ตามหลักกฎหมายแล้ว
หมิ่นประมาททั่วไปจะมีอยู่สามมาตรา คือ
มาตรา 326 หมิ่นประมาทจากการทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง
มาตรา 327 หมิ่นเพราะทำให้ญาติโกโหติกาคนอื่นได้รับความเสื่อมเสีย
มาตรา 328 หมิ่นประมาทฐานการโฆษณา เช่น ลงสื่อ ให้สัมภาษณ์ โพสต์ในอินเตอร์เน็ต
ขอว่าแค่สองมาตรา คือ 326 และ 328
มาตรา 326 นั้น โทษสูงสุด 1 ปี ปรับสองหมื่น (มั้ง)
แค่ทำอะไรให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ก็โดนแล้วครับ
มาตรา 328 หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานี้ จะดูเจตนาประกอบ
หากไม่มีเจตนา ก็เข้า 326 ไป หากเจตนาก็ 328 เต็ม ๆ โทษสูงสุด 2 ปี ปรับสองแสน
ใครโพสต์ในอินเตอร์เน็ต แล้วโดนข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามมาตรา 328
ข้อต่อสู้ทางคดีคือ พิสูจน์ให้ได้ว่าไม่มีเจตนา หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อปกป้องชื่อเสียงโดยชอบธรรม ฯลฯ
ตรงนี้ ขอเน้นไปที่ประเด็น เจตนา
หากพิสูจน์ได้ว่า การกระทำนั้น ไม่มีเจตนา ก็จะได้รับโทษแค่ระดับ 326
แต่หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าไม่มีเจตนา ก็ 328 เต็ม ๆ
สำหรับบางคน ทำไมผมถึงบอกว่ามีสิทธิ์ติดคุกสูงมาก
ทั้งที่คดีแบบนี้ศาลท่านจะเมตตารอลงอาญา เพราะส่วนใหญ่จำเลยจะไม่เคยต้องโทษมาก่อน
เพราะบางคน เจตนาก็ชัดมาก ๆ ว่าต้องการให้คนที่ตัวเองด่าได้รับความเสียหาย
ที่สำคัญ มีหลายคดี หลายโจทก์ เป็นการทำผิดซ้ำซาก อย่างนี้ ศาลท่านจะให้เบาะ ๆ 3 เดือนไม่รอลงอาญา
เพื่อให้หลาบจำ
เรียกว่า ได้รู้รสเรือนจำเป็นประสบการณ์ชีวิตแหละครับ
และที่สำคัญยิ่งขึ้นไปอีก ประเภทผู้ชายด่าผู้หญิงแบบสาดเสียเทเสีย เจตนาให้เขาได้รับความอับอายเสียหายนี่
ศาลท่านมักจะไม่เมตตา เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้ศีลธรรมอย่างยิ่ง ไม่ควรรอการลงโทษ
และควรลงโทษสถานหนักให้หลาบจำ ซึ่งก็คือสูงสุด 2 ปี แต่ลดให้ครึ่ง เหลือ 1 ปี เพราะจำเลยรับสารภาพ
หากไม่รับสารภาพ เต็ม ๆ ครับ 2 ปีเต็ม ๆ
ใครก็ตามที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่
ผมจึงหวังดีครับ
รีบไปเจรจาไกล่เกลี่ย ขอโทษขอโพยซะ ก่อนเรื่องจะถึงศาล เพราะถ้าถึงตอนนั้นจะลำบากหนัก
ทั้งการเดินทาง เวลา สถานภาพทางสังคม ชีวิต การงาน จะกระทบไปหมด
พรรคพวกที่ต้องเป็นพยาน (ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ ต้องเป็นพยานตามกฎหมาย) ก็จะพลอยลำบากเดือดร้อนไปด้วย
รีบหาทางออกซะ
สมมุตินะครับ โดน 3 คดี แบบเดียวกันเด๊ะ คือหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
แสดงเจตนาชัดว่าต้องการทำให้คู่กรณีได้รับความเสื่อมเสีย องค์ประกอบความผิดสมบูรณ์เกินร้อย
ไม่มีทางรอดเลยครับ
ต่อให้สารภาพทั้ง 3 คดี ก็ยากที่จะรอลงอาญาทั้ง 3 คดี
เพราะแค่โจทก์ขอให้ศาลโปรดลงโทษจำเลยให้หลาบจำนี่ ผมว่าศาลท่านเห็นด้วยแน่ ๆ
แล้วถ้าเกิดมี 4-5 คดีล่ะ จะไม่หนักขึ้นไปอีกเหรอ
ติดคุกนี่ ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะครับ แค่นึกภาพก็สยองแล้ว
โดนล็อคเล่นประตูหลังรับน้องใหม่ โดนอะไรต่ออะไร
โอ๊ยยย....
