กระทู้นี้ผมไม่ขอรีวิวการท่องเที่ยวของผมแบบลึกๆ นะครับเพราะมีให้ดูเยอะแยะพอแล้ว แต่จะมาแนะนำสิ่งต่างๆที่คิดว่ามีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลไปเที่ยวเวียดนามใต้กันนะครับ จากประสบการณ์ที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวเวียดนามใต้ 5 วัน 4 คืน(เที่ยวต่างประเทศครั้งแรกซะด้วย55)ด้วยตัวเองกับเพื่อนอีก 1 คนเลยอยากจะแบ่งปันสิ่งดีๆที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์เกับพื่อนๆนะครับ
แผนการเที่ยวของผมจะแบ่งแบบนี้นะครับ
วันที่ 18 อยู่โฮจิมินท์
วันที่ 19-20-21 อยู่ดาลัท
วันที่ 21-22 อยู่มุยเน่
วันที่ 22 อยู่โฮจิมินท์
1 ซื้อ SIM card 5G(ราคา 105000VND) ก็เพียงพอไม่ต้องซื้อเยอะกว่านี้ถึงแม้ราคา 9G จะไม่ต่างกันมาก(ผมใช้งานหลักๆคือเปิด GPS 5 วันเต็ม+เล่นเกมส์+ดู youtube+Line call+Facebook ยังใช้ไปแค่ประมาณ 3G) แต่ถ้าใครยังกังวลก็จัด 9G ไปเลยราคา 135000VND ยื่นโทรศัพท์มือถือให้พนักงานไปเค้าจะเปลี่ยน SIM ให้เสร็จพร้อมใช้งานได้ทันที
2 ถ้าต้องการเที่ยวให้สนุก GPS สำคัญมากๆ ถึงมากที่สุด (ผมใช้ Google map) ก่อนจะออกเดินทางก็แนะนำให้ปักหมุดบันทึกจุดที่ต้องการจะไปเที่ยวไว้ให้เรียบร้อยตั้งแต่ที่บ้านเลยนะครับเอาแบบทุกที่ๆจะไปตลอดทริปเลยครับ ส่วนใหญ่ landmark สำคัญๆ สามารถค้นหาเจอได้ทั้งหมดใน Google map
3 แบตเตอรี่ Power bank สำคัญมากเช่นกันควรติดไป 2 ก้อน เพราะเราจะต้องเปิดใช้ GPS เกือบทั้งวันบวกกับอากาศที่หนาว(ในดาลัท)ทำให้แบตเตอรี่มือถือจะลดไวมากๆ
4 ไปถึงโฮจิมินท์ถ้ามีเวลาเหลือเยอะเพราะต้องรอต่อรถไปดาลัทรอบดึก แล้วต้องการจะเดินเที่ยวในโฮจิมินท์ก่อนแต่ขี้เกียจแบกกระเป๋าใบโต แนะนำฝากกระเป๋าได้ที่ Eco backpackers hostel อยู่เลยจุดขายตั๋ว Futa ไป 4-5 บล๊อก ราคา 3US หรือ 70000 VND ราคานี้จะรวมค่าอาบน้ำก่อนขึ้นรถไปดาลัท(ห้องน้ำรวม)ด้วยครับ ไปถึงหน้าเค้าเตอร์บอกเค้าเลยว่าต้องการแค่ฝากกระเป๋า+อาบน้ำ ตอนออกไปเดินเที่ยวก็กะเวลาให้ดีนะครับเผื่อเวลาอาบน้ำไว้ด้วย และเมื่ออาบน้ำเสร็จพร้อมเดินทางไปดาลัทก็ให้เดินลงมาจาก hotel แล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็เป็นท่ารถที่เราจะไปดาลัทพอดีครับ ง่ายๆสะดวกดีเนอะ
5 บริเวณสวนหย่อมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม veitsea จะมีห้องน้ำสามารถเข้าไปใช้บริการได้ ที่สำคัญคือฟรีและสะอาดครับ
6 อุโมงค์กู๋จี๋ อยู่นอกเมืองโฮจิมินท์ ลองหาอ่านข้อมูลของสถานที่ในเน็ตก่อนไป แล้วลองไปเยือนดูสักครั้ง จะเที่ยวได้สนุกมากขึ้นและถ้าคิดจะลงไปในอุโมงค์ใครที่ร่างใหญ่ๆหรืออ้วนหรือกลัวในที่แคบที่มืดอย่าลงไปเลยครับคือมันแคบมากๆ แบบบางช่วงไหล่ทั้ง 2 ข้างถูไปกับอุโมงค์เลยทีเดียว แต่ถ้าได้ลองลงไปจะพบกับความตื่นเต้น กรี๊ดกร๊าดกันสนุกครับ 555 ใช้เวลาครึ่งวันสำหรับที่นี่ ซื้อทริปกับทาง vietsea ได้เลย
7 จุด landmark สำคัญของโฮจิมินท์ ถ้ามีเวลาอยากให้ลองเที่ยวช่วงกลางคืนดูนะครับ แสงสีจะสวยงามมากๆ(แนะนำควรติดขาตั้งกล้องไปด้วยเพราะกลางคืนจะถ่ายรูปยากกว่ากลางวัน)
