ทำไมเราไม่สนับสนุนการให้คนต่างชาติมาถือสัญชาติไทย แทนการให้คนในชาติมีลูกเยอะขึ้น?

เออ...นานๆ ที่จะมีคนตรงกับข้าพเจ้าอย่างนี้

ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับการรับคนชาติอื่นมาเป็นชาติเรานะ นอกจากจะเป็นปรับปรุงพันธุกรรมช่วยให้ประชากรแข็งแรงแล้ว ยังจะช่วยให้เกิดการแข่งขันในหมู่คนไทยเจ้าของประเทศ(รวมถึงข้าพเจ้าด้วย) ว่าไม่ใช่แค่เป็นคนไทยจะยังกินบุญเก่า นั่งหวานเย็นแช่อิ่มได้ตลอดกาลปาวสาน จะได้มีแรงจูงใจเชิงบังคับให้เกิดการพัฒนาตนบ้าง

แต่เอาเข้าจริง ทุกวันนี้ก็กำลังเกิดการถ่ายเทผสมผสานประชากรไทยกันอยู่นะ อย่างเช่น ในขณะที่เพื่อนเข้ามาเป็นแรงงานในไทย คนไทยก็แห่กันไปเป็นแรงงานชาติอื่น หรือทางอีสานมีเขยฝรั่ง หรือทางเหนือมีเขยเกาหลีญี่ปุ่น  

เรื่องการมีเขยต่างชาตินี้ สำหรับคนอื่นข้าพเจ้าไม่ทราบ แต่สำหรับข้าพเจ้าเห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะขืนปล่อยให้คนไทยแต่งงานกันเองในหมู่บ้านเดียวกัน หรือในจังหวัดเดียวกันไปนานๆ  โรคธาลัสซีเมีย หรือโรคทางพันธุกรรมแปลกๆ อาจจะแพร่ระบาดได้ (บางท่านอ่านแล้วอาจจะขำ แต่เรื่องนี้อันตรายสำหรับคนไทยมากนะ โดยเฉพาะทางภาคเหนือและอีสาน) นอกจากนี้ พวกลูกครึ่งที่เกิดจากเขยต่างชาติเหล่านี้ ก็มีรูปร่างสวยงาม แข็งแรง หากพวกเขาได้แต่งกับคนไทยด้วยกันอีกครั้ง แล้วมีลูกหลานให้รัฐไทย ก็จะช่วยให้พันธุกรรมคนไทยรุ่นใหม่ปลอดโรคทางพันธุกรรมกว่าเดิมได้

หรืออย่างเช่น ในกรุงเทพ ตอนนี้เริ่มมีการตั้งชุมชนคนจีน คนญี่ปุ่น คนเกาหลี ตามถนนสายต่างๆ ซึ่งคนเหล่านี้ที่เข้ามา ไม่ได้มีแค่เฉพาะทุนทรัพย์ หากได้นำภูมิปัญญา ความรู้เข้ามาด้วย และพวกเขาเหล่านั้นก็ได้ทำมาหากินค้าขายจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นทุกวัน หากวันไหนเขาอยากจะตั้งถิ่นฐานในเมืองไทย หากทางเราปฏิเสธโดยไม่ได้พิจารณาอะไร พวกเขาต้องย้ายทรัพย์สมบัติที่หาจากเมืองไทยไปอยู่ที่อื่นอย่างไม่เต็มใจ นอกจากทางไทยจะขาดทุน ยังเสียโอกาสได้ทรัพย์สมบัติตลอดภูมิปัญญาของเขามาเป็นของรัฐไทย(ทั้งๆ ที่เขาเหล่าเหล่าอยากมาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐไทย)

หรืออย่างเช่น ในเมืองใหญ่ของไทยมีแรงงานเขมรพม่าอยู่มาก พวกเขาสามารถทำงานทั้งหลายที่คนไทยไม่ทำ และเนื่องจากเขามีความขยัน รู้จักดิ้นรนไต่เต้า หากเขาสามารถฝ่าด่านที่รัฐไทยตั้งไว้จนมีคุณสมบัติครบ เราก็ควรรับเขาเข้าสังกัด นอกจากจะเป็นการเพิ่มประชากรรุ่นใหม่ๆ ที่มีไฟในการต่อสู้ ยังช่วยให้รัฐไทยเจริญก้าวหน้าเพราะมีพลเมืองหนุ่มสาว ในขณะที่คนไทยพื้นถิ่น(รวมถึงข้าพเจ้าด้วย)จะต้องล้มแก่ตายไป

ซึ่งรัฐไทยทุกวันนี้ก็เริ่มมาถูกทางแล้วนะ เช่น การอนุญาตให้เด็กต่างด้าวที่จบปริญญาตรี อยู่ในไทยมานานเกิน ๑๕ ปี สามารถขอสิทธิ์มาเป็นคนไทย เพราะในเมื่อคนเหล่านี้สามารถดิ้นรนผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้จนมีคุณสมบัติที่รัฐไทยต้องการ แล้วเขายังอยากจะเข้ามาสังกัดรัฐไทย เราก็ควรรับคำร้องเขามาพิจารณา

เพียงแต่ว่าการคัดเลือก มันต้องกรองกันเข้มๆ หน่อย เพราะมีบางพวกอยากจะมาเผยแพร่ลัทธิประหลาดๆ อย่างเช่นลัทธิผู้การการร้าย ลัทธิคอมมิวนิสต์ ลัทธิรัฐสาธารณะ หรือบางพวกอยากได้สิทธิ์คนไทยใจจะขาด แต่ภายในใจของเขากลับไม่รักสถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ของไทยเลย (เช่น พวกข้างบ้านที่รู้ๆ กันอยู่) คนพวกนี้ นอกจากจะไม่เอาแล้ว ยังต้องรีบกำจัดให้พ้นๆ รัฐไทยอย่างเด็ดขาดเสียทีเดียว

(หมายเหตุ-สังเกตเงื่อนไขดีๆ นะว่ารัฐไทยให้สิทธิแค่ยื่นคำร้อง ส่วนคำร้องของเขาจะผ่านไม่ผ่าน มันเป็นสิทธิ์ของของรัฐไทยอยู่แล้ว นั่นหมายความรัฐไทยมีโอกาสกรองคนก่อน และหากเราสังเกตกฎระเบียบข้ออื่นที่เกี่ยวกับความมั่นคงอื่นๆ อีกที รัฐไทยจะวาง”นโยบายสามรุ่นเป็นไทย”เอาไว้ คือ ชั้นพ่อคือต่างด้าว-ไม่สิทธิ์ใดๆ  รุ่นลูกคือคนไทยเชื้อสายอะไรก็ว่าไป แต่พอเข้าชั้นหลาน เขาก็คนไทย เชื้อสายไทย ที่มีสิทธิ์เหมือนคนไทยคนอื่นทุกประการ)

ปล.ข้าพเจ้าไม่ถือว่าชาติอารยันคือพันธุ์แท้นะ ข้าพเจ้าถือว่าชาติอารยันคือพันทาง และลัทธิภูมิบุตรอย่างมาเลเซีย หรือลัทธิลูกพระอาทิตย์อย่างญี่ปุ่น ก็ไม่เหมาะสมกับประเทศไทยที่เปิดเมืองทั้งสี่ฟากแปดฝั่งด้วย