คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
คุณต้องปรับความเข้าใจใหม่ว่าระยะเวลา5เดือน มันน้อยมากๆนะครับ (ถึงแม้ในแง่ความรู้สึกคุณจะรู้สึกว่าผูกพันกับเขามานานพอควรก็เถอะ)
อีกอย่างหนึ่งที่คุณต้องตั้งสติและทำก็คือให้เลิกละเมอเพ้อเจ้อเพ้อฝันไปเลยว่าเขาจะดีขึ้น จะปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่ เพราะในโลกความเป็นจริงเป็นเรื่องยากมากๆครับที่คนเราจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือสันดานตัวเองได้ ยังไงตัวเขาก็เป็นอย่างที่คุณเห็นน่ะแหละ เผลอๆยิ่งคบนานยิ่งแย่กว่าเดิม ให้คุณเลิกมโนฝันกลางวันว่าเขาจะดีขึ้นไปเลยจะง่ายกว่า เพราะคุณจะได้ตั้งสติหรือตั้งหลักได้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตรักนี้ต่อ อยู่กับโลกความจริงที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่ในปัจจุบัน แล้วพิจารณาเอาเองครับว่าไหวมั้ย
จำไว้อย่างหนึ่งนะครับ คนที่เรารัก กับคนที่เรารักแล้วเขาสามารถเป็นคู่ชีวิตที่ดีได้ มันคนละอย่างกัน คุณต้องแยกให้ออก คนที่เรารักไม่ได้แปลว่าเขาจะรักคุณจริง เป็นคนดี หรือจะสามารถเป็นคู่ชีวิตที่ดีได้เสมอไป
ถ้าเขาเป็นได้แค่คนที้คุณรักเพียงอย่างเดียวไม่สามารถเป็นคู่ชีวิตที่ดีได้ คนที่จะลำบาก เหนื่อยใจ ไม่มีความสุขก็คือคุณนะครับ เพราะการใช้ชีวิตคู่แบบจริงจัง ความรักอย่างเดียวมันไม่พอครับ มันมีเรื่องของความอดทน เสียสละ ดูแลเอาใจใส่กันและกัน ฯลฯ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทั้งคู่จะต้องมีให้กันและกัน เส้นทางความรักถึงจะมีความสุข แต่ถ้ามีแค่คนเดียวที่เสียสละให้ แต่อีกคนไม่เอาอะไรเลย คนที่เป็นฝ่ายเสียสละให้จะเหนื่อยและหนักอยู่คนเดียวนะครับ เผลอๆอีกคนมันไม่มาซาบซึ้งในสิ่งที่เราเสียสละให้ด้วยซ้ำไป
ตัวแฟนคุณ ถ้าให้ผมเดาในมุมมองผู้ชาย ณ ปัจจุบัน เขาก็คงอิ่มตัวกับคุณแล้วครับ ตอนนี้คุณคล้ายๆเป็นส่วนเกินในชีวิตเขาไปแล้ว คุณกลายเป็นของแก้เหงาให้เขาในบางเวลาที่เขาต้องการ ผมว่าสิ่งที่เขาบอกกับคุณมันชัดเจนแล้วนะครับ ทั้งเรื่องตัดสายโทรศัพท์ ปฏิเสธการไปไหนมาไหนด้วยกันโดยบอกว่าไม่ว่าง และเขาบอกคุณอย่างชัดเจนว่าเขาไม่อยากมีแฟน(ซึ่งก็มาจากการที่เขาผ่านชีวิตที่มีคุณเป็นแฟนมาแล้ว5เดือนน่ะแหละ) สิ่งที่เขาทำอยู่นี้คือการบีบให้คุณออกไปจากชีวิตเขา และก็จะไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าสมมุติว่าคุณเลิกกับเขา แล้วในอนาคตเขาจะมาขอคุณคืนดีอีก เพราะถ้าเขาไม่มีที่ไป เขาจะหันกลับมามองของตายแก้เหงาสำหรับเขาอย่างคุณ
