เรื่องน่ารู้ก่อนซื้อทีวีใหม่ 2.0

เนื่องจากคราวก่อนผมเห็นว่ากระทู้เรื่องแนะนำเทคโนโลยีจอภาพที่ผมตั้งไว้เมื่อประมาณ 1 ปีก่อนมีคนสนใจเยอะ ผมเลยอยากจะเอาความรู้เรื่องนี้มาเผยแพร่กันต่อ แต่ในคราวนี้ ผมคงไม่เขียนเรื่องเดิมหรอก เพราะอาจจะเบื่อกัน ใครที่ยังไม่ได้อ่านก็ลองเข้าไปดูกันก่อนได้ครับ  https://pantip.com/topic/35881090 สงสัยอะไรถามกันได้ แต่แนะนำรุ่นทีวีไม่ได้นะ เพราะมันมีกันหลายรุ่นมาก และชื่อก็จำยากด้วย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขออภัยที่ตอนนั้นไม่ค่อยได้ตอบเพราะไม่ค่อยได้เข้ามาดู แต่ตอนนี้เข้ามาบ่อยขึ้นแล้วนะ

หลังจากกระทู้นั้น เพื่อนๆหลายคนอาจจะได้ทีวีใหม่กันเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าแค่ตั้งไว้แค่ดูทีวีกับยูทู้บเฉยๆก็คงจะน่าเบื่อแย่ อย่ากระนั้นเลย เอามันมาต่อกับคอมดีกว่า แต่เอ… ทีวีก็มีช่องต่อเยอะแยะ คอมก็เยอะเหมือนกัน รู้ไหมครับว่าเราควรใช้สายแบบไหนต่อคอมเข้ากับทีวี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความละเอียดของจอที่ต้องการจะเอาขึ้นทีวี และช่องต่อที่ทั้งสองตัวมีอยู่ด้วย

โดยส่วนใหญ่ จอทีวีรุ่นใหม่ๆที่เป็น LCD จะมีช่องต่อ HDMI อยู่แล้ว ซึ่งโน้ตบุ๊ครวมถึงคอม desktop รุ่นหลังๆที่ออกมาสำหรับผู้ใช้ทั่วไปก็จะมีกันทั้งนั้น ซึ่งหลายๆคนก็จะคุ้นหน้ามันดีอยู่แล้ว
ภาพหัวต่อและช่องต่อ HDMI --> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ไม่ใช่ว่าสายและช่องต่อ HDMI ทุกอันจะเหมือนกัน เพราะว่าในเวลา 10 ปีที่ผ่านมานี้ก็มีรุ่นของ HDMI ออกมาตั้ง 4 รุ่น แต่ก็ใช้ช่องต่อหน้าตาเหมือนกันเพื่อรองรับอุปกรณ์ที่ใช้รุ่นก่อนหน้า จึงอาจทำให้ผู้ใช้สับสนได้ ซึ่งมีเพียงวิธีเดียวที่เราจะรู้ได้ก็คือ มองดูที่สเปคของ HDMI ที่กล่องของมัน ซึ่งส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้จะใช้ HDMI 1.4 บนทีวีแบบ 1080p หรือ Full HD และ HDMI 2.0 บนทีวีแบบ UHD หรือ 4K ขึ้นไป

ส่วน DisplayPort หรือ DP ก็คล้ายๆกับ HDMI แต่ว่าข้อแตกต่างของมันก็คือ มันสามารถทำ daisy chain ได้ คือการต่อสาย dp ออกจากจอไปยังจออื่นๆได้เลย ซึ่งส่วนใหญ่เราจะพบช่องต่อประเภทนี้บนคอมพิวเตอร์สำหรับทำงาน เช่น workstation laptop และ graphic card ที่มีพลังประมวลผลสูง ซึ่งทีวีโดยส่วนใหญ่จะไม่มีช่องนี้ แต่จอมอนิเตอร์ระดับสูงส่วนใหญ่จะรองรับ ซึ่งจริงๆแล้ว เราสามารถแปลง DP ไปเป็น HDMI ได้โดยใช้หัวแปลงหรือสาย DP to HDMI ได้เลย ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ก็มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยเป็นต้นไป
ภาพช่องต่อ DisplayPort --> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เนื่องจากที่บ้านผมไม่ได้ใช้ DP เลยไม่มีภาพหัวต่อ DP มาให้ดู แต่สามารถหาได้จากอินเตอร์เน็ต

ความแตกต่างระหว่าง HDMI และ DP รุ่นปัจจุบัน
ปัจจุบัน HDMI รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นเวอร์ชั่น 2.1 ซึ่งรองรับความละเอียด 8K120p หรือ 7680 x 4320 ที่ความถี่ 120 เฟรมต่อวินาที รีเฟรชแบบ progressive คือรีเฟรชทั้งภาพ อย่างไรก็ตาม HDMI รุ่นนี้ยังไม่แพร่หลาย เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก และต้องการสายเส้นใหม่สำหรับใช้งาน แต่ข้อดีที่ต่างจาก DP ก็คือมันรองรับเทคโนโลยี HDMI-CEC (HDMI Consumer Electronic Control) หรือก็คือมันส่งผ่านรีโมทอินพุตจากทีวีไปเครื่องเล่นต่างๆได้

ส่วน DP รุ่นใหม่ล่าสุด ณ เวลาที่ผมเขียนก็คือ DP 1.4 ซึ่งรองรับความละเอียด 8K60p หรือ 4K120p ซึ่งก็ใกล้เคียงกับสเปคของ HDMI แต่ด้วยความที่มันเป็น interface ที่ออกแบบมาสำหรับคอมพิวเตอร์ จึงรองรับเพียงภาพและเสียง

นอกจากนั้น หากโน้ตบุ๊คของเพื่อนๆเป็นรุ่นที่ใหม่มาก มีแต่ USB type C หรือ Thunderbolt 3 จะต่อทีวียังไง ง่ายๆเลยครับ ยินดีต้อนรับสู่ #dongleLife เพราะคุณจะต้องไปซื้ออะแดปเตอร์มาแปลง ซึ่งก็มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยขึ้นไป แต่รู้ไหมครับว่า USB C ที่แปลงไปต่อ HDMI เข้าทีวี จริงๆแล้วมันใช้เทคโนโลยีของ DisplayPort ในการส่งภาพและเสียงขึ้นไป
ภาพตัวแปลง USB-C to HDMI --> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เท่าที่ผมใช้มา การต่อจอคอมเข้ากับทีวีเพื่อความบันเทิงก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร  แต่ถ้าอยากจะเล่นเกมบนทีวีก็ต้องดูที่ latency ของจอด้วย เพราะยิ่งค่า latency ของจอสูง ภาพก็จะดีเลย์มาก ถ้าหากเล่นบนเครื่องโน้ตบุ๊คแล้วต่อขึ้นทีวีให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆดูด้วยก็ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าต่อจากเครื่อง tower หรือ mini pc ขึ้น แล้วเล่นจากจอใหญ่ ก็แนะนำให้ดู latency ของตัวทีวีก่อน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ทีวีจะมี latency สูงกว่าจอมอนิเตอร์

สุดท้าย ถ้าจะซื้อทีวีมาต่อคอมเป็นหลัก ให้ดูที่ latency ถ้า latency ยิ่งต่ำก็ยิ่งดี แต่ถ้าหากต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว ผมแนะนำให้ซื้อจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีพอร์ท HDMI ติดมาด้วยหลายๆอันจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะถึงอยากจะดูทีวีก็ยังสามารถเอากล่อง set-top box มาต่อได้อยู่แล้ว