ทริปนี้เริ่มจากน้องสาวอยากไปแอ่วเหนือแล้วมาอ่านเจอรีวิวในห้องบลูฯ   แพลนจึงเริ่มขึ้นด้วยว่าเราจะไปพักที่เชียงดาว 1 คืน  อ่างขาง 1 คืน

จขกท.เองตอนแรกก็ไม่ได้ตื่นเต้นมากมายเพราะเคยมาเชียงใหม่แล้ว แต่มาเที่ยวในตัวเมือง คิดไปเองว่าบนดอยคงเหมือนๆกับในเมือง เพียงแต่คงหนาวเย็นกว่า แต่หลังจากไปสัมผัสก็รู้ว่าตัวเองคิดผิดถนัด  ความประทับใจขับให้ลุกขึ้นมาเขียนกระทู้รีวิวนี้ทันทีเมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ

จขกท.กับน้องสาวเดินทางถึงสนามบินเชียงใหม่ตอนประมาณเที่ยงครึ่ง กว่าจะรับกระเป๋าก็ปาไปบ่ายโมง  เรารีบจับรถแดงที่อยู่ด้านซ้ายมือถ้าหันหน้าออกนอกอาคารผู้โดยสาร   ถามลุงคนขับเพื่อความแน่ใจว่าไปขนส่งช้างเผือกไหมคะ  แล้วก็กระโดขึ้นรถโลด  พอดีมีผู้โดยสารท่านอื่นอยู่ก่อนแล้ว ลุงจึงออกรถเลย  ส่งเราที่ขนส่งช้างเผือกด้วยค่ารถเพียง 30 บาท

พอถึงช้างเผือก  อย่าเพิ่งไปขึ้นรถนะคะ  ต้องซื้อตั๋วก่อน   ตรงนั้นจะเป็นเหมือนเคาเตอร์ขายตั๋วรถเมล์ตามต่างจังหวัดที่เห็นได้ทั่วไปเลยค่ะ  รถที่เราจะนั่งคือ  เชียงใหม่ – ท่าตอน รอครึ่งชม.รถก็ออกค่ะ  บนรถก็คนจะเยอะๆหน่อย  แต่กระเป๋ารถบอกว่าพอถึงเชียงดาวคนก็ลงเยอะ เดี๋ยวก็ว่างแล้ว.... (เอิ่มมม เราก็ลงเชียงดาวพอดีเลยค่ะ 55555)

นั่งไปสักชั่วโมงครึ่งเราก็เปิด GPS ดูว่าใกล้ถึงเชียงดาวแล้ว  น้องสาวเลยโทรหารีสอร์ทให้มารับที่โลตัสเชียงดาว คนของรีสอร์ทให้เบอร์ป้าผ่องมา บอกว่าให้โทรหาป้า  เดี๋ยวให้ป้ามารับที่โลตัส
น้องสาวก็เลยโทรนัดป้าเรียบร้อย    แป๊บเดียวถึงโลตัส กระเป๋ารถก็มาเรียกให้ลงรถ เราก็ย้ายกระเป๋าขึ้นรถป้าผ่องค่ะ   

รถป้าผ่อง  เป็นรถกระบะที่น่าจะใช้สำหรับรับจ้างขนของขึ้นลงให้ชาวบ้านที่อยู่บนดอย และรับส่งนักท่องเที่ยวที่จะไปบ้านนาเลาใหม่หรือโฮมสเตย์ใก้ล้เคียงด้วย  เพราะดูจากของบนรถ มีทั้งผัก รำ อาหาร ข้าวของต่างๆ

ระยะทางจากโลตัสเชียงดาวไปบ้านพักที่เราจองไว้ คือ บ้านวิวดอยหลวง หมู่บ้านนาเลาใหม่ ประมาณ 10 กิโลเมตร ดูเหมือนไม่ไกล แต่ทางค่อนข้างชัน  โค้งค่อนข้างเยอะ  ป้าผ่องจะบีบแตรตลอดทางที่เป็นจุดที่โค้งเพื่อให้รถอีกฝั่งรู้ว่ามีรถมา  จะได้หลบกันได้

ตอนนี้ ความรู้สึกเราเริ่มเปลี่ยนไป  จากที่คิดว่า คงไม่ต่างจากในเมืองเท่าไหร่แค่อากาศเย็นกว่า
กลับรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์รอบๆตลอดระยะทางที่ผ่านขึ้นไป  ป่ายังอุดมสมบูรณ์  ถนนที่ขึ้นไปเป็นคอนกรีตเล็กๆที่สวนกันได้แทบจะพอดี  ธรรมชาติที่เห็นมันมากกว่าจะบรรยายออกมาได้   ภาพภูเขาหินปูนตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า อากาศเริ่มเย็นขึ้นๆ อากาศดีมากๆเลยค่ะ