ส่วนเรื่องโปรโมชั่น คุณต้องเข้าใจอย่างหนึ่งนะครับ ว่าที่คุณเจออยู่ทุกวันนี้มันคือตัวตนเขาจริงๆ
ส่วนไอ้ที่คุณเจอแรกๆว่าดีแสนดีจนฝังใจ ประทับใจ มันคือตัวตนในชั่วขณะหนึ่งของเขาเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้นขอเขาเท่านั้น(อารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปให้เขาแสดงออกอย่างนั้น) แต่ ณ ปัจจุบันเขากลับคืนสู่ความเป็นตัวของเขาแล้ว เพราะฉะนั้นคุณเลิกหวังไปเลยว่าเขาจะกลับไปเป็นอย่างนั้นอีก เพราะตอนนี้เขาอิ่มตัวกับคุณแล้ว อย่างดีเขาอาจมาเหมือนตอนนั้นบ้างแต่ก็แค่ประเดี๋ยวเดียว แล้วก็เขาก็กลับไปเป็นตัวของตัวเองอีก
โดยปกติผมให้เวลาช่วงโปรโมชั่นยาวตั้งแต่แรกคบไปจนถึง3ปีนะครับ เพราะฉะนั้น5เดือนของคุณจึงน้อยมาก
ซึ่งถ้าคุณคบหากับคนที่พื้นฐานนิสัยเป็นคนดูแลเอาใจใส่ เห็นอกเห็นใจกัน ช่วงโปรโมชั่นของคุณจะยาวนานมากครับ เพราะนั่นจะเป็นตัวตนของเขาอยู่แล้ว(ไม่ได้ทำตามจังหวะอารมณ์ในช่วงเวลาหนึ่งแบบแฟนคุณ)อย่างผมเองกับคุณภรรยา อาจรักกันมาไม่นานนัก 14ปีย่างเข้า15ปี แต่ผมยังบอกรักคุณเกือบทุกวัน ยังพูดคุยหยอกล้อแกล้งกันเกือบทุกวัน ยังจับมือ กอด หอมแก้ม จุ๊บเหม่งกันอยู่ ยังไปไหนมาไหนด้วยกัน(ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีหลายอย่างที่ผมไม่อยากทำ มีหลายที่ที่ผมไม่อยากไป แต่ผมก็ไปเพื่อคนที่เรารัก) ตัวผมเองที่ทำงานอยู่ใกล้บ้านกว่าคุณภรรยาเยอะ แต่บางวันเลิกงานแล้วยังนั่งรถไปหาคุณภรรยาที่ทำงานเลย เพื่อรอกลับบ้านพร้อมกัน บางทีก็ไปนั่งรอที่ตลาดแถวบ้านรอเข้าบ้านพร้อมกัน (ทั้งๆที่ถ้าผมกลับเข้าบ้านแต่แรกก็สบายกว่าเยอะ และคุณภรรยาผมก็ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอแต่ประการใด เธอสามารถขับรถคนเดียวไปต่างจังหวัดไกลๆได้)
ที่ผมเอาเรื่องตัวเองมาบอกเล่า เพราะอยากกระตุ้นให้คุณคิดว่าชีวิตรักของคุณตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น (ของผมจะ15ปีแล้วยังบอกรักกันเกือบทุกวันเลย ยังใช้ชีวิตใกล้เคียงกับสมัยคบกันใหม่ๆ แต่ของคุณแค่5เดือน ฝ่ายชายก็ออกอาการแล้ว) ตัวผมเองเห็นคู่ชีวิตบางคู่อยู่กันมา30-40ปี เขายังดูแลเอาใจใส่กันและกันเลย ไปไหนมาไหนด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน มารับกันไปกินข้าว ผู้ใหญ่บางคนวันครบรอบแต่งงานยังส่งช่อดอกไม้ให้ภรรยาอยู่เลย
