สมัครเข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐไม่ได้เพราะร้านค้าสมัครเยอะ เกินจำนวนยอดรับสมัคร ร้านขาดรายได้ ทำอย่างไรดีคะ

กระทู้คำถาม
ร้านค้าท่านใดประสบปัญหาแบบนี้บ้างคะ ร้านที่ไม่ได้เครื่องedc หรือ เครื่องรูดบัตรสวัสดิการของรัฐ ที่เข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ ไม่ทราบว่าจะเจอปัญหารูปแบบเดียวกันมั้ย ร้านค้าเราขายของชำในหมู่บ้าน กลุ่มลูกค้าเป็นคนในหมู่บ้าน แทบไม่มีลูกค้าขาจรหรือมีก็น้อยมาก เพราะเป็นร้านค้าในชุมชน
เนื่องจากเรื่องผ่านมาตั้งแต่ ต.ค.60 ดังนั้น จะไม่ขอพูดถึงกระบวนการรับสมัคร คัดเลือก การประชาสัมพันธ์ของโครงการนะคะ เพราะพื้นที่ของเราล่าช้ามาก ทางร้านไปสมัครก่อนหนังสือจะถึงอบต.ซะอีก แต่ก็ยังไม่ทัน เราทราบข่าวจากเพื่อนร้านค้ารายย่อยที่อยู่คนละอำเภอ แล้วโทรไปสอบถามพาณิชย์จังหวัดเพื่อจะส่งเอกสารเข้าร่วมโครงการเมื่อวันที่28กย.60จนท.แจ้งว่าเต็มแล้ว จำนวนร้านค้าสมัครเกินโควต้าเครื่องที่จังหวัดได้รับ แต่เพื่อนร้านค้าแนะนำว่าส่งเอกสารฝากไว้ก่อน ทางร้านจึงได้ไปส่งเอกสารขอเข้าร่วมโครงการเมื่อวันที่ 5ตค.60(เอกสารครบและทางพาณิชย์จังหวัดก็รับไว้) หลังจากนั้นโทรติดตามว่าจะมีโอกาสได้เครื่องedcหรือไม่ แต่ได้รับคำตอบว่าเป็นไปได้ยากโดยเฉพาะร้านที่สมัครหลัง1 ตค.60 เพราะในตำบลที่เราอยู่ก็มีร้านค้าติดตั้งเครื่องแล้ว ซึ่งตามโควต้าต้องได้ 2 เครื่องเท่านั้น แต่ได้ไป 4 เครื่อง ร้านเราจึงหมดสิทธิ์ ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ
1 ลูกค้าประจำ หายเกลี้ยง เพราะเปลี่ยนไปซื้อของร้านธงฟ้า แม้จะต้องข้ามหมู่บ้านก็ต้องไปเนื่องจากคนในหมู่บ้านมีบัตรสวัสดิการเกือบทุกหลังคาเรือน บางบ้านได้รับ2-4คน คนละ200-300บ./ใบ และด้วยความที่เป็นร้านขายของชำจึงทำให้สินค้าเกือบทุกรายการขายแทบไม่ได้เลย ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ทางร้านขายของราคาย่อมเยา ถือว่าถูกกว่าร้านอื่นๆในละแวกและในตำบล ยอมได้กำไรน้อย แต่ได้ลูกค้าตลอด แต่ตอนนี้ลูกค้าก็หาย และได้แต่เรียกหาเครื่องรูด ซึ่งร้านพยายามประสานพาณิชย์จังหวัดแล้ว แต่ไม่ได้เหมือนเดิม (จนท.ให้กำลังใจว่าเค้ามีโครงการแค่ปีเดียวเพราะปัญหาเยอะ แต่ก็ไม่กล้าเชื่อเท่าไหร่)
