ลิสต์นี้เป็นการนำเสนอหนังที่มีเรื่องราวการสืบสวน การไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่อง ซึ่งหนังแนวนี้ก็มีค่อนข้างเยอะ ผมเลยจัดแบ่งเป็น 2 ช่วง คือศตวรรษที่ 21 และศตวรรษที่ 20 ที่ตั้งใจจะทำในอนาคตเพราะมีหนังดังเเละน่าสนใจหลายเรื่องอย่าง M (1931), The Silence of the Lambs (1991), Se7en (1995), Psycho (1960)...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
10. From Hell (2001)
หากคุณสนใจพวกประวัติศาสตร์ นิยาย หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับการฆาตกรรม แน่นอนว่าต้องรู้จัก Jack the Ripper ฆาตกรต่อเนื่องที่ปรากฏตัวช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แล้วออกไล่ฆ่าหญิงสาวที่เป็นโสเภณีในกรุงลอนดอน แม้ว่าปัจจุบันจะผ่านมากว่าร้อยปี ก็ยังมีปริศนาหลายอย่างที่ไม่อาจหาข้อสรุปได้เกี่ยวกับฆาตกรรายนี้ ซึ่งหนังเรื่องนี้มีการนำงานเขียนของ Alan Moore มาดัดแปลงแล้วนำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจ เพราะหนังไม่ได้โฟกัสแค่การสืบสวนเพื่อหาข้อสรุปเท่านั้น แต่พยายามเล่าในเชิงสำรวจ หาแรงจูงใจที่มาของความโหดเหี้ยม ความวิปริตฆาตกร ขณะเดียวกันหนังยังมีเส้นเรื่องรองเกี่ยวกับชีวิตตัวนักสืบที่นำแสดงโดย Johnny Depp และนำเสนอภาพสะท้อนสังคมในยุคสมัยนั้นได้อย่างน่าสนใจ
9. I Saw the Devil (2010)
คุณอาจเคยดูหนังทริลเลอร์คุณภาพดี ที่เล่นปมเรื่องการล้างแค้นอย่าง Kill Bill หรือจะเป็นชุด The Vengeance Trilogy ที่อัดแน่นด้วยความดิบ เลือดสาด แอคชั่นแบบถึงลูกถึงคน ซึ่งนั่นก็ดูจะมากพอแล้วตามขอบเขตความดิบ ความสมจริงที่หนังเรื่องหนึ่งควรให้คุณ แต่สำหรับ I Saw the Devil คุณจะรับรู้ได้เลยว่ามันมีมากกว่าหนังเหล่านั้นขึ้นไปอีกระดับ อีกทั้งฉากแอคชั่นเลือดสาด ภาพแห่งความรุนแรง การทารุณกรรม ถูกผู้กำกับ Kim Jee-woon รังสรรค์กันเข้ามาตั้งแต่ต้นจบจน เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการไล่ล่าเฉือนคม ของตัวเอกที่ต้องการล้างแค้นตัวฆาตกรต่อเนื่องที่ได้ฆ่าแฟนสาวของตน
8. Mr. Brooks (2007)
แนวคิดของ Alfred Hitchcock ที่ว่ากลุ่มคนชั้นสูงทางสังคมมีโอกาสที่จะทำเรื่องชั่วร้ายได้มากกว่ากลุ่มคนชั้นล่าง เป็นแนวคิดที่ไม่ว่าถูกใช้ในยุคสมัยไหนก็ดูน่าสนใจเสมอ อย่างในศตวรรษที่ 21 หนังที่โฟกัสตัวฆาตกรต่อเนื่องอย่าง American Psycho หรือจะเป็น Mr. Brooks ที่พล็อตว่าด้วยนักธุรกิจวัยกลางคนที่ชอบออกหาเหยื่อไล่ฆ่าในเวลากลางคืน และกำลังถูกตามตัวโดยตำรวจสาวรายหนึ่ง ซึ่งหนังทั้งสองมีความคล้ายกันในหลายองค์ประกอบ และที่สำคัญเลยก็คือสอดคล้องกับแนวคิดของ Hitchcock โดยทั้งสองเรื่องจะพาไปสำรวจและปลอกเปลือกความชั่วร้ายที่ถูกซุกซ่อนภายใต้กลุ่มคนที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดี มีฐานะมั่นคง และมีหน้ามีตาในสังคม
