ระหว่าง คนที่ร่วมสุข กับ คนที่ร่วมทุกข์ คุณจะเลือกใคร???

จากคำถามข้างบน เราได้รับการขอร้องจากเพื่อนให้ช่วยเป็นที่ปรึกษาปัญหาชีวิตรัก ว่าจะตัดสินใจยังไงดี เราซึ่งเป็นเพื่อนสนิทย่อมจะ
มีความคิดเข้าข้างเพื่อน เลยคิดว่ามาตั้งกะทู้ถามคนในพันทิปดีกว่า น่าจะมีความคิดเห็นหลากหลายมากกว่า เริ่มเรื่องเลยนะคะ
ยาวหน่อยนะคะ มันต้องเท้าความตั้งแต่ต้นค่ะ จะได้เห็นปัญหาที่แท้จริงค่ะ

เพื่อนสนิทเราเป็นผู้ชายค่ะ สมมติว่าชื่อ "S" นะคะ อายุ 35 ปี บ้านมีฐานะดี มีสินทรัพย์ หน้าตาดี เป็นผู้ชายที่สุภาพเรียบร้อย สุภาพบุรุษ
มากเรียกว่าโปรไฟล์เริ่ดค่ะ  S คบกับแฟนตั้งแต่สมัยเรียนป.ตรีค่ะ แต่คบ ๆ เลิก ๆ หลายรอบมาก ต่างคนต่างไปเรียนต่างประเทศคนละ
ประเทศS ไปเรียนอังกฤษ แฟน S ขอสมมติชื่อว่า K นะคะ ไปเรียนที่ประเทศจีน ทั้งสองคนไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันค่ะ อย่างที่
บอกเดี๋ยวเลิก เดี๋ยวดีกันหลายครั้งมาก จนกระทั่งปี 2555 S กลับจากอังกฤษมาดูแลพ่อป่วย จนกระทั่งเสียชีวิตเลยใช้ชีวิตอยู่เมือง
ไทยยาว เพราะเหลือแม่ อยู่คนเดียว S เป็นลูกชายคนเล็ก มีพี่ชาย 1 คนค่ะ พี่ชายมีครอบครัวแยกไปอยู่แล้วค่ะ ครอบครัว S รู้จัก
แฟนของ S ดี เพราะไปมาหาสู่กัน เป็นประจำตั้งแต่ S กลับมาจากเมืองนอก S เป็นนักธุรกิจที่มีความคิดจะทำงานตลอดเวลาจึงเริ่มต้น
ทำธุรกิจ หลายอย่างอยู่ค่ะ แฟนของ S ก็ช่วยบ้างค่ะ S มีเงินจากมรดกที่พ่อและแม่แบ่งให้เยอะพอสมควรเงินสด และอสังหาริมทรัพย์
เรียกว่าไม่ต่ำว่า 30 ล้าน S ก็สปอยแฟนมาก เรียกว่าอยากได้อะไรซื้อให้ ที่ดิน เสริมความงาม หมดเงินไปเยอะ จนกระทั่งมาเริ่มธุรกิจ
เครื่องสำอาง แฟน S ก็ทำงานประจำเงินเดือน 50000 และอยากจะทำธุรกิจด้วย เลยขอเงิน S ไปเปิดร้านอาหาร แต่เนื่องจากไม่มี
ความรู้ด้านการทำธุรกิจดีพอ ทำให้สูญเงินไปอีกเกือบ 2 ล้าน สุดท้ายเจ๊ง K เอาเงินไปซื้อที่ดินหวังเก็งกำไรอีก 3 ล้าน ก็ขายไม่ได้
และที่ดินใช้เป็นชื่อ K  S ก็ไม่ได้ว่าอะไร  ธุรกิจเครื่องสำอางของ S เพิ่งเริ่มต้นใช้เงินไปเยอะมากประมาณ 5 ล้าน เนื่องจากมือใหม่
และ S ยังเปิดร้านเบเกอรี่ลงทุนไปอีก 7 ล้าน ทำให้เงินเริ่มขาดสภาพคล่อง

S และ K เริ่มไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเนื่องจาก K เป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตในต่างจังหวัดไม่ได้ และไม่ค่อยถูกกับแม่ของ S เนื่องจาก
เป็นคนจีน แต่เท่าที่เราสัมผัสแม่ S ก็น่ารักมากนะคะ เค้าไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แตอาจจะจู้จี้เรื่องการแต่งกาย การนอนตื่นเช้า ซึ่ง
K เติบโตมาใน ครอบครัวคนไทยข้าราชการ เลยไม่เข้าใจวัฒนธรรมของครอบครัวนักธุรกิจพ่อค้า เลยยึดติดความสบายเป็นหลัก
คือ K ชอบอยู่ กทม. ตามวิถีคนสมัยใหม่ K เป็นคนเชียงใหม่ S เป็นคนนครปฐม  

