อธิบายอะไรงงก็กราบขออภัยด้วยค่ะ เพราะนี่เป็นกระทู้แรกที่มาเล่าสู่กันฟังแบบละเอียด...
ก่อนจะเข้าประเด็นขอเล่าเกริ่นนำก่อนเน๊อะ
เรามีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง รู้จักกันตั้งแต่ม.ต้น ซึ่งตอนนั้นก็ไม่สนิทอะไรมากหรอก เพราะมีนิสัยที่ต่างกันมากๆๆ จนกระทั่งเรียนต่อม.ปลายแล้วมาอยู่ห้องเดียวกันอีก อะเราขอสมมุติว่านางชื่อเอ นะ
เอยังคงเป็นเหมือนเดิม ซึ่งเป็นคนพูดมากๆๆๆสนิทกับผู้ใหญ่มากๆๆ เข้ากับทุกคนได้จนถึงขั้นได้เป็นประธานรร.และเป็นที่รักของผอ.รร.
เราก็เริ่มสนิทกันเพราะนิสัยที่เฟรนรี่ของเอนี่แหละ จนไปนอนที่บ้านของเอหลายต่อหลายครั้ง จนสนิทกับครอบครัวของนางทุกคน
แต่บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่าหน้าตาเพื่อนเราก็ไม่ได้แย่นะ หน้าคมๆแต่ทำไมชอบมีแฟนเป็นคนแปลกๆ(นิสัยแปลก)ทุกคน (ทุกคนจริงๆ)
และเราทั้งสองก็จบม.ปลายกันอย่างปลอดภัย(?) แยกย้ายเรียนมหาลัยในฝันคณะในฝัน ซึ่งคณะของเอนั้นเป็นหนึ่งในคณะที่เข้ายากที่สุดในประเทศเลยทีเดียว คุยกันทางไลน์บ้างโทรบ้าง เจอกันช่วงปิดเทอมบ้าง ซึ่งเราจะเจอยากหน่อย เพราะเรียนไกลบ้าน เลยเจอช่วงปิดเทอม และแวะไปสวัสดีพ่อแม่เอคุยต่างๆนานา
หลังเรียนจบ(เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน) เอไลน์มาทั้งๆที่ตัวเองเมาจนพิมพ์ผิดพิมพ์ถูก มาระบายให้ฟังว่า นางเครียดมาก นางพลาดไปมีอะไรกับเจ้าของบริษัทที่นางฝึกงานอยู่ ซึ่งฟังดู เออ แล้วไงอะ? ทำไมมันคือพลาด?
เอเล่าต่อว่า
เอ: เค้ามีอายุแล้ว และมีลูกมีเมียแล้ว
เรา:!??? แล้วไปพลาดได้ไง
เอ: กูเมา..กูไปกินเหล้ากับเค้าสองคนแล้วต่างคนต่างเมาอะ
เรา: เห้ย แล้วไปกินได้ไงวะ กินกันกี่คน?
เอ: สองคน..เค้ามารับที่บ้าน หลังจากส่งเมียเค้ากับลูกที่สนามบิน
เรา:แล้วก็ไปหรอ?-_-
หลังประโยคนี้เราก็เริ่มสงสัยว่า พลาด?ใช่หรอ?
เอ:กูไม่โอเควะ กูรู้สึกผิด เมียเค้าดีกับกูมาก
เรา:เออๆ งั้นถือว่าบทเรียนนะ อย่าให้เป็นรอบสองนะ
จบสนทนา..
อีกวันต่อมา
เอ:งง เค้าไม่โทรหากูเลย ไม่ตอบไลน์กูด้วย
เราเศร้าเอ้า?ต้องการอะไรจากกูวะ?) จะคุยอะไรกับเค้าละ
เอ:ไม่รู้อะ อยากจะเคลียร์
เรา:รอหน่อย เค้าอาจทำงานป่าว
อีกวันต่อมา..