7. Perfume: The Story of a Murderer (2006)
อีกหนึ่งความท้าทาย Tom Tykwer ในการหยิบนิยายที่พูดถึงฆาตกรโรคจิตในมุมมองของความเป็นปรัชญา ศาสนา และงานศิลปะมาเล่าเป็นหนัง ซึ่งพล็อตพูดถึงชายผู้มีพรสวรรค์ในการรับกลิ่นเหนือมนุษย์ทั่วไป จนต่อมาเขาก็กลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ไล่ฆ่าหญิงสาว เพื่อนำร่างกายมาสกัดเป็นน้ำหอม ซึ่งแม้ว่าหนังไม่อาจนำเสนอเรื่องราวได้ลึกซึ้งเหมือนการสื่อผ่านตัวอักษรจากนิยาย แต่องค์ประกอบโดยรวมก็นับว่ายอดเยี่ยมมากๆ โดยเฉพาะเรื่องงานภาพ และการให้คำอธิบายตัวตนของฆาตกรรายนี้ ว่ามีจุดกำเนิดยังไง? ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบไหน? และแรงจูงใจที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง?
6. Monster (2003)
ความจริงในหน้าประวัติศาสตร์ของฆาตกรต่อเนื่องหญิงคนแรกของสหรัฐ ได้ถูกถ่ายทอดบนจอภาพยนตร์ผ่านฝีมือของ Patty Jenkins ที่เธอได้รับเสียงชื่นชมมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการเขียนบทที่แสดงถึงความเคารพต่อเรื่องราวดั้งเดิม และความเป็นผู้หญิงทำให้วิสัยทัศน์ที่ถูกเล่ามาเต็มไปด้วยความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของฆาตกรรายนี้ ที่ภายนอกอาจดูเป็นคนชั่วร้าย สามารถฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น แต่ลึกๆแล้วก็ดูมีความเป็นมนุษย์ มีเมตตา รู้จักบาปบุญเหมือนมนุษย์ทั่วๆไป แต่ทำไมเธอกลับกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าผู้คนได้อย่างมากมาย หนังเรื่องนี้จึงพาคนดูไปสำรวจแรงจูงใจอะไรที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ โดยผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Charlize Theron ที่การันตีด้วยรางวัลนำหญิงบนเวทีออสการ์
5. Marshland (2014)
หลายๆคนคงรู้ดีว่าจุดเด่นอย่างหนึ่งของหนังยุโรปคือ การถ่ายภาพนิ่งๆ ใช้การเคลื่อนกล้องน้อยๆ ค่อยๆเล่าด้วยความเร็วระดับเดียวกันตลอดทั้งเรื่อง ก็เพื่อให้หนังออกมาดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นลักษณะที่ดูเหมาะสมกับหนังเรื่องนี้ เพราะด้วยพล็อตที่ชวนให้น่าติดตามอยู่แล้ว ยังใช้วิธีการเล่าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทำให้หนังดูสมจริงมากขึ้นไปอีกระดับ โดยเรื่องราวเปิดด้วยการหายตัวไปของวัยรุ่นสาว ทางสองตำรวจเริ่มสืบข้อมูลจากคนในพื้นที่ คนใกล้ชิดเหยื่อและได้พบกับปัญหาชู้สาว การค้ามนุษย์ และการฆาตกรรมต่อเนื่อง ที่เมื่อลงลึกไปก็พบกับความจริงอันดำมืดที่อาจมาสั่นคลอนความมั่นคงของประเทศ
4. Red Dragon (2002)
