สวัสดีค่า
นี่เป็นกระทู้แรกที่เขียนเกี่ยวกับประเทศไต้หวัน หลังจากที่มาเที่ยว แล้วก็มาอยู่ไต้หวัน
สำหรับวันนี้ก็จะมาพูดถึงเกี่ยวกับประเทศไต้หวันกัน จะเขียนเป็นข้อๆ
บางข้อก็อาจจะรู้ๆ กันอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีบางข้อที่ไม่รู้ ถือเป็นความรู้รอบตัวแล้วกันเนอะ
อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่เท่าที่เห็นและเจอมาส่วนใหญ่ก็ตามที่เขียนเลยค่ะ จะแนบรูปไว้ในสปอยล์นะคะ
พร้อมแล้วก็ ไปดูกันเล้ยยยย
1. พูดขอบคุณและขอโทษติดปาก แม้แต่การจ่ายเงิน รับของ รับเงินทอนก็พูดขอบคุณ (เซี่ยเซี่ยะ-謝謝/ปู้ห่าวอี้ซือ-不好意思)
2. คนไต้หวันจะไม่ใส่ชุดนอน (ชุดที่จะใส่นอน) ออกไปข้างนอก แม้แต่การออกไปซื้อของใกล้บ้าน เช่น 7-11 ต้องเปลี่ยนชุดก่อน นี่เคย...ก็มีแต่คนมอง -.-
3. ภาพลักษณ์สำคัญมาก ไม่แต่งหน้าเป็นเรื่องปกติของคนไต้หวัน แต่คือผิวหน้าต้องดูดี ห้ามโทรม ห้ามปล่อย ซึ่งสำหรับนี่ถ้าไม่แต่งหน้าคือซอมบี้ดีๆ นี่เอง
4. คนไต้หวันรักสุขภาพมากกกกกก อะไรที่โฆษณาว่าเกี่ยวกับสุขภาพ บำรุงต่างๆ เขาจะเชื่อง่ายมาก
5. รักสวยรักงามก็เช่นกัน ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ความงามไม่แพ้เกาหลีนาจา เครื่องสำอางก็ถูกมากเว่อร์
6. นอกจากสองข้อบน คนไต้หวันก็กลัวตายมากๆ ด้วย คือแบบอะไรก็กลัว ดังนั้นเค้าจะเน้น healthy first, beauty second
7. เครื่องประดับที่นี่แพงมาก แม้กระทั่งที่ขายตามตลาดกลางคืนหรือร้านทั่วไปที่ไม่ใช่ของมียี่ห้อ ตุ้มหูแบบธรรมดาคู่ละ 199+ ถูกหน่อยก็ 99 สร้อยคอ แหวน ไม่ต้องพูดถึง
8. แต่มีร้านที่ขายถูกอยู่บ้างคือ 光南 (กวาง หนาน) และ Poya-寶雅 (เป๋าหย่า) มีสาขาทั่วไปในไต้หวัน
9. ซึ่งพูดถึงร้าน คสอ แล้ว ที่นี่มีชื่อเรื่องราคาถูก คสอ.เยอะ โปรโมชั่นเยอะ
10. มาส์กหน้าไม่ขอพูดถึง เพราะที่ไต้หวันคือแหล่งอยู่แล้ว มีเป็นร้อยชนิดร้อยยี่ห้อ (เคยคุยกับคนไต้หวันที่ผลิตมาส์ก เค้าบอกว่าต้นทุนแผ่นนึงไม่กี่บาท)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
11. น้ำแร่ฉีดหน้าโอกุมะชื่อดัง (Oguma) หรือภาษาจีน 水美媒 (สุยเหม่ยเม) ราคาถูก 2-3 ร้อย มีโปรบ่อย แต่ก็ไม่ได้ดีอย่างที่รีวิวหรือโฆษณากัน (คงแล้วแต่ผิวแต่ละคน)
12. แบรนด์ดังๆ จะไม่ขายตามร้านคสอ.ทั่วไป แต่จะขายตามห้างดังอย่าง Sogo (SK-II, Shiseido, MAC, Clinique, Estee Lauder ) ยกเว้น Maybelline, L’Oréal
