ประสบการณ์แรกจาก Mazda2 : ภาค 1 จุดเริ่มต้นของ 4,000 กิโล


“ครั้งแรก” และ “ค้นหา” เป็นสิ่งที่มอบประสบการณ์น่าพิศมัยให้เสมอ บางทีบางคนก็อาจจะงงงวยไปกับครั้งแรก เพราะบางเรื่องอาจเป็นเรื่องที่เขายังไม่พร้อมที่จะเจอมันก็ได้ แต่...คนเรามีครั้งแรกด้วยกันเสมอ สิ่งสำคัญของคำว่าครั้งแรกจริง ๆ แล้วน่าจะเป็นเรื่องของ การกล้าที่จะคิด เริ่มที่จะลอง นั้นต่างหากที่ทำให้คุณ “ค้นหา” จนพบกับ “ครั้งแรก”

สำหรับผม ครั้งนี้เป็นครั้งแรกกับ “แม่ฮ่องสอน” และนี่ก็เป็นสี่ล้อคันแรก “Mazda2” ที่เพิ่งซื้อ กับใบขับขี่รถยนต์ที่เพิ่งทำตอนออกรถ และทริปนี้ยังมีครั้งแรกอีกหลายอย่างที่สร้างความประทับใจให้กับผม แถมเป็นทริปยาวถึง 22 วัน อย่างไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะครับ ชอบกดไลท์ ใช่กดแชร์ได้นะ มีอะไรสงสัยก็แสดงความเห็นโต้ตอบกันได้ครับ



เนื่องจากมีรูปภาพเยอะมาก ข้อมูลอาจจะไม่เยอะเพราะดองไว้นาน แต่อย่างไรก็ดีผมคิดว่าควรจะแยกบทความออกเป็นภาค ๆ เพื่อไม่ให้มันยาวเกินไป รบกวนติดต่อชมแต่ละภาคที่กำลังตามมาด้วยนะครับ ขอบคุณครับ





“เช้าในวันที่หัวใจเต็มไปด้วยแรงขับจากความตื่นเต้นของการเดินทางช่วงเริ่มต้น”

แสงไฟข้างทาง บนถนนที่แทบไร้เสียงใด ๆ แต่เรารับรู้ได้จากเงาสะท้อนที่ดูช่ำ และวัววาบบนพื้นถนนที่บอกให้ทราบว่า ฝนกำลังตกอยู่ รถยนต์ขับแล้วไม่เปียกฝน นั้นทำให้รู้สึกดีไปอีกแบบเมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เดินทางเป็นประจำ ซึ่งคงต้องตากฝนยาวไปเรื่อย ๆ เหมือนหน้าฝนทุกปีที่บิดมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปถ่ายรูป บางทีตากฝนยาวจากกรุงเทพถึงนครสวรรค์เลยด้วยซ้ำ

เอาเข้าจริง ๆ ผมก็พนันกับดวงแบบไม่เสี่ยงมากนักในเรื่องฟ้าฝน แม้ว่าฝนตกพรำลงมาตั้งแต่สตาร์ทรถก็ตาม มันไม่แปลกนัก เพราะเป็นรอยต่อระหว่างหน้าฝน และหนาว แต่ผมเชื่อว่าอีกไม่กี่วัน ฟ้าจะต้องใส สถานที่ ๆ ผมไปถ่ายภาพจะได้เมฆ ได้หมอก ได้ฟ้าที่เป็นใจแน่





ไม่ถึง 6 โมงครึ่งดีผมก็มาถึงที่หมายแรก "วัดนครหลวง" โดยหวังจะมาถ่ายภาพ "ปราสาทนครหลวง"

ปราสาทนครหลวง - อยุธยา
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/Wj3zkHby9Ez

