ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้ารถ ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟถอย หรือไฟเบรค ทั้งๆที่รถยนต์ในยุคแรกๆก็ไม่มีการใช้ไฟเหล่านี้ มีแค่เพียงไฟหน้าสำหรับส่องทางตอนกลางคืนเท่านั้น แต่ไฟอื่นๆนั้นมาจากไหน แล้วทำไมถึงต้องเป็นสีนั้นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Mercedes Benz Patent-Motorwagen รถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันแรกของโลก
อันที่จริงก็ง่ายๆ ที่ใช้สีที่ต่างกันสำหรับไฟที่ทำหน้าที่แต่ละอย่าง ก็เพื่อใช้เป็นสัญญาณสำหรับบอกรถคันอื่นๆว่าเราจะทำอะไร ซึ่งก็ถือว่าเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ไม่มีที่ไหนสามารถใช้สัญญาณไฟรถยนต์ที่ต่างจากนี้ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่แค่เพราะว่ากฎหมายที่ใดที่หนึ่งกำหนดขึ้นมาเฉยๆ แต่มันถูกกำหนดขึ้นเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในการใช้สัญญาณไฟ ซึ่งถูกระบุไว้ครั้งแรกในอนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยการจราจรทางถนน และต่อมา ถูกกำหนดไว้ในอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการจราจรทางถนน
แต่ถ้ายังไม่เข้าใจอีกว่าทำไมแค่เรื่องนี้ถึงจะต้องกำหนดด้วย ก็ด้วยเหตุผลง่ายๆ เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้สัญญาณไฟ แต่ทำไมถึงต้องเป็นสีนั้นๆด้วยล่ะ
อันดับแรก ไฟหน้าสีขาว make sense เนอะ เพราะว่าสีขาวมันทำให้เราเห็นอะไรได้ชัดเจนในความมืด
แต่ ทำไมต้องเป็นสีขาวนวล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก็เพื่อไม่ให้มันไปรบกวนผู้ใช้ถนนคนอื่นไง มันเป็นเหตุผลว่าทำไมไฟหน้ารถรุ่นเก่าๆถึงเป็นแถบแนวนอนลายๆ แล้วต่อมาก็เป็นกระจกสะท้อนแสง และ matrix light แบบใน Audi A8 รุ่นใหม่
ลองนึกภาพถ้าตัวเองขับรถอยู่ แล้วรถข้างหลังยิงแสงไฟสว่างมากๆเข้ามาในรถ แล้วกระจกมองหลังก็สะท้อนไฟนั่นเข้าตา คงจะไม่ดีแน่ๆถ้าเกิดอะไรแบบนั้นขึ้น เพราะนอกจากจะทำให้เกิดภาพติดตาแล้วยังทำให้ตาล้าอีก ซึ่งอันตรายมากๆหากเกิดขึ้นขณะขับรถ
ต่อไป ไฟท้าย ทำไมถึงสีแดง อันนี้จริงๆแล้วถ้ารถคันแรกที่มีไฟท้ายใช้ไฟสีเขียว เขาจะกำหนดให้ไฟสีเขียวเป็นไฟท้ายมาตรฐานไหม?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก็อาจจะ เพราะต้นกำเนิดของไฟสีแดงท้ายรถนั้น อ้างอิงจากแหล่งข้อมูล เพราะว่าในช่วงนั้นมีการใช้ไฟสีแดงบนตัวรถไฟอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องคิดหาสีอื่นมา ด้วยเหตุผลที่ว่า ไฟสีแดงบนรถไฟนั้นติดไว้เพื่อให้ผู้คนระวังไม่ให้เข้าใกล้รถไฟ เพื่อความปลอดภัย หรือในอีกนัยหนึ่ง คือให้หยุดนั่นเอง source: https://jalopnik.com/why-are-car-taillights-red-1696538884