เนื่องจาก S เครียดจากธุรกิจเริ่มติดขัด ปรึกษา K ไม่ได้เนื่องจาก K ถูกเลี้ยงมาแบบคุณหนูลูกสาวคนเดียว จึงเอาแต่ใจ
โลกต้องหมุนรอบ ตัวเธอค่ะ เพราะพ่อแม่ตามใจมาก และ K เป็นคนโปรไฟล์เริ่ดเหมือนกันค่ะ สวยมาก เรียนจบนอก หน้าที่การงานก็
ถือว่าดี แต่ใช้เงิน มือเติบ เกินตัวทำให้มีหนี้บัตรเครดิตเยอะ หลังจากที่ S ขาดสภาพคล่องไม่สามารถสปอยล์ K ได้อีก ก็เริ่มมี
ปากเสียงกัน แต่ยังไม่ได้เลิกกัน K เรียกร้องให้ S ไปสู่ขอ เนื่องจากคบกันมานานมากแล้ว พ่อแม่ K ต้องการเห็น K แต่งงานสักที S
ก็ตกลงจัดงานแต่งงานให้ทั้งที่ ตัว S เองกำลังย่ำแย่ในด้านการเงิน เงินสดหมุนเวียนไม่มีแล้ว เหลือแต่อสังหาริมทรัพย์ (ตึกแถว
ให้เช่าและที่ดิน) จนต้องเอาหลักทรัพย์ เข้าธนาคาร เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนธุรกิจ และจนวันหนึ่ง

S เครียดจากงานปรึกษา K ก็ไม่ได้ เพราะเธอไม่ขอรับรู้อะไร K มุ่งมั่นทำงานของตัวเองค่ะ คือพนักงานบริษัท และบอกว่าหน้าที่ผู้นำ
เหล่านี้ S ต้องเป็นคนรับผิดชอบชีวิตเธอ S ได้เข้ากลุ่มเฟสเพื่อหาคนคุยด้วย และเพราะ S ยังเป็นผู้ชายหนุ่มความต้องการทางเพศ
ย่อมมีปกติ แต่ K เป็นผู้หญิงที่ไม่ชอบเรื่องเซ็กส์เลยก็ว่าได้ จากการที่ S เล่าให้เราฟังค่ะ คือบางที 6 เดือนจะมีอะไรกัน 1 ครั้งเท่านั้น
ตอนแรก S ก็ทนได้ค่ะ แต่หลัง ๆ S เลยเริ่มไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง และเริ่มมองหาคนดูแแล แต่ไม่ได้จริงจังค่ะ เดือนสองเดือนก็เลิก
จบกันไป จนกระทั่ง S เจอกับ Y  ประวัติ Y คือ พนักงานบริษัทระดับผู้จัดการฝ่าย แต่เลิกกับสามี เหงาและไม่สามารถคุยกับใคร
ได้เหมือนกัน เนื่องจากอยู่ในจุดที่สูงแล้ว S Y ได้แชทพูดคุยกัน จนตัดสินใจที่จะเป็นกิ๊กกัน เรียกง่าย ๆ เลย Y อายุมากกว่า S 5 ปี
และมีความเป็น ผู้ใหญ่มาก ใจเย็น พูดจาดี แต่หน้าตาธรรมดามาก ออกจะอ้วน แต่เป็นคนอารมณ์ดี คุยสนุก หน้าตายังดูเด็กมากจาก
อายุจริงที่เกือบ 40 แล้ว ยังดูเหมือน 20 ต้น ๆ ทั้ง 2 แอบมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่ก่อน S จะแต่งงานกับ K จนกระทั่ง S แต่งงาน S
และ Y ตกลงกันว่าจะเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่ Y รัก S มาก ตลอดเวลาที่มีอะไรกันเกือบ 1 ปี Y ช่วยเหลือ S ทุกอย่าง เป็นที่ปรึกษา S
ประสบปัญหาอะไรทุกครั้ง Y จะต้องเข้ามาช่วยเหลือแบบทุ่มสุดตัว ขึ้นโรงพัก วิ่งวุ่นทุกเรื่อง ชนิดที่เรียกว่าแม่ S ก็ออกปากรับ Y
เป็นลูกสาวคนหนึ่ง Y รู้จักกับแม่ของ S เพราะ S แนะนำว่าเป็นเพื่อน เข้านอกออกในบ้าน S ได้ และ K แฟน S ก็รู้จัก Y ในนามว่าเป็น
เพื่อนของ S เหมือนกัน

พอ S แต่งงานกับ K  ก็ยังติดต่อกับ Y อยู่แต่ในฐานะเพื่อน และ Y ได้ลาออกจากงานมาร่วมธุรกิจกับ S ทำให้ยิ่งเจอหน้ากันบ่อย
มากขึ้นซึ่ง K ก็เหมือนเดิมคือ แต่งงานแล้วแยกกันอยู่ K ก็ใช้ชีวิตแบบ working women สาวในเมือง ไม่สนใจที่จะดูแลความ
รู้สึกของ S วันหยุดยาว K ก็จะกลับบ้านที่เชียงใหม่ เพราะไม่ชอบไปบ้าน S ครอบครัว S ก็ได้แต่ถามถึง K เพราะนับครั้งได้ที่ K
จะไปบ้าน S  ผิดกับ Y ไปบ้าน S แทบทุกอาทิตย์จนผิดสังเกต แต่ครอบครัว S ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก จนกระทั่งความใกล้ชิดทำให้
S และ Y  เกิดมีอะไรกัน (ตามสุภาษิตเป๊ะ วัวเคยขา ม้าเคยขี่ 555 เราเป็นคนด่ามันเองแหละ) S ตัดสินใจมอบฐานะ "เมียน้อย"
ให้ Y โดย Y เองก็ยอมรับโดยดี ธุรกิจของ S และ Y ก็ไปได้สวย มีลูกค้าดี และเห็นอนาคตว่าจะไปไกลมาก แต่เริ่มติดปัญหา
เนื่องจาก K จากที่ไม่สนใจอะไรก็เริ่มคิด เริ่มมีการสงสัย ทะเลาะกันบ่อยมาก S เกิดความสับสนในตัวเองมาก เพราะเริ่ม
เปรียบเทียบระหว่าง 2 คนนี้ และตอนนี้เอง เราก็เริ่มมีบทบาทขึ้นมา โดย S มาปรึกษาเรา จริง ๆ เราก็พอรู้คร่าว ๆ มาบ้าง
แต่ไม่ได้ลงลึกมาก เพราะเราก็งานยุ่ง