13. ผู้ชายไต้หวันทุกคนต้องเป็นทหาร ยกเว้นน้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์
14. ครอบครัวคนที่เป็นตำรวจทหาร รวมถึงคนที่ถูกเกณฑ์เป็นทหารจะได้ลดหย่อนค่าสาธารณูปโภคต่างๆ จ่ายแค่ครึ่งเดียว
15. ซึ่งค่าน้ำค่าไฟค่าแก๊สที่นี่ก็ถูกมากอยู่แล้ว
16. สองเดือนจ่ายที ยังถูกกว่าที่ไทย 1 เดือน
17. เงินเดือนตำรวจทหารที่นี่สูงมาก
18. แต่ตำรวจทหารจะไม่เพ่นพ่าน ตั้งแต่มาอยู่นี่ยังไม่เคยเจอทหาร เจอแต่ตำรวจ เพราะสถานีตำรวจอยู่หลังบ้าน และพบเห็นได้ทั่วไปทุกเขต
19. การทำงานของตำรวจจับผู้ร้ายที่นี่โหดเหมือนเกม driver ขับรถตามบี้กันจริงๆ เลย มีคลิป*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/tnpdchief/videos/1763087420430373/
20. การจราจรอย่างที่ทราบกันดีว่าสะดวกสบาย
21. รถไฟกับรถเมล์จะเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับเมืองทั่วไป แต่ในเมืองหลวงอย่างไทเป MRT คือการจราจรหลัก (เนื่องจากขับรถแล้วรถติด+เส้นทางถนนซับซ้อนมาก) ซื้อตั๋วรถไฟง่ายมาก ถ้าไม่มีบัตร Easy card (悠游卡 โยวโหยวข่า) ให้เดินไปซื้อตั๋วที่เค้าน์เตอร์หรือซื้อเองผ่านตู้ ส่วนบัตร Easy card ซื้อและเติมเงินได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป มีหลายลายให้เลือก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
22. เส้นทางด่วนตลอดสายของไต้หวันจะเป็นรูปรางรถไฟ คือเป็นสองเส้นยาวจากเหนือไปใต้ และระหว่างสองเส้นจะมีเส้นตัดผ่าน
23. ระหว่างทางจะมีจุดพักรถหรือจุดบริการ ในนั้นจะมีสวนสาธารณะ จุดชมวิว(บางที่) ร้านค้า ศูนย์อาหาร ของฝาก ปั๊มน้ำมัน ห้องน้ำ 7-11,Family mart, OK, Hi-Life แล้วแต่
24. การขึ้นทางด่วนไม่มีด่านเก็บเงิน แต่เป็นเซ็นเซอร์สีฟ้าๆ ที่ใช้ตรวจ
25. จะจ่ายเงินค่าทางด่วนผ่านระบบ ETC ซึ่งต้องเติมเงิน สามารถเติมเงินไว้ข้างในด้วยตู้ iBon ในร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11, fam นอกจากนี้ก็มีเครื่องถ่ายเอกสารด้วย ถ่ายเองได้ หรือจะปริ้นผ่านตู้ iBon ก็ได้ เสร็จแล้วได้ใบเสร็จมาเอาไปจ่ายเงินที่เค้าน์เตอร์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
26. ทำผิดกฎจราจร แซงระหว่างเส้นขาว หรือขับเร็วเกินกำหนด ถูกกล้องจับภาพ (กล้องใช้งานจริงทุกตัว) ค่าปรับแพงมาก ดังนั้นคนที่นี่จะนิยมใช้แอพหรือโปรแกรมตรวจกล้องจับความเร็ว
