เรื่องของเรื่อง เรื่องที่ทำให้ฉันไม่อยากหลับในเวลากลางคืน โดยเฉพาะ ก่อนตี 3

เหตุผลที่ต้องนอนหลังตี 3
  ตัวผมเองบอกเลยว่าเลิกกลัวผีมานานมาก บางทีก็รู้สึกว่าสิ่งที่คนเชื่อ สิ่งที่คนกราบไหว้มันก็ค่อนข้างงมงาย แต่สิ่งที่ผมเจอมันค่อนข้างชัดเจนขึ้นหลังจากที่ผมบวช 6 เดือน และสิ่งเหล่านี้ผมเรียกมันว่า สิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อหลาย ปีก่อนได้ไปเรียนที่ที่หนึ่งที่จังหวัดปราจีนบุรี ใกล้ๆทางขึ้นเขาใหญ่ มีหอพักนึงทำเลดี เงียบสงบ อยู่ใกล้ๆวัดแห่งนึงขอไม่บอกดีกว่า ห้องใหม่สะอาดตากว้างขวาง เพิ่งสร้างมา 5 ปี ทางเข้ามี 2 ทาง ทางหนึ่งเป็นป่าดิบรกน่ากลัว เพื่อนเรียกซอยกระสือ อีกทางหนึ่งเป็นวัด หอพักห่างจากวัดประมาณ 10 กว่าเมตร แต่ทางฝั่งวัดไม่น่ากลัวแม้ป่าช้าวัดจะติดถนน ไปอยู่อาทิตย์แรกมีเพื่อนไปด้วย ให้เพื่อนนอนบนเตียง เรานอนพื้น

   คืนแรก  เพื่อนนอนได้ 10 นาที ก็บอกให้เราขึ้นมานอนเป็นเพื่อนหน่อยเหมือนโดนผีอำ ด้วยความที่เราไม่กลัวผี เลยบอกไปว่า ไร้สาระ เดี๋ยวก็เช้าแล้ว ไม่มีอะไรหรอก คิดมาก ผ่านไปอีก 10 นาที เพื่อนเรียกอีกเหมือนเดิม คือมันบอกว่าโดนผีอำ เราก็พูดเหมือนเดิม ไม่มีอะไร คิดมากเดี๋ยวก็เช้า

  คืนที่สอง เหตุการณ์เหมือนเดิม เพื่อนปลุกอีก เราก็พูดเหมือนเดิม พอนอนต่อได้สักพัก รู้สึกโดนเอง เห็นคนร่างสีดำมานอนเบียดทับแขนด้านซ้าย แล้วก็มีมือโผล่มาจากพื้น โบกไปมา ก็ขยับตัวไม่ได้อยู่พักนึงแล้วก็หายไป  สรุปโดนผีอำบ้างละกับสถานที่นี้ (เคยโดนมาจากบ้านหลายครั้ง) เลยไม่ค่อยกลัว

  หลังจากนั้นผ่านไป 1 เทอม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลย จนกระทั่ง คืนก่อนเปิดเทอม 2

