ภารกิจเที่ยวโตเกียว ญี่ปุ่น 7 วัน 6 คืน
วันแรก ...
https://pantip.com/topic/37172971
วันที่สอง ...
https://pantip.com/topic/37175485
วันที่ 3 เรามีนัดนั่งรถทัวร์ไปคาวากูจิโกะเพื่อมภูเขาฟูจิ เราตืนแต่เช้าเพื่อไปให้ทันรถเที่ยว 9.05 น. เราไปถึงสถานีชินจูกุที่ตั้งของสถานีรถทัวร์ ประมาณ 8.00 น. แวะถ่ายรูปซะหน่อย

จากนั้นก็แวะกินข้าวเช้าก่อนที่ Yoshinoya สั่งปลาแซลมอนกับข้าว คุ้มสุดๆ บ้านเขาปลาไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับอย่างอื่น
กินข้าวเสร็จ เราก็เดินไปที่สถานีรถทัวร์

สักพักรถก็ออก เดินทางออกนอกเมืองประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงสถานีรถไฟและรถทัวร์คาวากูจิโกะ คนมาเที่ยวกันเยอะมากโดยเฉะพาะคนไทย แทบจะพูดภาษาไทยกันเกือบทุกคน เราก็ต้องต่อคิวซื้อตั๋ว โดยเราเลือกซื้อเป็นแบบแพคเกจ คือตั๋วรถทัวร์นำเที่ยว รถกระเช้าและเรือนำเที่ยว แบบ สองวัน แล้วก็ไปรอรถนำเที่ยว สีแดงไปทะเลสาบคาวากูจิโกะ สีเขียวไปทะเลสาบไซโกะ เรารอขึ้นสีแดงเพื่อไปชมวิวภูเขาฟูจิที่สถานีที่ 22 ซึ่งเป็นสถานทีสุดท้ายก่อน ที่นี่ก็คือคนไทย มีการผลักกันถ่ายรูปให้กัน เราอยู่ที่นี่นานเลย

แล้วก็กลับไปสถานีที่ 19 เพื่อชมอุโมงค์เมเปิ้ล เสียดายที่ใบร่วงเกิอบหมดแล้ว แต่ใบเมเปิ้ลยังอยู่เต็มพื้น เราก็เดินชมไป ถ่ายรูปไป เดินไปชมวิวบนทางเดินริมทะเลสาป

แล้วก็ขึ้นรถทัวร์กลับไปสถานีที่ 16 เพื่อเยี่ยมชม Music Forest มีการเก็บตังค่าเข้าชม เราดูแล้วไม่มีอะไรเลยไม่ได้เข้า จากนั้นก็นั่งรถกลับไปสถานที่ 11 ที่ตั้งของโรงแรมที่เราพัก ชิมวิวจากหน้าต่างห้องพักกันหน่อย

ประมาณบ่ายสาม เราก็ไปเช็คอิน แล้วเดินออกมากินข้าวที่ร้านสุดฮิต Lakeside กินโฮโต อาหารพื้นถิ่นของที่นี่ กินไป ชมวิวทะเลสาปไป

ด้านล่างร้านอาหารเป็นร้านขายของฝาก ใครมีเงินไทยแลกเปลี่ยนเป็นเงินเยนได้ที่เครื่อง สะดวกดี

แล้วก็เดินไปขึ้นกระเช้า เพื่อชมวิวภูเขาฟูจิในมุมสูง อยู่ได้สักพักก็ต้องลงละ เพราะเขาจะปิดตอนสี่โมงสี่สิบ

พอเราลงมา ทางเรือก็หยุดให้บริการพอดี ไม่เป็นไร ไว้มาขึ้นเรือพรุ่งนี้ จากนั้นเราก็เดินไปหาร้านอาหารเพื่อกินอาหารเย็น ปรากฎว่า ร้านรวงปิดหมด มืดไปหมด แต่เราพบแสงสว่างที่ร้าน Lawson ไม่รอช้า เดินเข้าไปหาของกิน แล้วเดินกลับมากินที่ห้องพักในโรงแรม กินเสร็จไปต่อด้วยการแช่น้ำร้อนออนเซ็น เป็นครั้งแรกที่ผมต้องแก้ผ้า แช่น้ำพร้อมกับคุณผู้ชาย อิอิ ขอบอกว่า น้ำมันร้อนมาก แช่ได้ไม่นานก็ต้องขึ้นมาอาบน้ำ แล้วไปแช่ใหม่อีกแปบเดียวก็ขึ้น มาเปลี่ยนเสื้อผ้า แลัวกลับห้องไปนอนพ้ก เพื่อเก็บแรงไว้เที่ยวต่อวันพรุ่งนี้
วันที่ 4 ตื่นเช้าอาบน้ำไปกินอาหารเช้าของโรงแรม จากนั้นไปเก็บของเช็คแล้ว
เดินออกจากโรงแรมอากาศหนาวเย็น มีน้ำแข็งเกาะที่ยอดใบไม้