27. การจราจรที่นี่อาจจะดูยากซับซ้อน แต่เกิดอุบัติเหตุน้อยเมื่อเทียบกับไทย เช่น ไฟเขียวตรง กับ ไฟเขียวเลี้ยวของทั้งสองเลนพร้อมกัน ดังนั้นจะตรงหรือจะเลี้ยวควรดูรถดีๆ (นี่เห็นแล้วแบบ มันดูมั่วมากๆ อีกฝั่งจะตรง แต่อีกคันก็จะเลี้ยวตัดผ่าน แต่มันก็ขับกันได้ เออเก่ง)
28. การขี่มอเตอร์ไซค์ จะไม่เหมือนรถยนต์ตรงบางแยกที่จะเลี้ยว รถยนต์สามารถเลี้ยวได้เลย แต่มอเตอร์ไซค์ต้องรอไฟเขียวแล้วอ้อมไปจอดรอไฟเขียวอีกรอบที่ด้านขวา ยกตัวอย่างเช่น ที่ไทยมีสี่แยก เราจะเลี้ยวขวาเข้าแยก แต่เลี้ยวไม่ทัน ดังนั้นบางคนจะเลือกเลี้ยวไปแยกซ้ายเพื่อรอไฟเขียวให้เร็วขึ้น เป็นต้น
แต่ที่ไต้หวันถือเป็นกฎจราจร จำเป็นต้องทำแบบนี้ ไม่ใช่เพราะเลี้ยวไม่ทัน แต่มันคือกฎที่ต้องรอไฟเขียวสองรอบ มีป้ายบอกชัดเจน (ซึ่งการแบ่งซ้ายขวาก็จะไม่เหมือนที่ไทย เพราะที่นี่รถยนต์พวงมาลัยซ้าย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
29. ในเมืองไฟเขียวไฟแดงที่นี่เยอะมากๆ มีทุกแยกจริงๆ ตรงไหนมีแยกเลี้ยว แยกเล็กแยกน้อย ตรงนั้นมีไฟ แต่ไฟแดงไม่นาน เขียวก็เขียวพร้อมกันตลอดทั้งเส้นทาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
29. จักรยานมีให้เห็นและขี่ได้ทั่วไป สามารถใช้บัตร Easy card (悠游卡 โยวโหยวข่า) แตะเพื่อยืมจักรยานได้ มีเลนขี่แยกโดยเฉพาะสำหรับนักปั่นก็เยอะ สะดวกสบายปลอดภัย
30. การโดยสารรถเมล์เป็นเรื่องง่ายมาก ป้ายรถบอกเวลารถมาชัดเจนและตรงเวลา ขึ้นรถแตะบัตร ลงรถก็แตะบัตรอีกครั้ง ยอดเงินจะหักจากการแตะบัตรขาขึ้น (ราคาเดียวกันเกือบตลอดสาย) ขาลงหัก 0 บาท แต่แตะบัตรเพื่อเป็นการเช็คอินว่าเราลงรถแล้วเท่านั้นเอง (เช็คบันทึกการใช้บัตรได้ด้วย Easy Wallet App) แต่ก่อนจะลงรถต้องรู้ว่าเราจะลงป้ายไหน พอมีเสียงประกาศ “ป้ายต่อไป...” ต้องรีบกดกริ่งแล้ว จำเป็นต้องกด ไม่งั้นไม่จอด ถึงจะมีป้ายรถก็ตาม แต่เขาจะไม่จอดถ้าไม่มีคนรอรถอยู่หรือไม่มีคนจะลงจากรถ (นี่เคยกดไม่ทัน พอกดแล้ว เค้าก็เลยไปสองสามป้าย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มีป้ายบอกเวลาชัดเจน และมาตรงเวลา มีแอพสามารถเช็คเวลาได้ด้วย
ส่วนอันนี้เป็นแอพเช็คยอดเงินในบัตร easy card