8 ป้องกันพวกมิจฉาชีพที่จ้องเขมือบนักท่องเที่ยวอย่างเราด้วยคำสั้นๆ No No No มันจะคอยตื้อเราก็ทำเป็นไม่สนใจเลยครับ มันจะไปหาเหยี่อรายใหม่แทน
9 กระเป๋าเป้แบบสะพายหลังถ้าจำเป็นต้องเดินเที่ยวในเมืองและไม่มีที่กุญแจล๊อกซิบ ควรมีผ้าคลุมแบบยางรัดปิดครอบแบบครึ่งใบอีกชั้นนะครับจะได้เดินแบบสบายใจไม่ต้องระแวงหลัง หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์เดินป่า
10 ถ้าจำเป็นต้องใช้บริการรถแท็กซี่ไปยังจุดต่างๆแนะนำขึ้นรถแล้วให้เค้ากดมิเตอร์ทันที ที่เจอคือทำเนียนไม่กดมิเตอร์จะคิดเงินเราแบบเหมา หลังจากนั้นก็ให้เปิด GPS ระบุปลายทางที่เราจะไปด้วยแล้วเปิดเสียงให้ดังๆนะครับให้เค้ารู้ว่าเราดูคุณอยู่นะแล้วเค้าจะไม่กล้าพวกเราอ้อมโลก แต่ถ้าพบว่าเค้าพาออกนอกเส้นทางก็อย่ารีบไปโวยวายเค้านะครับให้ดูเส้นทางใน map ให้ดีก่อนมันอาจจะไปได้ทั้ง 2 เส้นทางระยะทางพอๆกันก็ได้ นิ่งๆเข้าไว้นะครับ
11 ดาลัท สำหรับคนที่ไม่ชอบความหนาวแนะนำเตรียมตัวจัดเต็มเครื่องกันหนาวทั้งหมดไปด้วยนะครับจะได้ไม่ต้องไปหาซื้อให้เปลืองตังค์ ผมไปช่วงกลางเดือน ธ.ค. อุณหภูมิ 12 องศา ผมหมดไปหลายตังค์อยู่ 55
12 ดาลัท การเลือกที่พักถ้าไม่ได้เช่ามอเตอร์ไซด์เที่ยว แนะนำควรหาที่พักใกล้ๆตลาดนะครับ เพราะกลางคืนเราต้องเดินออกมาเที่ยวกันในตลาดจะได้สะดวก
13 ดาลัท มุยเน่ ไม่ต้องจองห้องพักไปก็ได้ถ้าไม่ได้ไปช่วงเทศกาลหยุดยาวจริงๆ เพราะถ้า walk in เข้าไปราคาจะถูกกว่าจองผ่าน agency เยอะมากและที่สำคัญที่พักเยอะมากๆ ยิ่งอยู่ใจกลางเมืองยิ่งเยอะ(อันนี้เจ้าของที่พักแนะนำมาครับ)
14 ดาลัท มุยเน่ ถ้าเที่ยวให้สนุกเก็บได้หลายๆจุดแนะนำเช่ามอเตอร์ไซด์ขี่เที่ยวเลยครับ ทั้ง 2 เมืองรถไม่เยอะเหมือนโฮจิมินท์(อยากสนุกกล้าๆหน่อยครับ)
15 ดาลัท มุยเน่ ไม่รู้เป็นธรรมเนียมของชาวเวียดนามหรือยังไงเช่ามอเตอร์ไซด์มา น้ำมันจะตกอยู่ตรงขีดแดงทั้ง 2 ที่เลย เพราะฉะนั้นได้รถมานี่ต้องรีบเปิด GPS(อย่างที่บอก GPS สำคัญมากๆ พยายามค้นหาด้วยตัวเองก่อนนะครับ ถ้าหาไม่เจอค่อยถามคนท้องถิ่นเอานะครับ) หาปั้มน้ำมันเป็นสิ่งแรกเลย ถ้าเที่ยว 2 วัน(ดาลัท)แบบผมก็เติมเต็มถังไปเลยครับ เพราะถ้าออกนอกเมืองมาจะหาปั้มยากครับ
16 ดาลัทเมืองที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่มากที่สำคัญไม่มีไฟเขียว ไฟแดง ขับรถวัดใจกันล้วนๆ (ส่วนใหญ่ที่นี่จะใช้วงเวียนในการขับเปลี่ยนเส้นทางครับ) เสียงแตรไม่ดังเท่าโฮจิมินท์ เพราะฉะนั้นหน้าที่คนขับรถจะต้องชำนาญสักหน่อยนะครับ ส่วนคนนั่งซ้อนท้ายมีหน้าที่บอกทางนะครับเปิด GPS ตลอดเวลาคอยบอกเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ช่วงแรกๆอาจจะงงๆกับเส้นทางที่รถวิ่งจะสวนทางกับประเทศไทยครับ แต่สักพักก็จะชินไปเอง
17 ดาลัท ถ้าเช่ารถมอเตอร์ไซด์ แนะนำถ้าใช้เกียร์ธรรมดาเป็นให้เลือกแบบเกียร์ธรรมดานะครับ อย่าเอาเกียร์ออโต้เพราะรถจะไม่ค่อยมีแรง หมุนคันเร่งกันจนเมื่อยนิ้วเลยทีเดียวในช่วงที่ต้องขึ้นเขาครับ อีกอย่างถ้าได้รถมาให้ถ่ายรูปไว้ทุกๆมุมก่อนนำไปใช้งานนะครับป้องกันปัญหากรณีที่โดนกล่าวหาว่าทำรถเสียหาย