จน S ต้องมาบอกว่า "ซีเรียสแล้วนะ" เพราะปวดหัวกับปัญหาที่มีทุกวันเลย จริง ๆ Y ก็ไม่ได้ร้ายกาจชนิดที่ว่าต้องการให้ S เลือกเธอ
แต่ทุกครั้งที่ S ทะเลาะกับ K บางทีก็จะไปลงกับ Y ทั้งที่เรื่องที่ทะเลาะกันก็ไม่ได้เกี่ยวกับ Y เลย เช่น เรื่องเงินในการทำธุรกิจ K เห็น
อีกอย่างซึ่งไม่ตรงกับ S บ้าง K ไม่ยอมรับรู้เรื่องหนี้สินทั้งหมด เอาแต่ทำงาานในส่วนของตัวเอง เรื่องปัญหาที่ดินที่ K เอาเงิน S ไป
ซื้อและใส่ชื่อ K ทาง S อยากขายเพื่อนำเงินมาปิดหนี้สินกับธนาคาร K ก็ไม่ยอม บอกจะขายทีไรก็ทะเลาะกันใหญ่โตทุกที และ
ปัญหาเหล่านี้ Y ก็รับรู้โดยตลอดแต่ไม่ได้ยุ่ง (เราฟังจาก S อีกทีค่ะ) แต่ Y เริ่มจะมีปัญหาที่ว่า Y เริ่มเบื่อที่เวลามีปัญหากันจะทำ
ให้ทะเลาะหมู่ทุกที และ Y ก็เริ่มอยากจบชีวิตเมียน้อย เริ่มจะตีตัวออกห่างจาก S ตอนแรกที่ตกลงกัน S ถือไพ่เหนือกว่า Y แต่ตอนนี้
Y จะตีตัวออกห่าง ทำให้ S เครียดและไม่อยากเสีย Y ไป แต่ก็ยังทำใจเลิกกับ K ไม่ได้เด็ดขาด (ไอ้เพื่อนเห็นแก่ตัว เราด่ามันไป
แล้วค่ะ) เราเลยอยากทราบความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ในพันทิปว่า S ควรเลือกใคร ระหว่าง



เราได้ให้คำแนะนำเบื้องต้นไปแล้วว่า ให้ไปถามใจตัว S เองดูว่า ใจจริงยังรัก K อยู่ไหม ถ้ายังรักอยู่ คิดว่าขาดไม่ได้ ก็ให้ไปคุย
ปรับความเข้าใจกันใหม่ ซึ่ง S ก็บอกว่าปรับจนไม่รู้จะปรับยังไงแล้ว แต่ก็ยังทำใจเลิกไม่ได้  และในส่วนของ Y เอง S ก็เลิก
ไม่ได้เพราะ Y เหมือนคู่ชีวิตที่สามารถคุยได้ทุกเรื่อง เหมือนเพื่อน แม่ พี่ และเมีย  จนเราเริ่มรำคาญเลยบอกว่าจะมาตั้งกะทู้
ถามคนในห้องพันทิปให้

ปล. ขอห้ามดราม่าค่ะ ไม่ต้องแขวะ เพราะเราเชื่อว่าการแต่งงานไม่ใช่จุดจบของชีวิต แค่เริ่มต้นเท่านั้นเอง และก็ไม่ได้มีใคร
ผิดทั้งหมด และไม่ได้มีใครถูกทั้งหมด ทั้ง 3 คนมีความผิดร่วมกันค่ะ เราไม่ได้เห็นด้วยกับเพื่อนที่เป็นแบบนี้ แต่เราเข้าใจ
มากกว่าค่ะ แต่เราก็อยากได้ความคิดเห็นเพื่อไปให้มันตัดสินใจประกอบค่ะ

ปล. 2 ย้ำว่าห้ามดราม่า หากไม่ถูกใจเนื้อหา เรื่องราวที่เล่ามา ได้โปรดอ่านเฉย ๆ แต่หากมีข้อแนะนำดี ๆ ที่ไม่แขวะ เรายินดี
เอาไปบอกเพื่อนค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
อยากตอบตั้งแต่เมื่อวานละ
แต่ความอยากนอนมีมากกว่า แล้วก็ขี้เกียจตอบจากแทบเล็ตเล็ก ๆ ด้วย
วันนี้มาพิมพ์ยาว ๆ เลยดีกว่า