31. แตะบัตรดีๆ (จะมีเสียงบอกว่า โยวโหยวซ่างเชอ 悠游上車) แตะไม่ดี บัตรไม่อ่านต้องแตะใหม่ อาจถูกคนขับรถด่าได้ (นี่เคยโดนครั้งหนึ่งตอนมาใหม่ๆ ไม่เอาบัตรออกจากกระเป๋า แตะทั้งกระเป๋า ไม่ผ่าน ถูกด่าอีก ==)
32. ไม่มีบัตร จ่ายด้วยเหรียญได้ (หยอดใส่ตู้ตอนขาลง กรุณาเตรียมให้พอดีค่ารถ เพราะไม่มีทอน) คนขับจะให้บัตรมา เพื่อให้แตะแทนบัตร easy card
33. บนรถบางคันและบางชนิด (มีทั้งเบาะล้วน เบาะครึ่งคันหลัง หรือแบบมีเบาะช่วงหน้ารถกับช่วงท้ายรถ) จะมีที่เสียบ USB เพื่อชาร์จแบตได้ และมี Wifi ฟรีทุกคัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
34. ป้ายบอกทางต่างๆ เป็นภาษาจีนตัวเต็ม และมีภาษาอังกฤษ (คำอ่าน+คำแปล) กำกับ ซึ่งภาษาอังกฤษตัวอ่านแต่ละที่จะเขียนต่างกัน เช่น จงลี่ จะเขียนเป็น Zhongli/Chungli, ไถจง - Taizhong/Taichung เป็นต้น ทำให้ชาวต่างชาติอ่านเพี้ยนไปมากๆ
35. จากข้างต้น เคยมีคนไทยคนหนึ่งมาคุยกับนี่ว่าเคยไปเที่ยวมาหลายที่มาก ชอบไปสุดคือที่ไท่ชุง แล้วนางก็เน้นย้ำอยู่นั่นว่าไท่ชุงมีอะไร ไท่ชุงเป็นยังไง ตอนแรกนี่ก็งง ที่ไหนวะ 555555
36. ทุกจังหวัดของไต้หวันจะมีชื่อถนน ชื่อเขต ชื่อสถานที่และผังเหมือนๆ กัน เช่น ถนนหลักตรงสถานีรถไฟจะมีชื่อว่า 中正路 และ中央路 เหมือนกันทุกจังหวัด
ต่อเม้นล่างน้า
จะไปเที่ยวไต้หวันต้องอ่าน!! 60 ข้อควรรู้เกี่ยวกับประเทศไต้หวัน
นี่เป็นกระทู้แรกที่เขียนเกี่ยวกับประเทศไต้หวัน หลังจากที่มาเที่ยว แล้วก็มาอยู่ไต้หวัน
สำหรับวันนี้ก็จะมาพูดถึงเกี่ยวกับประเทศไต้หวันกัน จะเขียนเป็นข้อๆ
บางข้อก็อาจจะรู้ๆ กันอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีบางข้อที่ไม่รู้ ถือเป็นความรู้รอบตัวแล้วกันเนอะ
อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่เท่าที่เห็นและเจอมาส่วนใหญ่ก็ตามที่เขียนเลยค่ะ จะแนบรูปไว้ในสปอยล์นะคะ
พร้อมแล้วก็ ไปดูกันเล้ยยยย
1. พูดขอบคุณและขอโทษติดปาก แม้แต่การจ่ายเงิน รับของ รับเงินทอนก็พูดขอบคุณ (เซี่ยเซี่ยะ-謝謝/ปู้ห่าวอี้ซือ-不好意思)
2. คนไต้หวันจะไม่ใส่ชุดนอน (ชุดที่จะใส่นอน) ออกไปข้างนอก แม้แต่การออกไปซื้อของใกล้บ้าน เช่น 7-11 ต้องเปลี่ยนชุดก่อน นี่เคย...ก็มีแต่คนมอง -.-
3. ภาพลักษณ์สำคัญมาก ไม่แต่งหน้าเป็นเรื่องปกติของคนไต้หวัน แต่คือผิวหน้าต้องดูดี ห้ามโทรม ห้ามปล่อย ซึ่งสำหรับนี่ถ้าไม่แต่งหน้าคือซอมบี้ดีๆ นี่เอง