18 ดาลัทจุดท่องเที่ยวหลายๆแห่งเป็นจุดหมายปลายทางของเรา แต่ระหว่างทางที่เราผ่านนั้นวิวหลักล้านแบบที่เค้าชอบพูดๆกันเลย บางจุดสวยงามมากๆ ซึ่งจุดนี้ขี่มอไซด์ได้เปรียบกว่าซื้อทัวร์มากๆ เพราะแวะจอดถ่ายรูประหว่างทางได้ตลอด คือแบบว่าเดี๋ยวจอดๆๆ กว่าจะไปถึงปลายทาง555
19 ดาลัทเป็นเมืองในหุบเขาอากาศจะเย็นทั้งปีเพราะฉะนั้นดอกไม้เมืองหนาวที่นี่จะมีเยอะมาก Valley of Love กับ Dalat flower garden ควรเลือกไปแค่ที่ใดที่หนึ่งก็พอ(ถ้าเวลามีจำกัดนะครับ)(อีกอย่างคือเปลืองตังค์ในกระเป๋า 55) เพราะความรู้สึกมันคล้ายๆกันคือมีสวนดอกไม้เป็นจุดขาย
20 ดาลัท ถ้าเราขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยวควรวางแผนการเดินทางให้ดีเพื่อใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุด ไม่ขับรถย้อนไปย้อนมา ผมจะแนะนำโปรแกรมของผมเองสำหรับขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยว 2 วันในดาลัทนะครับ(เส้นทางที่ผมใช้และแวะเที่ยวนะครับออกเช้า-กลับค่ำ ใครจะไปปรับใช้เพิ่ม-ลด ก็แล้วแต่สะดวกเลยนะครับ)
เริ่มต้นตอนเช้าวันที่ 1 นะครับระยะทางรวมทั้งหมดประมาณ 48 km <Ladat Market>---14km---<LangBiang>---12km---<Valley of Love>---10km---<Linh Phuoc Pagoda>---7km---<Dalat Train Station>---3km---<Crazy house>---1.5km---<Ladat Market>

เส้นทางในวันแรกนี้จริงๆแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทางผ่านอีกนะครับเช่น XQ Dalat historical จะอยู่ใกล้ๆกับ Valley of Love / Dalat flower garden อยู่เลย Valley of Love มาไม่ไกลเป็นทางผ่านด้วย ส่วนอีกที่คือ Bao Dai Summer palace อยู่ใกล้ๆ Crazy house แต่พอดีผมไม่ได้แวะเนื่องด้วยเวลาที่จำกัดจริงๆ
เริ่มต้นตอนเช้าวันที่ 2 นะครับระยะทางรวมทั้งหมดประมาณ 100 km <Ladat Market>---6.4km---<Thien Vien Truc Lam/cable car>---2.6km---<Datanla Waterfalls/Roller Coaster>---41.8km---<Pongour Falls waterfall>---48km---<Ladat Market>

เส้นทางในวันที่สองนี้ก็เช่นกันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทางผ่านอีกเช่น Prenn waterfalls อยู่ระหว่างเส้นทาง Datanla Waterfalls ไป Pongour Falls waterfall สำหรับผมก็เหมือนเดิมครับเวลาไม่พอให้แวะเข้าไปสำรวจ
21 ดาลัท น้ำตก Pongour Falls waterfall ควรไปเยือนอย่างยิ่ง เส้นทางไกลสักหน่อยแต่คุ้มค่าแน่นอน เส้นทางค่อนข้างจะชนบทหน่อยไม่ต้องตกใจตาม GPS ไปไม่หลงครับ แต่มันจะมีเส้นทางที่เป็นทางด่วนด้วย(มีป้ายบอกว่าห้ามมอเตอร์ไซด์เข้าใช้)อย่าได้ขับเข้าไปในเลนทางด่วนเค้านะครับ ให้ขับเลียบทางด่วนแทน
22 ดาลัท Thien Vien Truc Lam/cable car ตามเส้นทางที่ผมระบุไว้นั้น Cable car ปกติจะต้องเริ่มต้นมาจากในเมืองแล้วมายังวัด Thien Vien Truc Lam แต่พอดีผมขับมอเตอร์ไซด์กันมาเลยต้องมาที่วัดแล้วค่อยนั่ง Cable car จากวัดไป-กลับในเมืองแทนอีกอย่างคือเส้นทางมายังวัดจะเป็นทางผ่านไปยัง Datanla Waterfalls ด้วย
