[SPOIL!!!] Star Wars : The last jedi ดูหนังจบแล้วมาคุยกัน วิเคราะห์ฉากต่างๆ ความฟินของหนัง

อยากให้เล่าๆ แชร์ๆ วิเคราะห์กันเยอะๆ ผมชอบครับ
ผมขอเล่าเป็นฉากๆ เลยนะครับ

1.ฉากบทเรียนที่ 1 เรย์ถูกเรียกโดยด้านมืด ลุคคอยกระซิบบอกว่า ที่เกาะแห่งนี้คือความสมดุล มีมืด มีสว่าง เรย์ก็แค่ปล่อยตัวปล่อยใจไปสัมผัสทุกอย่าง แต่ถูกลุคห้ามไว้ แล้วโดนด่าว่า วิ่งเข้าหาด้านมืดโดยที่สมยอม ไม่ยั้งอะไรเลย
- มันทำให้ผมเห็นว่า เจไดของลุคนั้น สว่างมากเกินไป และหวาดกลัวความมืด แววตาของลุคตอนปลุกเรย์ เป็นแววตาของคนที่หวาดกลัวจริงๆ มันเป็นเจไดที่ผิด เป็นศาสนาที่มีความเคร่ง ความบริสุทธิ์จนเกินพอดี แต่ก็โทษลุคไม่ได้ เพราะตัวลุคเองก็เกิดมาในยุคธรรมะ อธรรม ขาว-ดำ เพียวๆ แล้วตัวเค้าเองก็เกลียดชังความมืดมากๆ ด้วย

2.ฉากที่เรย์เข้าไปในหลุมความมืด และถูกดูดเข้าไป
- เรย์ได้ค้นพบว่า มันก็ไม่มีอะไร ความมืดมันก็เป็นส่วนหนึ่งในจิตใจ และเรย์ก็เลือกที่จะยอมรับมัน โดยการยืมพลังด้านมืดเพื่อดูภาพพ่อแม่ของตัวเอง ฉากนี้เหมือนเรย์สามารถก้าวข้ามผ่านลุคได้ขั้นนึงคือ อย่ากลัวความมืด เรียนรู้ ที่จะใช้มันอย่างระมัดระวัง

3.ฉากเผาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ของลุคและโยดา
- ฉากนี้อ่านของหลายๆ คนแล้วชอบมาก เห็นด้วยทุกประการ คัมภีร์พวกนั้นมันก็เขียนด้วยอาจารย์เจไดยุคเก่าๆ ที่ตายไปแล้ว มันก็อาจจะล้าสมัยไปแล้ว ทำไมต้องไปยึดติด ทั้งๆ ที่สิ่งที่อยู่ในตำรา ไม่มีอะไรที่เรย์กับลุคต้องเรียนรู้จากมันอีกแล้ว (เรียนรู้หมดแล้ว) ปล่อยวาง "ความผิดพลาดคืออาจารย์ที่ดีที่สุด อาจารย์ต้องส่งศิษย์ไปให้ไกลกว่าตัวเอง" แก่นของวิถีเจได มันมีอยู่แค่นี้จริงๆ ที่เหลือก็ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเองล้วนๆ ทั้งๆ ที่ตัวลุคเองก็เป็นโมเดิร์นเจได ไม่ได้ฝึกใช้พลังตั้งแต่เด็ก เป็นพัลดาวันแค่ไม่กี่เดือน แต่กลับไปย้อนหาวิถีเจไดแบบดั้งเดิม แบบที่มันควรจะตายไปตามการล่มสลายได้แล้ว โยดาบอกว่าลุคจะปล่อยเรย์ไปไม่ได้ เหมือนย้ำว่านี่คือโอกาสแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต พร้อมทั้งส่งเรย์ให้ไปได้ไกลกว่าตัวเอง

4.ฉากการใช้ฟอร์ชของเลอา
- ได้เห็นเป็นบุญตาซะที เป็นการใช้ฟอร์ชด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เพราะเลอาไม่ได้ถูกฝึกให้ใช้ฟอร์ชเลย เลยไม่สามารถนำฟอร์ชมาประยุกต์ใช้ในแบบต่างๆ ได้