4. คนไต้หวันรักสุขภาพมากกกกกก อะไรที่โฆษณาว่าเกี่ยวกับสุขภาพ บำรุงต่างๆ เขาจะเชื่อง่ายมาก
5. รักสวยรักงามก็เช่นกัน ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ความงามไม่แพ้เกาหลีนาจา เครื่องสำอางก็ถูกมากเว่อร์
6. นอกจากสองข้อบน คนไต้หวันก็กลัวตายมากๆ ด้วย คือแบบอะไรก็กลัว ดังนั้นเค้าจะเน้น healthy first, beauty second
7. เครื่องประดับที่นี่แพงมาก แม้กระทั่งที่ขายตามตลาดกลางคืนหรือร้านทั่วไปที่ไม่ใช่ของมียี่ห้อ ตุ้มหูแบบธรรมดาคู่ละ 199+ ถูกหน่อยก็ 99 สร้อยคอ แหวน ไม่ต้องพูดถึง
8. แต่มีร้านที่ขายถูกอยู่บ้างคือ 光南 (กวาง หนาน) และ Poya-寶雅 (เป๋าหย่า) มีสาขาทั่วไปในไต้หวัน
9. ซึ่งพูดถึงร้าน คสอ แล้ว ที่นี่มีชื่อเรื่องราคาถูก คสอ.เยอะ โปรโมชั่นเยอะ
10. มาส์กหน้าไม่ขอพูดถึง เพราะที่ไต้หวันคือแหล่งอยู่แล้ว มีเป็นร้อยชนิดร้อยยี่ห้อ (เคยคุยกับคนไต้หวันที่ผลิตมาส์ก เค้าบอกว่าต้นทุนแผ่นนึงไม่กี่บาท)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
11. น้ำแร่ฉีดหน้าโอกุมะชื่อดัง (Oguma) หรือภาษาจีน 水美媒 (สุยเหม่ยเม) ราคาถูก 2-3 ร้อย มีโปรบ่อย แต่ก็ไม่ได้ดีอย่างที่รีวิวหรือโฆษณากัน (คงแล้วแต่ผิวแต่ละคน)
12. แบรนด์ดังๆ จะไม่ขายตามร้านคสอ.ทั่วไป แต่จะขายตามห้างดังอย่าง Sogo (SK-II, Shiseido, MAC, Clinique, Estee Lauder ) ยกเว้น Maybelline, L’Oréal
13. ผู้ชายไต้หวันทุกคนต้องเป็นทหาร ยกเว้นน้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์
14. ครอบครัวคนที่เป็นตำรวจทหาร รวมถึงคนที่ถูกเกณฑ์เป็นทหารจะได้ลดหย่อนค่าสาธารณูปโภคต่างๆ จ่ายแค่ครึ่งเดียว
15. ซึ่งค่าน้ำค่าไฟค่าแก๊สที่นี่ก็ถูกมากอยู่แล้ว
16. สองเดือนจ่ายที ยังถูกกว่าที่ไทย 1 เดือน
17. เงินเดือนตำรวจทหารที่นี่สูงมาก
18. แต่ตำรวจทหารจะไม่เพ่นพ่าน ตั้งแต่มาอยู่นี่ยังไม่เคยเจอทหาร เจอแต่ตำรวจ เพราะสถานีตำรวจอยู่หลังบ้าน และพบเห็นได้ทั่วไปทุกเขต
19. การทำงานของตำรวจจับผู้ร้ายที่นี่โหดเหมือนเกม driver ขับรถตามบี้กันจริงๆ เลย มีคลิป* [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
20. การจราจรอย่างที่ทราบกันดีว่าสะดวกสบาย