23 มุยเน่ ที่นี่ก็เช่นกันถ้าให้สนุกใช้เวลาได้เต็มที่ต้องเช่ามอเตอร์ไซด์เที่ยว แผนการเที่ยวก็เหมือนกับที่ทัวร์เค้าจัดให้เลยแต่เราจะมีเวลาเที่ยวในแต่ละจุดได้แบบไม่จำกัดครับ อย่างผมเน้นทะเลทรายขาวเป็นหลัก เลยจัดไปที่นี่เกือบ 2 ช.ม. ที่อื่นๆก็ใช้เวลาน้อยลงหน่อย
24 มุยเน่ โปรแกรมของผมสำหรับขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยวในมุยเน่นะครับ
เริ่มต้นตอนบ่ายโมงนะครับ เพราะผมนั่งรถมาจากดาลัทมาถึงมุยเน่ตอนเที่ยง เส้นทางจะเป็นแบบไปกลับทางเดียวกันนะครับ <Hotel>---4km---<Fairy Stream>---2.7km---<Fisherman Village>---27km---<White Sand Dune>---24km---<Red Sand dune>---11.6km---<Hotel>

ช่วงเช้าของอีกวันผมขอกับทางโรงแรมขอใช้รถไป Fisherman Village อีกรอบเพื่อเก็บบรรยากาศยามเช้าของที่นี่ครับ
25 มุยเน่ Fisherman Village ถ้ามีเวลาอยากให้ขับมอเตอร์ไซด์ไปเที่ยวหมู่บ้านชาวประมงในช่วงเช้าๆและช่วงใกล้ค่ำของวัน ช่วงเช้าจะมีการนำ กุ้ง หอย ปู ปลาที่ชาวประมงจับได้มาขึ้นฝั่งกันที่นี่แล้วจะคัดแยกกันบริเวณนี้ ส่วนช่วงใกล้ค่ำจะมีไฟแสงสีกระพริบตามเรือประมงที่จอดอยู่เต็มอ่าวสวยงามไปอีกแบบ กรณีถ้ามาทัวร์เค้าจะให้เวลาเราแวะถ่ายรูป 10-15 นาทีเท่านั้น แต่ผมไปเองอยู่เกือบ ช.ม. ถ่ายรูปเพลินไปหน่อย 55
26 มุยเน่ Fairy Stream แนะนำถ้าเช่ารถมอเตอร์ไซด์ให้จอดรถไว้บริเวณถนนใหญ่แล้วลงเดินลุยน้ำมาจากถนนใหญ่ เพราะถ้าเราเอารถเข้าไปจอดด้านในด้วยจะโดนค่าที่จอดรถแพงมากๆ
27 มุยเน่ White Sand Dune แนะนำถ้าขับมอเตอร์ไซด์มาให้เลือกเดินเข้าไปไม่ต้องนั่ง ATVหรือJIB นะครับ ตอนแรกที่มองเห็นจุดที่คนยืนกันอยู่มากๆดูแล้วไกลน่าจะเหนื่อยเอาเรื่องแต่พอได้เดินไปถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เพลินดีกลับไม่รู้สึกเหนื่อยแถมยังได้ถ่ายรูปตลอดเวลาที่เดินอีกด้วย แต่ถ้าซื้อเป็นทริปทัวร์อาจจะเช่า ATV เพราะต้องทำเวลาทัวร์เค้าจำกัดเรื่องเวลาครับ
28 มุยเน่ เจอตำรวจตั้งด่านอยู่ริมถนนข้างทางแต่ไม่ได้ออกมายืนบนถนนนะครับโน้นนั่งกันใต้ต้นไม้โน้น ตรงจุดนี้เท่าที่สังเกตุดูส่วนใหญ่จะเป็นพวกฝรั่งที่ถูกตรวจเรียกส่วนหน้าตาพวกผมคงไม่ผ่านมาตราฐานของเค้าเลยรอดตัว 555 แนะนำว่าควรเก็บกล้องและอุปกรณ์ต่างๆ กระเป๋าเดินทางแอบๆให้มิดชิด อย่าให้เค้าเห็นว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวครับ สวมหมวกกันน๊อกให้เรียบร้อยแล้วทำตัวตามปกติให้กลมกลืนครับ
29 อยู่เวียดนามเงิน US แทบจะไม่ได้ใช้เลย ที่ได้ใช้ครั้งเดียวเพราะถามเค้าว่ารับเป็น US แทนได้มั้ยเพราะเงิน VND ใกล้จะหมด ส่วนใหญ่จะใช้เงิน VND ทั้งหมดครับเพราะฉะนั้นติดเงิน US ไปเล็กน้อยก็พอครับ
30 มุยเน่ มาถึงแล้วก็ลองชิม กุ้งล็อบเตอร์ กันดูนะครับราคาถูกกว่าที่ไทยครับ มื้อนี้มื้อเดียวใช้เงินไป 1 ใน 4 ของทั้งทริป 555 ร้านไหนอร่อยก็ลองดูๆจากรีวิวที่เค้าบอกๆ กันนะครับ
