มาเขียนช้าหน่อยตอนสิ้นปี 2017 ช่วงที่เคลียร์งานต่างๆ จบแล้วน่ะครับ อันนี้คือไปดูตั้งแต่เดือน 5 ที่ Tokyo , Budokan
แล้วเขียน ดราฟท์ๆ ไว้แล้วมาเกลาเขียนให้จบน่ะครับ
อันนี้มาเชียร์ในฐานะติ่ง SID ที่ยอมขายหูให้กับเพลงๆ ของพวกเฮียๆ มาช่วงหนึ่งเลย
กับวงที่อยู่ในวงการเพลงญี่ปุ่นมานานระดับหนึ่งแต่ อาจจะมีเงียบๆหายไปบ้างในช่วง ปี 2016 ที่ผ่านมา
ถ้าใครเป็นแฟนเพลงวงนี้ยังไงแล้วเชิญที่เพจที่แปะไว้ตอนท้ายได้นะครับ
ก่อนอื่น ขอเท้าความให้รู้จัก SID กันนิดหน่อย หลายคนอาจจะเคยรู้จัก SID ในกระทู้นี้แล้ว
[J-music Chronicles # 3] ความรักในฤดูร้อน [SID]
http://2g.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C8498853/C8498853.html
( อันนี้เหมือนมาเขียนต่อจากช่วงนั้นน่ะครับ )
SID เป็นวงร็อค Visual Kei J-rock ที่เกิดมาในช่วงปี 2003
ในสมัยที่ R&B และ K-POP กำลังรุ่งเรือง ซึ่งช่วงนั้น
ส่วนนึงกระแส Visual-Kei ก็เหมือนจะดร์อปลงไป
ซึ่ง SID เองช่วงแรกๆ เอง ก็มีสไตล์การแต่งตัวแบบ Visual Kei จ๋ามากๆ ในสมัยนั้น
ชื่อวงเองที่มีคำว่า ชิ ( แปลว่า 4 หรือ ความตาย แต่จริงๆน่าจะมาจากที่วงมีกัน 4 คน )
ก็ดูจะเหมือนว่าทำให้สมัยแรกๆ SID แต่งตัวออกมาแนววงเด็กมีปัญหาเลย
รวมถึงดนตรี สมัยแรกๆ เช่นกัน
Member ของวงเริ่มมาจากการ ฟอร์มของวง ก่อนหน้านี้ที่เหมือนจะไม่สำเร็จกันแต่ก็ตัดสินใจมาลองรวมวงกันดู โดยเริ่มจาก นักร้องนำ Mao ที่มาจาก Fukuoka ที่มาแบบทิ้งบ้านเกิดขอพ่อแม่มาลองเป็นนักร้อง แล้วมาเจอ มือเบส Aki ที่ตอนนั้นอยู่กันอีกวงลองมาร่าง Concept ของ SID ร่วมกับ Yuya มือกลองวงเก่าของ Mao ก่อนที่จะสามารถทาบทามมือกีต้าร์ Shinji ที่มาเป็น Part Time Member ก่อนที่จะมารวมเป็น Full Time Member เวลาต่อมา ซึ่งเพลงของวงในช่วงแรก ออกแนว Ska-punk rock แต่ตัววงก็เองก็มีการทำเพลงที่เป็นแนว Jazz –Funk ออกมาผสมเรื่อยๆ แล้วก็ตัววงก็มีการทดลองเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ได้มีสื่อกระแสหลักสนใจในช่วงแรกมากก็ตาม แต่ตัววงก็มีการ ออกไลฟ์ ให้รู้จักมากขึ้น จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 4 ปีตัววงก็เริ่มสามารถก้าวขึ้น Top Oricon Chart ได้ ด้วย Look ประมาณนี้
เพลง Natsukoi
ก่อนที่จะถูกซื้อตัวไป Major Debut ในปีต่อมา กับค่าย Ki-oon ( ค่ายเดียวกับวงรุ่นพี่อย่าง L'arc en ciel )
หลังจากที่สามารถจัด Concert ที่สนามก๊ฬา Yoyogi Stadium
และมีคนดู คอน ทั้งทัวร์ ไปประมาณ 80.000 คน พร้อมกับชื่อเสียงที่สื่อ
มอบให้เรื่อง วง Indie ที่มาแรงที่สุด ทั้งนี้แนวดนตรีของ SID เองก็ขยายมากขึ้น