21. รถไฟกับรถเมล์จะเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับเมืองทั่วไป แต่ในเมืองหลวงอย่างไทเป MRT คือการจราจรหลัก (เนื่องจากขับรถแล้วรถติด+เส้นทางถนนซับซ้อนมาก) ซื้อตั๋วรถไฟง่ายมาก ถ้าไม่มีบัตร Easy card (悠游卡 โยวโหยวข่า) ให้เดินไปซื้อตั๋วที่เค้าน์เตอร์หรือซื้อเองผ่านตู้ ส่วนบัตร Easy card ซื้อและเติมเงินได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป มีหลายลายให้เลือก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
22. เส้นทางด่วนตลอดสายของไต้หวันจะเป็นรูปรางรถไฟ คือเป็นสองเส้นยาวจากเหนือไปใต้ และระหว่างสองเส้นจะมีเส้นตัดผ่าน
23. ระหว่างทางจะมีจุดพักรถหรือจุดบริการ ในนั้นจะมีสวนสาธารณะ จุดชมวิว(บางที่) ร้านค้า ศูนย์อาหาร ของฝาก ปั๊มน้ำมัน ห้องน้ำ 7-11,Family mart, OK, Hi-Life แล้วแต่
24. การขึ้นทางด่วนไม่มีด่านเก็บเงิน แต่เป็นเซ็นเซอร์สีฟ้าๆ ที่ใช้ตรวจ
25. จะจ่ายเงินค่าทางด่วนผ่านระบบ ETC ซึ่งต้องเติมเงิน สามารถเติมเงินไว้ข้างในด้วยตู้ iBon ในร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11, fam นอกจากนี้ก็มีเครื่องถ่ายเอกสารด้วย ถ่ายเองได้ หรือจะปริ้นผ่านตู้ iBon ก็ได้ เสร็จแล้วได้ใบเสร็จมาเอาไปจ่ายเงินที่เค้าน์เตอร์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
26. ทำผิดกฎจราจร แซงระหว่างเส้นขาว หรือขับเร็วเกินกำหนด ถูกกล้องจับภาพ (กล้องใช้งานจริงทุกตัว) ค่าปรับแพงมาก ดังนั้นคนที่นี่จะนิยมใช้แอพหรือโปรแกรมตรวจกล้องจับความเร็ว
27. การจราจรที่นี่อาจจะดูยากซับซ้อน แต่เกิดอุบัติเหตุน้อยเมื่อเทียบกับไทย เช่น ไฟเขียวตรง กับ ไฟเขียวเลี้ยวของทั้งสองเลนพร้อมกัน ดังนั้นจะตรงหรือจะเลี้ยวควรดูรถดีๆ (นี่เห็นแล้วแบบ มันดูมั่วมากๆ อีกฝั่งจะตรง แต่อีกคันก็จะเลี้ยวตัดผ่าน แต่มันก็ขับกันได้ เออเก่ง)
28. การขี่มอเตอร์ไซค์ จะไม่เหมือนรถยนต์ตรงบางแยกที่จะเลี้ยว รถยนต์สามารถเลี้ยวได้เลย แต่มอเตอร์ไซค์ต้องรอไฟเขียวแล้วอ้อมไปจอดรอไฟเขียวอีกรอบที่ด้านขวา ยกตัวอย่างเช่น ที่ไทยมีสี่แยก เราจะเลี้ยวขวาเข้าแยก แต่เลี้ยวไม่ทัน ดังนั้นบางคนจะเลือกเลี้ยวไปแยกซ้ายเพื่อรอไฟเขียวให้เร็วขึ้น เป็นต้น
แต่ที่ไต้หวันถือเป็นกฎจราจร จำเป็นต้องทำแบบนี้ ไม่ใช่เพราะเลี้ยวไม่ทัน แต่มันคือกฎที่ต้องรอไฟเขียวสองรอบ มีป้ายบอกชัดเจน (ซึ่งการแบ่งซ้ายขวาก็จะไม่เหมือนที่ไทย เพราะที่นี่รถยนต์พวงมาลัยซ้าย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