ขออนุญาต ตั้งชื่อให้ทุกคนแล้วกัน
เราเองไม่ถนัดกับตัวย่อเลย เรียกผิดเรียกถูกประจำ
คนที่มาเล่าอะไรต่อมิอะไรให้เราฟังแล้วถามความเห็น
ถ้าไม่ตั้งชื่อสมมติมา ก็ตั้งชื่อแบบเรียงลำดับมาให้เราเลยว่า
คุณหนึ่ง คุณสอง คุณสาม คุณสี่
ไม่งั้นป้างง
เม่าเนิร์ด

เราพิมพ์ในโน้ตบุ๊ค ขี้เกียจแก้ภาษาไปมายุ่งยาก ขอไม่พิมพ์ตัวอังกฤษสลับไทยแล้วกัน
ขี้เกียจเปลี่ยนคีย์บอร์ดสลับไปมา
ขอถือวิสาสะตั้งชื่อให้นะ

คุณ S  ท่าทางจะเป็นคนจีน อะ เราเรียก "เซ้ง" ละกัน
คุณ K เราเรียก "เก๋" แล้วกัน
คุณ Y เราเรียก "หยก" แล้วกัน

ที่จะเมนต์ต่อไปนี้ มาจากรายละเอียดเรื่องเล่าของคุณ จขกท. ล้วน ๆ เลยนะคะ


ก่อนอื่น เราอยากเขียนให้คุณหยกได้อ่าน

- เราว่า คุณพลาดตั้งแต่ไปคบหา สนิทสนม เกินหุ้นส่วนธุรกิจกับคุณเซ้งตั้งแต่แรกแล้วละ ไม่ว่า เหตุผล จะเป็นเพราะรัก
เพราะธุรกิจ หรือเพราะอะไรยังไงก็ตาม คุณรู้จักเค้าก่อนเค้าแต่งงาน ฝ่าฟันกับเค้ามา แล้วท้ายที่สุด
ไม่ว่าแฟนเค้า หรือคุณเก๋ จะทำคุณเซ้งเจ๊งไปสักกี่ครั้งหรือกี่ล้าน เค้าก็ยังเลือกคุณเก๋  แต่คุณก็ยังไม่ตาสว่างเสียที
เม่าตาสว่าง

- ในสังคมไทย คำว่า เมียน้อย แฟนน้อย มันไม่ใช่ description แต่มันคือคำด่าค่ะ  
คุณหยกเอ๋ย ... คุณจะไปหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ กับคนที่ไม่ได้มีอะไรให้คุณเลย นอกจากโพรไฟล์ดี หน้าตาดี
ฟังจากที่คุณ จขกท. เพื่อนสนิทเค้าเล่า   เค้าไม่ได้รักอะไรคุณเลย นอกจากทำเหมือน "ร้อยก้นคุณไว้ใช้" เหมือนที่คุณจ้อย..ย ในคคห.ที่ 9 ว่ามาน่ะ

แล้ววิธีที่คุณเซ้งเอาคุณมาเล่ากับเพื่อนสนิท (คือคุณ จขกท.) ฟัง ก็ไม่ได้ฟังดูมีข้อดีอะไรเลย
"การศึกษาไม่ดีเท่า ไม่สวย อ้วน แก่ มีลูกไม่ได้" แต่ "ทำงานเก่งนะเออ" และ "ดูเหมือนจะเข้ากับแม่คุณเซ้ง" ได้ดีกว่า
มันดูไม่มีข้อไหนที่เป็นด้านบวก หรือด้านที่ซาบซึ้งคุณลักษณะด้านจิตใจหรือด้านอื่น ๆ ที่ดิฉันเชื่อว่าคุณต้องมีแน่ ๆ

- คุณพลาดไปแล้วก็อย่าถลำเลยค่ะ
การที่คุณจะเอาตัวออกจากคุณเซ้ง เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
แต่คุณควรออกมาในฐานะคนที่ตัดสินใจได้เด็ดขาดแบบตาสว่างแล้ว  สะเด็ดน้ำแล้ว
ไม่ใช่ทำเพื่ออ่อยแล้วหวังจะสร้างสถานการณ์ให้คุณเซ้งเลือกเสียทีว่าจะเอาคนไหน

ไม่ว่าคุณเซ้งเค้าจะเลิกกับเก๋ หรือ ไม่เลิก คุณก็ควรเลิกกับคุณเซ้งจากสัมพันธภาพแบบนี้ค่ะ
ปล่อยให้เค้าไป work out กับแฟนที่เค้ารักและผูกพันมาหนักหนา
แล้วต่อให้เค้าเลิกกัน หรืออยู่ด้วยกันต่อ  
คุณมีสิทธิ และมีความสามารถที่จะไปต่อกับชีวิตคุณได้สวย ๆ แน่

จะมาอยู่เป็นตัวเลือกให้เค้าเลือกทำไม
แล้วดูเค้า ก็ไม่ได้ซาบซึ้งอะไรก้บคุณนักหนาด้วยนอกจากว่าคุณทำงานเก่ง

ภายภาคหน้า คุณจะมีความภูมิใจในตัวเองหรือคะ ถ้าต้องอยู่กับคนที่ไม่เห็นคุณค่าคุณ (นอกจากการทำงาน ซึ่งให้ฟีลลิ่ง นายจ้าง ลูกจ้าง
ที่จ่ายค่าจ้างเป็นพิเศษด้วย "ความรักลวง ๆ " แบบนี้) และคนที่ทำให้คุณต้องถ่อมเกียรติ ถ่อมศักดิ์ศรีลงมาเป็นเมียน้อย

