แสงแห่งแผ่นดิน พระบารมีอันแผ่ไพศาล

กระทู้สนทนา
หลังจากที่ เราได้เคยรีวิว "ด้วยอาลัยรักและครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เข้าชมพระเมรุมาศ รัชกาลที่ 9" แล้ว ยังนึกในใจว่า ถ้าได้หนังสือรวบรวมพระราชประวัติสักเล่มก็คงจะดีไม่น้อย เพราะการได้เก็บพระราชประวัติ หรือ พระบรมฉายาลักษณ์ในรูปแบบหนังสือ รู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดที่ยังมีพระองค์อยู่ตลอดเวลา (หากใช้คำที่ไม่เหมาะสมหรือไม่สมควร เราต้องขออภัยด้วยนะคะ) ก็ยังคิดในใจว่า ถ้ามีโอกาสได้เข้าร้านหนังสือ คงเลือกเล่มที่ดีที่สุดเก็บไว้สักเล่ม นี่คือหนังสือที่เราจะรีวิวในวันนี้
  
วันนี้ เพื่อนสนิทนัดกินข้าวร้านอาหารแถวราชพฤกษ์ แม้ร้านอาหารจะไม่เกี่ยวกับเนื้อหาที่จะรีวิว แต่ด้วยจุดเด่นของร้าน เราขออนุญาติแชร์บรรยากาศร้านนิดนึงนะคะ นอกจากจะสวยงามแล้วจุดเด่นหลักๆคือ เมื่อเข้ามาด้านในมีพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 9 ตั้งบูชาอยู่บนหน้าเคาน์เตอร์สวยงามมาก
ส่วนผนังด้านข้าง ทางร้านติดพระบรมฉายาลักษณ์เป็นแนวยาว เรานึกชื่นชมเจ้าของร้านอยู่ในใจในความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ท่าน

เข้าเรื่องเลยละกันค่ะ มากินข้าววันนี้ เพื่อนรู้ว่า เรารักในหลวงมาก เพื่อนก็เลยซื้อหนังสือเกี่ยวกับพระราชประวัติของท่านมาให้เป็นของขวัญปีใหม่นี้ แหม ! ช่างเป็นเพื่อนที่รู้ใจจริงๆ หลังจากจัดการอาหารชาววังของร้านนี้ไปแล้ว ก็เม้าท์มอยกันจนเป็นที่พอใจ แต่ยังไม่ได้รีบไปไหนเพราะคุณเพื่อนผู้แสนดีต้องรอรับลูกสาวที่โรงเรียน เราก็เลยถ่ายรูปรีวิวหนังสือกันหน่อย หนังสือเล่มนี้ ชื่อ "แสงแห่งแผ่นดิน" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นหนังสือพร้อมกล่องใส่สวยงามเหมาะแก่การเก็บสะสมเป็นอย่างยิ่ง
ภาพจากปก

หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือน Timeline ของพระราชประวัติของในหลวง รัชกาลที่ 9 แบ่งออกเป็น 9 บท โดยแต่ละบทจะมีเนื้อหาที่ต่อเนื่องกันเริ่มตั้งแต่ประสูติจนถึงเสด็จสู่สวรรคาลัย ถ่ายทอดเนื้อหาผ่านตัวอักษรและวิดิทัศน์ ภาพเคลื่อนไหวโดยแสกน QR Code ด้วยความที่หนังสือเล่มนี้มีมากกว่า 300 หน้าแต่เนื้อหาไม่เยอะมากเป็นการสรุปย่อๆ ในแต่ละบท เน้นรูปเยอะมาก เป็นหนังสือเพื่อการเก็บสะสมรูปจริงๆ โดยเนื้อหาทั้งหมดในการรีวิวนี้ได้คัดลอกมาจากหนังสือเล่มนี้ มิได้มีการแต่งเติมเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งจะขอรีวิวเพียงบางส่วนเท่านั้นนะคะ

บทที่ 1 ชะตาชีวิต เป็นเรื่องราวเมื่อครั้งพระองค์ประสูติในฐานะพระโอรสพระองค์เล็กแห่งราชสกุลมหิดล ชีวิตในวัยเยาว์ทั้งในเมืองโลซานและวังสระปทุม จนกระทั่งวันที่เสด็จนิวัตพระนคร ในปี 2481