แม้อาจไม่ดีเทียบเท่าหนังเปิดตัวฆาตกรโรคจิต Hannibal ในปี 1991 แต่หนังเรื่องนี้ก็มอบหลายๆสิ่งเหมือนอย่าง The Silence of the Lambs เคยให้ไว้ ที่จะทำให้คนดูรักหนังเรื่องนี้เช่นเดียวกัน กับพล็อตที่ว่าด้วยการตามล่าฆาตกรต่อเนื่อง ที่หนุ่มเอฟบีไอผู้รับผิดชอบคดีนี้ ต้องไปขอคำแนะนำจาด Dr. Hannibal เพื่อช่วยหาเบาะแสที่จะสาวไปสู่ฆาตกร ซึ่งจุดแข็งที่โดดเด่นของหนังคือ การผูกเรื่องทางจิตวิทยาเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ความคิด ตรรกะ แรงจูงใจ และความเป็นไปได้ต่างๆเกี่ยวกับตัวฆาตกร ขณะเดียวกันการสร้างตัวละครนักสืบที่นำแสดงโดย Edward Norton ก็ทำได้ยอมเยี่ยมและน่าจดจำไม่แพ้ Jodie Foster
3. The Chaser (2008)
ไอเดียการเขียนบทของ Na Hong-jin คือการมองหาประเด็นทางสังคม ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวมาบอกเล่าในเชิงหนังดราม่าระทึกขวัญตามสไตล์ที่เขาถนัด ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน โดยพล็อตพูดถึงอดีตตำรวจที่ผันตัวมาเป็นแมงดาคุมซ่อง และต้องออกตามล่าตัวฆาตกรที่จับหญิงขายบริการในเครือข่ายของเขาไป โดยประเด็นหลักหนังต้องการสะท้อนให้เห็นปัญหาความรุนแรงและการทารุณกรรมที่เกิดขึ้นในเพศหญิง อีกทั้งยังเสียดสีช่องว่างของระบบกฎหมายได้อย่างเจ็บแสบ เพราะบางครั้งกฎหมายเหล่านั้นไม่อาจนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้
2. Zodiac (2007)
ทุกคนต่างรู้ดีว่า David Fincher เคยผ่านผลงานหนังแนวสืบสวนมาหลายเรื่อง แต่หากถามว่าหนังเรื่องไหนที่คิดว่ามีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด เชื่อเลยว่า Zodiac คงเป็นชื่อแรกๆที่อยู่ในหัวของใครหลายคน กับพล็อตที่พูดถึงการสืบหาตัวฆาตกรจักรราศี ที่หนุ่มนักหนังสือพิมพ์กลายเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขตัวตนที่แท้จริงของฆาตกรรายนี้ ซึ่งหนังใช้การเล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่เร่งจังหวะ แสดงถึงกระบวนการสืบสวนที่เต็มไปด้วยอุปสรรค และความล้มเหลว อีกทั้งยังสะท้อนถึงอันตรายของการหมกมุ่น ความลุ่มหลงในการสืบสวน ซึ่ง Jake Gyllenhaal ที่รับบทหนุ่มนักหนังสือพิมพ์ต้องสูญเสียชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงาน
1. Memories of Murder (2003)
เหตุการณ์จริงที่น่าเศร้าและชวนสั่นผวาอย่างมาก ที่เกิดขึ้นในเกาหลีช่วงปี 1986-1991 การฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดกับหญิงสาวในวันที่ฝนตก จนถึงปัจจุบันคดีนี้ก็ไม่อาจหาข้อสรุปได้ ขณะที่ทางตัวหนังก็มีความเป็นธรรมชาติในองค์ประกอบและวิธีการเล่า จนเสมือนว่าเป็นภาพสะท้อนของเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นและดึงคนดูเข้าไปเป็นสักขีพยานแห่งโศกนาฏกรรม โดยผู้กำกับ Bong Joon-Ho ฉลาดอย่างมากในการออกแบบคาแรคเตอร์ตัวละครให้มีความหลากหลายและมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เพียงแต่ตรึงอยู่ในโหมดเข้มขรึมตลอดเวลาเหมือนหนังสืบสวนหลายๆเรื่อง รวมไปถึงวิธีการสืบสวนดูสมจริงและน่าเชื่อมากถือสอดคล้องกับความเป็นนักสืบท้องถิ่น
.
.
.
.
.
.
.