แล้วไฟเลียวล่ะ? ก็คล้ายๆกับไฟท้ายนั่นแหละ อันที่จริงก่อนที่ไฟเลี้ยวจะเป็นสีเหลืองอำพัน
หรือที่ผมชอบเรียกด้วยความขี้เกียจว่าสีส้ม ก่อนหน้านี้ ไม่มีการใช้ไฟเลี้ยว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันที่จริง ก่อนหน้านั้นก็มีการใช้สัญญาณสำหรับเลี้ยวเหมือนกัน แต่ใช้เป็นการกระพริบไฟหน้าและไฟท้ายของฝั่งที่จะเลี้ยวแทน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งผมคาดว่าอาจเป็นเพราะความสับสน จึงทำให้ผู้ผลิตบางรายเริ่มนำไฟสีเหลือง(อำพัน)เข้ามาใช้ จนกลายเป็นที่แพร่หลายและกลายเป็นมาตรฐานจนถึงทุกวันนี้
ไฟถอย จริงๆอันนี้ก็คล้ายๆกับไฟหน้านะ ถึงแหล่งข้อมูลของผมจะไม่ได้บอกว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แต่ส่วนหนึ่งก็คือ มันช่วยส่องสว่างในที่มืดเวลาถอยรถ ไม่ให้ไปชนนู่นชนนี่ได้
โบนัสคอนเทนท์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เคยสังเกตุบนหัวรถใหญ่ๆไหมครับ คือตรงนี้ค่อนข้างจะต่างกันในแต่ละประเทศ บางประเทศ อย่างอเมริกา ก็จะใช้เป็นรหัสมอสสีส้ม เขียนว่า ese
อันนี้คิดเอง 55555 ส่วนประเทศไทยก็จะเป็นไฟสีเขียวบ้าง สีน้ำเงินบ้าง แล้วแต่ประเภท แต่หลักๆเลยคือจะมี 4 ดวง ซึ่งทั้ง 2 แบบนั้น เรียกว่า clearance light มีหน้าที่ที่เหมือนกันก็คือติดเพื่อบอกขนาด(ความสูง)ของรถ ซึ่งตรงนี้อาจจะไม่ได้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกด้วยเหตุผลบางประการ และคงไม่มีผู้ประกอบการคนไหนอยากจะโดนจับเพราะรถบรรทุกของตัวเองไม่ติดไฟตามที่กำหนดหรอกมั๊ง
สุดท้าย ทำไมไฟนีออนใต้ท้องรถ (underglow) ถึงผิดกฎหมาย?

จากแหล่งข้อมูล บอกว่า เนื่องจากไฟจากรถตำรวจและรถฉุกเฉินมีสีแดงและน้ำเงินที่สว่างมาก เพื่อเตือนให้ผู้คนบริเวณโดยรอบรู้ว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น ดังนั้น รถเหล่านี้จึงจำเป็นต้องใช้ไฟที่สว่าง แต่การที่รถทั่วไปติดไฟใต้ท้องรถ ทำให้คนอื่นอาจคิดว่าเป็นรถตำรวจหรือรถฉุกเฉิน จึงไม่ให้ใช้บนถนน แต่สามารถติดได้หากไม่ได้เปิดบนถนนสาธารณะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกฎหมายท้องถิ่นในแต่ละที่
เคยสงสัยไหมครับ ทำไมไฟรถยนต์ถึงเป็นสีเดียวกันทุกคัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันที่จริงก็ง่ายๆ ที่ใช้สีที่ต่างกันสำหรับไฟที่ทำหน้าที่แต่ละอย่าง ก็เพื่อใช้เป็นสัญญาณสำหรับบอกรถคันอื่นๆว่าเราจะทำอะไร ซึ่งก็ถือว่าเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ไม่มีที่ไหนสามารถใช้สัญญาณไฟรถยนต์ที่ต่างจากนี้ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่แค่เพราะว่ากฎหมายที่ใดที่หนึ่งกำหนดขึ้นมาเฉยๆ แต่มันถูกกำหนดขึ้นเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในการใช้สัญญาณไฟ ซึ่งถูกระบุไว้ครั้งแรกในอนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยการจราจรทางถนน และต่อมา ถูกกำหนดไว้ในอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการจราจรทางถนน
แต่ถ้ายังไม่เข้าใจอีกว่าทำไมแค่เรื่องนี้ถึงจะต้องกำหนดด้วย ก็ด้วยเหตุผลง่ายๆ เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้สัญญาณไฟ แต่ทำไมถึงต้องเป็นสีนั้นๆด้วยล่ะ
อันดับแรก ไฟหน้าสีขาว make sense เนอะ เพราะว่าสีขาวมันทำให้เราเห็นอะไรได้ชัดเจนในความมืด แต่ ทำไมต้องเป็นสีขาวนวล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ต่อไป ไฟท้าย ทำไมถึงสีแดง อันนี้จริงๆแล้วถ้ารถคันแรกที่มีไฟท้ายใช้ไฟสีเขียว เขาจะกำหนดให้ไฟสีเขียวเป็นไฟท้ายมาตรฐานไหม?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วไฟเลียวล่ะ? ก็คล้ายๆกับไฟท้ายนั่นแหละ อันที่จริงก่อนที่ไฟเลี้ยวจะเป็นสีเหลืองอำพัน
หรือที่ผมชอบเรียกด้วยความขี้เกียจว่าสีส้มก่อนหน้านี้ ไม่มีการใช้ไฟเลี้ยว[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไฟถอย จริงๆอันนี้ก็คล้ายๆกับไฟหน้านะ ถึงแหล่งข้อมูลของผมจะไม่ได้บอกว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แต่ส่วนหนึ่งก็คือ มันช่วยส่องสว่างในที่มืดเวลาถอยรถ ไม่ให้ไปชนนู่นชนนี่ได้
โบนัสคอนเทนท์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เคยสังเกตุบนหัวรถใหญ่ๆไหมครับ คือตรงนี้ค่อนข้างจะต่างกันในแต่ละประเทศ บางประเทศ อย่างอเมริกา ก็จะใช้เป็นรหัสมอสสีส้ม เขียนว่า ese
อันนี้คิดเอง 55555ส่วนประเทศไทยก็จะเป็นไฟสีเขียวบ้าง สีน้ำเงินบ้าง แล้วแต่ประเภท แต่หลักๆเลยคือจะมี 4 ดวง ซึ่งทั้ง 2 แบบนั้น เรียกว่า clearance light มีหน้าที่ที่เหมือนกันก็คือติดเพื่อบอกขนาด(ความสูง)ของรถ ซึ่งตรงนี้อาจจะไม่ได้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกด้วยเหตุผลบางประการ และคงไม่มีผู้ประกอบการคนไหนอยากจะโดนจับเพราะรถบรรทุกของตัวเองไม่ติดไฟตามที่กำหนดหรอกมั๊งสุดท้าย ทำไมไฟนีออนใต้ท้องรถ (underglow) ถึงผิดกฎหมาย?
จากแหล่งข้อมูล บอกว่า เนื่องจากไฟจากรถตำรวจและรถฉุกเฉินมีสีแดงและน้ำเงินที่สว่างมาก เพื่อเตือนให้ผู้คนบริเวณโดยรอบรู้ว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น ดังนั้น รถเหล่านี้จึงจำเป็นต้องใช้ไฟที่สว่าง แต่การที่รถทั่วไปติดไฟใต้ท้องรถ ทำให้คนอื่นอาจคิดว่าเป็นรถตำรวจหรือรถฉุกเฉิน จึงไม่ให้ใช้บนถนน แต่สามารถติดได้หากไม่ได้เปิดบนถนนสาธารณะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกฎหมายท้องถิ่นในแต่ละที่