ยูเรชิโนะ (Ureshino) เมืองเล็กๆ ที่ไม่ควรพลาดจริงๆ



ผมมาพาไปเที่ยวเมือง เมืองยูเรชิโนะ (Ureshino) ต่อจากกระทู้ก่อน ที่ได้เขียนเล่าสู่กันฟังไปแล้วเกี่ยวกับเทศกาลฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของเมืองยูเรชิโนะ (Ureshino) ตามกระทู้นี้เลยครับ

https://pantip.com/topic/37129623

ซึ่งต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ หลายคนที่ได้ให้ความสนใจและได้ส่งข้อความส่วนตัวเข้ามาถามไถ่กันพอประมาณว่าถ้าอยากไปเที่ยวควรจะมีเวลาสักกี่วัน ถึงจะเที่ยวได้ทั่วเมือง ก็อย่างที่บอกไว้ครับว่าเมืองยูเรชิโนะ (Ureshino) เป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดซากะ (Saga) ที่มีวัฒนธรรมการใช้ชีวิตที่ดีงาม ธรรมชาติสวย สงบ อาหารอร่อยมาก และที่สำคัญคือไม่แพง ใช้เวลาเที่ยวสัก 3-4 วันกำลังดีครับ

มาคราวนี้ผมขอเขียนแนะนำสถานที่เที่ยว เมนูเด็ดประจำเมือง และกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดหากมาเยือนเมืองยูเรชิโนะ (Ureshino) กันนะครับ โดยเฉพาะหากมากันเป็นคู่ ที่ไม่ว่าจะเป็นคู่เพื่อน หรือคู่รัก แบบ Couple รับรองว่าเมืองยูเรชิโนะ (Ureshino) นี่ จัดได้ว่าเป็นเมืองหนึ่งในญี่ปุ่นที่เหมาะเจาะลงตัวทีเดียวครับ ไม่เชื่อก็ลองคลิกดูคลิปวิดีโอโปรโมทเมืองที่เมืองยูเรชิโนะ (Ureshino) ได้ทำไว้ด้านล่างนี้เลยครับผม

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


จุดเด่นอย่างหนึ่งของเมืองยูเรชิโนะ (Ureshino) คือน้ำแร่ออนเซนครับ โดดเด่นจนถึงขั้นจัดได้ว่าเป็นเมืองที่มีออนเซนที่มีน้ำแร่คุณภาพเยี่ยมเพื่อผิวสวยกระจ่างใส โดยในเมืองจะมีออนเซนที่เรียกว่า Ureshino Bihaku Onsen ที่สาวๆ ญี่ปุ่นในละแวกเมืองใกล้เคียงจะดั้นด้นเดินทางมาที่เมืองนี้ เพื่อหาโอกาสแช่ออนเซน Ureshino Bihaku Onsen โดยจะมาใช้ชีวิตใน Ureshino Bihaku Onsen Ryokan ที่มีกิจกรรมที่เสริมส่งให้ผิวสวยกระจ่างใสให้ทำมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็น
- Ureshino Onsen (Spring Water)
- Ureshino Tea
- Ureshino Onsen Yudofu
- Ureshino Tea Esthetic Mask



ผมได้ลองทำ Ureshino Tea Esthetic Mask ที่ใช้เวลาเพียง 45 นาที ซึ่งแต่ไหนแต่ไรไม่ได้เคยสนใจเลยจริงๆ ครับ แต่ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว ไม่ลองซะหน่อยจะถือว่าพลาดของดีประจำเมืองไป ซึ่งอย่างที่บอกครับว่า เมืองยูเรชิโนะ (Ureshino) นี่ เขาดังทั้งเรื่องออนเซน และเรื่องชา การพอกหน้านวดหน้ามาร์กหน้าด้วยชาเขียว พร้อมการสเปรย์น้ำแร่ที่ผิวหน้านี่ ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างอย่างรู้สึกได้จริงๆ ครับ เลยคิดว่าถ้าใครมากับแฟนต้องเป็นกิจกรรมที่ดีงามและน่าจดจำของทริปแน่ๆ ครับ



หลังจากมาร์กหน้าเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาหาอะไรลงท้อง เฮ้ย! รองท้องครับ ซึ่งอาหารสุดฮิตที่ถือเป็นเมนูความอร่อย ที่เขาว่ากันว่ามาเมืองยูเรชิโนะ (Ureshino) แล้ว ถ้าไม่กินนี่ถือว่าพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยจริงๆ ครับ

Ureshino Onsen Yudofu หรือเต้าหู้ออนเซนแห่งเมืองยูเรชิโนะ คือสุดยอดความอร่อยระดับตำนาน ที่นอกจากรสชาตินวลเนียนนุ่มละมุนลิ้นแล้ว ยังมีประโยชน์กับสุขภาพกายและสุขภาพผิว เพราะมีส่วนผสมของถั่วขาวญี่ปุ่น และน้ำแร่ออนเซนของเมืองยูเรชิโนะ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำแร่ที่มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์กับร่างกายมากทีเดียวครับ