เท่าที่นึกออกก็มีเท่านี้นะครับ ใครที่สงสัยจุดไหนก็สอบถามได้นะครับ ขอบคุณรีวิวของทุกๆท่านที่ทำให้คนที่ไม่เคยท่องเที่ยวต่างประเทศแบบผมสามารถที่จะเที่ยวได้แบบคุ้มค่าและสนุกมากๆ
ขอบคุณครับ
แบ่งบันประสบการณ์จากการได้ไปเที่ยวเวียดนามใต้ โฮจิมินท์ ดาลัท มุยเน่ ที่หลายๆรีวิวไม่ค่อยพูดถึง(ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ)
แผนการเที่ยวของผมจะแบ่งแบบนี้นะครับ
วันที่ 18 อยู่โฮจิมินท์
วันที่ 19-20-21 อยู่ดาลัท
วันที่ 21-22 อยู่มุยเน่
วันที่ 22 อยู่โฮจิมินท์
1 ซื้อ SIM card 5G(ราคา 105000VND) ก็เพียงพอไม่ต้องซื้อเยอะกว่านี้ถึงแม้ราคา 9G จะไม่ต่างกันมาก(ผมใช้งานหลักๆคือเปิด GPS 5 วันเต็ม+เล่นเกมส์+ดู youtube+Line call+Facebook ยังใช้ไปแค่ประมาณ 3G) แต่ถ้าใครยังกังวลก็จัด 9G ไปเลยราคา 135000VND ยื่นโทรศัพท์มือถือให้พนักงานไปเค้าจะเปลี่ยน SIM ให้เสร็จพร้อมใช้งานได้ทันที
2 ถ้าต้องการเที่ยวให้สนุก GPS สำคัญมากๆ ถึงมากที่สุด (ผมใช้ Google map) ก่อนจะออกเดินทางก็แนะนำให้ปักหมุดบันทึกจุดที่ต้องการจะไปเที่ยวไว้ให้เรียบร้อยตั้งแต่ที่บ้านเลยนะครับเอาแบบทุกที่ๆจะไปตลอดทริปเลยครับ ส่วนใหญ่ landmark สำคัญๆ สามารถค้นหาเจอได้ทั้งหมดใน Google map
3 แบตเตอรี่ Power bank สำคัญมากเช่นกันควรติดไป 2 ก้อน เพราะเราจะต้องเปิดใช้ GPS เกือบทั้งวันบวกกับอากาศที่หนาว(ในดาลัท)ทำให้แบตเตอรี่มือถือจะลดไวมากๆ
4 ไปถึงโฮจิมินท์ถ้ามีเวลาเหลือเยอะเพราะต้องรอต่อรถไปดาลัทรอบดึก แล้วต้องการจะเดินเที่ยวในโฮจิมินท์ก่อนแต่ขี้เกียจแบกกระเป๋าใบโต แนะนำฝากกระเป๋าได้ที่ Eco backpackers hostel อยู่เลยจุดขายตั๋ว Futa ไป 4-5 บล๊อก ราคา 3US หรือ 70000 VND ราคานี้จะรวมค่าอาบน้ำก่อนขึ้นรถไปดาลัท(ห้องน้ำรวม)ด้วยครับ ไปถึงหน้าเค้าเตอร์บอกเค้าเลยว่าต้องการแค่ฝากกระเป๋า+อาบน้ำ ตอนออกไปเดินเที่ยวก็กะเวลาให้ดีนะครับเผื่อเวลาอาบน้ำไว้ด้วย และเมื่ออาบน้ำเสร็จพร้อมเดินทางไปดาลัทก็ให้เดินลงมาจาก hotel แล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็เป็นท่ารถที่เราจะไปดาลัทพอดีครับ ง่ายๆสะดวกดีเนอะ
5 บริเวณสวนหย่อมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม veitsea จะมีห้องน้ำสามารถเข้าไปใช้บริการได้ ที่สำคัญคือฟรีและสะอาดครับ
6 อุโมงค์กู๋จี๋ อยู่นอกเมืองโฮจิมินท์ ลองหาอ่านข้อมูลของสถานที่ในเน็ตก่อนไป แล้วลองไปเยือนดูสักครั้ง จะเที่ยวได้สนุกมากขึ้นและถ้าคิดจะลงไปในอุโมงค์ใครที่ร่างใหญ่ๆหรืออ้วนหรือกลัวในที่แคบที่มืดอย่าลงไปเลยครับคือมันแคบมากๆ แบบบางช่วงไหล่ทั้ง 2 ข้างถูไปกับอุโมงค์เลยทีเดียว แต่ถ้าได้ลองลงไปจะพบกับความตื่นเต้น กรี๊ดกร๊าดกันสนุกครับ 555 ใช้เวลาครึ่งวันสำหรับที่นี่ ซื้อทริปกับทาง vietsea ได้เลย
7 จุด landmark สำคัญของโฮจิมินท์ ถ้ามีเวลาอยากให้ลองเที่ยวช่วงกลางคืนดูนะครับ แสงสีจะสวยงามมากๆ(แนะนำควรติดขาตั้งกล้องไปด้วยเพราะกลางคืนจะถ่ายรูปยากกว่ากลางวัน)
8 ป้องกันพวกมิจฉาชีพที่จ้องเขมือบนักท่องเที่ยวอย่างเราด้วยคำสั้นๆ No No No มันจะคอยตื้อเราก็ทำเป็นไม่สนใจเลยครับ มันจะไปหาเหยี่อรายใหม่แทน