เป็นผมนี่ ผมยอมขอโทษครับ ขอไกล่เกลี่ย ให้คลานไปขอโทษก็ยอม
ดีกว่าติดคุก
แถมพอหมดทางอาญา ก็จะมีทางแพ่งตามมาอีก
ถ้าหลายคดี แพ่งก็เยอะตามไปด้วย คดีละสองสามแสนนี่ เป็นล้านนะครับ
และถ้าหากโจทก์เป็นบุคคลที่มีสถานะทางสังคมน่าเชื่อถือ โทษทางแพ่งก็จะสูงตามไปด้วย
ยิ่งทุกวันนี้ เรื่องสิทธิมนุษยชนยิ่งมีความหมาย มีค่า
ราคาค่าเสียหายทางชื่อเสียงของบุคคลก็ยิ่งสูง อาจเป็นหลักล้าน
หากโดนคดีละสองล้าน เบา ๆ สามคดี รวมค่าใช้จ่ายระหว่างสู้คดีอีก
10 ล้านเห็น ๆ นะครับ
ไม่มีจ่ายนี่ ต้องอยู่ในสภาพมีอะไรโดนยึดหมด ไม่ใช่แค่ล้มละลายนะครับ
10 ปี ที่ต้องอยู่ในสภาพผู้รับสภาพทางแพ่ง มีอะไรต้องให้เจ้าหนี้ทันที มีเหลือไว้แค่พอกินข้าวเท่านั้น
จริง ๆ ครับ เรื่องของเรื่องที่สำคัญมาก ก็คือ "หลักเจตนา" นั่นแหละ
ชัดจริง ๆ ชัดจนไม่รู้จะแถยังไง จะหาทางออกยังไง นอกจากไกล่เกลี่ย
ยอมเลิกกร่าง แล้วไปขอโทษผู้เสียหายเขาซะเถอะครับ
ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี
ด้วยความปรารถนาดีครับ
รู้ไหมครับ ว่าทำไมบางคนถึงมีสิทธิ์ติดคุกด้วยความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาสูงมาก
หมิ่นประมาททั่วไปจะมีอยู่สามมาตรา คือ
มาตรา 326 หมิ่นประมาทจากการทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง
มาตรา 327 หมิ่นเพราะทำให้ญาติโกโหติกาคนอื่นได้รับความเสื่อมเสีย
มาตรา 328 หมิ่นประมาทฐานการโฆษณา เช่น ลงสื่อ ให้สัมภาษณ์ โพสต์ในอินเตอร์เน็ต
ขอว่าแค่สองมาตรา คือ 326 และ 328
มาตรา 326 นั้น โทษสูงสุด 1 ปี ปรับสองหมื่น (มั้ง)
แค่ทำอะไรให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ก็โดนแล้วครับ
มาตรา 328 หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานี้ จะดูเจตนาประกอบ
หากไม่มีเจตนา ก็เข้า 326 ไป หากเจตนาก็ 328 เต็ม ๆ โทษสูงสุด 2 ปี ปรับสองแสน
ใครโพสต์ในอินเตอร์เน็ต แล้วโดนข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามมาตรา 328
ข้อต่อสู้ทางคดีคือ พิสูจน์ให้ได้ว่าไม่มีเจตนา หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อปกป้องชื่อเสียงโดยชอบธรรม ฯลฯ
ตรงนี้ ขอเน้นไปที่ประเด็น เจตนา
หากพิสูจน์ได้ว่า การกระทำนั้น ไม่มีเจตนา ก็จะได้รับโทษแค่ระดับ 326
แต่หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าไม่มีเจตนา ก็ 328 เต็ม ๆ
สำหรับบางคน ทำไมผมถึงบอกว่ามีสิทธิ์ติดคุกสูงมาก
ทั้งที่คดีแบบนี้ศาลท่านจะเมตตารอลงอาญา เพราะส่วนใหญ่จำเลยจะไม่เคยต้องโทษมาก่อน
เพราะบางคน เจตนาก็ชัดมาก ๆ ว่าต้องการให้คนที่ตัวเองด่าได้รับความเสียหาย
ที่สำคัญ มีหลายคดี หลายโจทก์ เป็นการทำผิดซ้ำซาก อย่างนี้ ศาลท่านจะให้เบาะ ๆ 3 เดือนไม่รอลงอาญา