เอ: เค้าโทรมาแล้ว เค้าบอกว่าเมียนางสงสัยเพราะไม่รับโทรศัพท์ในวันนั้น แล้วเค้าอยากเคลียร์กัน นัดเจอเสาร์นี้
เรา:จำเป็นต้องไปเจอหรอวะ แค่โทรคุยดิ
เอ:เห่ย มันคือมารยาท
เรา:จ้ะๆ
หลายวันต่อมา
เอ: กูลืมจ่ายค่าไฟ แล้วไฟตัดอะ
เรา:กลับบ้านดิ บ้านไม่ไกลจากที่ทำงานหนิ
เอ:ไม่เอา มีคนชวนอยู่ห้องไปก่อน
ในตอนนั้นเราไม่ได้สงสัยอะไรเลย เพราะเพื่อนเอได้บอกกับเราอย่างหนักแน่นในวันแรกที่คุยว่าจะไม่มีพลาดอีกเด็ดขาด
เราก็แบ๊ววไปเชื่อ โดยลืมว่าความง.มันไม่เข้าใครออกใคร
หลังจากวันนั้น
เอ: กูขอโทษ กูพลาดอีกแล้ว
เรา:.....มันไม่ใช่มั้ยอะ ไหนบอกว่ารู้สึกผิดอะ?
เอ:กูไม่รู้
เรา:เอ้า แล้วจะยอมเป็นเมียน้อยอย่างงี้หรอ??
เอ:...
เรา:แล้วกูต้องทำหน้ายังไงถ้าเจอหน้าพ่อแม่อะ นี่มีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ(แฟนเออยู่ต่างประเทศค่ะลืมเล่า5555)
และเพื่อนเอก็อ่านไลน์แล้วไม่ตอบจนถึงวันนี้ ซึ่งผ่านมา2วันแล้ว
สงสัยเพื่อนเอพิมพ์แล้วมือถือตกทับนิ้วเท้าเลือดออกตาย..
ความจริงอยากห้ามเพื่อน อยากดักเพื่อนกาอนจะเป็นเมียน้อยอย่างเป็นทางการแบบในละคร
แต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
ควรบอกพ่อแม่เอ?หรือบอกเมียเจ้าของบริษัทคนนั้น??
เป็นอีกครั้ง ที่ทำให้รู้สึกว่าการศึกษา ครอบครัวอบอุ่น ไม่ได้ช่วยให้คนมีจิตใต้สำนึกเลย...
เมื่อเพื่อนสนิท กำลังจะก้าวเข้าสู่วงการเมียน้อย..
ก่อนจะเข้าประเด็นขอเล่าเกริ่นนำก่อนเน๊อะ
เรามีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง รู้จักกันตั้งแต่ม.ต้น ซึ่งตอนนั้นก็ไม่สนิทอะไรมากหรอก เพราะมีนิสัยที่ต่างกันมากๆๆ จนกระทั่งเรียนต่อม.ปลายแล้วมาอยู่ห้องเดียวกันอีก อะเราขอสมมุติว่านางชื่อเอ นะ
เอยังคงเป็นเหมือนเดิม ซึ่งเป็นคนพูดมากๆๆๆสนิทกับผู้ใหญ่มากๆๆ เข้ากับทุกคนได้จนถึงขั้นได้เป็นประธานรร.และเป็นที่รักของผอ.รร.
เราก็เริ่มสนิทกันเพราะนิสัยที่เฟรนรี่ของเอนี่แหละ จนไปนอนที่บ้านของเอหลายต่อหลายครั้ง จนสนิทกับครอบครัวของนางทุกคน
แต่บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่าหน้าตาเพื่อนเราก็ไม่ได้แย่นะ หน้าคมๆแต่ทำไมชอบมีแฟนเป็นคนแปลกๆ(นิสัยแปลก)ทุกคน (ทุกคนจริงๆ)
และเราทั้งสองก็จบม.ปลายกันอย่างปลอดภัย(?) แยกย้ายเรียนมหาลัยในฝันคณะในฝัน ซึ่งคณะของเอนั้นเป็นหนึ่งในคณะที่เข้ายากที่สุดในประเทศเลยทีเดียว คุยกันทางไลน์บ้างโทรบ้าง เจอกันช่วงปิดเทอมบ้าง ซึ่งเราจะเจอยากหน่อย เพราะเรียนไกลบ้าน เลยเจอช่วงปิดเทอม และแวะไปสวัสดีพ่อแม่เอคุยต่างๆนานา
หลังเรียนจบ(เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน) เอไลน์มาทั้งๆที่ตัวเองเมาจนพิมพ์ผิดพิมพ์ถูก มาระบายให้ฟังว่า นางเครียดมาก นางพลาดไปมีอะไรกับเจ้าของบริษัทที่นางฝึกงานอยู่ ซึ่งฟังดู เออ แล้วไงอะ? ทำไมมันคือพลาด?