ไม่ว่าจะเพลงแบบ Latin ( ต้นกำเนิดของ Ska ) ซึ่งจุดเด่นส่วนหนึ่งคือวงต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ในการออก Concept ของ Album รวมถึง การออกเพลงประกอบ แอนิเมชั่น อย่าง Fullmetal Alchemist , Black Butler , Bleach , Magi รวมถึงเพลงประกอบละครต่างๆที่ ได้พาวงไปถึง เวทีอย่าง Tokyo Dome ในปี 2010 ทั้งนี้วงเองก็ยัง โลดแล่น และ “ไหล” ( วงนี้ต้องใช้คำนี้ถึงจะถูก 555 )
อยู่ในเรื่อยมาโดยมีการออกทัวร์ของอัลบั้มต่อๆมาอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็น dead stock และ M&W ( ชอบเพลงใน 2 อัลบั้มนี้มากครับ เพลงแต่ละเพลงมีเอกลักษณ์ของตัวเพลงมาก )
จนกระทั่งปี 2013 ที่เป็น ครบรอบ 10th Anniversary ของวงที่ Mao นักร้องนำเริ่มมีปัญหาสุขภาพ การเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน และ มีเนื้องอกในเส้นเสียง ( รายละเอียดส่วนนี้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/notes/sid-%E3%82%B7%E3%83%89-thailand-fan-club-sidnad-vol2/%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81-mao-%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B9%86%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99/637303759773609/ )
ในขณะที่ต้องออกทัวร์ ครบรอบ 10 ปีของวงและออกอัลบั้ม OUTSIDER ในปีต่อมาซึ่ง เฮียแกก็ขึ้นร้องด้วยเสียงที่ คนฟังหลายคนคงต้องบอกว่าเสียงแก เละ เลย แกไม่สามารถ Control ให้ร้องสวยๆแบบเมื่อก่อนไม่ได้แต่ก็ยังแสดงไปจนจบทัวร์ ก่อนที่ปี 2015 SID ก็ยังคงมีคิว แสดงไลฟ์ไปอีกกว่า 21 แห่ง ซึ่งในนี้มี รอบพิเศษ คือ Live แบบ จำกัด เพศ เป็นรอบผู้ชายโดยเฉพาะ และ รอบผู้หญิงโดยเฉพาะ ดูอยู่ 8 รอบ ( ชาย 4 หญิง 4 ) แล้วก็ออก Single Hyoryuu ตอนเดือน 11 ก่อนที่จะมาปิดท้ายที่ Maverick Live Battle Arena ตอนท้ายปี ที่ Mao ยังคงมีปัญหาเรื่องการร้องเสียงหลบอยู่ ผนวกกับ มือกลอง Yuya ก็ออกมา Post ขอบคุณแฟนๆ ตอนท้ายปีแล้ว บอกถึงว่า ตนเป็นเส้นเอ็น อักเสบที่ ต้องมีการ ฉีด Steroid ไปขณะเล่นไลฟ์ในปีนั้น และ พอเข้าปี 2016 Activity ของวงก็แทบจะไม่มีเลย มีแค่ Project Solo ของ มือเบส Aki ที่สามารถ ออก Single และ Album และ ทาง Mao ที่เริ่มทำ Project Solo ตอนเดือน 6 ภายใต้ชื่อ Mao from SID ที่บอกว่าส่วนหนึ่งพยายามเรียกความมั่นในการร้องเพลงกลับคืนมา แต่ตัววง SID เองก็ยัง เงียบ และไม่มีอะไรออกมา ท่ามกล่างข่าวลือจาก การที่มี Project Solo กันว่า “SID จะยุบวงแล้วเหรอ ?” จนกระทั่งมา ได้รับเชิญไปแสดงในงาน Visual Summit Japan ที่ X-Japan เป็นเจ้าภาพ ตอนเดือน 10 และ งาน ครบรอบ 35 ปีค่าย Maverick Danger Crue Records ที่ไปเล่นรวมกับวงอื่น แค่ 2 ครั้งในปีนั้นโดยที่ไม่มีคิวการแสดงของตัวเอง ซึ่งในงาน ครบรอบ 35 ปีค่าย Maverick Danger Crue Records นี้เอง SID ก็ประกาศแค่ว่าจะ Live พิเศษที่ Budokan 2 วันนี้ ภายใต้ชื่องาน [ ค่ำคืนกับสายฝน ] และ [ รุ่งอรุณกับเธอ ] ที่จะเป๊นลักษณะ จัดเพลงมาให้ตรงกับ Concept Live
