พอดีเพิ่งติดละครของใหม่เรื่องแรก ชายไม่จริงฯ ฮ่าๆ พอเห็นหน้าใหม่ จู่ๆก็คิดแว้บเข้ามาถึงเรื่องดราม่าต่างๆ
ซึ่งเราเอามามองในมุมของเรา ในสถานการณ์ที่เราเจอแล้วมันเปลี่ยนทัศนคติเราไปเลย เลยมาแชร์กัน
คือเราอยู่ในวัยเดียวกับใหม่ แต่ต่างที่เราเป็นคนปกติเพิ่งเริ่มอยู่ในวัยทำงาน ในขณะที่ใหม่ทำงานมานานมากแล้ว
เราเข้ามาในสังคมการทำงานด้วยไฟทำงานเต็มที่ ซึ่งแต่ละคนในทีมเราไม่รู้คิดอะไรกับเราบ้าง
เพราะแค่เพิ่งเริ่มต้นไม่นานบางครั้งจู่ๆก็เหมือนก็เหมือนโดนมองไม่ดี เพราะเราเข้าหาคนที่เป็นหัวหน้าใหญ่เลย ก็ไฟอยากทำงานมันสูง แต่คนระดับหัวหน้าต่ำกว่านั้นไม่ค่อยสอนบอกงาน ซึ่งเราโฟกัสแต่งานอยากให้งานเสร็จเร็วๆไม่ใช่มาค่อยๆทำนิดนี่หน่อย ซึ่งตอนนี้เข้าใจแล้วว่าอาจโดนมองไม่ดีเพราะเราดันปรึกษาข้ามขั้น อาจมองว่าอยากประจบหัวหน้าเผื่อได้เลื่อนขั้นเร็วไรงี้ละมั้ง แต่...ปล่าวเราแค่คนบ้างานคนนึง
บางครั้งยอมรับเราก็มีโมเม้นเห็นแก่ตัวบ้าง เพราะใครๆก็อยากทำให้อะไรมันดีที่สุด ถ้าเรามัวแต่อะไรยังไงก็ได้ค่ะพี่ ตามใจพี่เลย เราก็จะเป็นฝ่ายโดนเอาเปรียบกลับ หรือท้ายที่สุดก็เป็นฝ่ายโดนรังแกเองโดยไม่รู้ตัว
บางครั้งก็โดนนินทา เพราะมีใครบางคนที่เราไปเล่นไปสนิทด้วยในที่ทำงาน(พลาดมาก บทเรียนสนิทกับใครในที่ทำงานต้องดูให้ดี ไม่มีใครมองเราในแง่บวกก่อนหรอกเชื่อสิ) แต่ดันเอาเรื่องเราไปเม้าส์ต่อในทางลบกับคนอื่นในที่ทำงาน โดยเฉพาะพี่ๆทีมเรา ซึ่งบางทีเขาเอาประโยคที่เราพูดไปจริงๆน่ะแหละ แต่ไปเล่าในบริบทที่เป็นเชิงลบ ซึ่งตอนเราพูดมันไม่ใช่ มันแค่ขำๆ หรือบางทีนางก็กุเรื่องมาเลยว่าเราเหมือนแอนตี้ทีมงานของเรา คือ...อยู่เฉยๆ แทบไม่สุงสิงกับใครมาก จู่ๆมาทำงี้กับเราได้ไง โดนรังแกทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
เราก็นอยด์มาก ว่าจู่ๆเขาก็มาทำกับเราแบบนี้ได้ไง นอยด์จนจากที่ทำแต่งานได้ มันก็ไม่มีสมาธิเพราะคิดแต่ว่าคนอื่นเป็นอะไร เราทำอะไรให้ ฯลฯ อย่างเนี่ยซ้ำๆ แถมต้องทำงานไปโดยมีคนเหล่านี้ที่ว่าเราลับหลังรายล้อม คือมันทรมานมากจริงๆ น้ำตาเราซึมบ่อยๆ ถ้าใครไม่เจอคงไม่เข้าใจเพราะสถานการณ์มันอึดอัดมาก
เราก็ไม่ได้เป็นคนดีมากมายหรอก เราก็คนเทาๆคนนึง แต่ที่แน่ๆคือเราไม่คิดลบกับใคร หรือรังแกใครก่อนแน่นอน
