“พี่เลือกเลยอยากไปทริปเกาะไหน? เดี๋ยวพาไปกระบี่”
... สวัสดีครับ วันนี้ขอยืมพื้นที่พันทิปไว้จัดเก็บรูปภาพจากทริปสักหน่อย
เรื่องมันเริ่มมาจากผมให้สัญญากับแฟนไว้ว่าจะพาไปเที่ยวตั้งแต่ประมาณสี่เดือนที่แล้ว
แต่ก็เบี้ยวนางแล้วเบี้ยวนางอีก จนวันหนึ่งจู่ๆเจ้าตัวก็มาบอกว่า “ซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยนะ เดือนหน้าจะพาไปกระบี่”
ไอ้เราก็ห๊ะ...
เราซื้อนี่แปลว่าเราพาไปหรือเปล่าวะ 55555
แต่อนาคตกวางน้อยบอกมาว่าค่าโรงแรมกับทัวร์เธอจัดการเอง
แม่กวางเล่นเซอร์ไพรส์ซะช้า ค่าตั๋วตูปาไปเกือบห้าพัน ฮือ

เพราะงี้ทริป 3 วัน 2 คืน ณ กระบี่ จึงบังเกิดขึ้นครับ ประจวบกับความบ่นของนางว่าผู้ชายพูดถึงแฟนแล้วน่ารักแบบคุณโย่ง อาร์มแชร์
ผมเลยได้ เดี๋ยวจัดให้ แต่หลังจบกระทู้นี้ไม่รู้ชะตากรรมชีวิตจะเป็นยังไง แค่ชื่อกระทู้ก็ยังไม่รู้จะได้เข้าบ้านไหม555555

ก่อนอื่นผมขอสรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆไว้ก่อน (เพราะหลายกระทู้ชอบสรุปค่าใช้จ่ายอยู่ล่างสุดแล้วผมมักหาไม่เจอ5555)

แพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน โรงแรม + รถรับส่ง + ทัวร์เกาะห้อง คนละ 2,999 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 2 คน สายการ์บิน Airasia 4,600 บาท (จองช้าเลยแพง)
ส่วนค่าอาหารผมไม่ลงเพราะอยู่ที่แต่ละคนจะจัดสรรเนอะ เพราะเคสแฟนผมนี่กินไม่ยั้งโคตรๆ55555
นางเลือกทัวร์ของบริษัทเกาะพีพีทัวร์ ให้ผมเลือกทริป ผมเลยเลือกทริปเกาะห้องเพราะยังไม่เคยไป
วันแรกเราบินจากอดนเมืองถึงกระบี่กันตั้งแต่แปดโมงเช้า ได้รถของโรงแรมมารับที่สนามบิน แต่ยังพาไปกินร้านขนมจีนขึ้นชื่อด้วย


ชุดขนมจีนรวมน้ำยา ราคา เติมน้ำยา เติมเส้น แถมผักไม่อั้น
แถมยังเป็นเส้นขนมจีนที่ทำสดๆด้วย รสชาติอร่อยไม่อร่อย นางกินหมดเกือบทุกน้ำยาละ


ต่อมาเราเช็คอินเข้าที่โรงแรม Srisawara Casa (เอาจริงผมอ่านชื่อเป็นภาษาไทยไม่ออก ต้องขออภัย)
เนื่องจากเป็นวันธรรมดามีห้องว่างเลยมีห้องให้เราเช็คอินและนอนเอาแรงได้เลย



พอตอนกลางวันหลังจากนอนกลางวันกันไปแล้ว เราเลยหาอะไรเบาๆกิน
เพราะวางแผนว่าตอนเย็นจะไปร้านอาหารที่ทางโรงแรมแนะนำ เลยเดินไปกินโจ๊กที่ร้านอาหารใกล้โรงแรม
เสียดายที่ผมลืมถ่ายรูปร้านมา ร้านตกแต่งสวยดี แต่มัวแต่หิวกัน ร้าน May&Marks
ร้านนี้เต็มไปด้วยฝรั่งเลย แต่ราคาถือว่าไม่แรงมาก เราสองคนสั่งโจ๊กหมูกับโช๊กปลาก็ชามละ 75-85 บาท
แต่คุณนายไปเดินตลาดข้างๆเลยได้กับข้าวมากินเพิ่มสองถุงมากินกับโจ๊ก ผัดผักกับผักฟักทอง
นอกจากกับข้าวถุงแล้วยังมีถั่วต้มอีก... ฝรั่งโต๊ะข้างๆยังมอง แต่ผมชินน่ะแล้ว O