9 กระเป๋าเป้แบบสะพายหลังถ้าจำเป็นต้องเดินเที่ยวในเมืองและไม่มีที่กุญแจล๊อกซิบ ควรมีผ้าคลุมแบบยางรัดปิดครอบแบบครึ่งใบอีกชั้นนะครับจะได้เดินแบบสบายใจไม่ต้องระแวงหลัง หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์เดินป่า
10 ถ้าจำเป็นต้องใช้บริการรถแท็กซี่ไปยังจุดต่างๆแนะนำขึ้นรถแล้วให้เค้ากดมิเตอร์ทันที ที่เจอคือทำเนียนไม่กดมิเตอร์จะคิดเงินเราแบบเหมา หลังจากนั้นก็ให้เปิด GPS ระบุปลายทางที่เราจะไปด้วยแล้วเปิดเสียงให้ดังๆนะครับให้เค้ารู้ว่าเราดูคุณอยู่นะแล้วเค้าจะไม่กล้าพวกเราอ้อมโลก แต่ถ้าพบว่าเค้าพาออกนอกเส้นทางก็อย่ารีบไปโวยวายเค้านะครับให้ดูเส้นทางใน map ให้ดีก่อนมันอาจจะไปได้ทั้ง 2 เส้นทางระยะทางพอๆกันก็ได้ นิ่งๆเข้าไว้นะครับ
11 ดาลัท สำหรับคนที่ไม่ชอบความหนาวแนะนำเตรียมตัวจัดเต็มเครื่องกันหนาวทั้งหมดไปด้วยนะครับจะได้ไม่ต้องไปหาซื้อให้เปลืองตังค์ ผมไปช่วงกลางเดือน ธ.ค. อุณหภูมิ 12 องศา ผมหมดไปหลายตังค์อยู่ 55
12 ดาลัท การเลือกที่พักถ้าไม่ได้เช่ามอเตอร์ไซด์เที่ยว แนะนำควรหาที่พักใกล้ๆตลาดนะครับ เพราะกลางคืนเราต้องเดินออกมาเที่ยวกันในตลาดจะได้สะดวก
13 ดาลัท มุยเน่ ไม่ต้องจองห้องพักไปก็ได้ถ้าไม่ได้ไปช่วงเทศกาลหยุดยาวจริงๆ เพราะถ้า walk in เข้าไปราคาจะถูกกว่าจองผ่าน agency เยอะมากและที่สำคัญที่พักเยอะมากๆ ยิ่งอยู่ใจกลางเมืองยิ่งเยอะ(อันนี้เจ้าของที่พักแนะนำมาครับ)
14 ดาลัท มุยเน่ ถ้าเที่ยวให้สนุกเก็บได้หลายๆจุดแนะนำเช่ามอเตอร์ไซด์ขี่เที่ยวเลยครับ ทั้ง 2 เมืองรถไม่เยอะเหมือนโฮจิมินท์(อยากสนุกกล้าๆหน่อยครับ)
15 ดาลัท มุยเน่ ไม่รู้เป็นธรรมเนียมของชาวเวียดนามหรือยังไงเช่ามอเตอร์ไซด์มา น้ำมันจะตกอยู่ตรงขีดแดงทั้ง 2 ที่เลย เพราะฉะนั้นได้รถมานี่ต้องรีบเปิด GPS(อย่างที่บอก GPS สำคัญมากๆ พยายามค้นหาด้วยตัวเองก่อนนะครับ ถ้าหาไม่เจอค่อยถามคนท้องถิ่นเอานะครับ) หาปั้มน้ำมันเป็นสิ่งแรกเลย ถ้าเที่ยว 2 วัน(ดาลัท)แบบผมก็เติมเต็มถังไปเลยครับ เพราะถ้าออกนอกเมืองมาจะหาปั้มยากครับ
16 ดาลัทเมืองที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่มากที่สำคัญไม่มีไฟเขียว ไฟแดง ขับรถวัดใจกันล้วนๆ (ส่วนใหญ่ที่นี่จะใช้วงเวียนในการขับเปลี่ยนเส้นทางครับ) เสียงแตรไม่ดังเท่าโฮจิมินท์ เพราะฉะนั้นหน้าที่คนขับรถจะต้องชำนาญสักหน่อยนะครับ ส่วนคนนั่งซ้อนท้ายมีหน้าที่บอกทางนะครับเปิด GPS ตลอดเวลาคอยบอกเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ช่วงแรกๆอาจจะงงๆกับเส้นทางที่รถวิ่งจะสวนทางกับประเทศไทยครับ แต่สักพักก็จะชินไปเอง
17 ดาลัท ถ้าเช่ารถมอเตอร์ไซด์ แนะนำถ้าใช้เกียร์ธรรมดาเป็นให้เลือกแบบเกียร์ธรรมดานะครับ อย่าเอาเกียร์ออโต้เพราะรถจะไม่ค่อยมีแรง หมุนคันเร่งกันจนเมื่อยนิ้วเลยทีเดียวในช่วงที่ต้องขึ้นเขาครับ อีกอย่างถ้าได้รถมาให้ถ่ายรูปไว้ทุกๆมุมก่อนนำไปใช้งานนะครับป้องกันปัญหากรณีที่โดนกล่าวหาว่าทำรถเสียหาย