คนเราส่วนใหญ่เป็นสีเทาๆ ทั้งนั้นแหละ บางคนคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลเลยไม่เห็นรอยเทาๆด่างๆในตัวเรา
จริงๆมีหลายสถานการณ์อีกมากมาย หลายคนอาจเจอในสังคมการทำงานมากกว่าเรา ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นเพราะเราไปทำอะไรไม่ถูกใจใครเข้าโดยไม่รู้ตัว อาจไม่คิดก่อนพูดหรือทำอะไรให้ถี่ถ้วนก่อน ส่วนตัวเราคิดแค่ว่าเราไม่เคยรังแกใครก่อน คงไม่มีประเด็นอะไร แต่สุดท้ายก็มีประเด็นดราม่าในที่ทำงานได้
จริงๆเราเห็นนักแสดงรุ่นพี่ที่โดนข่าวดราม่าหลายคนแล้วนับถือนะว่าเขาสตรองได้ไงในสถานการณ์แบบนี้ แต่ขอพูดถึงใหม่ เพราะวัยใกล้กันแล้วก็ทันตามดูผลงาน เราไม่ได้ตามรายละเอียดข่าวนะ (จริงไม่จริงไม่รู้) แต่เคยเจอพาดหัวข่าวต่างๆ เห็นรายชื่อคนที่ใหม่มีปัญหาตามข่าว เป็นระดับแถวหน้า คร่ำหวอดในวงการหลายคน เลยแบบเทอสตรองอยู่ได้ไง ต้องอยู่รายล้อมด้วยคนที่ไม่ชอบเทอมากมายขนาดนั้นทั้งในและนอกวงการ โดยที่ยังสามารถทำผลงานได้ดีรับรางวัลมากมาย (เราตามแต่ผลงานหนังของเธอ ไม่ค่อยดูละครนะ) แล้วก็ได้เห็นทัศนคติบางอย่างตอนที่เทอไปสัมฯรายการทอร์คโชว์ขื่อดังต่างๆเพราะฉะนั้นเราเลยฮึกเฮิม
"ถ้าใหม่ยังทำได้เราก็ต้องทำได้ เราต้องเลิกนอยด์แล้วกลับมาได้แล้ว"
และเราค้นพบว่าอะไรทำให้เธอสตรองอยู่ได้ (เดาเอานะ) คือ
"ไม่ต้องสนใจว่าใครมองยังไง ถ้าเราคิดว่าดีก็ตั้งใจทำให้เต็มที่ ไปให้สุด อย่าหยุด"
คนเรารู้ผิดชอบชั่วดีกันประมาณนึงอยู่แล้ว ถ้าสิ่งไหนที่ว่าดีแต่คนอื่นว่ามันผิด มารยาท จริยธรรม ศีลธรรมก็ปรับก็แก้ซะ อันไหนที่คิดว่าทำแล้วเออมันเวิร์คก็ทำไปให้สุดไปเลย เพราะถ้าเรามัวมากังวล วันๆเอาแต่นอยด์ว่าคนจะคิดอะไรกับเรานะ เราจะไม่กล้าทำ และจะทำสิ่งนั้นได้ไม่สุด เพราะฉะนั้นทำให้สุดก่อนเต็มที่ไปก่อน เมื่อจบงานค่อยมาฟังมาดูว่าคนคิดยังไง ผ่านแล้วก็ผ่านไป
เรารู้สึกเหมือนปล็ดล๊อคชิวิต สบายใจและมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตตามเดิมแล้ว
....ตอนนี้เราก็เรียนรู้แหละว่าบางอย่างมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งคนที่ยังไม่รู้จักเราจริงๆเขาจะตั้งแง่กับเราก่อนอยู่แล้วเพราะฉะนั้นต้องอยู่ให้เป็น วางตัวให้ดี...