ร้านที่อยากแนะนำคือร้านที่ชื่อว่า Hirakawaya ซึ่งเป็นร้านที่เก่าแก่และโด่งดังของเมือง วัตถุดิบหลักและเมนูเด็ดอันเป็นที่รู้จักของร้านก็คือเมนูที่เป็นเต้าหู้ออนเซนนี่แหละครับ ซึ่งความตื่นตาตื่นใจที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้พบเจอคือ เต้าหู้ขาวๆ ที่เราคุ้นเคยและรู้จักดีของบ้านเราที่ดูเหมือนไม่น่าจะมีอะไรให้ประทับใจเท่าไหร่นัก แต่สำหรับที่ร้านนี้ หาเป็นเช่นนั้นไม่ครับ







เพราะแค่เต้าหู้ก็สามารถนำมาทำอาหารอร่อยๆ ได้อย่างมากมายหลากหลายแบบ ตัวเต้าหู้เองก็ดัดแปลงหรือคิดค้นด้วยสูตรเฉพาะจนได้เนื้อเต้าหู้ที่มีความนุ่มต่างระดับกัน เอามาทำอาหารได้หลากหลายเมนู พูดได้คำเดียวว่ามาร้านนี้นี่ผมหลงรักเมนูเต้าหู้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเลยครับ มีร้อยหมดร้อย มีพันหมดพันกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสุกี้เต้าหู้ เต้าหู้อ่อนราดโชยุ หรือของหวานก็ยังเป็นไอศกรีมเต้าหู้อีก ถ้ามาเมืองยูเรชิโนะ (Ureshino) เมื่อไหร่ ห้ามพลาดกันเลยนะครับ



Ureshino Tea Dyeing หรือ ย้อมชา คืออีกหนึ่งกิจกรรมที่ถือเป็นงานศิลปะทำมือแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นขนานแท้ การมัดย้อมนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเมืองไทยบ้านเราก็มีการมัดย้อมครามเป็นที่นิยมกันอย่างมากมาย แต่ที่เมืองยูเรชิโนะ (Ureshino) นี้ ใช้ชาเป็นตัวทำสีสำหรับย้อมนั่นเอง เพราะอย่างที่บอกไว้ครับว่าเมืองนี้ดังเรื่องชาและน้ำแร่ออนเซน การน้ำวัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ทั้ง 2 ชนิดนี้มาต่อยอดเป็นงานฝีมือจึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ขอแนะนำ และบอกเลยว่าดีงาม เพราะจะได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนอย่างละเอียดทีละขั้นตอน













โดยจะมีคุณครูผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำและสอนเราตั้งแต่วิธีการมัดอย่างไรถึงจะได้ลายแบบไหน ลายพื้นฐานมีลายอะไรบ้าง รวมไปถึงขั้นตอนการเตรียมชาสำหรับทำการย้อม จนเสร็จสิ้นทุกขบวนความทุกขั้นตอนทั้งหมดนี้เพียง 1,000 เยน เท่านั้น และได้ผ้าที่เป็นผลงานของเราติดตัวกลับไปด้วย

และตามประสาคนขี้สงสัย เราอยากรู้ว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นในการนำชามาทำมัดย้อมนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร จึงได้ถามครูครูผู้สอนการทำมัดย้อมไป คำตอบที่ได้คือ เริ่มแรกเดิมทีนั้นร้านที่ขายชา จะนำมาย้อมกับผ้าที่ใช้ในร้าน เพราะน้ำชามีคุณสมบัติที่ช่วยดูดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และยังช่วยป้องกันแบคทีเรียอีกด้วย ส่วนเรื่องการมัดย้อมทำลายนี่ เพิ่งมามีการปรับเปลี่ยนไม่กี่ปีเท่านั้นเอง เพราะถือเป็นงานศิลปะที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผืนผ้าที่นำมาย้อม ช่วยให้ดูงดงามและมีความน่าใช้มากขึ้นครับ


อีกหนึ่งจุดพักผ่อนที่น่าไปเยี่ยมเยือน คือ ที่ Todoroki-No-Taki Waterfall Park เป็นสวนสวยที่เปิดให้เข้าฟรี มีน้ำตกอันงดงามที่เป็นผลพวงมาจากแม่น้ำ Ureshino River ซึ่งเกิดจากแม่น้ำ 2 สาย ที่ไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำ Shioda River และ Iwayagauchi River แถมยังมีช่วงที่ไหลพาดผ่านห่างจาก  Ureshino Hot Spring town เพียง 1 กม. เท่านั้น







ที่ Todoroki-No-Taki Waterfall Park บรรยากาศดี เหมาะกับการจูงมือคนรัก หรือคนพิเศษมาเดินเล่นรับวิวสวยๆ ที่ไม่ว่าจะมาฤดูไหน วิวก็ชนะเลิศ เห็นคนท้องถิ่นบอกว่าถ้าช่วงดอกซากุระบานจะสวยมากๆ  สวยแบบยอมไม่ไปไหนต่อกันเลยทีเดียว แถมคนไม่วุ่นวายมากด้วย หรือจะมาตอนช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ก็สวยงามชนะเลิศไม่แพ้ที่ไหนๆ เช่นกันครับ

ที่ตั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่