ที่นี่ผมเคยมาถ่ายรูปแล้วครั้งนึง แต่ไม่เคยมาเช้าขนาดนี้ ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ การมาครั้งนี้ผมกะจะมาถ่ายช่วงฟ้า Blue ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แต่ระหว่างขับรถมาก็คิดว่า มาแบบช่วงมีแสงกำลังสาดส่องน่าจะสวยกว่า ก็เลยขับรถอ้อยอิ่ง แล้วไปจอดรถพักที่ปั้มน้ำมัน ปตท. ที่ใกล้ที่สุดก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยมาที่ปราสาทนครหลวงนี่เพื่อรอให้ฟ้าสว่างขึ้นซักหน่อย





ผมขับรถเข้ามาจอดในพื้นที่วัดซึ่งมีพื้นที่ให้จอดรถไม่มากนัก ตัววัดนั้นอยู่คนละฝากถนนเล็ก ๆ กับตัวปราสาทนครหลวง จอดเสร็จก็เดินข้ามถนนมาที่ตัวปราสาทนครหลวง





ลานหน้าปราสาทนครหลวงมีการตั้งเต็นท์เตรียมทำพื้นที่เพื่อในหลวง เพราะนี่เป็นช่วงที่ใกล้งานถวายดอกไม้จันให้ในหลวง ร.9 แล้ว





ปราสาทนครหลวงเป็นสถาปัตยกรรมของวัดที่ผมคิดว่ามีลักษณะแปลกกว่าสิ่งปลูกสร้างของวัดอื่นอยู่มากนะ

เพราะตัวปราสาทนครหลวงเองเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมล้อมด้วยกำแพงต้องเดินเข้าผ่านบันไดเพราะตัวปราสาทวางตัวไว้สูง





พื้นที่ด้านในมีทางเดินรอบกำแพงถือว่าเป็นชั้นนอก และมีพื้นที่ชั้นในที่ก่อด้วยกำแพงกั้นไว้อีกที ซึ่งด้านในผมไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปเลย เพราะสนใจมุมถ่ายภาพด้านนอกมากกว่า





มุมถ่ายภาพที่นี่น่าจะผ่านตาใครหลายคนมาบ้างแล้ว เพราะบริเวณปราสาทนครหลวงไม่ได้มีพื้นที่กว้างอะไร เดินชมไม่นานก็ครบรอบ ยิ่งเช้า ๆ แบบนี้ด้วยแล้ว คนไม่มีเลยซักคน แต่รอบก่อนที่ผมมาช่วงบ่ายก็เห็นมีคนมากราบไหว้อยู่บ้างนะ แต่ไม่มาก





ถ่ายรูปที่ตัวปราสาทนครหลวงเสร็จก็ป่าไป 7.15 น. ได้ กลับมาที่รถเพื่อจะตะลอน ๆ ไปที่อื่น ๆ ต่อ แต่ตาสังเกตุเห็นดอกดาวเรืองซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าคงเตรียมไว้สำหรับงานในหลวงแน่ ๆ

ดอกดาวเรืองตั้งไว้เต็มไปหมด รอนำไปจัดงาน จะว่าไปแล้วตลอดทริป 22 วันที่ผมเดินทางในทริปนี้ ต้องบอกว่าผมเห็นดอกดาวเรือง และดอกปอเทืองอยู่ตามข้างทางในแต่ละจังหวัด ตามหมู่บ้านเยอะมากครับ





วัด สำหรับผมแล้ว ไม่ค่อยมีความคิดเข้าไปถ่ายรูปบ่อยนัก แต่ก็มีหลายวัดที่มีอะไรหลายอย่างน่าสนใจจนชวนให้ต้องแวะเข้าไปถ่าย

วัดม่วง - อ่างทอง
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/QBYWPifFwuG2

ที่นี่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่มาก ๆ ประมาณว่ามองเห็นแต่ไกลเลยจากถนนหลัก อีกทั้งอยู่ห่างจากถนนหมายเลข 32 ซึ่งเป็นถนนใหญ่แค่ 5 - 6 กิโลเท่านั้น จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นผู้คนเริ่มเดินกันไปมาทั่ววัด แต่คนก็ไม่ถึงกับแน่นนะ นี่ขนาดว่าเป็นวันจันทร์ช่วงเกือบ 9.00 น. เท่านั้นเอง ถ้าเป็นวันเสาร์ อาทิตย์ คนน่าจะเยอะกว่านี้มาก