cr.ถึงเธอจะร้ายจริง (คนเราเป็นสีเทา) แต่แง่มุมชีวิตใหม่สอนอะไรเราได้ โดยที่เธอไม่รู้ตัวเนอะ ก็ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้
ใหม่ดาวิกา ดราม่าเธอช่วยปลดล็อคบางอย่างในตัวเรา
ซึ่งเราเอามามองในมุมของเรา ในสถานการณ์ที่เราเจอแล้วมันเปลี่ยนทัศนคติเราไปเลย เลยมาแชร์กัน
คือเราอยู่ในวัยเดียวกับใหม่ แต่ต่างที่เราเป็นคนปกติเพิ่งเริ่มอยู่ในวัยทำงาน ในขณะที่ใหม่ทำงานมานานมากแล้ว
เราเข้ามาในสังคมการทำงานด้วยไฟทำงานเต็มที่ ซึ่งแต่ละคนในทีมเราไม่รู้คิดอะไรกับเราบ้าง
เพราะแค่เพิ่งเริ่มต้นไม่นานบางครั้งจู่ๆก็เหมือนก็เหมือนโดนมองไม่ดี เพราะเราเข้าหาคนที่เป็นหัวหน้าใหญ่เลย ก็ไฟอยากทำงานมันสูง แต่คนระดับหัวหน้าต่ำกว่านั้นไม่ค่อยสอนบอกงาน ซึ่งเราโฟกัสแต่งานอยากให้งานเสร็จเร็วๆไม่ใช่มาค่อยๆทำนิดนี่หน่อย ซึ่งตอนนี้เข้าใจแล้วว่าอาจโดนมองไม่ดีเพราะเราดันปรึกษาข้ามขั้น อาจมองว่าอยากประจบหัวหน้าเผื่อได้เลื่อนขั้นเร็วไรงี้ละมั้ง แต่...ปล่าวเราแค่คนบ้างานคนนึง
บางครั้งยอมรับเราก็มีโมเม้นเห็นแก่ตัวบ้าง เพราะใครๆก็อยากทำให้อะไรมันดีที่สุด ถ้าเรามัวแต่อะไรยังไงก็ได้ค่ะพี่ ตามใจพี่เลย เราก็จะเป็นฝ่ายโดนเอาเปรียบกลับ หรือท้ายที่สุดก็เป็นฝ่ายโดนรังแกเองโดยไม่รู้ตัว
บางครั้งก็โดนนินทา เพราะมีใครบางคนที่เราไปเล่นไปสนิทด้วยในที่ทำงาน(พลาดมาก บทเรียนสนิทกับใครในที่ทำงานต้องดูให้ดี ไม่มีใครมองเราในแง่บวกก่อนหรอกเชื่อสิ) แต่ดันเอาเรื่องเราไปเม้าส์ต่อในทางลบกับคนอื่นในที่ทำงาน โดยเฉพาะพี่ๆทีมเรา ซึ่งบางทีเขาเอาประโยคที่เราพูดไปจริงๆน่ะแหละ แต่ไปเล่าในบริบทที่เป็นเชิงลบ ซึ่งตอนเราพูดมันไม่ใช่ มันแค่ขำๆ หรือบางทีนางก็กุเรื่องมาเลยว่าเราเหมือนแอนตี้ทีมงานของเรา คือ...อยู่เฉยๆ แทบไม่สุงสิงกับใครมาก จู่ๆมาทำงี้กับเราได้ไง โดนรังแกทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
เราก็นอยด์มาก ว่าจู่ๆเขาก็มาทำกับเราแบบนี้ได้ไง นอยด์จนจากที่ทำแต่งานได้ มันก็ไม่มีสมาธิเพราะคิดแต่ว่าคนอื่นเป็นอะไร เราทำอะไรให้ ฯลฯ อย่างเนี่ยซ้ำๆ แถมต้องทำงานไปโดยมีคนเหล่านี้ที่ว่าเราลับหลังรายล้อม คือมันทรมานมากจริงๆ น้ำตาเราซึมบ่อยๆ ถ้าใครไม่เจอคงไม่เข้าใจเพราะสถานการณ์มันอึดอัดมาก
เราก็ไม่ได้เป็นคนดีมากมายหรอก เราก็คนเทาๆคนนึง แต่ที่แน่ๆคือเราไม่คิดลบกับใคร หรือรังแกใครก่อนแน่นอน