เพื่อให้หลาบจำ
เรียกว่า ได้รู้รสเรือนจำเป็นประสบการณ์ชีวิตแหละครับ
และที่สำคัญยิ่งขึ้นไปอีก ประเภทผู้ชายด่าผู้หญิงแบบสาดเสียเทเสีย เจตนาให้เขาได้รับความอับอายเสียหายนี่
ศาลท่านมักจะไม่เมตตา เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้ศีลธรรมอย่างยิ่ง ไม่ควรรอการลงโทษ
และควรลงโทษสถานหนักให้หลาบจำ ซึ่งก็คือสูงสุด 2 ปี แต่ลดให้ครึ่ง เหลือ 1 ปี เพราะจำเลยรับสารภาพ
หากไม่รับสารภาพ เต็ม ๆ ครับ 2 ปีเต็ม ๆ
ใครก็ตามที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่
ผมจึงหวังดีครับ
รีบไปเจรจาไกล่เกลี่ย ขอโทษขอโพยซะ ก่อนเรื่องจะถึงศาล เพราะถ้าถึงตอนนั้นจะลำบากหนัก
ทั้งการเดินทาง เวลา สถานภาพทางสังคม ชีวิต การงาน จะกระทบไปหมด
พรรคพวกที่ต้องเป็นพยาน (ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ ต้องเป็นพยานตามกฎหมาย) ก็จะพลอยลำบากเดือดร้อนไปด้วย
รีบหาทางออกซะ
สมมุตินะครับ โดน 3 คดี แบบเดียวกันเด๊ะ คือหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
แสดงเจตนาชัดว่าต้องการทำให้คู่กรณีได้รับความเสื่อมเสีย องค์ประกอบความผิดสมบูรณ์เกินร้อย
ไม่มีทางรอดเลยครับ
ต่อให้สารภาพทั้ง 3 คดี ก็ยากที่จะรอลงอาญาทั้ง 3 คดี
เพราะแค่โจทก์ขอให้ศาลโปรดลงโทษจำเลยให้หลาบจำนี่ ผมว่าศาลท่านเห็นด้วยแน่ ๆ
แล้วถ้าเกิดมี 4-5 คดีล่ะ จะไม่หนักขึ้นไปอีกเหรอ
ติดคุกนี่ ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะครับ แค่นึกภาพก็สยองแล้ว
โดนล็อคเล่นประตูหลังรับน้องใหม่ โดนอะไรต่ออะไร
โอ๊ยยย....
เป็นผมนี่ ผมยอมขอโทษครับ ขอไกล่เกลี่ย ให้คลานไปขอโทษก็ยอม
ดีกว่าติดคุก
แถมพอหมดทางอาญา ก็จะมีทางแพ่งตามมาอีก
ถ้าหลายคดี แพ่งก็เยอะตามไปด้วย คดีละสองสามแสนนี่ เป็นล้านนะครับ
และถ้าหากโจทก์เป็นบุคคลที่มีสถานะทางสังคมน่าเชื่อถือ โทษทางแพ่งก็จะสูงตามไปด้วย
ยิ่งทุกวันนี้ เรื่องสิทธิมนุษยชนยิ่งมีความหมาย มีค่า
ราคาค่าเสียหายทางชื่อเสียงของบุคคลก็ยิ่งสูง อาจเป็นหลักล้าน
หากโดนคดีละสองล้าน เบา ๆ สามคดี รวมค่าใช้จ่ายระหว่างสู้คดีอีก
10 ล้านเห็น ๆ นะครับ
ไม่มีจ่ายนี่ ต้องอยู่ในสภาพมีอะไรโดนยึดหมด ไม่ใช่แค่ล้มละลายนะครับ
10 ปี ที่ต้องอยู่ในสภาพผู้รับสภาพทางแพ่ง มีอะไรต้องให้เจ้าหนี้ทันที มีเหลือไว้แค่พอกินข้าวเท่านั้น
จริง ๆ ครับ เรื่องของเรื่องที่สำคัญมาก ก็คือ "หลักเจตนา" นั่นแหละ
ชัดจริง ๆ ชัดจนไม่รู้จะแถยังไง จะหาทางออกยังไง นอกจากไกล่เกลี่ย
ยอมเลิกกร่าง แล้วไปขอโทษผู้เสียหายเขาซะเถอะครับ
ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี
ด้วยความปรารถนาดีครับ