นำเสนอด้วยวิดิทัศน์ผ่าน QR Code
ภารกิจอันยิ่งใหญ่ของแม่ "การศึกษาในโรงเรียนไม่เป็นสิ่งที่เพียงพอให้เด็กโตขึ้นและเป็นคนดี ครอบครัวตั้งแต่พ่อแม่ จนถึงพี่น้องกันเองมีส่วนที่สำคัญ เราสามคนเป็นกำพร้าพ่อมาตั้งแต่เล็กๆ ภาระของแม่จึงหนักมาก ต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ ซึ่งแม่ก็ทำหน้าที่นี้มีอย่างเข้มแข็ง" สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทรงเล่าถึงภารกิจของสมเด็จพระราชชนนี ไว้ในพระนิพนธ์ "เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์" (ซึ่งเป็นความตอนหนึ่งในหนังสือเล่มนี้)

บทที่ 2 เปลวเทียนในแรงลม ในบทนี้ เราสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมตั้งชื่อนี้ แต่พอได้อ่านเรื่องราวต่างๆทั้งบทเลยเข้าใจ โดยเริ่มตั้งแต่การพลัดพราก จวบจนได้พบรักและราชาภิเษกสมรส
ปฐมบทเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ผู้สร้างประโยชน์สุขอันมหาศาลและครองใจของคนไทยทั้งแผ่นดินได้เริ่มขึ้นนับแต่นาทีนั้น

บทที่ 3 แผ่นดินไทยใต้พระบารมี เป็นพระราชประวัติช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ
พระองค์ทรงพระประกาศพระปฐมบรมราชโองการ "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" ในวันนั้น เป็นดั่งสัญญาที่ทรงให้ไว้กับประชาชน ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ตลอดการครองสิริราชสมบัติ 70 ปี พระองค์ทรงรักษาและปฏิบัติตามสัญญาที่ทรงให้ไว้ทุกประการตราบจนสิ้นพระชนม์ชีพ

บทที่ 4 ทรงนำไทยสู่เวทีโลก เป็นเรื่องราวที่เสด็จเยือนต่างประเทศเพื่อยกสถานะไทยขึ้นสู่ทำเนียบโลก
"ข้าพเจ้าจะพยายามเต็มที่เพื่อให้ทุกฝ่ายเขารู้จักเมืองไทยและให้เกิดมีน้ำใจดีต่อชาวไทย" ส่วนหนึ่งของพระราชดำรัสฯ ที่ตรัสอำลาประชาชนของพระองค์ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2503  เมื่ออ่านถึงท่อนนี้ เรารู้สึกถึงพระราชภารกิจอันหนักอึ้งของพระองค์ท่านที่ไม่ได้มีแค่การพัฒนาภายในประเทศแต่ยังรวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นกับนานาชาติอีกด้วย
ความนิยมชมชอบในทูตสันถวไมตรีพิเศษจากประเทศไทย ทั้งสองพระองค์แพร่ขยายข้ามทวีปไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทั้งสองพระองค์ทรงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทุกแห่งที่จะเสด็จฯเยือนในคราวต่อไป

บทที่ 5 รัก บทนี้เป็นเรื่องราวความรักของพระองค์ท่านที่ไม่ได้รักเพียงแค่ทุกพระองค์ภายในครอบครัวของท่าน มีพระราชประวัติสั้นๆของพระโอรสและพระธิดา รักงานที่ท่านทำ ความรักที่แผ่ไพศาลไปยังปวงชนชาวไทย เป็น "รัก" ที่ขอบฟ้ามาบรรจบพบแผ่นดิน

บทที่ 6 พระปรีชาสามารถพิเศษ พระปรีชาสามารถพิเศษของท่าน เริ่มฉายแววตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทรงเป็น "พระองค์เล็ก" แห่งราชสกุลมหิดล ทรงใฝ่การเรียนรู้ในหลายแขนง โปรดงานช่างและประดิษฐ์ของเล่นด้วยตัวเอง เมื่อเจริญวัยทรงเป็นนักกีฬา นักดนตรี นักประพันธ์ ช่างภาพ ซึ่งในการถ่ายภาพท่านไม่ได้ถ่ายเพียงเพื่อความสุขหากแต่เป็นเครื่องมือในการทรงงานเพื่อพสกนิกร
คลื่นสัญญานแห่งพระมหากรุณาธิคุณ
ปราดเปรื่องเรื่องกีฬา
รังสรรค์งานประพันธ์