ตัวอย่างลิสต์ที่เคยเขียนไว้
https://pantip.com/profile/672088
10 หนังระทึกขวัญแห่งการ “สอดรู้สอดเห็น” ยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนัง"ผมไม่ใช่ฆาตกร?" (Primal Fear style) ที่คุณไม่ควรพลาด
10 หนังตลกร้ายยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนังที่จบสะเทือนใจคนดูมากที่สุดในศตวรรษที่ 20
10 หนังอีโรติกทริลเลอร์ยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนังระทึกขวัญ(ลูปเวลา)แห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังรักต้องห้ามยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนังไซไฟ-ไซเบอร์พังก์ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังระทึกขวัญเเห่งการนอกใจ
10 หนังสยองขวัญเชิงจิตวิทยา ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังที่เข้าถึงบทบาทของความบ้าคลั่ง แห่งศตวรรษที่ 21
10+(1) หนังมือสังหารยอดเยี่ยมเเห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังที่หักมุมทำร้ายจิตใจคนดูได้มากที่สุดในศตวรรษที่ 21
10 หนังสืบสวนที่การันตีคุณภาพ ด้วยการเข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
10 หนังทริลเลอร์เชิงจิตวิทยาแห่งปี 2017 ที่คุณไม่ควรพลาด
10 หนังแห่งความซับซ้อน ชวนให้ครุ่นคิด
10 หนังสืบสวนไซไฟยอดเยี่ยม
10 หนังอาชญากรรมสมบูรณ์เเบบ
20 หนังทริลเลอร์จิตวิทยายอดเยี่ยมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2012 - 2016)
20 หนังจิตวิตก (Mindbender) ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 21
20 หนังทริลเลอร์จิตวิทยาแห่งศตวรรษที่ 21 ที่คุณไม่ควรพลาด
50 หนังหักมุมยอดเยี่ยมตลอดกาล
50 หนังสืบสวนยอดเยี่ยมเเห่งศตวรรษที่ 21
50 หนังเเนวลึกลับที่คุณไม่ควรพลาด
ทวิตเตอร์เพจ @Review_Me_ พูดคุยหนังเเละซีรีส์
ขออนุญาตฝากเพจนะครับ
https://www.facebook.com/Criticalme
เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @puneak_b
เป็นพื้นที่สำหรับรีวิวหนังสือนิยายต่างๆโดยเฉพาะแนวสืบสวน
10 หนังไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องแห่งศตวรรษที่ 21
ลิสต์นี้เป็นการนำเสนอหนังที่มีเรื่องราวการสืบสวน การไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่อง ซึ่งหนังแนวนี้ก็มีค่อนข้างเยอะ ผมเลยจัดแบ่งเป็น 2 ช่วง คือศตวรรษที่ 21 และศตวรรษที่ 20 ที่ตั้งใจจะทำในอนาคตเพราะมีหนังดังเเละน่าสนใจหลายเรื่องอย่าง M (1931), The Silence of the Lambs (1991), Se7en (1995), Psycho (1960)...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
10. From Hell (2001)