มุมภาพแอบถ่าย
ตอนบ่ายแดดแรงมากเลยไม่ได้ไปไหน รอออกอีกทีตอนสี่โมงครึ่ง
จากโรงแรมเราเดินไปขึ้นเรือที่ท่าเรือใกล้ๆท่าเทียบเรือเจ้าฟ้าได้เลย

เหมาเรือหัวโทงอยู่ที่ 500 แบบแวะไปชมเขาขนาบน้ำก่อน แล้วจึงไปร้านอาหารอีกฝั่ง



พี่คนขับเฟรนลี่มาก จากตอนแรกแม่กวางต่อไว้ 400 พอจบทริปก็เลยให้เค้าไป 500 อยู่ดี


ร้านอาหารแบบกระชังปลาที่หลายคนรู้จักน่าจะเป็นร้านขนาบน้ำ แต่เห็นคนเยอะเราเลยเลือกร้านมะหญิงที่อยู่ข้างๆกันแทน


เมนูที่สั่งก็จะมีปลากะพงทอดน้ำปลา ส้มตำปลากะพง ปลาหมึกผัดพริกเผา ใบเหลียงผัดไข่ สั่งกันอย่างละสองเมนู ก่อนจะได้พบว่า....


ส้มตำปลากระพง

ปลากะพงทอดน้ำปลา

ปลาหมึกผัดพริกเผา

ใบเหลียงผัดไข่ (อันนี้ผมกินไม่เป็น ยกให้นางคนเดียว)
คือแม่-งอย่างเยอะ! คือปลากะพงตัวใหญ่มากกกก! นางบ่นใหญ่ว่ารู้ว่าเยอะขนาดนี้ไม่สั่งสี่จานหรอก
แต่อย่าได้เชื่อคำพูดของนางครับ...

เพราะสุดท้ายมันก็หมดทุกอย่าง!! (มองเห็นหุ่นในอนาคตหลังแต่งงาน

)

หลังจบมื้ออาหารมีผลไม้มาเสิร์ฟ แต่กินไม่ไหวจริงๆ
ผมนะครับที่ไม่ไหว แต่นางน่ะมีจุดหมายต่อไป

(มื้อนี้อยู่ที่ 1,080 บาทนะครับ แต่ทางร้านลดให้เป็นพันถ้วน)
เพราะวันนี้เป็นวันพุธเลยไม่มีถนนคนเดิน แต่มีตลาดปูดำ ซึ่งเปิดจันทร์ถึงพุธ
เราเลยไปเดินเล่นต่อที่นั่น เป็นตลาดเล็กๆ ที่ร้านไม่เยอะแต่ของกินเยอะไม่น้อย

ฝรั่งเท่มากกกก



ผู้หญิงตัวน้อย (แต่กระเพาะใหญ่มาก) เลยจัดมันปิ้งหลากสีไป
สีน่ากิน แต่ผมดันกินไม่เป็น

พ่อค้าตัวน้อยทำขนมปังชีสยืดขายเองเลย เก่งมาก


แล้วนางก็ต่อเฉาก๊วยปั่นต่อ นางตาลุกวาวมากเมื่อเห็นเขาเอาเฉาก๊วยลงไปปั่น
แถมยังบ่นว่าอร่อยๆๆอยากกินอีกๆๆตลอดทั้งทางที่เดินกลับโรงแรม