  จำได้ว่าห้องนอนอยู่ชั้นหนึ่ง หลังห้องเป็นกระจกทั้งบานและติดที่จอดรถมีไฟส่องสว่าง ช่วงนั้นน่าจะเป็นช่วงเดือน ตุลาคม เราจะเปิดประตูไว้นิดนึงเพื่อให้อากาศเข้า คืนนั้นจำได้ว่านอนฝันเห็นคนคนนึงกำลังเดินเข้ามาหา แต่บังเอิญว่าเราตื่นซะก่อน ค่อยๆลืมตาขึ้นอาการงัวเงีย แต่คนที่กำลังเดินอยู่ในฝันไม่ได้หายไป แต่กำลังเดินเข้ามาหาจากประตูหลังห้อง เป็นชายใส่เสื้อแขนยาวสีดำกางเกงแบบพวกช่างตัวใหญ่ๆ สีกากี รูปร่างใหญ่ ในมือถือมีดยาวประมาณ 1 ฟุต ในลักษณะปลายทิ่มลงกับพื้น ชูขึ้นเสมอหัว พร้อมแทง ด้วยความที่หลังห้องเปิดไฟจึงมองเห็นค่อยข้างชัด และด้วยความตกใจคิดว่าโจรเข้าห้อง  เราไม่กล้าขยับตัวไม่กล้าแม้แต่จะวิ่งหนี ได้แต่ถามว่า "เป็นใคร เข้ามาทำไม ไม่เคยทำอะไรให้จะมายุ่งทำไม"  มันเงียบและค่อยๆเดินมาข้างเตียง  เราหลับตามือไม้เกร็ง คิดว่ามันคงแทงเราตายแน่ไม่กล้ามอง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดในใจละว่าคงไม่ใช่คนแล้วล่ะ จากนั้นค่อยๆแง้มตาดู มันเดินไปอยู่ปลายเตียงและกำลังเดินมาข้างๆเตียงอีก เราก็หลับตาอีก  ที่นี้เราหายใจเรียกว่าหอบเหมือนคนวิ่ง หัวใจเต้นรัว ในมือกำแน่น ได้แต่ด่ามัน แล้วก็บอกว่าจะทำบุญไปให้ ชั่วโมงนั้นได้แต่ นะโมตัสสะ คำเดียว สักพักลืมตาขึ้น มันหายไป เราหันหน้าไปดูหลังห้อง แต่ดันมีตาแก่ผมหยิกสีขาวทั้งหัวหนวดยาวมีไฟส่องหน้าเขียวๆเหมือนในหนัง นั่งอยู่ข้างเตียงแล้วก็เอาหน้ามาวางอยู่บนที่นอนใกล้ๆหมอนที่เราหนุนอยู่ใกล้ๆหน้าเรา คือหันไปเจอหน้ามันพอดี เราตกใจรีบหันหน้ากลับ หลับตานอนเกร็งอีกทีนี้. ได้แต่ถามว่าเป็นใครอีก เวลานั้นเริ่มรู้สึกอยากรู้ว่ามันต้องการอะไร ตาแก่นั่นก็พูดไม่หยุด พูดไปหัวเราะไป แต่ไม่ใช่ภาษาไทย พยายามฟังแต่ไม่รู้เรื่อง สักพักเงียบไป เราเลยหันหน้าไปดู สรุปมันยังอยู่ ข้างๆที่เดิม เราหลับตาอีก สวดไปด่าไป สักพักลืมตาดูอีกครั้ง มันก็หายไป เลยลุกขึ้นไปเปิดไฟดู ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในห้อง พอสงบสติอารมณ์เหตุการณ์ปกติเราก็ปิดไฟลงนอนอีก เราเป็นคนชอบหันหน้าตะแคงตัวนอนไปอีกฝั่งทางซ้ายมือเราตรงข้ามจากที่ตาแก่เมื่อสักครู่ พอเอามือวางลงข้างๆสรุป มือเราวางอยู่บนอะไรสักอย่าง อารมณ์แบบเอามือคลำ 3 ที  จากนั้น มือไม่กล้าขยับละ มันรู้สึกได้ว่าเป็นคน. เราก็กลัวมันขยับบ้าง  "ยิ้มใครอีกวะ จะทำบุญไปให้ยิ้มยังไม่ไปอีก"  สักพัก มันค่อยๆยุบหายไป  ลุกขึ้นไปเปิดไฟดูอีกรอบ หลังจากนั้นดูนาฬิกา เวลาตี 3 ตรง ไม่ปิดไฟละ เราลงนอนไม่กล้าหลับตาอีก รอจนฟ้าเริ่มสว่างค่อยนอน ตอนนั้นจำกลิ่นลมหายใจตัวเองได้ไปเป็นอาทิตย์  จำได้ทุกความรู้สึก ว่านี่ไม่ใช่แค่ผีอำ ทุกครั้งที่หายใจความรู้สึกว่าเรายังอยู่ในเหตุการณ์นั้นตลอด

  วันต่อมา แอบมาหลับกลางวัน รู้สึกว่ามีคนมายืนบนที่นอนแล้วถามว่า " จะเอายังไงกับกู"  ด้วยความที่เรานอนคว่ำหน้าเลยไม่เห็นว่าใคร แล้วก็ขยับตัวไม่ได้ น่าจะผีอำ หลังจากนั้นไม่สวดมนต์แล้วเพราะรู้สึกว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ได้แต่บอกไปว่า “นั่นแหล่ะ จะเอายังไงกับกู ก็บอกแล้วไปว่าจะทำสังฆทานไปให้” หลังจากนั้นเราจะพยายามทำทุกอย่างที่ทำให้ตัวเองตื่น เพราะมันไม่ยอมหลุดจากภวังค์ บางทีก็ตะโกนเรียกใครก็ได้มาปลุกที หรือดันตัวเองให้ตกเตียง

   หลังจากนั้นก็จะมีผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน มานอนขนาบข้าง 2 คนบ้าง คนนึงบ้าง  หรือบางทีนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ก็จะมีคนเดินผ่านให้เห็น 3 วิ เราอยู่ห้องนั่นต่อไปอีกเดือนกว่าๆ ก็มีมาวันเว้นวัน เราย้ายห้องไปนอนชั้น 2 หอเดิม (ย้ายเพราะอากาศถ่ายเทดีกว่า)  แต่ก็ยังมีตามมาเหมือนเดิม และทุกครั้งเป็นเวลา ตี 3
   
  โทรเล่าให้ที่บ้านฟัง น้าเลยไปดูคนทรงที่สนิทกัน น้าบอกว่า เขาโดนฟันคอตายถูกฝังไว้ใต้ห้องเรา เมื่อนานมาละ ในใจเราก็คิดว่า เพ้อละ ดูเป็นละครไปนิด ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่