ตัวคุณเองถ้าจริงจังกับความรัก (ไม่ใช่ใช้ชีวิตรักแบบหายใจทิ้งไปวันๆ) ก็ต้องกลับมาพิจารณาดูแล้วว่าความรักครั้งนี้ไหวหรือไม่ไหว จุดบกพร่องของความสัมพันธ์นี้คืออะไร ตัวคุณ ตัวเขา ทั้งคู่ หรืออย่างอื่น
และถ้าคุณอยากมีชีวิตรักที่มีความสุข มั่นคงยืนยาวควรทำยังไง ถ้าข้อบกพร่องอยู่ที่ตัวเอง คุณก็แค่พยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นเท่าที่จะทำได้(แต่ถ้าฝืนมากไป มันจะกลายเป็นภาระหนักในชีวิตคุณทันที) ถ้าข้อบกพร่องอยู่ที่เขา (เช่นนิสัยเห็นแก่ตัวหรือไม่ได้รักคุณจริง) คุณก็ต้องเลือกตัดเขาทิ้งไปจากชีวิต เพราะถึงเขาจะเป็นคนที่คุณรัก แต่เขาไม่สามารถเป็นคู่ชีวิตที่ดี ให้ความสุขเกือบทุกวันกับคุณได้(อย่างที่บอก ให้เอาเรื่องมโนเพ้อเจ้อว่าต่อไปเขาจะดีขึ้นโยนทิ้งไปเลย เพราะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นยาก)
รักใครก็รักแบบมีสติครับ คนที่เข้ามาในชีวิตเรา ถึงเขาจะเป็นคนที่เรารักมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคนๆนั้นเขาจะเป็นคนดี จะรักเราจริง เหมือนอย่างที่เรารักเขา เพราะฉะนั้นก่อนจะเสียสละทุ่มเทอะไรให้แบบเยอะมากๆ คุณต้องใช้สติเยอะๆด้วย บางครั้งคนใกล้ตัวที่รักเรามากๆเช่นพ่อแม่ เรายังไม่เคยเสียสละทำอะไรให้ขนาดนี้เลย แล้วคนๆนี้เป็นใครมาจากไหน
อีกอย่างหนึ่งที่คุณต้องตั้งสติและทำก็คือให้เลิกละเมอเพ้อเจ้อเพ้อฝันไปเลยว่าเขาจะดีขึ้น จะปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่ เพราะในโลกความเป็นจริงเป็นเรื่องยากมากๆครับที่คนเราจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือสันดานตัวเองได้ ยังไงตัวเขาก็เป็นอย่างที่คุณเห็นน่ะแหละ เผลอๆยิ่งคบนานยิ่งแย่กว่าเดิม ให้คุณเลิกมโนฝันกลางวันว่าเขาจะดีขึ้นไปเลยจะง่ายกว่า เพราะคุณจะได้ตั้งสติหรือตั้งหลักได้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตรักนี้ต่อ อยู่กับโลกความจริงที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่ในปัจจุบัน แล้วพิจารณาเอาเองครับว่าไหวมั้ย
จำไว้อย่างหนึ่งนะครับ คนที่เรารัก กับคนที่เรารักแล้วเขาสามารถเป็นคู่ชีวิตที่ดีได้ มันคนละอย่างกัน คุณต้องแยกให้ออก คนที่เรารักไม่ได้แปลว่าเขาจะรักคุณจริง เป็นคนดี หรือจะสามารถเป็นคู่ชีวิตที่ดีได้เสมอไป
