“ห ีนา ธมฺมา”
โดยนัยพระบาลีว่า “ห ีนา ธมฺมา” แปลว่า ธรรมทั้งหลายยังอารมณ์ให้เลวทรามต่ำช้า โดยนัยอธิบายว่า กามคุณทั้ง ๕ เป็นธรรมอย่างต่ำ กระทำให้สัตว์เลวทรามต่ำช้า สมดังพระบาลีว่า “ห ีโน คมฺโม โปถุชฺชนิโก อนริโย” แปลว่า การประกอบในกามสุข “ห ีโน” เป็นธรรมอันต่ำช้าเลวทราม “คมฺโม” เป็นธรรมของชาวบ้าน “โปถุชฺชนิโก” เป็นธรรมของปุถุชน “อนริโย” ไม่ใช่ธรรมของพระอริยเจ้า ดังนี้ โดยความอธิบายว่า กามคุณทั้ง ๕ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์เหล่านี้ เมื่อบุคคลใดประพฤติให้เป็นมากอยู่ในจิตสันดานแล้ว ก็กระทำให้บุคคลผู้นั้นตกต่ำอยู่ในโลก คือ กระทำให้เวียนว่ายตายเกิดในภพทั้ง ๓ ไม่มีกำหนดชาติ ไม่สามารถยกตนเองให้พ้นจากสังสารทุกข์นี้ได้ เพราะเป็นโลกียธรรม ยังสัตว์ให้หมุนเวียนไปต่าง ๆ ไม่อาจจะยังตนให้พ้นจากทุกข์ไปได้ ดังบุรุษที่มีจิตปฏิพัทธ์รักใคร่ในภรรยา ซึ่งมีชู้กับบุรุษผู้เป็นน้องชาย ครั้นน้องชายฆ่าให้ตายแล้ว ก็ไปบังเกิดเป็นงูเหลือม ครั้นตายจากงูเหลือมแล้วก็ไปเกิดเป็นสุนัข ครั้นตายจากสุนัขแล้วก็ไปบังเกิดเป็นโค เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในเรือนแห่งภรรยานั้น เพราะโทษแห่งกามคุณ ด้วยเหตุนี้จึงเรียกชื่อว่า “ห ีนา ธมฺมา” เป็นธรรมอันพระอริยเจ้าทั้งหลาย มีพระบรมศาสดาเป็นประธานไม่ทรงสรรเสริญว่า เป็นธรรมอันประเสริฐ ดังนี้ เพราะฉะนั้นจึงสมกับพระบาลีว่า “ห ีนา ธมฺมา” ดังนี้
ธรรมทั้งหลายยังอารมณ์ให้เลวทรามต่ำช้า
โดยนัยพระบาลีว่า “ห ีนา ธมฺมา” แปลว่า ธรรมทั้งหลายยังอารมณ์ให้เลวทรามต่ำช้า โดยนัยอธิบายว่า กามคุณทั้ง ๕ เป็นธรรมอย่างต่ำ กระทำให้สัตว์เลวทรามต่ำช้า สมดังพระบาลีว่า “ห ีโน คมฺโม โปถุชฺชนิโก อนริโย” แปลว่า การประกอบในกามสุข “ห ีโน” เป็นธรรมอันต่ำช้าเลวทราม “คมฺโม” เป็นธรรมของชาวบ้าน “โปถุชฺชนิโก” เป็นธรรมของปุถุชน “อนริโย” ไม่ใช่ธรรมของพระอริยเจ้า ดังนี้ โดยความอธิบายว่า กามคุณทั้ง ๕ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์เหล่านี้ เมื่อบุคคลใดประพฤติให้เป็นมากอยู่ในจิตสันดานแล้ว ก็กระทำให้บุคคลผู้นั้นตกต่ำอยู่ในโลก คือ กระทำให้เวียนว่ายตายเกิดในภพทั้ง ๓ ไม่มีกำหนดชาติ ไม่สามารถยกตนเองให้พ้นจากสังสารทุกข์นี้ได้ เพราะเป็นโลกียธรรม ยังสัตว์ให้หมุนเวียนไปต่าง ๆ ไม่อาจจะยังตนให้พ้นจากทุกข์ไปได้ ดังบุรุษที่มีจิตปฏิพัทธ์รักใคร่ในภรรยา ซึ่งมีชู้กับบุรุษผู้เป็นน้องชาย ครั้นน้องชายฆ่าให้ตายแล้ว ก็ไปบังเกิดเป็นงูเหลือม ครั้นตายจากงูเหลือมแล้วก็ไปเกิดเป็นสุนัข ครั้นตายจากสุนัขแล้วก็ไปบังเกิดเป็นโค เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในเรือนแห่งภรรยานั้น เพราะโทษแห่งกามคุณ ด้วยเหตุนี้จึงเรียกชื่อว่า “ห ีนา ธมฺมา” เป็นธรรมอันพระอริยเจ้าทั้งหลาย มีพระบรมศาสดาเป็นประธานไม่ทรงสรรเสริญว่า เป็นธรรมอันประเสริฐ ดังนี้ เพราะฉะนั้นจึงสมกับพระบาลีว่า “ห ีนา ธมฺมา” ดังนี้