บทที่ 7 พระมหากษัตริย์นักพัฒนา ทรงจัดตั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริตลอดรัชสมัย 4,685 โครงการทั่วภูมิภาคของประเทศไทย
บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกล่าวว่า พระมหากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย
ทว่าจอมทัพพระองค์นี้มิได้ทรงนำกองทัพอาวุธยุทโธปกรณ์ทำสงครามสู้รบเพื่อชัยชนะในอำนาจและการครอบครองแต่อย่างใด หากแต่ทรงต่อสู้อย่างเต็มกำลังและเหนือชั้นกับต้นเหตุของปัญหาทั้งมวล คือ "ความยากจน" ดังที่ท่านทรงตอบคำถามผู้สื่อข่าวบีบีซีในสารคดีว่า
"ข้าพเเจ้าไม่ได้ต่อสู้กับคน แต่ต่อสู้กับความอดอยากหิวโหยของประชาชน ปราถนาให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าข้าพเจ้าทำสิ่งนี้แล้วพวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น กลุ่มคนที่ท่านเรียกว่าคอมมิวนิสต์ก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นทุกคนก็จะมีความสุข"

บทที่ 8 เย็นศิระเพราะพระบริบาล เป็นเรื่องราวความต่อเนื่องของแผ่นดิน แสงสว่างกลางวิกฤตไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจหรือภัยพิบัติใดๆ รวมถึงพระราชดำริแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงที่พระราชทานให้ประชาชนได้นำไปปฏิบัติในช่วงที่เกิดวิกฤตฯ เราอ่านแล้วรู้สึกได้ถึงว่า พระองค์เป็นที่พึ่งของประชาชนคนไทยในทุกๆเวลา ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ไม่เคยมีสักนาทีเดียวที่จะไม่นึกถึงพระองค์ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายใดๆขึ้น ก็จะมีพระองค์คอยช่วยปัดเป่าบรรเทาและดับสูญไปในที่สุด ไม่ว่าจะเสด็จไปที่ในก็จะมีแต่ความรักความเมตตาแผ่ไพศาลไปทุกที่ ถึงตรงนี้เรารู้สึกจุกที่คอน้ำตาไหลอีกแล้ว

บทที่ 9 เกียรติภูมิก้องเกริกไกร พิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โลกยกย่องสดุดี ช่วงสุดท้ายของพระชนม์ชีพที่แม้จะทรงพักรักษาพระวรกายในโรงพยาบาลแต่ก็ไม่เคยหยุดทรงงาน และเสด็จสู่สวรรคาลัย ในวันที่เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า คนไทยทุกคนไม่มีวันลืมความโศกเศร้าอาดูรที่ไม่อาจมีสิ่งใดเทียบได้
ช่วงสุดท้ายเป็นการสรุป Timeline เหตุการณ์สำคัญตลอดพระชนม์ชีพและประวัติศาสตร์โลก
แสงแห่งแผ่นดิน สถิตอยู่ในดวงใจตราบชั่วนิรันดร์

เราในฐานะเจ้าของกระทู้ขอจบการรีวิวในครั้งนี้ หากเกิดข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย และไม่ได้มีเจตนาในการโฆษณาหนังสือแต่อย่างใด เพียงแต่เห็นว่า เป็นหนังสือที่มีคุณค่าควรค่าแก่การเก็บรักษาไว้ดูยามแก่และตกทอดสู่รุ่นหลังต่อไป ในฐานะคนไทยภายใต้ร่มพระบารมีขอสัญญาว่า จะเป็นคนดีของประเทศอย่างที่ท่านต้องการ ขอขอบพระคุณที่เสียสละเวลาอ่านรีวิวจนจบค่ะ

สามารถติดตามอ่านริวิว  "ด้วยอาลัยรักและครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เข้าชมพระเมรุมาศ รัชกาลที่ 9" https://pantip.com/topic/37188724 ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่