level เพราะมันเป็นหน้าที่ปกติของ จนท. ตรวจคนเข้าเมือง ที่จะต้องถามอยู่แล้ว แต่เราดันไปจ่ายกันจนเรื่องปกติกลายเป็นไม่ปกติ ส่วนเรื่องไม่ปกติ กลับกลายเป็นปกติ
Level 2 : ลดราคาให้ (!!!?)
อันนี้คือ พอเราไม่ยอมจ่าย จนท. ตม. ก็จะทำหน้าแบบว่าขอความเห็นใจ (หื้มมม!!!?) แล้วบอก ขอ 20, 40 บาท แล้วแต่ หรือถ้าตอบไปว่ามากันหลายคนตั้งแต่ทีแรก เขาก็อาจจะขอ 4 คน 200 บาท (เจอมาจริง ๆ "4 คน ซองรอยดายมาย ชวยนอยยย นาาา" )
เราก็ยืนยันเหมือนเดิม ไม่จ่าย ส่ายหัว ๆ จนท. ก็จะคืนพาสปอร์ตให้
Level 3 : Do you speak English?
อันนี้จะคล้าย Level 1 คำถามคล้าย ๆ กัน เพิ่มเติมคือ อยู่ ๆ จนท. ตม. กัมพูชาก็จะลืมภาษาไทยไปซะอย่างงั้น และพูดอังกฤษกับเราแทน เราก็ตอบไป พูดอังกฤษได้ก็พูด พูดไม่ได้ หรือขี้เกียจนึกก็ไม่ต้องพูด รัวภาษาไทยไปเลย 99 % จนท.ฟังไทยรู้เรื่อง
เพิ่มเติม:
- ถ้าเราฟังภาษาอังกฤษสำเนียงกัมพูชา (ซึ่งฟังง่ายกว่าอินเดียนิดเดียว) ไม่รู้เรื่อง เอ๋อ ๆ ใส่ไป ก็อาจโดน จนท.ค่อนแคะกลับมา ว่าเนี่ย พูดอังกฤษเป็นม้ย ฟังรู้เรื่องป่าววว ซึ่งก็ไม่ต้องไปโกรธ นิ่งเข้าไว้
- ถ้าไม่อยากเสี่ยงด่านนี้ หากไปกันหลายคน ให้เอาคนใจกล้า ปากไว พูดอังกฤษ (และ/หรือเขมร) ได้ดี เข้าแถวนำหน้าเป็นคนแรก คนอื่นให้ต่อแถวอยู่ช่องเดียวกันอย่าแยกช่องเด็ดขาด ถึงเวลาตอนคนแรกไม่จ่าย ตม. จะถามว่ามากี่คน ก็บอกจำนวน แล้วชี้ให้ดูข้างหลังเราเลยว่า เนี่ย ๆ มาด้วยกัน พอคนแรกผ่าน คนหลังก็จะผ่านได้ทั้งหมด โดยไม่โดนเรียกเก็บ 100 บาท และไม่โดนถามอะไรเลยด้วย
Level 4 : เขียนผิด เขียนไม่ครบ เขียนใหม่
ใบ Arrival/Departure card ของกัมพูชาจะมีคำถามเยอะแยะ บางคำถามก็งง ๆ ปกติเราก็จะเว้น ๆ ไว้ (เท่าที่แอบเหล่พวกรับจ้างเขียน ก็เว้นหลายช่องเหมือนกัน)
ช่องว่าง ๆ พวกนี้ ถ้าเรายอมจ่ายไป 100 บาท ดี ๆ จนท. จะกรอกเพิ่มให้เอง แต่พอเราไม่ยอมจ่าย เขาก็จะให้เราเขียนเอง ตรงนี้ เดี๋ยวผมจะลงตัวอย่างการกรอกใบ ตม. แบบผ่านแน่นอน เอาไว้ใน comment นะครับ
ด่านนี้ จะมีกับดัก 1 จุด ตรงบัตรด้าน Departure ที่จะแม็กติดกับ Passport ไว้ใช้ขากลับ
จะมีช่องหนึ่ง เขียนว่า “For Cambodian only" และจะพูดแบบมึน ๆ ว่าให้กรอกทุกช่อง วงช่องนี้มาด้วย ย้ำ ไม่ต้องไปกรอกช่องนี้ ไม่งั้นอาจมีกรอกผิด เขียนใบใหม่วุ่นวายต่าง ๆ
สรุป 100 บาท (เข้า1 ออก1 เป็น 200 บาท) คืออะไร
- คือค่าปิดปาก ตม. ให้ไม่ต้องถามคำถามที่เขาต้องถาม
- คือค่าแก้ใบ Arrival/Departure ให้ ถ้าเราเขียนผิด
- คือเงินที่เข้ากระเป๋า จนท. ตม.กัมพูชาเอง ไม่ได้กลายไปเป็นงบประมาณที่ถูกต้องเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวกัมพูชาแต่อย่างใด
เพิ่มเติม :
- จากที่สอบถามคนในพื้นที่ บอกว่า ปกติ ถ้าเป็นคนท้องถิ่น ที่ไปมาบ่อย ๆ ที่เข้าไปในส่วนอื่นของกัมพูชา ไม่ได้ไปแค่บ่อนในปอยเปต มีstampของฝั่งกัมพูชาเยอะ ๆ เจ้าหน้าที่จะไม่ค่อยเรียกเก็บ จะชอบเรียกนักท่องเที่ยว ที่ passport ไม่เคยมีstampของกัมพูชามาก่อน
- คนในพื้นที่ยังบอกอีกว่า คนไทยยังดี เก็บแค่ 100 ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น บางทีโดนกัน 300 - -"
แม้กัมพูชา จะไม่ใช่ประเทศเรา แต่ก็เป็นประเทศในภูมิภาคอาเซียนเหมือนกัน ปัญหาสังคมในประเทศหนึ่ง ย่อมส่งผลกระทบไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมกับเรา เราอย่าไปสร้างปัญหาสังคมให้ชาวกัมพูชาเพิ่ม ด้วยการไปทำให้เจ้าหน้าที่นิสัยเสีย เรียกสินบนกันจนเคยตัว จากความไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม ไม่กล้าสงสัย ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นของเราเลย
เงิน 200 บาท อาจจะไม่ใช่เงินที่มากสำหรับใครหลาย ๆ คน ณ ที่นี้ มันน่าจะเป็นการดีกว่า ถ้าให้เงินนี้
กลายไปเป็นเงินซื้อสินค้าและบริการ จากประชาชนกัมพูชาที่ทำมาหากินอย่างสุจริต แทนที่จะเสียให้กับการทุจริตที่น่าเกลียดแบบนี้