ซึ่งยังไม่ถึงโรงแรม นางดูดเฉาก๊วยหมดแล้วยังต่อโยเกิร์ตปั่นปีโป้ตบท้ายอีก #มีร้อยหมดร้อย
ก็จบไปอีกหนึ่งวันครับ.... หมดไปกี่มื้อ(กี่บาท)แล้วเนี่ย
อาจเพราะผมถ่ายรูปไม่เยอะ มันเลยน่าจะจบวันที่สองที่โพสต่อไป
จริงๆเรียกว่า 2 วัน 2 คืนดีกว่าครับ เพราะวันที่สามกลับกรุงเทพกันแต่เช้า
เป็นฟรีแลนซ์ด้วยกันทั้งคู่ ตารางงานเลยไม่แน่นอน แต่เที่ยววันธรรมดาได้
แต่ที่รีบกลับไม่ใช่เพราะมีงานครับ แม่กวางห่วงหมา

(นางเป็นครูฝึกหมา)
ผมดีใจที่เวลาเธอโมโหหิวแล้วหมาทุกตัวยังอยู่ครบ




[CR] เมื่อผมพากวางน้อยจอมเขมือบ "เปลี่ยนที่กิน" ...ณ กระบี่ (ส่วนเธอซื้อเกาะพีพีทัวร์)
... สวัสดีครับ วันนี้ขอยืมพื้นที่พันทิปไว้จัดเก็บรูปภาพจากทริปสักหน่อย
เรื่องมันเริ่มมาจากผมให้สัญญากับแฟนไว้ว่าจะพาไปเที่ยวตั้งแต่ประมาณสี่เดือนที่แล้ว
แต่ก็เบี้ยวนางแล้วเบี้ยวนางอีก จนวันหนึ่งจู่ๆเจ้าตัวก็มาบอกว่า “ซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยนะ เดือนหน้าจะพาไปกระบี่”
ไอ้เราก็ห๊ะ... เราซื้อนี่แปลว่าเราพาไปหรือเปล่าวะ 55555
แต่อนาคตกวางน้อยบอกมาว่าค่าโรงแรมกับทัวร์เธอจัดการเอง
แม่กวางเล่นเซอร์ไพรส์ซะช้า ค่าตั๋วตูปาไปเกือบห้าพัน ฮือ
เพราะงี้ทริป 3 วัน 2 คืน ณ กระบี่ จึงบังเกิดขึ้นครับ ประจวบกับความบ่นของนางว่าผู้ชายพูดถึงแฟนแล้วน่ารักแบบคุณโย่ง อาร์มแชร์
ผมเลยได้ เดี๋ยวจัดให้ แต่หลังจบกระทู้นี้ไม่รู้ชะตากรรมชีวิตจะเป็นยังไง แค่ชื่อกระทู้ก็ยังไม่รู้จะได้เข้าบ้านไหม555555
ก่อนอื่นผมขอสรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆไว้ก่อน (เพราะหลายกระทู้ชอบสรุปค่าใช้จ่ายอยู่ล่างสุดแล้วผมมักหาไม่เจอ5555)
แพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน โรงแรม + รถรับส่ง + ทัวร์เกาะห้อง คนละ 2,999 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 2 คน สายการ์บิน Airasia 4,600 บาท (จองช้าเลยแพง)
ส่วนค่าอาหารผมไม่ลงเพราะอยู่ที่แต่ละคนจะจัดสรรเนอะ เพราะเคสแฟนผมนี่กินไม่ยั้งโคตรๆ55555
นางเลือกทัวร์ของบริษัทเกาะพีพีทัวร์ ให้ผมเลือกทริป ผมเลยเลือกทริปเกาะห้องเพราะยังไม่เคยไป
วันแรกเราบินจากอดนเมืองถึงกระบี่กันตั้งแต่แปดโมงเช้า ได้รถของโรงแรมมารับที่สนามบิน แต่ยังพาไปกินร้านขนมจีนขึ้นชื่อด้วย
ชุดขนมจีนรวมน้ำยา ราคา เติมน้ำยา เติมเส้น แถมผักไม่อั้น