5.การเติบโตของโพ ดาเมรอน
- ฮีโร่ฉายเดี่ยวแบบ New hope ไม่มีอยู่จริง มัน out ไปแล้ว โลกเปลี่ยนไป ในทางธุรกิจก็หมดยุคของ One man show เหมือนกัน มันเป็นยุคของ Teamwork แบบที่ Rougue One นำเสนอออกมา ภาคนี้จึงทำให้เห็นว่า ภารกิจฉายเดี่ยวของฝ่ายต่อต้านนั้น เฟลๆๆ แล้วก็เฟลหมด ตั้งแต่การโชว์สกิล X-Wing ขั้นเทพของโพ ที่ทำลายยานเดสทรอยเยอร์ของฝ่ายตรงข้ามได้ แต่ก็ไม่คุ้มกับการที่ฝ่ายต่อต้านเสียยานทุ่นระเบิดไปเกือบหมด ภารกิจ shut down เครื่องติดตามของฟินน์ก็เฟล ภารกิจนำเบนกลับมาด้านสว่างก็เฟล เรียกกำลังเสริมด้วยรหัสของเลอาก็เฟล ทุกอย่างเฟลหมด และโพก็เติบโตขึ้น รู้จักคำว่ารักษาชีวิตไว้เพื่อสู้ในวันต่อไป ฮีโร่ที่ตายแล้วไม่มีความหมาย ดังที่เห็นได้จาก การยอมถอนกำลัง เมื่อพบว่าปืนทำลายกำแพงถูกชาร์จแล้ว

6.Fullfilled your destiny คำนี้มีความหมายจริงๆ
- คำพูดของสโน๊คเป็น Hint มากๆ สุดท้ายเบนก็เข้าถึงวิถีแห่งซิธที่แท้ทรู "อาจารย์ต้องส่งศิษย์ไปให้ไกลกว่าตัวเอง" คือการฆ่าล้างครูแล้วเป็นใหญ่เอง 555+ ชอบคำพูดของสโน๊คในหลายๆ อย่าง เคลียร์หมดเลย ยกแว้นที่มาของแก ไม่ว่าจะเป็น เบนกำลังเจอบททดสอบด้านสว่าง คือแบบ เออ อย่าคิดนะว่าเจไดจะต้องต่อสู้กับด้านมืดภายในจิตใจของตัวเองเพียงลัทธิเดียว ซิธเองก็ต้องต่อสู้กับด้านส่วางภายในจิตใจของตัวเองเหมือนนะเฮ้ย

7.สโน๊คสั่งฆ่าเรย์
- สโน๊คอ่านใจเรย์ แล้วคงเห็นแล้วล่ะ ด้านมืดก็จมลงไปแล้วยังผุดขึ้นมาได้ ต่อสู้ด้วยความหวัง ดิ้นรนจนเฮือกสุดท้าย จิตใจเปี่ยมไปด้วยประกายไฟแห่งความหวัง นี่มันเจไดต้นฉบับของแท้เลย ปล่อยไปไม่ได้ ต้องฆ่าสถานเดียว (และนี่ก็คือบททดสอบที่ทำให้เรย์ก้าวข้ามจากพาดาวัน ไปเป็นเจไดเต็มตัว บททดสอบที่ต้องเผชิญหน้ากับความมืดอย่างเต็มรูปแบบ)

8.Let's the past die
- เออจริง ผมก็เบื่อ ไม่ต้องมีมันแล้ว ซิธ เจได กบฏ จักรวรรดิ์ รีเซ็ตมันไปเลย เข้าใจหัวอกเบนนะ เกิดมาในยุคที่ผู้ใหญ่จับเลือกข้าง ตัวเองก็เป็นแค่หมากตัวนึง เป็นเด็กคนนึง ที่ต้องถูกส่งมาฝึกเป็นเจได มาเรียนรู้อะไรก็ไม่รู้ตั้งแต่ตอนพลังยังไม่ตื่น ลุงแท้ๆ ก็จะมาฆ่าทิ้งอีก เพราะกลัวเราโดนความมืดครอบงำ เป็นเราก็คงเกลียด โกธร เบื่อสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นอันนี้เหมือนกัน ชีวิตที่เลือกไม่ได้ ตั้งตนเป็นใหญ่แม่มเลย

9.The Last Jedi
- ในภาพยนตร์เฉลยแล้วว่า The Last Jedi คือเรย์ แถมเป็น Modern Jedi ซะด้วย  พลังตื่นก่อนเรียน เป็นเด็กอยากรู้อยากเห็น เข้าถึงให้หมด ไม่ปิดกั้นตัวเอง และเลือกข้างด้วยตัวเอง ไม่ใช่ผู้ใหญ่หรืออาจารย์เลือกให้
ตอนลุคถามเจได ในนิยามของเธอคืออะไร แล้วเรย์ก็ตอบว่า เป็นผู้มอบความหวังให้แก่ผู้คน ใช้ดาบเลเซอร์ได้เชี่ยวชาญ ใช้ฟอร์ชยกหินได้ เด็กสาวตอบด้วยความซื่อ อันไม่อิงตำราเจไดเล่มไหน แล้วลุคก็พยายามสอนเรย์ในวิถีแห่งเจไดแบบฉบับโบราณ
ในตอนใกล้จบ ลุคบอกเบนว่าตอนนี้ชั้นไม่ใช่เจไดคนสุดท้ายแล้ว พร้อมกับหน้าตาหมดห่วง ตัดไปที่เรย์ใช้ฟอร์ชยกหิน ใช่แล้ว เรย์คือเจไดในแบบฉบับของเธอเอง เธอบรรลุแล้ว ลุคเองก็บรรลุสัจธรรมเช่นกัน ณ บัดดี้ เรย์เป็นผู้มอบความหวังให้ผู้คน กวัดแกว่งไลท์เซเบอร์ ใช้ฟอร์ชยกหิน เธอเป็นเจไดแล้ว