หากคุณสนใจพวกประวัติศาสตร์ นิยาย หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับการฆาตกรรม แน่นอนว่าต้องรู้จัก Jack the Ripper ฆาตกรต่อเนื่องที่ปรากฏตัวช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แล้วออกไล่ฆ่าหญิงสาวที่เป็นโสเภณีในกรุงลอนดอน แม้ว่าปัจจุบันจะผ่านมากว่าร้อยปี ก็ยังมีปริศนาหลายอย่างที่ไม่อาจหาข้อสรุปได้เกี่ยวกับฆาตกรรายนี้ ซึ่งหนังเรื่องนี้มีการนำงานเขียนของ Alan Moore มาดัดแปลงแล้วนำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจ เพราะหนังไม่ได้โฟกัสแค่การสืบสวนเพื่อหาข้อสรุปเท่านั้น แต่พยายามเล่าในเชิงสำรวจ หาแรงจูงใจที่มาของความโหดเหี้ยม ความวิปริตฆาตกร ขณะเดียวกันหนังยังมีเส้นเรื่องรองเกี่ยวกับชีวิตตัวนักสืบที่นำแสดงโดย Johnny Depp และนำเสนอภาพสะท้อนสังคมในยุคสมัยนั้นได้อย่างน่าสนใจ
9. I Saw the Devil (2010)
คุณอาจเคยดูหนังทริลเลอร์คุณภาพดี ที่เล่นปมเรื่องการล้างแค้นอย่าง Kill Bill หรือจะเป็นชุด The Vengeance Trilogy ที่อัดแน่นด้วยความดิบ เลือดสาด แอคชั่นแบบถึงลูกถึงคน ซึ่งนั่นก็ดูจะมากพอแล้วตามขอบเขตความดิบ ความสมจริงที่หนังเรื่องหนึ่งควรให้คุณ แต่สำหรับ I Saw the Devil คุณจะรับรู้ได้เลยว่ามันมีมากกว่าหนังเหล่านั้นขึ้นไปอีกระดับ อีกทั้งฉากแอคชั่นเลือดสาด ภาพแห่งความรุนแรง การทารุณกรรม ถูกผู้กำกับ Kim Jee-woon รังสรรค์กันเข้ามาตั้งแต่ต้นจบจน เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการไล่ล่าเฉือนคม ของตัวเอกที่ต้องการล้างแค้นตัวฆาตกรต่อเนื่องที่ได้ฆ่าแฟนสาวของตน
8. Mr. Brooks (2007)
แนวคิดของ Alfred Hitchcock ที่ว่ากลุ่มคนชั้นสูงทางสังคมมีโอกาสที่จะทำเรื่องชั่วร้ายได้มากกว่ากลุ่มคนชั้นล่าง เป็นแนวคิดที่ไม่ว่าถูกใช้ในยุคสมัยไหนก็ดูน่าสนใจเสมอ อย่างในศตวรรษที่ 21 หนังที่โฟกัสตัวฆาตกรต่อเนื่องอย่าง American Psycho หรือจะเป็น Mr. Brooks ที่พล็อตว่าด้วยนักธุรกิจวัยกลางคนที่ชอบออกหาเหยื่อไล่ฆ่าในเวลากลางคืน และกำลังถูกตามตัวโดยตำรวจสาวรายหนึ่ง ซึ่งหนังทั้งสองมีความคล้ายกันในหลายองค์ประกอบ และที่สำคัญเลยก็คือสอดคล้องกับแนวคิดของ Hitchcock โดยทั้งสองเรื่องจะพาไปสำรวจและปลอกเปลือกความชั่วร้ายที่ถูกซุกซ่อนภายใต้กลุ่มคนที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดี มีฐานะมั่นคง และมีหน้ามีตาในสังคม
7. Perfume: The Story of a Murderer (2006)
อีกหนึ่งความท้าทาย Tom Tykwer ในการหยิบนิยายที่พูดถึงฆาตกรโรคจิตในมุมมองของความเป็นปรัชญา ศาสนา และงานศิลปะมาเล่าเป็นหนัง ซึ่งพล็อตพูดถึงชายผู้มีพรสวรรค์ในการรับกลิ่นเหนือมนุษย์ทั่วไป จนต่อมาเขาก็กลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ไล่ฆ่าหญิงสาว เพื่อนำร่างกายมาสกัดเป็นน้ำหอม ซึ่งแม้ว่าหนังไม่อาจนำเสนอเรื่องราวได้ลึกซึ้งเหมือนการสื่อผ่านตัวอักษรจากนิยาย แต่องค์ประกอบโดยรวมก็นับว่ายอดเยี่ยมมากๆ โดยเฉพาะเรื่องงานภาพ และการให้คำอธิบายตัวตนของฆาตกรรายนี้ ว่ามีจุดกำเนิดยังไง? ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบไหน? และแรงจูงใจที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง?