- คุณหยกยังเพิ่ง 40 ถ้าคุณผูกขาดจองตำแหน่งเมียน้อยตั้งแต่ตอนนี้ คุณจะแก่ลงไปเรื่อย ๆ
แล้วมีหวังได้ทำงานถวายหัวกันไปจนหง่อมล่ะค่ะ  
คุณหยก  คุณเป็นคนเก่ง ออกมาทำมาหากินเอง
ดูแลตัวเองแล้วใช้ชีวิตให้มีความสุขไป ผู้ชายเจ๋ง ๆ ที่ชอบผู้หญิงเก่ง ฉลาด และดี ในตลาดยังมีอีกเพียบ
คุณแค่ครองตัวดี มีศักดิ์ศรีให้สมกับคนที่(อาจจะ)เข้ามาในชีวิตคุณในวันที่คุณเป็นอิสระจากเครื่องร้อยรัดพิกล ๆ นี้ก็พอ

ออกมาเถอะคุณหยก ... ดีกับศีลธรรมในใจคุณ ดีกับศักดิ์ศรีในตัวคุณด้วย
คุณเซ้ง กับคุณเก๋น่ะ ปล่อยเค้าไปแก้ปัญหาเค้าเองเถอะ

ส่วนคุณเก๋ ถ้าให้ดิฉันมอง ดิฉันมองว่า เธอไม่พร้อมหรือไม่อยากสร้างครอบครัวกับคุณเซ้งน่ะค่ะ
ไม่พัวพัน ไม่มีส่วนร่วมในการใช้ชีวิต แต่กลับชื่นบานในการมีส่วนร่วมในเรื่องของทรัพย์สิน
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะคบกันมานาน ผูกพันกันมานาน ถ้าคุณเก๋ จะคิดว่าตัวเองมีสิทธิอันชอบธรรมในเงิน
ในทรัพย์สินที่คุณเซ้งลงมาให้เธอ  นั่นก็เพราะคุณเซ้งทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้น
อันนี้ ก็ไม่ใช่ความผิดของคุณเก๋อีกนั่นแหละ

ส่วนคุณเซ้ง  
ในสายตาของผู้หญิง ดิฉันมองว่าคุณเห็นแก่ตัวจังค่ะ
อยากได้ความสวยของอีกฝ่าย แต่อ่อนใจในความจับจดของเธอ
อยากได้ความเก่งของอีกฝ่าย แต่ก็เหมือนจะเลี้ยงความรู้สึกเธอไว้แค่ใช้งาน

ความแย่ของผู้ชายในสายตาของผู้หญิง (แก่ ๆ ) อย่างดิฉันคือ
การไม่รู้จักตัดสินใจให้เด็ดขาดค่ะ
คุณจะหมาก็หมากับทางใดทางหนึ่งไปเลย  นี่คุณกำลังหมากับทั้งสองฝ่าย
และมีสิทธิสูงมากที่คุณจะไม่เหลือใคร

คุณเก๋มีสิทธิจากคุณไป (โดยไม่ถูกมองว่าผิด) พร้อมที่ดินที่คุณซื้อให้เธอไป (เป็นค่าเสียเวลาในการแต่งกับคุณ)
ส่วนคุณหยกก็สามารถจากคุณไปได้สวย ๆ โดยที่สังคมจะปรบมือให้ พร้อมโล่งใจและอนุโมทนาว่า
"ดีแล้วละ เลิกเป็นเมียน้อยเสียได้"

ส่วนคุณเซ้งในสภาพท้ายสุด
ก็จะเป็นหนุ่มโดนทิ้ง ที่ไม่เหลือมรดกและเงินสดในมือมากนัก
วุฒิการศึกษาอันสูงส่งที่คุณเคยภูมิใจ ในวัย 35 ที่ไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อนเลย (นอกจากขลุกกับธุรกิจส่วนตัวที่จากที่คุณเล่าก็ไม่ได้ไปได้ดี)
ก็ไม่แน่นักว่าจะ secure งานให้คุณได้ ในฐานะพนักงาน gold-collar ที่มีเงินเดือนสูงพอกับไลฟ์สไตล์คุณชายน้อยของคุณ

เลือกดูดี ๆ เถิดค่ะ

คุณเจ้าของกระทู้ก็รักและปรารถนาดีต่อเพื่อนมากนะคะ
คุณประเมินเพื่อนคุณเสียสูงเชียว แล้วเล่าราวกับว่า เพื่อนคุณอยู่ในฐานะเลือกได้
ฟังดูคุณหยกเหมือนจะต้อยต่ำพอสมควรเลยนะคะ  แก่ อ้วน การศึกษาไม่ดี ควงไปไหนไม่ได้ แต่ทำงานเก่ง

นอกจากความเป็นคุณชายน้อย หน้าตาดี และวุฒิต่างประเทศแล้ว  จากที่คุณเล่า ดิฉันไม่ได้ยินตรงไหน
ที่คุณบอกเล่าถึงความสำเร็จของคุณเซ้งได้เลย
คุณ จขกท. เล่าเองด้วยซ้ำว่า ที่ดูเหมือนจะโงหัวทางธุรกิจขึ้นมาได้  ดูจะเป็นฝีมือคุณหยกล้วน ๆ
หรืออาจจะเป็นฝีมือคุณเซ้งแต่ก็ได้เมื่อมีคุณหยกคอยทำงานช่วยอยู่เท่านั้น