สถานที่จอดรถของวัดม่วงนั้นกว้างกว่าวัดปราสาทนครหลวงอยู่มาก มีที่จอดรถทัวร์ด้วย ร้านอาหาร ร้านน้ำ และร้านของฝากมีให้เห็นทั่วไป





ต้องขอโทษที่ผมไม่ได้จำรายละเอียดเกี่ยวกับองค์พระองค์ใหญ่นี่ จริง ๆ ผมก็อ่านมานะว่าชื่อขององค์พระท่านชื่ออะไร แต่เวลาผ่านไปนาน ไม่ได้จดไว้ก็ลืม เนี้ยผมถึงอยากจะเขียนข้อมูลระหว่างเดินทางไปเลย มันจะได้ความรู้สึกที่ผมเจอในระหว่างเดินทาง มาบอกเล่าได้อย่างถึงแก่น และน่าจะมีรสชาติมากกว่า





องค์พระใหญ่มาก ๆ และภายในวัดก็มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง จากลานจอดรถด้านหน้าก็ต้องเดินเข้ามาอีกประมาณ 200 - 300 เมตร ซึ่งก็มีศาลเจ้าของเจ้าแม่กวนอิมในระหว่างทางด้วยนะ





เดินขึ้นมาด้านบนตรงฐานของพระ แดดเริ่มแรงแล้ว แต่ก็มีศาลาเล็ก ๆ ให้ร่มเงาบ้าง





เทียบขนาดตัวคนแล้วจะเห็นว่าองค์พระใหญ่มาก แต่อาจจะมองดูยังไม่ค่อยออกว่าองค์พระนั้นใหญ่มาก





เมื่อมองมุมนี้จะเห็นเลยว่า คนนั้นตัวเล็กกว่านิ้วขององค์พระเสียอีก และที่นี่คนก็นิยมมาสัมผัสนิ้วขององค์พระพร้อมกับขอพรท่านไปด้วย





ฟ้าวันนี้เป็นใจให้ถ่ายรูปองค์พระมาก เป็นสีน้ำเงินเข้ม มีเมฆประปราย





ตัวอย่างที่ไม่ดีในพื้นที่ใต้องค์พระ





ภายในพื้นที่ของวัดม่วง มีรูปปั้นจำลองนครแต่ละประเภทที่ได้จากการทำบาปทำกรรมแต่ละรูปแบบมาแสดงให้เห็นด้วย





พื้นที่ตรงนี้ร่มรื่นมาก มีต้นไม้คลุมโดยรอบ





เมื่อขับรถออกมาจากวัดม่วงเข้าสู่ถนนหลวง มองไกล ๆ ยังมองเห็นองค์พระจากถนนที่อยู่ห่างออกไปเลย





ผมมุ่งหน้าสู่สถานที่ ๆ คุ้นเคย และไปบ่อย นั้นคือเขาค้อ

ระหว่างทางก็มีจอดรถบ้างเพื่อถ่ายวิว ซึ่งท้องนาตรงนี้ผมชอบมองมาบ่อย ๆ เวลาขับผ่าน แต่จำไม่ได้ละว่าอยู่พิกัดไหน -*-





เสียดายว่าวิ่งรถมาถึงแถวนี้แล้วฟ้าเริ่มมีเมฆหนาแน่นขึ้น ทำให้ฟ้าไม่สวยเท่าไหร่





เจ้า Mazda2 ขับบนถนนทางดำแบบนี้ ไม่ได้ลำบากอะไรเลย แม้ว่าจะเป็นถนน 2 เลนสวนกันก็ตาม การขับเร่งแซงเราแค่ต้องกะระยะหน่อย หลายครั้งที่ผมเปิดโหมด Sport เพื่อให้รถเร่งรอบเครื่องขึ้นสูง ทำให้ได้ความเร็วมาเร็วขึ้น ก็ทำให้แซงขึ้นไปไม่ยากนัก



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่