18 ดาลัทจุดท่องเที่ยวหลายๆแห่งเป็นจุดหมายปลายทางของเรา แต่ระหว่างทางที่เราผ่านนั้นวิวหลักล้านแบบที่เค้าชอบพูดๆกันเลย บางจุดสวยงามมากๆ ซึ่งจุดนี้ขี่มอไซด์ได้เปรียบกว่าซื้อทัวร์มากๆ เพราะแวะจอดถ่ายรูประหว่างทางได้ตลอด คือแบบว่าเดี๋ยวจอดๆๆ กว่าจะไปถึงปลายทาง555
19 ดาลัทเป็นเมืองในหุบเขาอากาศจะเย็นทั้งปีเพราะฉะนั้นดอกไม้เมืองหนาวที่นี่จะมีเยอะมาก Valley of Love กับ Dalat flower garden ควรเลือกไปแค่ที่ใดที่หนึ่งก็พอ(ถ้าเวลามีจำกัดนะครับ)(อีกอย่างคือเปลืองตังค์ในกระเป๋า 55) เพราะความรู้สึกมันคล้ายๆกันคือมีสวนดอกไม้เป็นจุดขาย
20 ดาลัท ถ้าเราขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยวควรวางแผนการเดินทางให้ดีเพื่อใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุด ไม่ขับรถย้อนไปย้อนมา ผมจะแนะนำโปรแกรมของผมเองสำหรับขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยว 2 วันในดาลัทนะครับ(เส้นทางที่ผมใช้และแวะเที่ยวนะครับออกเช้า-กลับค่ำ ใครจะไปปรับใช้เพิ่ม-ลด ก็แล้วแต่สะดวกเลยนะครับ)
เริ่มต้นตอนเช้าวันที่ 1 นะครับระยะทางรวมทั้งหมดประมาณ 48 km <Ladat Market>---14km---<LangBiang>---12km---<Valley of Love>---10km---<Linh Phuoc Pagoda>---7km---<Dalat Train Station>---3km---<Crazy house>---1.5km---<Ladat Market>
เส้นทางในวันแรกนี้จริงๆแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทางผ่านอีกนะครับเช่น XQ Dalat historical จะอยู่ใกล้ๆกับ Valley of Love / Dalat flower garden อยู่เลย Valley of Love มาไม่ไกลเป็นทางผ่านด้วย ส่วนอีกที่คือ Bao Dai Summer palace อยู่ใกล้ๆ Crazy house แต่พอดีผมไม่ได้แวะเนื่องด้วยเวลาที่จำกัดจริงๆ
เริ่มต้นตอนเช้าวันที่ 2 นะครับระยะทางรวมทั้งหมดประมาณ 100 km <Ladat Market>---6.4km---<Thien Vien Truc Lam/cable car>---2.6km---<Datanla Waterfalls/Roller Coaster>---41.8km---<Pongour Falls waterfall>---48km---<Ladat Market>
เส้นทางในวันที่สองนี้ก็เช่นกันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทางผ่านอีกเช่น Prenn waterfalls อยู่ระหว่างเส้นทาง Datanla Waterfalls ไป Pongour Falls waterfall สำหรับผมก็เหมือนเดิมครับเวลาไม่พอให้แวะเข้าไปสำรวจ
21 ดาลัท น้ำตก Pongour Falls waterfall ควรไปเยือนอย่างยิ่ง เส้นทางไกลสักหน่อยแต่คุ้มค่าแน่นอน เส้นทางค่อนข้างจะชนบทหน่อยไม่ต้องตกใจตาม GPS ไปไม่หลงครับ แต่มันจะมีเส้นทางที่เป็นทางด่วนด้วย(มีป้ายบอกว่าห้ามมอเตอร์ไซด์เข้าใช้)อย่าได้ขับเข้าไปในเลนทางด่วนเค้านะครับ ให้ขับเลียบทางด่วนแทน
22 ดาลัท Thien Vien Truc Lam/cable car ตามเส้นทางที่ผมระบุไว้นั้น Cable car ปกติจะต้องเริ่มต้นมาจากในเมืองแล้วมายังวัด Thien Vien Truc Lam แต่พอดีผมขับมอเตอร์ไซด์กันมาเลยต้องมาที่วัดแล้วค่อยนั่ง Cable car จากวัดไป-กลับในเมืองแทนอีกอย่างคือเส้นทางมายังวัดจะเป็นทางผ่านไปยัง Datanla Waterfalls ด้วย