เรื่องทั้งหมดก็เม้นต์จากคนนอกที่ไม่รู้จักทั้งสามคนเลย
พูดจากพื้นฐานเนื้อหาที่ จขกท. เล่าล้วน ๆ
ก้าวล่วงไปบ้างก็ขออภัย
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่ต้องคิดอะไรค่ะ เพราะแต่งงานกันแล้ว S รู้อยู่แล้วว่า K เป็นยังไงแต่ก็ยังเลือกแต่งงานด้วย ที่มีปัญหากันตอนนี้เพราะมีข้อเปรียบเทียบ จริงๆแล้ว S รัก K แต่ด้วยมีอุปสรรคในชีวิตและมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้องปัญหามันถึงมีหลายส่วน

ส่วน Y เป็นลักษณะของเมียน้อยทั่วไปที่อยากแย่งสามีคนอื่น เป็นเมียน้อยโดยสมัครใจไม่ใช่โดนหลอก คือ อยากให้สามีคนอื่นรักตัวเองก็ต้องทำดีทุกอย่าง ยอมเสียสละ ยอมอะไรได้ในหลายๆอย่าง ไม่ใช่ยอมเพราะรักอย่างเดียว คนมันยังไม่ได้ก็ต้องใช้ความพยายาม เป็นคนฉลาด มีจิตวิทยา เรียกว่าเอา S ไว้อยู่ (เป็นเมียน้อยที่ฉลาดและทำตัวให้เป็นประโยชน์ก็ได้เปรียบเมียหลวงแบบนี้ล่ะ)

เราว่า S ไม่ได้รัก Y แต่ Y เข้ามาช่วงมีปัญหาและก็ทำตัวเป็นแม่พระผู้แสนดี เสียสละ เป็นส่วนที่เติมเต็มที่ K ไม่มี+ยังต้องวพึ่งพา Y ในด้านการงาน+กำลังจะสูญเสียของที่คิดว่าเป็นของตัวเองไปเลยเสียดาย ไม่อยากปล่อยให้หลุดมือ ไม่ใช่เพราะความรัก (ผู้ชายบางคนเขาคิดว่าผู้หญิงของเขาต้องเป็นของเขาคนเดียว ไม่ยอมเสียไป)

เชื่อมั๊ยว่ายังไง S ก็ไม่ยอมเลิกกับ K มีทางเดียวที่สองคนนั้นจะเลิกกันคือ K ขอเลิก

การที่ Y ขอเลิกกับ S ก็ต้องการเร่งให้ตัดสินใจ ให้ S กับ K มีปัญหากันแล้ว K เป็นคนขอเลิก เพราะรู้ว่ายังไง Y ก็ทำให้ S ขอเลิกกับ K เองไม่ได้ เราว่าถ้าทำแบบนี้แล้ว S ยังไม่ตัดสินใจ Y ก็จะต้องทำให้เรื่องนี้เปิดเผย ไม่ยอมเก็บเงียบหรอก ต้องติดตามตอนต่อไป

ปัญหานี้จะแก้ได้เมื่อ K มีภาวะผู้นำ จัดการปัญหาเรื่องงานได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพา Y มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีความเป็นผู้นำครอบครัว หรือ S กำลังจะสูญเสีย K ไปอีกคน เขาจะคิดได้

เราว่าท้ายสุด S ก็ไม่เลือก Y
ความคิดเห็นที่ 57
ขอมองอีกแบบนึงนะคะ

ด้วย S และ จขกท. มองในมุมที่เกิดจากความคาดหวังและเปรียบเทียบ คำถามจึงเป็น

==ระหว่าง คนที่ร่วมสุข กับ คนที่ร่วมทุกข์ คุณจะเลือกใคร???== เพราะ s มีปัญหาด้านธุรกิจ y เข้ามาช่วยเหลือด้านธุรกิจ ทำให้มองว่าเป็นการร่วมทุกข์

สมมุติว่าปัญหานี้หมดไป s มีลูกกับ k แล้วลูกเรียนไม่เก่ง ซน เหมือนเด็กทั่วไป แล้ว s ไปรู้จักครูที่ รร. ที่เรียนจิตวิทยาเด็กมาก เข้าใจพูดคุยกับ s ช่วยเหลือแก้ปัญหาลูกได้ทั้งการเรียนและพฤติกรรม ที่เพิ่มเติมคือ นอกจากดูลูกแล้วยังช่วยดูพ่อด้วยเหมือน y คำถามมันก็จะเป็น

==ระหว่างคนที่เลี้ยงลูกไม่เป็น กับ คนที่เข้าใจเด็ก สามารถทำให้เด็กมีความก้าวหน้าได้ จะเลือกใคร???==

หรือถ้าเลือก y แล้ว y ก็ช่วยดูแลกิจการได้ดี เติบโต แต่ s ไปเจอผู้หญิงลุยๆ ชอบเที่ยวป่าเขา ปั่นจักรยานชมธรรมชาติ แต่ y ไม่ชอบและติดเรื่องทำธุรกิจ ชวนทีไรก็ไม่ไป s จะไปก็มีปัญหากัน จะมีคำถาม