แล้วไปรอขึ้นเรือชมวิว ปรากฎว่าเรือหยุดให้บริการสองวัน นี่เป็นอีกครั้งที่เราจะต้องเช็ควีนเวลาให้บรืการดีๆ ก็เลยเปลี่ยนแผนว่าจะเช่จักรยานขี่รอบทะเลสาปดี หรือขึ้นรถไฟไปเจดีย์แดงดีท้ายสุด เราเลือกขึ้นรถทัวร์สายสีเขียวไปทะเลสาปไซโกะ เพื่อชมหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณที่ชาวบานร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อรองรับนักท่อเงที่ยว เราลงมราสถานีที่ 68 แล้วไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม

ที่นี่วิวชมภูเขาฟูจืสวยมาก ดูเป็นธรรมชาติจนน่าอยู่ประจำซะเลย จากนั้นเราก็เข้าชมบ้านแต่ละหลัง ซึ่งก็มีกิจกรรมและของที่ระลึกขายแตกต่างกันไป บ้างก็เป็นผ้า เป็นภาพเขียน เป็นเซรามิก เป็นของชำ เป็นต้น ชมได้สักพัก เราก็มารอรถทัวร์ที่มาตามเวลา เพื่อกลับให้ทันรถกลับไปชินจูกุเวลา 13.00 น. ระหว่างรอรถ เราก็ซื้อมันเผาที่มีภาษาไทยกำกับว่าอร่อยที่สุด หนึ่งลูกกินกันสามคนเกือบจะไม่หมด อร่อยจริงๆด้วย

แล้วรถทัวร์ก็มา นั่งชมวิวฟูจิซังตลอดทาง

เราก็นั่งไปลงสถานีคาวาเพื่อต่อรถกลับเข้าเมือง รถกลับเที่ยวนรี้ตกแต่งลายโทมัสซะด้วย

เดินทางมาถึงเกือบบ่ายสามโมง ก็ไปกิน Yoshinoya ที่ผมรับประกันความอร่อย แถวสถานทีชินจูกุ จากนั้นก็เดินต่อไปตึก Tokyo Government Tower เพื่อชมวิวเมืองในมุมสูงฟรี โดยมีทั้งตึกเหนือและใต้แล้วแต่เลือก เราจะได้เห็นเมืองรอบทิศ และถ้าอากาศโปร่งๆ ก็จะได้เห็นฟูจิกันเลยทีเดียว

แต่เราไปเย็นแล้ว มีหมอกเยอะอยู่ เลยไม่ได้เห็นครับ

ตรงกลางที่เห็นเป็นสวนต้นไม้วงกลมขนาดใหญ่ คือศาลเจ้าเมจิ ที่เราจะไปซ่อมวันที่ 6 ครับ
ดูสักพัก เราก็เดินไปที่สวนสาธารณะชินจูกุ เพื่อไปไหว้ศาลเจ้า เพราะยังไม่มีโอกาสไปวัดหรือศาลใดเลย มีเวลาไหว้ศาลแปบเดียวก็ต้องออกจากสวน เพื่อกลับไปที่พัก ระหว่างทางเจอบ้านชาวบ้าน ก็เลยแวะกินโซบะ ข้าวแกงกะหรี่ อร่อยมาก ต้องแบบนี้สิ