23 มุยเน่ ที่นี่ก็เช่นกันถ้าให้สนุกใช้เวลาได้เต็มที่ต้องเช่ามอเตอร์ไซด์เที่ยว แผนการเที่ยวก็เหมือนกับที่ทัวร์เค้าจัดให้เลยแต่เราจะมีเวลาเที่ยวในแต่ละจุดได้แบบไม่จำกัดครับ อย่างผมเน้นทะเลทรายขาวเป็นหลัก เลยจัดไปที่นี่เกือบ 2 ช.ม. ที่อื่นๆก็ใช้เวลาน้อยลงหน่อย
24 มุยเน่ โปรแกรมของผมสำหรับขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยวในมุยเน่นะครับ
เริ่มต้นตอนบ่ายโมงนะครับ เพราะผมนั่งรถมาจากดาลัทมาถึงมุยเน่ตอนเที่ยง เส้นทางจะเป็นแบบไปกลับทางเดียวกันนะครับ <Hotel>---4km---<Fairy Stream>---2.7km---<Fisherman Village>---27km---<White Sand Dune>---24km---<Red Sand dune>---11.6km---<Hotel>
ช่วงเช้าของอีกวันผมขอกับทางโรงแรมขอใช้รถไป Fisherman Village อีกรอบเพื่อเก็บบรรยากาศยามเช้าของที่นี่ครับ
25 มุยเน่ Fisherman Village ถ้ามีเวลาอยากให้ขับมอเตอร์ไซด์ไปเที่ยวหมู่บ้านชาวประมงในช่วงเช้าๆและช่วงใกล้ค่ำของวัน ช่วงเช้าจะมีการนำ กุ้ง หอย ปู ปลาที่ชาวประมงจับได้มาขึ้นฝั่งกันที่นี่แล้วจะคัดแยกกันบริเวณนี้ ส่วนช่วงใกล้ค่ำจะมีไฟแสงสีกระพริบตามเรือประมงที่จอดอยู่เต็มอ่าวสวยงามไปอีกแบบ กรณีถ้ามาทัวร์เค้าจะให้เวลาเราแวะถ่ายรูป 10-15 นาทีเท่านั้น แต่ผมไปเองอยู่เกือบ ช.ม. ถ่ายรูปเพลินไปหน่อย 55
26 มุยเน่ Fairy Stream แนะนำถ้าเช่ารถมอเตอร์ไซด์ให้จอดรถไว้บริเวณถนนใหญ่แล้วลงเดินลุยน้ำมาจากถนนใหญ่ เพราะถ้าเราเอารถเข้าไปจอดด้านในด้วยจะโดนค่าที่จอดรถแพงมากๆ
27 มุยเน่ White Sand Dune แนะนำถ้าขับมอเตอร์ไซด์มาให้เลือกเดินเข้าไปไม่ต้องนั่ง ATVหรือJIB นะครับ ตอนแรกที่มองเห็นจุดที่คนยืนกันอยู่มากๆดูแล้วไกลน่าจะเหนื่อยเอาเรื่องแต่พอได้เดินไปถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เพลินดีกลับไม่รู้สึกเหนื่อยแถมยังได้ถ่ายรูปตลอดเวลาที่เดินอีกด้วย แต่ถ้าซื้อเป็นทริปทัวร์อาจจะเช่า ATV เพราะต้องทำเวลาทัวร์เค้าจำกัดเรื่องเวลาครับ
28 มุยเน่ เจอตำรวจตั้งด่านอยู่ริมถนนข้างทางแต่ไม่ได้ออกมายืนบนถนนนะครับโน้นนั่งกันใต้ต้นไม้โน้น ตรงจุดนี้เท่าที่สังเกตุดูส่วนใหญ่จะเป็นพวกฝรั่งที่ถูกตรวจเรียกส่วนหน้าตาพวกผมคงไม่ผ่านมาตราฐานของเค้าเลยรอดตัว 555 แนะนำว่าควรเก็บกล้องและอุปกรณ์ต่างๆ กระเป๋าเดินทางแอบๆให้มิดชิด อย่าให้เค้าเห็นว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวครับ สวมหมวกกันน๊อกให้เรียบร้อยแล้วทำตัวตามปกติให้กลมกลืนครับ
29 อยู่เวียดนามเงิน US แทบจะไม่ได้ใช้เลย ที่ได้ใช้ครั้งเดียวเพราะถามเค้าว่ารับเป็น US แทนได้มั้ยเพราะเงิน VND ใกล้จะหมด ส่วนใหญ่จะใช้เงิน VND ทั้งหมดครับเพราะฉะนั้นติดเงิน US ไปเล็กน้อยก็พอครับ
30 มุยเน่ มาถึงแล้วก็ลองชิม กุ้งล็อบเตอร์ กันดูนะครับราคาถูกกว่าที่ไทยครับ มื้อนี้มื้อเดียวใช้เงินไป 1 ใน 4 ของทั้งทริป 555 ร้านไหนอร่อยก็ลองดูๆจากรีวิวที่เค้าบอกๆ กันนะครับ
เท่าที่นึกออกก็มีเท่านี้นะครับ ใครที่สงสัยจุดไหนก็สอบถามได้นะครับ ขอบคุณรีวิวของทุกๆท่านที่ทำให้คนที่ไม่เคยท่องเที่ยวต่างประเทศแบบผมสามารถที่จะเที่ยวได้แบบคุ้มค่าและสนุกมากๆ
ขอบคุณครับ