เอเล่าต่อว่า
เอ: เค้ามีอายุแล้ว และมีลูกมีเมียแล้ว
เรา:!??? แล้วไปพลาดได้ไง
เอ: กูเมา..กูไปกินเหล้ากับเค้าสองคนแล้วต่างคนต่างเมาอะ
เรา: เห้ย แล้วไปกินได้ไงวะ กินกันกี่คน?
เอ: สองคน..เค้ามารับที่บ้าน หลังจากส่งเมียเค้ากับลูกที่สนามบิน
เรา:แล้วก็ไปหรอ?-_-
หลังประโยคนี้เราก็เริ่มสงสัยว่า พลาด?ใช่หรอ?
เอ:กูไม่โอเควะ กูรู้สึกผิด เมียเค้าดีกับกูมาก
เรา:เออๆ งั้นถือว่าบทเรียนนะ อย่าให้เป็นรอบสองนะ
จบสนทนา..
อีกวันต่อมา
เอ:งง เค้าไม่โทรหากูเลย ไม่ตอบไลน์กูด้วย
เราเศร้าเอ้า?ต้องการอะไรจากกูวะ?) จะคุยอะไรกับเค้าละ
เอ:ไม่รู้อะ อยากจะเคลียร์
เรา:รอหน่อย เค้าอาจทำงานป่าว
อีกวันต่อมา..
เอ: เค้าโทรมาแล้ว เค้าบอกว่าเมียนางสงสัยเพราะไม่รับโทรศัพท์ในวันนั้น แล้วเค้าอยากเคลียร์กัน นัดเจอเสาร์นี้
เรา:จำเป็นต้องไปเจอหรอวะ แค่โทรคุยดิ
เอ:เห่ย มันคือมารยาท
เรา:จ้ะๆ
หลายวันต่อมา
เอ: กูลืมจ่ายค่าไฟ แล้วไฟตัดอะ
เรา:กลับบ้านดิ บ้านไม่ไกลจากที่ทำงานหนิ
เอ:ไม่เอา มีคนชวนอยู่ห้องไปก่อน
ในตอนนั้นเราไม่ได้สงสัยอะไรเลย เพราะเพื่อนเอได้บอกกับเราอย่างหนักแน่นในวันแรกที่คุยว่าจะไม่มีพลาดอีกเด็ดขาด
เราก็แบ๊ววไปเชื่อ โดยลืมว่าความง.มันไม่เข้าใครออกใคร
หลังจากวันนั้น
เอ: กูขอโทษ กูพลาดอีกแล้ว
เรา:.....มันไม่ใช่มั้ยอะ ไหนบอกว่ารู้สึกผิดอะ?
เอ:กูไม่รู้
เรา:เอ้า แล้วจะยอมเป็นเมียน้อยอย่างงี้หรอ??
เอ:...
เรา:แล้วกูต้องทำหน้ายังไงถ้าเจอหน้าพ่อแม่อะ นี่มีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ(แฟนเออยู่ต่างประเทศค่ะลืมเล่า5555)
และเพื่อนเอก็อ่านไลน์แล้วไม่ตอบจนถึงวันนี้ ซึ่งผ่านมา2วันแล้ว
สงสัยเพื่อนเอพิมพ์แล้วมือถือตกทับนิ้วเท้าเลือดออกตาย..
ความจริงอยากห้ามเพื่อน อยากดักเพื่อนกาอนจะเป็นเมียน้อยอย่างเป็นทางการแบบในละคร
แต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
ควรบอกพ่อแม่เอ?หรือบอกเมียเจ้าของบริษัทคนนั้น??
เป็นอีกครั้ง ที่ทำให้รู้สึกว่าการศึกษา ครอบครัวอบอุ่น ไม่ได้ช่วยให้คนมีจิตใต้สำนึกเลย...