ถ้าเขาเป็นได้แค่คนที้คุณรักเพียงอย่างเดียวไม่สามารถเป็นคู่ชีวิตที่ดีได้ คนที่จะลำบาก เหนื่อยใจ ไม่มีความสุขก็คือคุณนะครับ เพราะการใช้ชีวิตคู่แบบจริงจัง ความรักอย่างเดียวมันไม่พอครับ มันมีเรื่องของความอดทน เสียสละ ดูแลเอาใจใส่กันและกัน ฯลฯ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทั้งคู่จะต้องมีให้กันและกัน เส้นทางความรักถึงจะมีความสุข แต่ถ้ามีแค่คนเดียวที่เสียสละให้ แต่อีกคนไม่เอาอะไรเลย คนที่เป็นฝ่ายเสียสละให้จะเหนื่อยและหนักอยู่คนเดียวนะครับ เผลอๆอีกคนมันไม่มาซาบซึ้งในสิ่งที่เราเสียสละให้ด้วยซ้ำไป
ตัวแฟนคุณ ถ้าให้ผมเดาในมุมมองผู้ชาย ณ ปัจจุบัน เขาก็คงอิ่มตัวกับคุณแล้วครับ ตอนนี้คุณคล้ายๆเป็นส่วนเกินในชีวิตเขาไปแล้ว คุณกลายเป็นของแก้เหงาให้เขาในบางเวลาที่เขาต้องการ ผมว่าสิ่งที่เขาบอกกับคุณมันชัดเจนแล้วนะครับ ทั้งเรื่องตัดสายโทรศัพท์ ปฏิเสธการไปไหนมาไหนด้วยกันโดยบอกว่าไม่ว่าง และเขาบอกคุณอย่างชัดเจนว่าเขาไม่อยากมีแฟน(ซึ่งก็มาจากการที่เขาผ่านชีวิตที่มีคุณเป็นแฟนมาแล้ว5เดือนน่ะแหละ) สิ่งที่เขาทำอยู่นี้คือการบีบให้คุณออกไปจากชีวิตเขา และก็จะไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าสมมุติว่าคุณเลิกกับเขา แล้วในอนาคตเขาจะมาขอคุณคืนดีอีก เพราะถ้าเขาไม่มีที่ไป เขาจะหันกลับมามองของตายแก้เหงาสำหรับเขาอย่างคุณ
ส่วนเรื่องโปรโมชั่น คุณต้องเข้าใจอย่างหนึ่งนะครับ ว่าที่คุณเจออยู่ทุกวันนี้มันคือตัวตนเขาจริงๆ
ส่วนไอ้ที่คุณเจอแรกๆว่าดีแสนดีจนฝังใจ ประทับใจ มันคือตัวตนในชั่วขณะหนึ่งของเขาเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้นขอเขาเท่านั้น(อารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปให้เขาแสดงออกอย่างนั้น) แต่ ณ ปัจจุบันเขากลับคืนสู่ความเป็นตัวของเขาแล้ว เพราะฉะนั้นคุณเลิกหวังไปเลยว่าเขาจะกลับไปเป็นอย่างนั้นอีก เพราะตอนนี้เขาอิ่มตัวกับคุณแล้ว อย่างดีเขาอาจมาเหมือนตอนนั้นบ้างแต่ก็แค่ประเดี๋ยวเดียว แล้วก็เขาก็กลับไปเป็นตัวของตัวเองอีก
โดยปกติผมให้เวลาช่วงโปรโมชั่นยาวตั้งแต่แรกคบไปจนถึง3ปีนะครับ เพราะฉะนั้น5เดือนของคุณจึงน้อยมาก
ซึ่งถ้าคุณคบหากับคนที่พื้นฐานนิสัยเป็นคนดูแลเอาใจใส่ เห็นอกเห็นใจกัน ช่วงโปรโมชั่นของคุณจะยาวนานมากครับ เพราะนั่นจะเป็นตัวตนของเขาอยู่แล้ว(ไม่ได้ทำตามจังหวะอารมณ์ในช่วงเวลาหนึ่งแบบแฟนคุณ)อย่างผมเองกับคุณภรรยา อาจรักกันมาไม่นานนัก 14ปีย่างเข้า15ปี แต่ผมยังบอกรักคุณเกือบทุกวัน ยังพูดคุยหยอกล้อแกล้งกันเกือบทุกวัน ยังจับมือ กอด หอมแก้ม จุ๊บเหม่งกันอยู่ ยังไปไหนมาไหนด้วยกัน(ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีหลายอย่างที่ผมไม่อยากทำ มีหลายที่ที่ผมไม่อยากไป แต่ผมก็ไปเพื่อคนที่เรารัก) ตัวผมเองที่ทำงานอยู่ใกล้บ้านกว่าคุณภรรยาเยอะ แต่บางวันเลิกงานแล้วยังนั่งรถไปหาคุณภรรยาที่ทำงานเลย เพื่อรอกลับบ้านพร้อมกัน บางทีก็ไปนั่งรอที่ตลาดแถวบ้านรอเข้าบ้านพร้อมกัน (ทั้งๆที่ถ้าผมกลับเข้าบ้านแต่แรกก็สบายกว่าเยอะ และคุณภรรยาผมก็ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอแต่ประการใด เธอสามารถขับรถคนเดียวไปต่างจังหวัดไกลๆได้)
ที่ผมเอาเรื่องตัวเองมาบอกเล่า เพราะอยากกระตุ้นให้คุณคิดว่าชีวิตรักของคุณตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น (ของผมจะ15ปีแล้วยังบอกรักกันเกือบทุกวันเลย ยังใช้ชีวิตใกล้เคียงกับสมัยคบกันใหม่ๆ แต่ของคุณแค่5เดือน ฝ่ายชายก็ออกอาการแล้ว) ตัวผมเองเห็นคู่ชีวิตบางคู่อยู่กันมา30-40ปี เขายังดูแลเอาใจใส่กันและกันเลย ไปไหนมาไหนด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน มารับกันไปกินข้าว ผู้ใหญ่บางคนวันครบรอบแต่งงานยังส่งช่อดอกไม้ให้ภรรยาอยู่เลย
ตัวคุณเองถ้าจริงจังกับความรัก (ไม่ใช่ใช้ชีวิตรักแบบหายใจทิ้งไปวันๆ) ก็ต้องกลับมาพิจารณาดูแล้วว่าความรักครั้งนี้ไหวหรือไม่ไหว จุดบกพร่องของความสัมพันธ์นี้คืออะไร ตัวคุณ ตัวเขา ทั้งคู่ หรืออย่างอื่น
และถ้าคุณอยากมีชีวิตรักที่มีความสุข มั่นคงยืนยาวควรทำยังไง ถ้าข้อบกพร่องอยู่ที่ตัวเอง คุณก็แค่พยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นเท่าที่จะทำได้(แต่ถ้าฝืนมากไป มันจะกลายเป็นภาระหนักในชีวิตคุณทันที) ถ้าข้อบกพร่องอยู่ที่เขา (เช่นนิสัยเห็นแก่ตัวหรือไม่ได้รักคุณจริง) คุณก็ต้องเลือกตัดเขาทิ้งไปจากชีวิต เพราะถึงเขาจะเป็นคนที่คุณรัก แต่เขาไม่สามารถเป็นคู่ชีวิตที่ดี ให้ความสุขเกือบทุกวันกับคุณได้(อย่างที่บอก ให้เอาเรื่องมโนเพ้อเจ้อว่าต่อไปเขาจะดีขึ้นโยนทิ้งไปเลย เพราะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นยาก)
รักใครก็รักแบบมีสติครับ คนที่เข้ามาในชีวิตเรา ถึงเขาจะเป็นคนที่เรารักมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคนๆนั้นเขาจะเป็นคนดี จะรักเราจริง เหมือนอย่างที่เรารักเขา เพราะฉะนั้นก่อนจะเสียสละทุ่มเทอะไรให้แบบเยอะมากๆ คุณต้องใช้สติเยอะๆด้วย บางครั้งคนใกล้ตัวที่รักเรามากๆเช่นพ่อแม่ เรายังไม่เคยเสียสละทำอะไรให้ขนาดนี้เลย แล้วคนๆนี้เป็นใครมาจากไหน
แสดงความคิดเห็น
แฟนเบื่อเรา ไม่อยากมีแฟนแล้วแต่ยังรักอยู่เหมือนเดิมนี่มันหมายถึงยังไงคะ