และ ออก Single ใหม่ Garasu No Hitomi ที่ใช้ประกอบภาพยนต์ Black Butler Book of Atlantic
เพลง Garasu No Hitomi
ซึ่งถ้าเทียบกันแล้ว แฟนๆ SID คงยังมีคำถามและ ความผิดหวังอยู่ในขณะที่ Activity Project Solo ของ Aki เองก็ดูจะมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันก็ตามมาด้วยข่าวลือเรื่อง ยุบวง เรื่อง สุขภาพอะไรต่างๆมากขึ้นไป ทำให้ตัวผมเองก็ตัดสินใจว่าจะ ไปดู SID ในครั้งนี้ที่ญี่ปุ่น
ตั๋วรอบนี้ให้ได้ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสดูอีกแล้ว
ตั๋วรอบที่ได้มาในคราวนี้เป็นรอบของ FC ซึ่งต้องมีการจับฉลากลุ้นกันนิดหน่อย ซึ่งผมได้มาทั้ง 2 วัน
ซึ่งมีการประกาศขายตั๋วรอบปกติ ต่อมา ตอนต้นเดือน 4 ที่วงประกาศ Sold Out หลังจากเปิดขายรอบปกติไปพียงวันเดียว
และ ก่อน จะถึง Budokan ปีนี้ SID ก็ ออก Single [ Butterfly Effect ] ใหม่ใน เดือน 5 ที่วงจะใช้แสดงที่ Budokan ในครั้งนี้ออกมาด้วย
เพลง Butterfly Effect
ทั้งนี้ด้วย Scale งานและอะไรหลายๆอาจจะถือว่าค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบสมัยที่ผ่านๆ มาแต่อย่างไรก็ตาม
แฟนเพลงของ SID หลายๆ คนก็เดินทาง มุ่งหน้ามาที่ Budokan ในช่วง 2 วันต้นฤดูฝนในเดือน 5 นี้
ด้วยความคิดอย่างเดียวกันว่า "อาจจะไม่ได้ดูอีกแล้ว"
SID (シド) @ Nippon Budokan (ดูไลฟ์ต่างประเทศ) ปีที่ 14 แห่งวง Jrock V-Kei ที่ไม่หยุดเปลี่ยนแปลงท่ามกลางกระแส"ยุบวง"
แล้วเขียน ดราฟท์ๆ ไว้แล้วมาเกลาเขียนให้จบน่ะครับ
อันนี้มาเชียร์ในฐานะติ่ง SID ที่ยอมขายหูให้กับเพลงๆ ของพวกเฮียๆ มาช่วงหนึ่งเลย
กับวงที่อยู่ในวงการเพลงญี่ปุ่นมานานระดับหนึ่งแต่ อาจจะมีเงียบๆหายไปบ้างในช่วง ปี 2016 ที่ผ่านมา
ถ้าใครเป็นแฟนเพลงวงนี้ยังไงแล้วเชิญที่เพจที่แปะไว้ตอนท้ายได้นะครับ
ก่อนอื่น ขอเท้าความให้รู้จัก SID กันนิดหน่อย หลายคนอาจจะเคยรู้จัก SID ในกระทู้นี้แล้ว
[J-music Chronicles # 3] ความรักในฤดูร้อน [SID]
http://2g.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C8498853/C8498853.html
( อันนี้เหมือนมาเขียนต่อจากช่วงนั้นน่ะครับ )
SID เป็นวงร็อค Visual Kei J-rock ที่เกิดมาในช่วงปี 2003
ในสมัยที่ R&B และ K-POP กำลังรุ่งเรือง ซึ่งช่วงนั้น
ส่วนนึงกระแส Visual-Kei ก็เหมือนจะดร์อปลงไป
ซึ่ง SID เองช่วงแรกๆ เอง ก็มีสไตล์การแต่งตัวแบบ Visual Kei จ๋ามากๆ ในสมัยนั้น
ชื่อวงเองที่มีคำว่า ชิ ( แปลว่า 4 หรือ ความตาย แต่จริงๆน่าจะมาจากที่วงมีกัน 4 คน )
ก็ดูจะเหมือนว่าทำให้สมัยแรกๆ SID แต่งตัวออกมาแนววงเด็กมีปัญหาเลย
รวมถึงดนตรี สมัยแรกๆ เช่นกัน