6. Monster (2003)
ความจริงในหน้าประวัติศาสตร์ของฆาตกรต่อเนื่องหญิงคนแรกของสหรัฐ ได้ถูกถ่ายทอดบนจอภาพยนตร์ผ่านฝีมือของ Patty Jenkins ที่เธอได้รับเสียงชื่นชมมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการเขียนบทที่แสดงถึงความเคารพต่อเรื่องราวดั้งเดิม และความเป็นผู้หญิงทำให้วิสัยทัศน์ที่ถูกเล่ามาเต็มไปด้วยความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของฆาตกรรายนี้ ที่ภายนอกอาจดูเป็นคนชั่วร้าย สามารถฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น แต่ลึกๆแล้วก็ดูมีความเป็นมนุษย์ มีเมตตา รู้จักบาปบุญเหมือนมนุษย์ทั่วๆไป แต่ทำไมเธอกลับกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าผู้คนได้อย่างมากมาย หนังเรื่องนี้จึงพาคนดูไปสำรวจแรงจูงใจอะไรที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ โดยผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Charlize Theron ที่การันตีด้วยรางวัลนำหญิงบนเวทีออสการ์
5. Marshland (2014)
หลายๆคนคงรู้ดีว่าจุดเด่นอย่างหนึ่งของหนังยุโรปคือ การถ่ายภาพนิ่งๆ ใช้การเคลื่อนกล้องน้อยๆ ค่อยๆเล่าด้วยความเร็วระดับเดียวกันตลอดทั้งเรื่อง ก็เพื่อให้หนังออกมาดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นลักษณะที่ดูเหมาะสมกับหนังเรื่องนี้ เพราะด้วยพล็อตที่ชวนให้น่าติดตามอยู่แล้ว ยังใช้วิธีการเล่าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทำให้หนังดูสมจริงมากขึ้นไปอีกระดับ โดยเรื่องราวเปิดด้วยการหายตัวไปของวัยรุ่นสาว ทางสองตำรวจเริ่มสืบข้อมูลจากคนในพื้นที่ คนใกล้ชิดเหยื่อและได้พบกับปัญหาชู้สาว การค้ามนุษย์ และการฆาตกรรมต่อเนื่อง ที่เมื่อลงลึกไปก็พบกับความจริงอันดำมืดที่อาจมาสั่นคลอนความมั่นคงของประเทศ
4. Red Dragon (2002)
แม้อาจไม่ดีเทียบเท่าหนังเปิดตัวฆาตกรโรคจิต Hannibal ในปี 1991 แต่หนังเรื่องนี้ก็มอบหลายๆสิ่งเหมือนอย่าง The Silence of the Lambs เคยให้ไว้ ที่จะทำให้คนดูรักหนังเรื่องนี้เช่นเดียวกัน กับพล็อตที่ว่าด้วยการตามล่าฆาตกรต่อเนื่อง ที่หนุ่มเอฟบีไอผู้รับผิดชอบคดีนี้ ต้องไปขอคำแนะนำจาด Dr. Hannibal เพื่อช่วยหาเบาะแสที่จะสาวไปสู่ฆาตกร ซึ่งจุดแข็งที่โดดเด่นของหนังคือ การผูกเรื่องทางจิตวิทยาเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ความคิด ตรรกะ แรงจูงใจ และความเป็นไปได้ต่างๆเกี่ยวกับตัวฆาตกร ขณะเดียวกันการสร้างตัวละครนักสืบที่นำแสดงโดย Edward Norton ก็ทำได้ยอมเยี่ยมและน่าจดจำไม่แพ้ Jodie Foster
3. The Chaser (2008)
ไอเดียการเขียนบทของ Na Hong-jin คือการมองหาประเด็นทางสังคม ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวมาบอกเล่าในเชิงหนังดราม่าระทึกขวัญตามสไตล์ที่เขาถนัด ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน โดยพล็อตพูดถึงอดีตตำรวจที่ผันตัวมาเป็นแมงดาคุมซ่อง และต้องออกตามล่าตัวฆาตกรที่จับหญิงขายบริการในเครือข่ายของเขาไป โดยประเด็นหลักหนังต้องการสะท้อนให้เห็นปัญหาความรุนแรงและการทารุณกรรมที่เกิดขึ้นในเพศหญิง อีกทั้งยังเสียดสีช่องว่างของระบบกฎหมายได้อย่างเจ็บแสบ เพราะบางครั้งกฎหมายเหล่านั้นไม่อาจนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้
2. Zodiac (2007)