==ระหว่างคนที่เข้าใจความเป็นตัวเรา กับคนเอาแต่งานๆๆๆ คุณจะเลือกใคร???==

ถ้าคนเราที่แต่งงานแล้ว เวลามีปัญหาอุปสรรคไม่ช่วยกันจูงมือ ดึงกัน ฉุดกระชากกันให้เดินไปในทางที่ขรุขระ แต่มองในมุมเปรียบเทียบ คาดหวัง ถามว่าคนแบบ s ต้องเปลี่ยนเมียอีกกี่คนถึงจะได้เมียในแบบที่ต้องการ
ความคิดเห็นที่ 47
ขอบคุณคุณ จขกท. ที่มาเพิ่มเติมรายละเอียดนะคะ
ไม่แน่ใจว่า คุณเซ้งยังอ่านอยู่รึเปล่า ?
แต่อันนี้ ขอเขียนถึงคุณโดยเฉพาะ

จะบอกว่า คุณอย่าไป "จริงจัง" ถึงขั้นโกรธ หรือ โมโหต่อความคิดเห็นในนี้มากเลยค่ะ
เพราะความเห็นก็คือ ความเห็น
มันยังไม่ใช่คำแนะนำหรือแนวทางที่คุณ "ต้อง" เอาไปใช้สักหน่อย

ทุกคน (รวมถึงดิฉันด้วย) แสดงความเห็น
- ผ่านประสบการณ์ของตัวเอง
- ผ่านการเล่าเรื่องและการตีความของคุณ จขกท. ซึ่งอาจมีรายละเอียดบางอย่างที่คุณอาจเล่าให้ คุณ จขกท. ฟังไม่หมด
หรือ บางอย่างคุณ จขกท. ก็อาจตีความไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงไปหมดก็ได้  
คนอ่านบางคน ถึงรู้สึกว่า คุณ จขกท. เข้าข้างคุณหยก
บางคนอ่าน อาจรู้สึกว่า คุณ จขกท. ยกย่องคุณเก๋เสียเลิศลอยไปหมด

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และดิฉันคงไม่บังอาจไปตัดสินใคร
หรือหากมีบางคำพูดที่ทำให้ดูคล้ายว่าตัดสินหรือก้าวล่วง ก็ต้องขออภัยมาด้วยใจจริง
สิ่งที่ทุกคนตอบมาในกระทู้ เป็นแค่ "ความเห็น" (opinion) ซึ่งเจือการตีความหรือคาดเดา
ไม่มีคนรู้ความจริง (fact) ของสถานการณ์ทั้งหมดและความรู้สึกของพวกคุณทั้งหมดหรอกค่ะ

เวลาดิฉันปรึกษาเพื่อน หรือกระทั่งพูดคุยในพันทิป
ดิฉันเองก็ต้องทำใจว่า ความเห็นมันหลากหลายมาก
แต่ส่วนตัวจะพิจารณาจาก "ความสะดุดใจ" มากกว่า "ความตรงใจ" ของความเห็นนั้น ๆ

บางความเห็น อาจฟังดูก้าวล่วงเหลือเกิน แต่หากดิฉันรู้สึกว่า ฟังแล้วสะดุด อ่านแล้วสะดุด
นั่นแหละ ความคิดเห็นที่ดิฉันจะกลับมาพิจารณาซ้ำแล้วซ้ำอีก

ทุกคนในนี้ รู้แค่เสี้ยวหนึ่งของเหตุการณ์ทั้งหมดค่ะ
ไม่อาจหมายว่า จะแนะนำอะไรได้ถูกต้อง หรือได้ตรงใจคุณไปทั้งหมด

สำคัญที่สุด คือ คุณต้องถามใจคุณดูเอาเองถึงเป้าหมายและความสุขในชีวิตที่คุณต้องการเป็น ต้องการมี
และระหว่างทางที่จะไปสู่เป้าหมายนั้น checklist ง่าย ๆ ที่คุณเอาไว้เช็คกับตัวเองว่ามาถูกทางแล้วรึยังก็มีแค่ไม่กี่ข้อ

- สิ่งที่คุณทำอยู่ทำร้ายใครหรือไม่
- สิ่งที่คุณทำอยู่เล่าให้คนอื่นฟังได้หรือไม่ (ง่าย ๆ เลย อะไรที่แน่ใจว่า ดี หรือ ไม่เลว อย่างไรก็เล่าได้  แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าเล่าได้หรือเล่าไม่ได้
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าน่าจะไม่ค่อยดี)
- สิ่งที่คุณทำอยู่ทำให้คุณมีความสุขแบบเปิดเผยได้หรือไม่
- ถ้าคู่กรณีคุณ (คุณหยก คุณเก๋) เป็นลูกคุณ เป็นแม่คุณ แล้วเค้าตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ คุณจะแนะนำเค้าว่าอย่างไร
คุณยังจะทำกับเค้าแบบที่คุณกำลังทำอยู่นี้หรือไม่
- อะไรคือความสุขแบบยั่งยืนของคุณ (ครอบครัว ? ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ? คนที่พูดคุยได้ทุกเรื่อง ? คนสวยน่ารักอ่อนหวานที่คุณสามารถควงได้ไม่อายใคร ?) จากประสบการณ์ดิฉันที่เห็นมา ไม่ค่อยมีใครโชคดีได้ครบทุกข้อที่ต้องการหรอกค่ะ แค่ตอบโจทย์ใหญ่ ๆ ในชีวิตที่คุณต้องการได้ก็ถือว่าผ่านแล้ว