Member ของวงเริ่มมาจากการ ฟอร์มของวง ก่อนหน้านี้ที่เหมือนจะไม่สำเร็จกันแต่ก็ตัดสินใจมาลองรวมวงกันดู โดยเริ่มจาก นักร้องนำ Mao ที่มาจาก Fukuoka ที่มาแบบทิ้งบ้านเกิดขอพ่อแม่มาลองเป็นนักร้อง แล้วมาเจอ มือเบส Aki ที่ตอนนั้นอยู่กันอีกวงลองมาร่าง Concept ของ SID ร่วมกับ Yuya มือกลองวงเก่าของ Mao ก่อนที่จะสามารถทาบทามมือกีต้าร์ Shinji ที่มาเป็น Part Time Member ก่อนที่จะมารวมเป็น Full Time Member เวลาต่อมา ซึ่งเพลงของวงในช่วงแรก ออกแนว Ska-punk rock แต่ตัววงก็เองก็มีการทำเพลงที่เป็นแนว Jazz –Funk ออกมาผสมเรื่อยๆ แล้วก็ตัววงก็มีการทดลองเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ได้มีสื่อกระแสหลักสนใจในช่วงแรกมากก็ตาม แต่ตัววงก็มีการ ออกไลฟ์ ให้รู้จักมากขึ้น จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 4 ปีตัววงก็เริ่มสามารถก้าวขึ้น Top Oricon Chart ได้ ด้วย Look ประมาณนี้
ก่อนที่จะถูกซื้อตัวไป Major Debut ในปีต่อมา กับค่าย Ki-oon ( ค่ายเดียวกับวงรุ่นพี่อย่าง L'arc en ciel )
หลังจากที่สามารถจัด Concert ที่สนามก๊ฬา Yoyogi Stadium
และมีคนดู คอน ทั้งทัวร์ ไปประมาณ 80.000 คน พร้อมกับชื่อเสียงที่สื่อ
มอบให้เรื่อง วง Indie ที่มาแรงที่สุด ทั้งนี้แนวดนตรีของ SID เองก็ขยายมากขึ้น
ไม่ว่าจะเพลงแบบ Latin ( ต้นกำเนิดของ Ska ) ซึ่งจุดเด่นส่วนหนึ่งคือวงต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ในการออก Concept ของ Album รวมถึง การออกเพลงประกอบ แอนิเมชั่น อย่าง Fullmetal Alchemist , Black Butler , Bleach , Magi รวมถึงเพลงประกอบละครต่างๆที่ ได้พาวงไปถึง เวทีอย่าง Tokyo Dome ในปี 2010 ทั้งนี้วงเองก็ยัง โลดแล่น และ “ไหล” ( วงนี้ต้องใช้คำนี้ถึงจะถูก 555 )
อยู่ในเรื่อยมาโดยมีการออกทัวร์ของอัลบั้มต่อๆมาอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็น dead stock และ M&W ( ชอบเพลงใน 2 อัลบั้มนี้มากครับ เพลงแต่ละเพลงมีเอกลักษณ์ของตัวเพลงมาก )
จนกระทั่งปี 2013 ที่เป็น ครบรอบ 10th Anniversary ของวงที่ Mao นักร้องนำเริ่มมีปัญหาสุขภาพ การเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน และ มีเนื้องอกในเส้นเสียง ( รายละเอียดส่วนนี้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/notes/sid-%E3%82%B7%E3%83%89-thailand-fan-club-sidnad-vol2/%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81-mao-%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B9%86%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99/637303759773609/ )