แถมยังเป็นเส้นขนมจีนที่ทำสดๆด้วย รสชาติอร่อยไม่อร่อย นางกินหมดเกือบทุกน้ำยาละ
ต่อมาเราเช็คอินเข้าที่โรงแรม Srisawara Casa (เอาจริงผมอ่านชื่อเป็นภาษาไทยไม่ออก ต้องขออภัย)
เนื่องจากเป็นวันธรรมดามีห้องว่างเลยมีห้องให้เราเช็คอินและนอนเอาแรงได้เลย
พอตอนกลางวันหลังจากนอนกลางวันกันไปแล้ว เราเลยหาอะไรเบาๆกิน
เพราะวางแผนว่าตอนเย็นจะไปร้านอาหารที่ทางโรงแรมแนะนำ เลยเดินไปกินโจ๊กที่ร้านอาหารใกล้โรงแรม
เสียดายที่ผมลืมถ่ายรูปร้านมา ร้านตกแต่งสวยดี แต่มัวแต่หิวกัน ร้าน May&Marks
ร้านนี้เต็มไปด้วยฝรั่งเลย แต่ราคาถือว่าไม่แรงมาก เราสองคนสั่งโจ๊กหมูกับโช๊กปลาก็ชามละ 75-85 บาท
แต่คุณนายไปเดินตลาดข้างๆเลยได้กับข้าวมากินเพิ่มสองถุงมากินกับโจ๊ก ผัดผักกับผักฟักทอง
นอกจากกับข้าวถุงแล้วยังมีถั่วต้มอีก... ฝรั่งโต๊ะข้างๆยังมอง แต่ผมชินน่ะแล้ว O
ตอนบ่ายแดดแรงมากเลยไม่ได้ไปไหน รอออกอีกทีตอนสี่โมงครึ่ง
จากโรงแรมเราเดินไปขึ้นเรือที่ท่าเรือใกล้ๆท่าเทียบเรือเจ้าฟ้าได้เลย
เหมาเรือหัวโทงอยู่ที่ 500 แบบแวะไปชมเขาขนาบน้ำก่อน แล้วจึงไปร้านอาหารอีกฝั่ง
ร้านอาหารแบบกระชังปลาที่หลายคนรู้จักน่าจะเป็นร้านขนาบน้ำ แต่เห็นคนเยอะเราเลยเลือกร้านมะหญิงที่อยู่ข้างๆกันแทน
เมนูที่สั่งก็จะมีปลากะพงทอดน้ำปลา ส้มตำปลากะพง ปลาหมึกผัดพริกเผา ใบเหลียงผัดไข่ สั่งกันอย่างละสองเมนู ก่อนจะได้พบว่า....
คือแม่-งอย่างเยอะ! คือปลากะพงตัวใหญ่มากกกก! นางบ่นใหญ่ว่ารู้ว่าเยอะขนาดนี้ไม่สั่งสี่จานหรอก
แต่อย่าได้เชื่อคำพูดของนางครับ...
ผมนะครับที่ไม่ไหว แต่นางน่ะมีจุดหมายต่อไป
(มื้อนี้อยู่ที่ 1,080 บาทนะครับ แต่ทางร้านลดให้เป็นพันถ้วน)
เพราะวันนี้เป็นวันพุธเลยไม่มีถนนคนเดิน แต่มีตลาดปูดำ ซึ่งเปิดจันทร์ถึงพุธ
เราเลยไปเดินเล่นต่อที่นั่น เป็นตลาดเล็กๆ ที่ร้านไม่เยอะแต่ของกินเยอะไม่น้อย
สีน่ากิน แต่ผมดันกินไม่เป็น
แถมยังบ่นว่าอร่อยๆๆอยากกินอีกๆๆตลอดทั้งทางที่เดินกลับโรงแรม
ก็จบไปอีกหนึ่งวันครับ.... หมดไปกี่มื้อ(กี่บาท)แล้วเนี่ย
อาจเพราะผมถ่ายรูปไม่เยอะ มันเลยน่าจะจบวันที่สองที่โพสต่อไป
จริงๆเรียกว่า 2 วัน 2 คืนดีกว่าครับ เพราะวันที่สามกลับกรุงเทพกันแต่เช้า
เป็นฟรีแลนซ์ด้วยกันทั้งคู่ ตารางงานเลยไม่แน่นอน แต่เที่ยววันธรรมดาได้
แต่ที่รีบกลับไม่ใช่เพราะมีงานครับ แม่กวางห่วงหมา
ผมดีใจที่เวลาเธอโมโหหิวแล้วหมาทุกตัวยังอยู่ครบ