ถามวนไปวนมาแค่นี้ คุณก็จะตกผลึกกับตัวเองว่าคุณควรจะทำอย่างไรต่อไป

อวยพรอย่างจริงใจ ขอให้คุณโชคดีและสามารถหาทางแก้ปัญหานี้ได้โดยทำร้ายทุกคน (รวมตัวคุณเองด้วย) ให้น้อยที่สุด
และหากจำเป็นต้อง "ตัด" สัมพันธ์ฝ่ายไหน ขอให้พินิจอย่างใช้เหตุผลและความถูกต้องประกอบกัน
เลือกใช้มีดคม ๆ "ตัด" ครั้งเดียวให้เด็ดขาดและแผลเหวอะหวะน้อยที่สุด

อย่าเห็นแก่ตัวและความต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว
เห็นแก่ผู้อื่นและความต้องการของเค้าด้วย

ขอให้คุณผ่านปัญหานี้ไปให้ได้นะคะ
ความคิดเห็นที่ 36
"ไม่มีผู้ ญ ดีๆ คนไหนเข้ามาทำตัวเป็นคนประเสริฐศรี แทรกชีวิตคู่ของคนอื่น" หรอกค่ะ

เรื่องแบบนี้ มันผิดที่ "คู่ผัวเมียไม่คุยกัน"
จะด้วยเกรงใจ หรืออีโก้ใดๆก็ตาม แต่ถ้าต้องคุยจริงๆจังๆ ก็ย่อมปรับได้ทุกคู่

เมียหลวงเขาก็เป็นแบบที่เป็น
สามีก็ไม่หือ ไม่อือ ไม่บอกว่าขอให้ปรับตรงไหน
ดันเปลี่ยวใจขึ้นมาซะเองเลยหวั่นไหว
เมียน้อยก็เสียบเพื่อความอยู่รอด
ทุกคู่ต้องเจอปัญหาที่เข้ากันไม่ได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ไม่บานปลายคือ "การปรับความเข้าใจ" "และการยับยั้งชั่งใจ"

สรุปใครน่าสงสารสุดคะ เมียหลวงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไงคะ ยังไม่ทันได้เปลี่ยน ได้ปรับตัวผัวก็นอกใจแล้ว
(ในกรณีนี้สามารถกลับกันในเรื่องผัวหลวง ผัวน้อย ด้วยนะคะ)

หลายคู่ที่ครองรักกันนานๆเขาก็มักจะคุยกันก่อน
ถ้าสามีหรือภรรยารู้สึกแย่ก็จะพูด
อย่าเกรงใจกันที่คำพูด เกรงใจกันด้วยความผิดพลาดในการทำให้อีกฝ่ายเสียใจดีกว่า
อย่างเราเบื่อแฟน เราก็กล้าพูดค่ะ ว่าเบื่อ ไม่คิดว่าชู้คือคำตอบ พอพูดแฟนก็ปรับปรุงตัว
จากนี้ไปถ้ามีคู่รักมาปรึกษา ควรให้เขาไปคุยกับคู่ของเขา ไม่ควรให้ถามตัวเขาเองค่ะ
เพราะมันเป็นความสัมพันธ์ที่จริงจังและตามกฎหมาย
ตอนนี้ที่อ่านหลาย คห. หลายคนบอกจะเลือกเมียน้อย เพียงดูจากตารางเปรียบเทียบ? ตัดสินจากตารางแค่นี้? โดยอีกคนเขียน? แถมเป็นมุมแย่ๆแต่คนก็เชื่อ? น่าสงสารผู้ ญ คนหนึ่งค่ะ เพราะอ่านแล้วรู้สึกไม่ยุติธรรมกับคนที่เราไม่รู้จัก
ส่วนเมียน้อยก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น

เราเลือกให้เกียรติคนที่มาก่อนค่ะ
จะดีจะเลวควรให้เพื่อนไปคุยกับภรรยา
ส่วนจะไปหรือเลิก ควรให้ภรรยาตัดสิน เพราะใจสามีไปตั้งแต่แรกแล้ว
ส่วนคนมาทีหลัง << ไม่อยากแสดงความเห็นค่ะ

ต่อให้จะดีขนาดนางฟ้า แต่มาขัดขาคนอื่นให้ล้มหัวแตกก็ไม่เรียกว่าดีค่ะ
อีกคนต่อให้จะเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แต่ไม่เคยเหยียบใครก็ไม่ถือว่าเลวค่ะ

ปล. ตารางโปรไฟล์นี้เอนเอียงไปทางน้อยซะจนไม่รู้อะไรยังไง ถ้าไม่บอกว่าเพื่อนนี่นึกว่าน้อยเขียนตารางเองเลยค่ะ ต้องขออภัยที่กล่าวแบบนี้
ปล. 2 อ่านแล้วเหมือนหลายคนมี mind set ว่าสาวไฮโซ ไม่น่าคบหาเป็นภรรยาแสนดี ได้เลยค่ะ
ปล. 3 รู้เลยว่าคุณค่าคนถูกตัดสินได้โดยไม่ถูกคำนึงถึงความถูกผิดผ่านตัวหนังสือที่เขียนอย่างถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่