ประสพณ์การทั้งดีและ "เลวร้าย" ของการเป็นทหารเกณฑ์

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าประสพการณ์ของการเป็นทหารเกณฑ์ให้อ่านกัน หลายๆคนคงไม่รู้ และอยากที่จะรู้อะไรๆเกี่ยวกับเรื่องราวของทหาร เพราะมีข่าวเกี่ยวกับทหารในแง่ลบออกมาไม่เว้นแต่ละวัน พ่อแม่ผู้ปกครองหลายๆท่านก็คงจะเป็นกังวลกับลูกหลานที่ได้เข้าไปรับใช้ชาติเป็ทหารอยู่ไม่น้อย ผมจะเล่าแบบหมดเปลือก ไม่มีหมกเม็ดไม่อ้อมค้อม ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปจนถึงปัจจุบัน
   ผมเป็นทหารกองประจำการรุ่นที่ 1/60 ซึ่งจะปลดประจำการณ์ในเดือนเมษายนที่กำลังจะถึง ผมใช้วุฒิ ปวช.สมัครเข้าเป็นทหารเลยได้สิทธิลดวันรับราชการเป็นแค่หนึ่งปี ก่อนจะเล่าถึงเรืองในรั่วค่ายทหาร ผมขอเล่าถึงตัวเองก่อนเล็กน้อย(ถ้าอยากอ่านเนื้อหาตามหัวข้อกระทู้ให้ข้ามตรงนี้ไปได้เลย) ก่อนที่จะสมัครมาเป็นทหารผมทำงานโรงงาน รายได้ไม่มากไม่มาย 12,000 นิดๆหน่อยๆ พอได้ช่วยเหลือครอบครัว ครอบครัวผมก็มีแค่ผมกับแม่สองคนนี่แหละ พ่อทิ้งเราไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่ ป.3 เราอยู่กันอย่างลำบาก แม่ผมขายของในตลาดเลี้ยงผมมาตั้งแต่พ่อทิ้งไป แม่สุขภาพไม่ค่อยจะสู้ดี ป่วยบ่อยเพราะไม่ค่อยได้พักผ่อน เพราะเหตุนี้มันเลยทำให้ผมคิด ถ้าเกิดวันนึงแม่ล้มป่วยผมคงไม่มีปัญญารักษาถ้ายังทำงานโรงงานได้เงินเดือนเท่านี้ เลยอยากที่จะสอบเป็นทหารพวก นนส.อะไรประมาณนั้น เพราะข้าราชการเวลาพ่อแม่ป่วยสามารถเบิกค่ารักษาได้ ประกอบกับอยากเป็นทหารอยู่แล้วเพราะอาชีพนี้คืออาชีพที่เสียสละตัวเองเพื่อแผ่นดินและประชาชน อีกไม่กี่เดือนจะถึงวันเกณฑ์ทหารแล้ว ผมเลยตัดสินใจจะสมัครเข้าไปเลย ถ้าถามว่าทำไมผมไม่ไปสอบนักเรียนนายสิบตั้งแต่ตอนที่อายุถึงซะเลยล่ะ ตอนนั้นผมกับแม่ลำบากมาก ถ้าสอบติดไปแล้วได้ไปเรียนหนึ่งปีแม่จะอยู่ยังไงผมเลยยังไม่ไป มาตอนนี้เราเริ่มดีขึ้น แม่พอจะมีเงินเก็บแล้วไม่ลำบากเหมือนเมื่อปีสองปีที่แล้ว เลยตัดสินใจสมัครเข้าไปเลยไม่ต้องจับใบดำใบแดง สมัครเสร็จเรียบร้อยก็นับวันรอเลย
    และแล้ววันนี้ก็มาถึง 1 พฤกษภาคม 2560 ก่อนอื่นก็จะต้องไปรายงานตัวที่เขตที่เราไปคัดเลือกทหารก่อน ประมาณ 7.30 น. จำได้ว่าคืนก่อนจะมาวันนึงนอนไม่หลับเลย เศร้าไปหมด เป็นห่วงแม่มาก วันนั้นแม่มาส่งเราก็พยายามกลั้นน้ำตาไว้ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ไม่ว่าใครก็คงจะไม่อยากจากบ้านจากคนที่รักไปไหนหรอก ประมาณ 08.00 ก็เริ่มออกเดินทางจากเขตไปค่ายทหารเพื่อไปทำการจำหน่ายว่าใครจะไปตกที่หน่วยไหน