ในขณะที่ต้องออกทัวร์ ครบรอบ 10 ปีของวงและออกอัลบั้ม OUTSIDER ในปีต่อมาซึ่ง เฮียแกก็ขึ้นร้องด้วยเสียงที่ คนฟังหลายคนคงต้องบอกว่าเสียงแก เละ เลย แกไม่สามารถ Control ให้ร้องสวยๆแบบเมื่อก่อนไม่ได้แต่ก็ยังแสดงไปจนจบทัวร์ ก่อนที่ปี 2015 SID ก็ยังคงมีคิว แสดงไลฟ์ไปอีกกว่า 21 แห่ง ซึ่งในนี้มี รอบพิเศษ คือ Live แบบ จำกัด เพศ เป็นรอบผู้ชายโดยเฉพาะ และ รอบผู้หญิงโดยเฉพาะ ดูอยู่ 8 รอบ ( ชาย 4 หญิง 4 ) แล้วก็ออก Single Hyoryuu ตอนเดือน 11 ก่อนที่จะมาปิดท้ายที่ Maverick Live Battle Arena ตอนท้ายปี ที่ Mao ยังคงมีปัญหาเรื่องการร้องเสียงหลบอยู่ ผนวกกับ มือกลอง Yuya ก็ออกมา Post ขอบคุณแฟนๆ ตอนท้ายปีแล้ว บอกถึงว่า ตนเป็นเส้นเอ็น อักเสบที่ ต้องมีการ ฉีด Steroid ไปขณะเล่นไลฟ์ในปีนั้น และ พอเข้าปี 2016 Activity ของวงก็แทบจะไม่มีเลย มีแค่ Project Solo ของ มือเบส Aki ที่สามารถ ออก Single และ Album และ ทาง Mao ที่เริ่มทำ Project Solo ตอนเดือน 6 ภายใต้ชื่อ Mao from SID ที่บอกว่าส่วนหนึ่งพยายามเรียกความมั่นในการร้องเพลงกลับคืนมา แต่ตัววง SID เองก็ยัง เงียบ และไม่มีอะไรออกมา ท่ามกล่างข่าวลือจาก การที่มี Project Solo กันว่า “SID จะยุบวงแล้วเหรอ ?” จนกระทั่งมา ได้รับเชิญไปแสดงในงาน Visual Summit Japan ที่ X-Japan เป็นเจ้าภาพ ตอนเดือน 10 และ งาน ครบรอบ 35 ปีค่าย Maverick Danger Crue Records ที่ไปเล่นรวมกับวงอื่น แค่ 2 ครั้งในปีนั้นโดยที่ไม่มีคิวการแสดงของตัวเอง ซึ่งในงาน ครบรอบ 35 ปีค่าย Maverick Danger Crue Records นี้เอง SID ก็ประกาศแค่ว่าจะ Live พิเศษที่ Budokan 2 วันนี้ ภายใต้ชื่องาน [ ค่ำคืนกับสายฝน ] และ [ รุ่งอรุณกับเธอ ] ที่จะเป๊นลักษณะ จัดเพลงมาให้ตรงกับ Concept Live
และ ออก Single ใหม่ Garasu No Hitomi ที่ใช้ประกอบภาพยนต์ Black Butler Book of Atlantic
ซึ่งถ้าเทียบกันแล้ว แฟนๆ SID คงยังมีคำถามและ ความผิดหวังอยู่ในขณะที่ Activity Project Solo ของ Aki เองก็ดูจะมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันก็ตามมาด้วยข่าวลือเรื่อง ยุบวง เรื่อง สุขภาพอะไรต่างๆมากขึ้นไป ทำให้ตัวผมเองก็ตัดสินใจว่าจะ ไปดู SID ในครั้งนี้ที่ญี่ปุ่น
ตั๋วรอบนี้ให้ได้ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสดูอีกแล้ว
ตั๋วรอบที่ได้มาในคราวนี้เป็นรอบของ FC ซึ่งต้องมีการจับฉลากลุ้นกันนิดหน่อย ซึ่งผมได้มาทั้ง 2 วัน
ซึ่งมีการประกาศขายตั๋วรอบปกติ ต่อมา ตอนต้นเดือน 4 ที่วงประกาศ Sold Out หลังจากเปิดขายรอบปกติไปพียงวันเดียว
และ ก่อน จะถึง Budokan ปีนี้ SID ก็ ออก Single [ Butterfly Effect ] ใหม่ใน เดือน 5 ที่วงจะใช้แสดงที่ Budokan ในครั้งนี้ออกมาด้วย
ทั้งนี้ด้วย Scale งานและอะไรหลายๆอาจจะถือว่าค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบสมัยที่ผ่านๆ มาแต่อย่างไรก็ตาม
แฟนเพลงของ SID หลายๆ คนก็เดินทาง มุ่งหน้ามาที่ Budokan ในช่วง 2 วันต้นฤดูฝนในเดือน 5 นี้
ด้วยความคิดอย่างเดียวกันว่า "อาจจะไม่ได้ดูอีกแล้ว"