2 หนี้สินเพิ่ม รายได้ลดลง เพราะทางร้านเคยขายของได้ตลอดรายได้ต่อวันค่อนข้างดี จึงได้เครดิตจากคู่ค้า ในการนำสินค้ามาขายก่อนแล้วจ่ายทีหลัง ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเลย แต่พอร้านอื่นมีเครื่องรูดบัตร ร้านเราขาดรายได้ ระบบซื้อขายที่เคยหมุนเวียนปกติ ก็ติดขัด ตอนนี้ได้แต่แก้ปัญหาด้วยการลดปริมาณการสั่งของแล้วพยายามชำระหนี้เดิมให้หมด ประคองร้านให้รอด ต้องวัดยอดกันลุ้นวันละ3ครั้ง เช้า เที่ยง ก่อนปิดร้าน ว่าวันนี้จะขายได้เท่าไหร่ ซึ่งยอดขายตกเกิน50% บางวันหายไป80%
3 ใช้กลยุทธ์ ลดแลกแจกแถม เพิ่มความหลากหลายของสินค้าเพิ่มยี่ห้อสินค้า แต่ต้องลดปริมาณการซื้อ เช่น ของบางอย่างเคยมี2-3ยี่ห้อ ก็ซื้อเพิ่มเป็น4-5ยี่ห้อ แต่ลดปริมาณจากเคยซื้อ1ลัง เหลือแค่ 1 แพค(แต่ต้นทุนก็จะสูงมาอีกหน่อย) เพื่อหวังจะดึงดูดลูกค้า แต่ก็พบข้อจำกัดตรงที่รายได้น้อยลง ต้นทุนเพิ่มขึ้น และต้องยอมขายราคาถูกเหมือนเดิม ในขณะที่ร้านธงฟ้า ขายของมีราคาแพงกว่าก็ยังขายคล่องอยู่ดี เพราะคนมีบัตรเขาใช้บัตรซื้อ ไม่ได้ใช้เงินตัวส่วนตัวซื้อ(ของราคาแพงกว่านิดนึงก็เปรียบเสมือนของฟรี แต่ของที่ร้านเราถึงมีราคาถูกก็คือของที่ต้องเสียเงิน) ดังนั้น กี่กลยุทธ์ ที่ใช้ก็ยังไม่ได้ผล เพิ่งจะรู้ว่าอานุภาพของเงินฟรี200-300บาทต่อเดือน มีผลมหาศาลได้ขนาดนี้เชียว เคยคิดว่า ใช้แปปเดียวซื้อของนิดเดียวก็หมด ที่เหลือเขาก็จะมาซื้อร้านเราเหมือนเดิม แต่รอมา2เดือนกว่าแล้ว เหตุการณ์ยิ่งโหดร้ายและตอกย้ำว่า เขาไม่ซื้อของที่เขาเคยได้ฟรี เพราะเขาจะใช้เครดิตในบัตรเดือนต่อไปรอซื้อของนั้นๆใหม่ หรือตุนของวนกันใหม่ ให้ชนเดือน โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อของนั้นๆอีก
4 ปัญหาความเครียด ปัญหาการเลี้ยงดูครอบครัวติดขัด เพราะเราเป็นลูกสาวคนเดียวไม่มีครอบครัว ที่รับช่วงดูแลร้านต่อจากพ่อแม่ที่เพิ่งส่งต่อกิจการให้ และตอนนี้ท่านวัย 69ปี และ 64ปี จะให้เปลี่ยนอาชีพ หรือสมัครงานใหม่ ก็ไม่ได้แล้ว เพราะต้องอยู่ดูแลใกล้ๆเนื่องจากท่านมีโรคประจำตัวทั้ง2คน
5 ขอทราบข้อเสนอแนะ หรือแนวทางการแก้ไข เยียวยา เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกรณีแบบนี้จากผู้รู้หรือขอแลกเปลี่ยนวิธีการแก้ปัญหาในกรณีเทียบเคียงเรื่องนี้ด้วยนะคะ ตอนนี้เครียดมากๆค่ะ ไม่รู้จะประคองร้านในสถานการณ์แบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน มีวิธีปรับเปลี่ยนยังไง รบกวนขอคำแนะนำปรึกษาด้วยนะคะ

ขอบคุณมากๆคะ
(กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยและยินดีรับฟังคำแนะนำทุกท่านคะ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่