คนเราส่วนใหญ่เป็นสีเทาๆ ทั้งนั้นแหละ บางคนคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลเลยไม่เห็นรอยเทาๆด่างๆในตัวเรา
จริงๆมีหลายสถานการณ์อีกมากมาย หลายคนอาจเจอในสังคมการทำงานมากกว่าเรา ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นเพราะเราไปทำอะไรไม่ถูกใจใครเข้าโดยไม่รู้ตัว อาจไม่คิดก่อนพูดหรือทำอะไรให้ถี่ถ้วนก่อน ส่วนตัวเราคิดแค่ว่าเราไม่เคยรังแกใครก่อน คงไม่มีประเด็นอะไร แต่สุดท้ายก็มีประเด็นดราม่าในที่ทำงานได้
จริงๆเราเห็นนักแสดงรุ่นพี่ที่โดนข่าวดราม่าหลายคนแล้วนับถือนะว่าเขาสตรองได้ไงในสถานการณ์แบบนี้ แต่ขอพูดถึงใหม่ เพราะวัยใกล้กันแล้วก็ทันตามดูผลงาน เราไม่ได้ตามรายละเอียดข่าวนะ (จริงไม่จริงไม่รู้) แต่เคยเจอพาดหัวข่าวต่างๆ เห็นรายชื่อคนที่ใหม่มีปัญหาตามข่าว เป็นระดับแถวหน้า คร่ำหวอดในวงการหลายคน เลยแบบเทอสตรองอยู่ได้ไง ต้องอยู่รายล้อมด้วยคนที่ไม่ชอบเทอมากมายขนาดนั้นทั้งในและนอกวงการ โดยที่ยังสามารถทำผลงานได้ดีรับรางวัลมากมาย (เราตามแต่ผลงานหนังของเธอ ไม่ค่อยดูละครนะ) แล้วก็ได้เห็นทัศนคติบางอย่างตอนที่เทอไปสัมฯรายการทอร์คโชว์ขื่อดังต่างๆเพราะฉะนั้นเราเลยฮึกเฮิม
"ถ้าใหม่ยังทำได้เราก็ต้องทำได้ เราต้องเลิกนอยด์แล้วกลับมาได้แล้ว"
และเราค้นพบว่าอะไรทำให้เธอสตรองอยู่ได้ (เดาเอานะ) คือ
"ไม่ต้องสนใจว่าใครมองยังไง ถ้าเราคิดว่าดีก็ตั้งใจทำให้เต็มที่ ไปให้สุด อย่าหยุด"
คนเรารู้ผิดชอบชั่วดีกันประมาณนึงอยู่แล้ว ถ้าสิ่งไหนที่ว่าดีแต่คนอื่นว่ามันผิด มารยาท จริยธรรม ศีลธรรมก็ปรับก็แก้ซะ อันไหนที่คิดว่าทำแล้วเออมันเวิร์คก็ทำไปให้สุดไปเลย เพราะถ้าเรามัวมากังวล วันๆเอาแต่นอยด์ว่าคนจะคิดอะไรกับเรานะ เราจะไม่กล้าทำ และจะทำสิ่งนั้นได้ไม่สุด เพราะฉะนั้นทำให้สุดก่อนเต็มที่ไปก่อน เมื่อจบงานค่อยมาฟังมาดูว่าคนคิดยังไง ผ่านแล้วก็ผ่านไป
เรารู้สึกเหมือนปล็ดล๊อคชิวิต สบายใจและมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตตามเดิมแล้ว
....ตอนนี้เราก็เรียนรู้แหละว่าบางอย่างมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งคนที่ยังไม่รู้จักเราจริงๆเขาจะตั้งแง่กับเราก่อนอยู่แล้วเพราะฉะนั้นต้องอยู่ให้เป็น วางตัวให้ดี...
cr.ถึงเธอจะร้ายจริง (คนเราเป็นสีเทา) แต่แง่มุมชีวิตใหม่สอนอะไรเราได้ โดยที่เธอไม่รู้ตัวเนอะ ก็ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้