พอถึงหมู่บ้านนาเลาใหม่ เราจ่ายค่ารถป้าผ่องคนละ 100 บาท  อาจเพราะทั้งเที่ยวมีแค่เรากับน้องสาว เพราะตอนขาลงป้าเก็บเราแค่ 60 บาท (ใจดีจัง)  เอาของเก็บเข้าที่พักเสร็จก็เดินเที่ยวรอบหมู่บ้าน  เหมือนที่ท่านอื่นๆ กระทู้อื่นๆรีวิวไว้เลยค่ะ  เราสามารถเดินไปถ่ายรูปได้ทุกๆโฮมสเตย์ ทุกๆหลังเลยค่ะ  อากาศก็ดีค่ะ  แดด แต่ไม่ร้อน เย็นดีเลยแหล่ะค่ะ ตอนนั้นเราเช็คอุณหภูมิ 22 องศา

หกโมงครึ่ง  เจ้าของโฮมสเตย์ก็เอาข้าวมาเสิร์ฟ  อาหารเย็นเป็นข้าวสวย  ไข่เจียว  แกงจืดไก่ ผัดผักใส่หมู  และน้ำพริกที่ชาวบ้านทำเอง(อร่อยมากจนต้องซื้อกลับมาฝากคนทางบ้านเลยค่ะ)

เมนูดูเหมือนง่ายๆ แต่เป็นเป็นเมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเลยค่ะ  อาหารอร่อยมาก ลองนึกภาพนั่งทานข้าวบนระเบียงบ้านที่ข้างหน้าคือวิวดอยเชียงดาวเต็มลูก บวกกับอากาศที่เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ  ฟินมากเลยล่ะค่ะ

ทานข้าวเสร็จ เราก็เข้าไปอาบน้ำ   ต้องบอกเลยว่า ที่นี่ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆทั้งสิ้น ไม่มีน้ำอุ่น ไม่มีปลั๊กไฟให้เสียบชารต์ตแบตในห้อง น้ำเย็นมากกกกก ก ไก่ล้านตัวเลยค่ะ  อาบไปกรีดร้องเบาๆไป ตัวนี่ชาไปหมดค่ะ

เดินไปเล่นกับคนดูแลเป็นลุงกับป้าและขอชาร์ตแบตกล้อง  ท่านใจดีมากๆค่ะ ชวนคุย และเล่าสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านเอง  และเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงให้เราได้ฟัง เป็นการมาเที่ยวที่คุ้มค่ามากๆค่ะ เพราะนอกจากได้พักผ่อน ตัดขาดโลกภายนอก (เพราะที่นี่ไม่มีสัญญาณมือถือเลยยยยยยย) ยังได้ฟังการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความเป็นอยู่และความลำบากในการเดินทางลงไปตัวอำเภอเชียงดาวตั้งแต่สมัยยังไม่มีถนนขึ้นมายังหมู่บ้าน

อากาศเริ่มเย็นลงๆ  ก่อนนอนเราเช็คอุณหภูมิได้ 16 องศา ค่ะ ลักษณะบ้านเหมือนจะหนาว แต่อุ่นดีนะคะ ไม่หนาวมาก  ตาคนที่นอนเต็นท์น่าจะหนาวเอาเรื่องอยู่

ตื่นนอนมาตอนตีสี่กว่าๆ  โอ้โหหหหหหห
กล้องเราไม่โปรพอที่จะถ่ายได้ค่ะ
เดินออกมานอกระเบียง สิ่งที่เห็นคือ ดาวเต็มฟ้าเลยค่ะ

ขนาดวันที่เราไปพระจันทร์เกือบเต็มดวงนะคะ ยังเยอะขนาดนี้   
ถึงได้รู้ว่า  นี่เองถึงได้ชื่อว่า เชียงดาว  เพราะเราอยู่สูงเกือบเคียงไปกับดาว  

หมอกขาวโพลน  แม้จะไม่ถึงกับเป็นทะเลหมอก แต่ก็สวยมากแล้ว


ความสงบ และสวยงามของที่นี่ ทำให้เราลืมไปเลยว่า สัญญาณโทรศัพท์ใช้ไม่ได้
เพราะธรรมชาติที่อยู่ตรงหน้า  ได้ดึงดูดความสนใจเราไปหมดแล้ว
จากทริปที่แพลนโดยน้องสาว เรามาเพราะเหตุผลที่ว่า มาก็ได้เป็นเพื่อนน้อง
แต่จะพาเราไปไหนก็ได้ พาไปเถอะ  

ดังนั้น ทุกท่านอ่านแปลกใจว่าทำไมเราไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับที่นี่มาก่อนเลย
แต่พอลงดอยกลับมา ตอนนี้ข้อมูลในหัวแน่นมาก

ตั้งใจไว้แล้วว่า  เชียงดาว คือดอยที่เราจะไปอีกแน่นอนในเร็ววันนี้
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ
ปกติไม่เคยเขียนรีวิวแม้จะเที่ยวมาหลายที่แล้วก็ตาม  แต่ความประทับในความงามของที่นี่
ทำให้เรารู้สึกว่า “สวยจนไม่อยากอยู่เงียบๆ”  อยากมาเล่าให้คนอื่นฟังบ้าง

ถ้า จขกท.มีข้อมูลตรงไหนที่ตกหล่นไป ช่วยแชร์กันได้นะคะ  มือใหม่หัดเที่ยว+ รีวิวค่ะ