29. ในเมืองไฟเขียวไฟแดงที่นี่เยอะมากๆ มีทุกแยกจริงๆ ตรงไหนมีแยกเลี้ยว แยกเล็กแยกน้อย ตรงนั้นมีไฟ แต่ไฟแดงไม่นาน เขียวก็เขียวพร้อมกันตลอดทั้งเส้นทาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
29. จักรยานมีให้เห็นและขี่ได้ทั่วไป สามารถใช้บัตร Easy card (悠游卡 โยวโหยวข่า) แตะเพื่อยืมจักรยานได้ มีเลนขี่แยกโดยเฉพาะสำหรับนักปั่นก็เยอะ สะดวกสบายปลอดภัย
30. การโดยสารรถเมล์เป็นเรื่องง่ายมาก ป้ายรถบอกเวลารถมาชัดเจนและตรงเวลา ขึ้นรถแตะบัตร ลงรถก็แตะบัตรอีกครั้ง ยอดเงินจะหักจากการแตะบัตรขาขึ้น (ราคาเดียวกันเกือบตลอดสาย) ขาลงหัก 0 บาท แต่แตะบัตรเพื่อเป็นการเช็คอินว่าเราลงรถแล้วเท่านั้นเอง (เช็คบันทึกการใช้บัตรได้ด้วย Easy Wallet App) แต่ก่อนจะลงรถต้องรู้ว่าเราจะลงป้ายไหน พอมีเสียงประกาศ “ป้ายต่อไป...” ต้องรีบกดกริ่งแล้ว จำเป็นต้องกด ไม่งั้นไม่จอด ถึงจะมีป้ายรถก็ตาม แต่เขาจะไม่จอดถ้าไม่มีคนรอรถอยู่หรือไม่มีคนจะลงจากรถ (นี่เคยกดไม่ทัน พอกดแล้ว เค้าก็เลยไปสองสามป้าย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
31. แตะบัตรดีๆ (จะมีเสียงบอกว่า โยวโหยวซ่างเชอ 悠游上車) แตะไม่ดี บัตรไม่อ่านต้องแตะใหม่ อาจถูกคนขับรถด่าได้ (นี่เคยโดนครั้งหนึ่งตอนมาใหม่ๆ ไม่เอาบัตรออกจากกระเป๋า แตะทั้งกระเป๋า ไม่ผ่าน ถูกด่าอีก ==)
32. ไม่มีบัตร จ่ายด้วยเหรียญได้ (หยอดใส่ตู้ตอนขาลง กรุณาเตรียมให้พอดีค่ารถ เพราะไม่มีทอน) คนขับจะให้บัตรมา เพื่อให้แตะแทนบัตร easy card
33. บนรถบางคันและบางชนิด (มีทั้งเบาะล้วน เบาะครึ่งคันหลัง หรือแบบมีเบาะช่วงหน้ารถกับช่วงท้ายรถ) จะมีที่เสียบ USB เพื่อชาร์จแบตได้ และมี Wifi ฟรีทุกคัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
34. ป้ายบอกทางต่างๆ เป็นภาษาจีนตัวเต็ม และมีภาษาอังกฤษ (คำอ่าน+คำแปล) กำกับ ซึ่งภาษาอังกฤษตัวอ่านแต่ละที่จะเขียนต่างกัน เช่น จงลี่ จะเขียนเป็น Zhongli/Chungli, ไถจง - Taizhong/Taichung เป็นต้น ทำให้ชาวต่างชาติอ่านเพี้ยนไปมากๆ
35. จากข้างต้น เคยมีคนไทยคนหนึ่งมาคุยกับนี่ว่าเคยไปเที่ยวมาหลายที่มาก ชอบไปสุดคือที่ไท่ชุง แล้วนางก็เน้นย้ำอยู่นั่นว่าไท่ชุงมีอะไร ไท่ชุงเป็นยังไง ตอนแรกนี่ก็งง ที่ไหนวะ 555555
36. ทุกจังหวัดของไต้หวันจะมีชื่อถนน ชื่อเขต ชื่อสถานที่และผังเหมือนๆ กัน เช่น ถนนหลักตรงสถานีรถไฟจะมีชื่อว่า 中正路 และ中央路 เหมือนกันทุกจังหวัด
ต่อเม้นล่างน้า