จากนั้นเราก็เดินกลับที่พัก ระหว่างทางผ่านวัดเซ็นโชจิ ก็เลยแวะถ่ายภาพกลางคืนซะหน่อย แล้วก็กลับไปอาบน้ำนอน เพื่อไปตะลุยดิสนีย์แลนด์ ไฮไลต์ในทริปนี้ของผม
[CR] ...ภารกิจพิชิตโตเกียวครั้งแรก [วันที่ 3-4 ทะเลสาปคาวากูจิโกะ ชินจูกุ
วันแรก ...https://pantip.com/topic/37172971
วันที่สอง ...https://pantip.com/topic/37175485
วันที่ 3 เรามีนัดนั่งรถทัวร์ไปคาวากูจิโกะเพื่อมภูเขาฟูจิ เราตืนแต่เช้าเพื่อไปให้ทันรถเที่ยว 9.05 น. เราไปถึงสถานีชินจูกุที่ตั้งของสถานีรถทัวร์ ประมาณ 8.00 น. แวะถ่ายรูปซะหน่อย
จากนั้นก็แวะกินข้าวเช้าก่อนที่ Yoshinoya สั่งปลาแซลมอนกับข้าว คุ้มสุดๆ บ้านเขาปลาไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับอย่างอื่น
กินข้าวเสร็จ เราก็เดินไปที่สถานีรถทัวร์
สักพักรถก็ออก เดินทางออกนอกเมืองประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงสถานีรถไฟและรถทัวร์คาวากูจิโกะ คนมาเที่ยวกันเยอะมากโดยเฉะพาะคนไทย แทบจะพูดภาษาไทยกันเกือบทุกคน เราก็ต้องต่อคิวซื้อตั๋ว โดยเราเลือกซื้อเป็นแบบแพคเกจ คือตั๋วรถทัวร์นำเที่ยว รถกระเช้าและเรือนำเที่ยว แบบ สองวัน แล้วก็ไปรอรถนำเที่ยว สีแดงไปทะเลสาบคาวากูจิโกะ สีเขียวไปทะเลสาบไซโกะ เรารอขึ้นสีแดงเพื่อไปชมวิวภูเขาฟูจิที่สถานีที่ 22 ซึ่งเป็นสถานทีสุดท้ายก่อน ที่นี่ก็คือคนไทย มีการผลักกันถ่ายรูปให้กัน เราอยู่ที่นี่นานเลย
แล้วก็กลับไปสถานีที่ 19 เพื่อชมอุโมงค์เมเปิ้ล เสียดายที่ใบร่วงเกิอบหมดแล้ว แต่ใบเมเปิ้ลยังอยู่เต็มพื้น เราก็เดินชมไป ถ่ายรูปไป เดินไปชมวิวบนทางเดินริมทะเลสาป
แล้วก็ขึ้นรถทัวร์กลับไปสถานีที่ 16 เพื่อเยี่ยมชม Music Forest มีการเก็บตังค่าเข้าชม เราดูแล้วไม่มีอะไรเลยไม่ได้เข้า จากนั้นก็นั่งรถกลับไปสถานที่ 11 ที่ตั้งของโรงแรมที่เราพัก ชิมวิวจากหน้าต่างห้องพักกันหน่อย
ประมาณบ่ายสาม เราก็ไปเช็คอิน แล้วเดินออกมากินข้าวที่ร้านสุดฮิต Lakeside กินโฮโต อาหารพื้นถิ่นของที่นี่ กินไป ชมวิวทะเลสาปไป
ด้านล่างร้านอาหารเป็นร้านขายของฝาก ใครมีเงินไทยแลกเปลี่ยนเป็นเงินเยนได้ที่เครื่อง สะดวกดี
แล้วก็เดินไปขึ้นกระเช้า เพื่อชมวิวภูเขาฟูจิในมุมสูง อยู่ได้สักพักก็ต้องลงละ เพราะเขาจะปิดตอนสี่โมงสี่สิบ
พอเราลงมา ทางเรือก็หยุดให้บริการพอดี ไม่เป็นไร ไว้มาขึ้นเรือพรุ่งนี้ จากนั้นเราก็เดินไปหาร้านอาหารเพื่อกินอาหารเย็น ปรากฎว่า ร้านรวงปิดหมด มืดไปหมด แต่เราพบแสงสว่างที่ร้าน Lawson ไม่รอช้า เดินเข้าไปหาของกิน แล้วเดินกลับมากินที่ห้องพักในโรงแรม กินเสร็จไปต่อด้วยการแช่น้ำร้อนออนเซ็น เป็นครั้งแรกที่ผมต้องแก้ผ้า แช่น้ำพร้อมกับคุณผู้ชาย อิอิ ขอบอกว่า น้ำมันร้อนมาก แช่ได้ไม่นานก็ต้องขึ้นมาอาบน้ำ แล้วไปแช่ใหม่อีกแปบเดียวก็ขึ้น มาเปลี่ยนเสื้อผ้า แลัวกลับห้องไปนอนพ้ก เพื่อเก็บแรงไว้เที่ยวต่อวันพรุ่งนี้