10.Luke Skywalker
อันนี้ปิดฉากได้สวยสด งดงามมาก Young Skywalker เห็นด้วยทุกประการกับกระทู้แนะนำด้านบน

11.มองสงครามให้ออก เหมือน Codebreaker
- ไม่มีฝ่ายดีเลิศ ฝ่ายเลวทราม มันเป็นโฆษณาชวนเชื่อ ล้างสมอง ขึ้นชื่อว่าสงคราม มันก็มีส่วนโหดเหี้ยมกันทั้งสองฝ่ายแหละ (ในภาค Rogue One จะนำเสนอความโหดเหี้ยมของฝ่ายกบฏซะเยอะหน่อย) มันเป็นการต่อสู้กันของคนละอุดมการณ์ คนละรูปแบบการปกครอง ถ้าฝ่ายต่อต้านชนะ กาแลคซี่ก็จะถูกปกครองด้วยระบอบ Republic แต่ถ้า First Order ชนะ กาแลคซี่ก็จะถูกปกครองด้วยระบอบจักรวรรดิ์ มันก็ต้องมีคนได้/เสีย ผลประโยชน์ถ้าฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งขึ้นปกครอง หรือฝ่ายที่ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย และนั่นเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมจักรวรรดิ์ไม่ล้มซะที เพราะเศรษฐาตร์มหภาคบางส่วนมันค้ำจุนอยู่ แต่ที่สำคัญ หลายๆ ดาวเริ่มเบื่อสงครามยืดเยื้อแล้ว แบบที่ Codebreaker บอก เลิกสนใจจะที่จะเลือกฝ่ายแล้ว

ระบอบ Empire จะคล้ายๆ กับ Panem ใน The Hunger Game ยังคงมีสภาอยู่ แต่มีสถานะเป็นอาณานิคมขึ้นในปกครองของ Empire มีหน้าที่รับคำสั่ง ทำตามกฏของ Empire หรือส่งบรรณาการ เข้าใจว่า Empire ถือเป็นเพียงจักรวรรดิหนึ่งในกาแลคซี่ ที่ต้องไปทำสงคราม ไล่ตีดาวต่างๆ เพื่อขยายอำนาจ เหมือนจักรวรรดิอังกฤษ จักรวรรดิรัสเซีย ความโหดร้ายป่าเถื่อนขึ้น ขึ้นอยู่กับผู้นำล้วนๆ (แต่ที่เห็นๆ ก็ไม่มีจักรวรรดิไหนดีเลยนะ ตียึดประเทศขยายอำนาจ สูบทรัพยากร แทรกแซงการเมือง เอาคนต่างชาติพันธ์ุมาเป็นแรงงานและทิ้งเอาไว้อย่างนั้น)

ในภาค 7 นั้น Empire นั้นล่มสลายไปแล้ว แต่กลุ่ม Empire บางส่วนก็ยังรวมตัวขึ้นมาจัดตั้ง The First Order ซึ่งมีสถานะเป็นภาคี คือเป็นองค์กรหนึ่งที่เป็นหน่วยเล็กกว่า Empire เช่นเดียวกับฝ่ายต่อต้าน ที่ไม่ถือเป็นกองกำลังทั้งหมดของฝ่ายกบฏ ซึ่งหวังว่าจะได้เห็นภาคีอื่นๆ ใน EP9

ระบอบ Republic เหมือนกับประชาธิปไตยในอเมริกา มีสภาดวงดาวเพื่อลงมติ ผ่านร่างกฏหมายต่างๆ ของกาแลคซี่ มีสภาเจไดคอยดูแลความสงบของกาแลคซี่ เหมือนใน EP1-2 โดยแต่ละดวงดาวก็ยังคงมีระบอบการปกครองเป็นของตัวเอง มีกฏหมายเป็นของตัวเองอยู่ เหมือนกับรัฐต่างๆ ในอเมริกา โดยดาวบางดวงก็ปกครองตนเองแบบระบอบกษัตริย์ ดาวบางดวงปกครองตนเองแบบคอมมิวนิสต์ ดาวบางดวงปกครองตนเองแบบประชาธิปไตย

มีอีกเยอะครับ แต่คงเล่าออกมาได้ไม่หมด มันอิ่มจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่