ชายไทยจากหลายอำเภอก็จะมานั่งรวมกันที่นี่พร้อมทั้งผู้ปกครอง แม่ผมก็มายืนดูกับน้าด้วย ตอนนั้นก็จะมีพวกนายสิบกับครูทหารใหม่ของแต่ละหน่วยมารอรับ พอประกาศชื่อใคร นายคนนี้ไปที่หน่วยนี้นะก็แยกย้ายกันไป พอรู้ว่าเราได้อยู่หน่วยไหนแม่ก็กลับไป พอได้ร่ำลากันบ้าง ความรู้สึกตอนนั้นเป็นความรู้สึกที่ผมไม่อยากจะพบเจออีก เชื่อว่าหลายๆคนที่อยู่ตรงนั้นก็เช่นกัน พอรู้แล้วว่าตัวเองตกที่ไหนเค้าก็จะพาขึ้นรถทหารคันใหญ่ๆไป คนที่ตกหน่วยเดียวกันที่นั่งรถคันเดียวกันไปที่กองพัน ในนั้นไม่มีใครรู้จักกันสักคน ระหว่างทางนี่เรายังใช้โทรศัพท์ได้ ทหารเขาก็บอกว่าใช้ซะ จะไลน์จะโทรไปบอกพ่อแม่ก็ได้ว่าอยู่หน่วยไหน เดี่ยวถึงหน่วยฝึกเขาก็จะยึดแล้ว แล้วรถก็เลี้ยวเข้ามาที่หน่วยฝึกทหารใหม่ เห็นคนที่โดนขึ้นรถมาก่อนกำลังตัดผมยึดโทรศัพท์แจกของกันอยู่อย่างวุ่นวาย พอลงจากรถได้เขาก็บอกให้ไปต่อแถวเตรียมเก็บโทรศัพท์ทรัพย์สินของเราเสื้อผ้ารองเท้าใส่ซองพลาสติกอย่างดี จบขั้นตอนนี้ก็ไปเข้าแถวรอตัดผม ตัดเสร็จก็ไปอาบน้ำในห้องน้ำ นุ่งผ้าขาวม้าตัวเดียวแล้วมานั่งรอ มองไปทางไหนก็มีแต่คนแปลกหน้า เราก็พยายามพูดคุยกับคนข้างๆไว้ หาเพื่อน คนอื่นๆก็ไม่มีใครรู้จักใครเหมือนกัน ตัดผมเสร็จอะไรเสร็จก็นั่งฟังเขาชี้แจง พวกนายร้อยนายพันมาพูดให้กำลังใจ กว่าจะทำอะไรๆเสร็จก็เย็นแล้ว ได้เวลากินข้าวพอดี เป็นอาหารมื้อที่ต้องจำไปจนวันตาย ใส่ผ้าขาวม้านั่งเรียงกัน กับข้าวก็เป็นแกงอะไรสักอย่างเรียกไม่ถูก ข้าวเม็ดแข็งๆ มื้อนี้เขาก็จะสอน ว่าก่อนกินทุกครั้งจะต้องท่องคำปฎิญาณอย่างนี้ๆนะ ต้องขัดฉากนั่งหลังตรงแบบนี้ๆนะ ในวันแรกยังไม่มีอะไรมากพอให้เราได้ปรับตัว เป็นมื้อที่กินไปจะร้องไห้ไป คนข้างๆกับข้างหน้าก็นั่งตาแดงกันเป็นแถว คิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ คิดว่าป่านนี้แม่จะทำอะไรอยู่ มื้อนี้ลืมไม่ลงจริงๆ  เอาล่ะ พอกินเสร็จก็ไปอาบน้ำเป็นสเต็ปต่อไป แบ่งกันเป็นสองชุด ถ้าเข้าหมดพร้อมกันคงแออัดเกินไป การอาบก็นั่นแหละ ถอดหมด แรกๆก็อายกันบ้างแต่หลังๆก็เฉยๆ อาบน้ำเสร็จไปนั่งประจำที่ทำความรู้จักเพื่อนข้างๆ มีคนมาพูดให้กำลังใจอีก ทำกิจกรรมให้เราคลายเครียดบ้างแล้วก็ขึ้นนอนตอน 3ทุ่ม ในช่วงนี้ไม่มีใครนอนหลับหรอกครับ ผมเองก็คนนึงที่ยอมรับว่าคลุมโปงนอนน้ำตาไหลคิดถึงแม่และคนอื่นๆก็เป็น  ช่วงสามวันแรกจะไม่มีการฝึกอะไร เพราะต้องแจกของเครื่องใช้ สมุดปากกาไว้เขียนไดอารี่ ผ้าขนหนู เสื้อผ้ากางเกงรองเท้า แต่วันที่สี่นี่แหละ มันคือของจริง.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่