วันที่ 4 ตื่นเช้าอาบน้ำไปกินอาหารเช้าของโรงแรม จากนั้นไปเก็บของเช็คแล้ว
เดินออกจากโรงแรมอากาศหนาวเย็น มีน้ำแข็งเกาะที่ยอดใบไม้
แล้วไปรอขึ้นเรือชมวิว ปรากฎว่าเรือหยุดให้บริการสองวัน นี่เป็นอีกครั้งที่เราจะต้องเช็ควีนเวลาให้บรืการดีๆ ก็เลยเปลี่ยนแผนว่าจะเช่จักรยานขี่รอบทะเลสาปดี หรือขึ้นรถไฟไปเจดีย์แดงดีท้ายสุด เราเลือกขึ้นรถทัวร์สายสีเขียวไปทะเลสาปไซโกะ เพื่อชมหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณที่ชาวบานร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อรองรับนักท่อเงที่ยว เราลงมราสถานีที่ 68 แล้วไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม
ที่นี่วิวชมภูเขาฟูจืสวยมาก ดูเป็นธรรมชาติจนน่าอยู่ประจำซะเลย จากนั้นเราก็เข้าชมบ้านแต่ละหลัง ซึ่งก็มีกิจกรรมและของที่ระลึกขายแตกต่างกันไป บ้างก็เป็นผ้า เป็นภาพเขียน เป็นเซรามิก เป็นของชำ เป็นต้น ชมได้สักพัก เราก็มารอรถทัวร์ที่มาตามเวลา เพื่อกลับให้ทันรถกลับไปชินจูกุเวลา 13.00 น. ระหว่างรอรถ เราก็ซื้อมันเผาที่มีภาษาไทยกำกับว่าอร่อยที่สุด หนึ่งลูกกินกันสามคนเกือบจะไม่หมด อร่อยจริงๆด้วย
แล้วรถทัวร์ก็มา นั่งชมวิวฟูจิซังตลอดทาง
เราก็นั่งไปลงสถานีคาวาเพื่อต่อรถกลับเข้าเมือง รถกลับเที่ยวนรี้ตกแต่งลายโทมัสซะด้วย
เดินทางมาถึงเกือบบ่ายสามโมง ก็ไปกิน Yoshinoya ที่ผมรับประกันความอร่อย แถวสถานทีชินจูกุ จากนั้นก็เดินต่อไปตึก Tokyo Government Tower เพื่อชมวิวเมืองในมุมสูงฟรี โดยมีทั้งตึกเหนือและใต้แล้วแต่เลือก เราจะได้เห็นเมืองรอบทิศ และถ้าอากาศโปร่งๆ ก็จะได้เห็นฟูจิกันเลยทีเดียว
แต่เราไปเย็นแล้ว มีหมอกเยอะอยู่ เลยไม่ได้เห็นครับ
ตรงกลางที่เห็นเป็นสวนต้นไม้วงกลมขนาดใหญ่ คือศาลเจ้าเมจิ ที่เราจะไปซ่อมวันที่ 6 ครับ
ดูสักพัก เราก็เดินไปที่สวนสาธารณะชินจูกุ เพื่อไปไหว้ศาลเจ้า เพราะยังไม่มีโอกาสไปวัดหรือศาลใดเลย มีเวลาไหว้ศาลแปบเดียวก็ต้องออกจากสวน เพื่อกลับไปที่พัก ระหว่างทางเจอบ้านชาวบ้าน ก็เลยแวะกินโซบะ ข้าวแกงกะหรี่ อร่อยมาก ต้องแบบนี้สิ
จากนั้นเราก็เดินกลับที่พัก ระหว่างทางผ่านวัดเซ็นโชจิ ก็เลยแวะถ่ายภาพกลางคืนซะหน่อย แล้วก็กลับไปอาบน้ำนอน เพื่อไปตะลุยดิสนีย์แลนด์ ไฮไลต์ในทริปนี้ของผม