   ผ่านมา 2 เดือนกว่าๆ ก็เจอเกือบทุกวันมาแบบ ผีอำทั่วไป วันนึงได้เวลาว่าง ที่บ้านพาไปทำสังฆทาน  พระให้อุทิศถึงสัมภเวสีตนนี้และตนอื่นๆที่มาไม่ซ้ำคน   หลังจากนั้นกลับมาที่หอ คืนนั้น ผู้ชายคนนั้นกลับมาอีก เราจำได้ แต่มานั่งเฉยๆ อยู่ที่เก้าอี้ใกล้ๆปลายเตียง เราก็บอกว่า “ทำไปให้ละไง ยังจะมาทำไมอีก” มานั่งเฉยๆ. หลังจากนั้นก็ไม่มาอีก   วันนึงไปกินข้าวร้านประจำช่วงดึก ด้วยความที่สนิทกับเจ้าของร้าน เจ้แกถามว่าเป็นไงบ้างพักอยู่หอนั้น (แกเป็นคนท้องถิ่น)  เราบอกว่าก็โอเคแค่มีผี เจ้เลยบอกว่า " มันยังอยู่อีกเหรอ"  เราก็งง เอ๊ะยังไงเล่ามา เจ้แกบอกว่า "เมื่อ 5 ปีก่อน ตอนกำลังก่อสร้างหอพักนี้ มีคนงานก่อสร้างถูกฟันคอตายแล้วฝังไว้ ได้ข่าวว่ามันไปแอบดูเมียเขาอาบน้ำเลยถูกผัวฆ่า"  คนงานด้วยกันนี่ล่ะ  สรุปว่า " ฉันเจอของจริงเหรอ"  หลังจากนั้นก็เจอบ้างประปราย เคยครั้งนึงที่บ้านป้าที่สุพรรณ. จำได้ว่ามีคนขึ้นมานั่งค่อมตัวเรา เราไม่กล้าลืมตาได้แต่นอนเกร็ง. สักพักมันก้มตัวลงมาเอาหน้ามาซุกอยู่ข้างๆคอเรา. รู้สึกได้เลย. ทั้งเสียงลมหายใจพูดแล้วก็ขนลุก มันเป็นความกลัวสิ่งเหนือจินตนาการมาก มันเป็นอะไรที่มันไม่มีตัวตน  บางครั้งก็จะมีมีมือใครไม่รู้มากอดรัดเอวเราทั้งที่เรานอนหงาย คือตกใจมากเลยสะบัดมือมันออก. หรือก็มีวันนึงขับรถไปส่งเพื่อนถนนแคบๆ 2 เลน พอถึงหน้าบ้านเพื่อนเราก็จะชิดซ้ายเพื่อตีวงกลับรถ แต่ก็ดันมีคนเดินอยู่ริมถนนซ้ายมือซึ่งเรากำลังชิดซ้ายพอดี คือตกใจมากเราเกือบจะเชียวเค้า เลยอุทานว่า “ใครวะยิ้มมาเดินมืดๆเนี่ย.” เกือบจะขับรถเฉี่ยวอยู่แล้ว เราก็หันหลังไปดูก็ยังเห็นอยู่ เพื่อนเรามันก็หันไปดูแต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร ตอนนั้นเราคิดส่าเป็นคนปกติ. แต่พอกลับรถมาอีกฝั่ง มันไม่มีคนเดินอยู่ เราก็ถามเพื่อนว่า เมื่อกี้มีคนเดินอยู่ซึ่งมันก็ตรงข้ามหน้าบ้านเพื่อนพอดี เพื่อนบอกว่า มันไม่เห็นตั้งแต่แรกแล้ว มันหันไปดูตอนที่ผมอุทานขึ้นมา มันก็ไม่เห็นอะไร แล้วสรุปว่าผมเห็นอะไร ส่งเพื่อนเสร็จผมขับรถระแวงหลังตลอดทาง
  
  จนทุกวันนี้พฤติกรรมการนอนของผมต้องเปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามไปหมดเลย. ปกติผมจะต้องนอนในที่ที่มืดที่สุด เงียบที่สุด. แม้แต่แสงไฟจากแอร์ก็ทำให้นอนไม่หลับ ตอนนี้ผมต้องเปิดเพลงนอนเพื่อให้มีเสียงเพลงคลอเบาๆ เพราะกลัวว่าตัวเองจะหลับสนิทแล้วมันจะมาอำอีก ต้องนอนเปิดม่านเพื่อไม่ให้มันมืดจนเกินไป แล้วผมก็จะพยายามไม่นอนก่อนตี 3

สาบานว่าผมเราเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัว เป็นประสบการณ์ที่ไม่อยากจดจำ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่