เรื่องสั้นเอามัน เรื่อง The Bourne Extreme Way ล่าสุดคลั่งยอดจารชน สะท้านโลก ผมแต่งเองนะ อิอิ

ลองแต่งเล่นๆดูนะครับ
เป็นเรื่องราวภาคต่อจาก Jason Bourne 2016

หลังจากเจสัน บอร์นกลับไปวอชิงตันไปรู้ความจริงของ จนท.หญิงฝ่ายไอที แกก็หลบหนีออกวอชิงตันอย่างไร้ร่องรอย จนกระทั้งแกเดินทางไปพักที่โมเต็ลนอกชานเมือง แคลิฟอเนีย
บอร์นพบว่ามีคนจับตาดูเขาอยู่ และเขารู้ตัวทันเลยโบกรถข้างทางไป หลังจากนั้นสามวัน บอร์นได้ไปหลบที่ลับของเขาเป็นห้องใต้ถุนเก่าๆ สภาพไม่โทรมมากในเมืองนิวยอร์ค เพื่อมาเก็บข้าวของของเขา ห้องของบอร์นเต็มไปด้วยกุญแจที่ถูกล็อคไว้มากมาย บางตู้กุญแจที่ล็อคก็ถูกเปิด เขาสงสัยมากที่เห็นบางตู้ถูกเปิด ในเมื่อเขาไม่เคยกลับมาที่นี้เลย และเป็นสถานที่ลับที่ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าบอร์นไว้หลบซ่อน เขาเดินสำรวจห้องของเขาซักพัก มีรูปใบนึงปลิวมาหล่นด้านหลังของเขา บอร์นหันกลับไปดูและหยิบรูปภาพขึ้นมา เขาเห็นรูปเขาสมัยยังเป็นทหารถ่ายคู่กับชายคนนึงที่รูปร่างใหญ่ ตาสีเขียว ผมน้ำตาลเข้ม ในรูปทั้งคู่กอดคอกันถ่าย ในชุดปฎิบัติการของทหาร เมื่อเขาพลิกรูป อีกด้านของรูป เขียนว่า แบกแดด, อิรัก ปี 1992
ปฎิบัติการสไตร์ทฟอซ ทำให้บอร์นรำลึกความทรงจำครั้งนั้นขึ้นมาได้ ในความทรงจำ เขาเห็นตนเองกับเหล่าเพื่อนทหารนั่ง ฮ.ลงจอดเป็นโกดังนอกเมืองแบกแดด พวกเขาวิ่งลงจากฮ.แล้ววิ่งหลบกำบังไว้ ซักพักมีรถเก๋งเก่าๆคันนึงวิ่งมาแถวโกดังเก่านั้น มีรถคุ้มกันเป็นรถเกราะทหาร มีชายคนนึงออกจากรถ เป็นชายมุสลิมพร้อมบอดี้การ์ดส่วนตัวสามคนและมีทหารจากรถเกราะอีกสองคันออกมายืนคุ้มกัน บอร์นและเพื่อนของเขาอีกสามคนกำบังอยู่ในจุดลับตา และเฝ้ามองอยู่ ซักพักชายมุสลิมคนดังกล่าวก็เดินไปที่โกดังแล้วหยิบกุญแจมาไขประตูด้านหน้าโกดังที่ล็อคไว้
ซักพักภาพก็เลือนหายไป บอร์นเมื่อมีอาการปวดหัวและทรุดลงกับพื้นพร้อมมือขวาที่จับรูปภาพนั้นไว้ เมื่อเขามองรูปภาพอีกครั้งเขาพยายามนึกถึงแต่ภาพเหล่านั้นกลับไม่มาให้เห็นอีก เขาลุกขึ้นแล้วเช็คดูข้าวของในห้องเขา มีสี่ตู้ล็อกเกอร์ในห้องเขา มีสองล็อกเกอร์ถูกเปิดออก แต่ไม่มีสภาพการค้นของข้างใน บอร์นจำได้ว่าเขาซ่อนกุญแจสำหรับไขล็อกเกอร์ไว้ที่ไหนเขาเดินไปตรงหัวมุมห้อง ซึ่งมีโต๊ะไม้เล็กอยู่ เขาหยิบกุญแจใต้โต๊ะนั้นมาที่ถูกติดไว้ด้วยหมากฝรั่ง ซึ่งเป็นพวงกุญแจทั้งสี่ เขาจึงเปิดสองล็อกเกอร์ที่เหลือออก ล็อกเกอร์แรกเขาพบมีเอกสารในซองที่เป็นความลับทางทหารมากมาย เสื้อผ้าสมัยเขายังเป็นทหาร ปืนพก 9 มม.หนึ่งกระบอก และมีดพับหนึ่งเล่ม เมื่อเขาหยิบเสื้อทหารขึ้นดู เขาล้วงไปที่กระเป๋าเสือด้านหลังพบ แฟลชไดร์ฟเก่าๆหนึ่งอัน เขาจึงเก็บใส่แจ็คเก็ตของเขา เมื่อเขาสำรวจรอบตู้แรกต่อไปก็ไม่พบอะไรมากกว่านี้ ส่วนเอกสารลับที่ว่านั้น เขาก็หยิบออกมาแต่ยังไม่เปิดดู เขาตรงไปไขกุญแจตู้ที่สองออก ข้างในพบพาสสปอร์ตสองเล่มเป็นเล่มของประเทศชิลีเล่มนึงและอีกเล่มเป็นของประเทศไทย พบปืน
11 มม.อีกหนึ่งกระบอก เขาหยิบพาสสปอร์ตออก และเดินออกจากห้องลับของเขา โดยตู้อีกสองใบที่ถูกเปิดออกนั้น ข้างในไม่มีอะไรนอกจากอุปกรณ์เดินป่า เข็มทิศ กระบอกน้ำ
เข็มกลัด บัตรจนท.ในกองทัพของเขา นาฬิกาข้อมือที่ตาย และปืนลูกโม่ที่ไม่มีลูกอีกหนึ่ง
กระบอก ห้องลับของบอร์นนั้นอยู่ใต้สถานีรถไฟในเมืองนิวยอร์คเป็นห้องใต้ถุนซึ่งอยู่ติดกับทางออกใต้ดิน ซึ่งประตูห้องนั้นถูกทาสีเป็นสีเทาเนียนกับผนังมากและน้อยคนที่จะลงมาตรงนี้
ต่อมาบอร์นได้เข้าร้านอินเตอร์้เน็ต และหยิบแฟลชไดร์ฟในกระเป๋าแจ็คเก็ตขึ้นมาเสียบดู
พบว่า .... ไว้ต่อพาสหน้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่