ทุกคนต่างรู้ดีว่า David Fincher เคยผ่านผลงานหนังแนวสืบสวนมาหลายเรื่อง แต่หากถามว่าหนังเรื่องไหนที่คิดว่ามีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด เชื่อเลยว่า Zodiac คงเป็นชื่อแรกๆที่อยู่ในหัวของใครหลายคน กับพล็อตที่พูดถึงการสืบหาตัวฆาตกรจักรราศี ที่หนุ่มนักหนังสือพิมพ์กลายเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขตัวตนที่แท้จริงของฆาตกรรายนี้ ซึ่งหนังใช้การเล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่เร่งจังหวะ แสดงถึงกระบวนการสืบสวนที่เต็มไปด้วยอุปสรรค และความล้มเหลว อีกทั้งยังสะท้อนถึงอันตรายของการหมกมุ่น ความลุ่มหลงในการสืบสวน ซึ่ง Jake Gyllenhaal ที่รับบทหนุ่มนักหนังสือพิมพ์ต้องสูญเสียชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงาน
1. Memories of Murder (2003)
เหตุการณ์จริงที่น่าเศร้าและชวนสั่นผวาอย่างมาก ที่เกิดขึ้นในเกาหลีช่วงปี 1986-1991 การฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดกับหญิงสาวในวันที่ฝนตก จนถึงปัจจุบันคดีนี้ก็ไม่อาจหาข้อสรุปได้ ขณะที่ทางตัวหนังก็มีความเป็นธรรมชาติในองค์ประกอบและวิธีการเล่า จนเสมือนว่าเป็นภาพสะท้อนของเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นและดึงคนดูเข้าไปเป็นสักขีพยานแห่งโศกนาฏกรรม โดยผู้กำกับ Bong Joon-Ho ฉลาดอย่างมากในการออกแบบคาแรคเตอร์ตัวละครให้มีความหลากหลายและมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เพียงแต่ตรึงอยู่ในโหมดเข้มขรึมตลอดเวลาเหมือนหนังสืบสวนหลายๆเรื่อง รวมไปถึงวิธีการสืบสวนดูสมจริงและน่าเชื่อมากถือสอดคล้องกับความเป็นนักสืบท้องถิ่น
.
.
.
.
.
.
.
ตัวอย่างลิสต์ที่เคยเขียนไว้
https://pantip.com/profile/672088
10 หนังระทึกขวัญแห่งการ “สอดรู้สอดเห็น” ยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนัง"ผมไม่ใช่ฆาตกร?" (Primal Fear style) ที่คุณไม่ควรพลาด
10 หนังตลกร้ายยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนังที่จบสะเทือนใจคนดูมากที่สุดในศตวรรษที่ 20
10 หนังอีโรติกทริลเลอร์ยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนังระทึกขวัญ(ลูปเวลา)แห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังรักต้องห้ามยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนังไซไฟ-ไซเบอร์พังก์ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังระทึกขวัญเเห่งการนอกใจ
10 หนังสยองขวัญเชิงจิตวิทยา ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังที่เข้าถึงบทบาทของความบ้าคลั่ง แห่งศตวรรษที่ 21
10+(1) หนังมือสังหารยอดเยี่ยมเเห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังที่หักมุมทำร้ายจิตใจคนดูได้มากที่สุดในศตวรรษที่ 21
10 หนังสืบสวนที่การันตีคุณภาพ ด้วยการเข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
10 หนังทริลเลอร์เชิงจิตวิทยาแห่งปี 2017 ที่คุณไม่ควรพลาด
10 หนังแห่งความซับซ้อน ชวนให้ครุ่นคิด
10 หนังสืบสวนไซไฟยอดเยี่ยม
10 หนังอาชญากรรมสมบูรณ์เเบบ
20 หนังทริลเลอร์จิตวิทยายอดเยี่ยมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2012 - 2016)
20 หนังจิตวิตก (Mindbender) ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 21
20 หนังทริลเลอร์จิตวิทยาแห่งศตวรรษที่ 21 ที่คุณไม่ควรพลาด
50 หนังหักมุมยอดเยี่ยมตลอดกาล
50 หนังสืบสวนยอดเยี่ยมเเห่งศตวรรษที่ 21
50 หนังเเนวลึกลับที่คุณไม่ควรพลาด
ทวิตเตอร์เพจ @Review_Me_ พูดคุยหนังเเละซีรีส์
ขออนุญาตฝากเพจนะครับ
https://www.facebook.com/Criticalme
เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @puneak_b
เป็นพื้นที่สำหรับรีวิวหนังสือนิยายต่างๆโดยเฉพาะแนวสืบสวน