ก่อนตัดสินใจซื้อก็ได้ศึกษาอ่านรีวิว รวมถึงปัญหาข้อดีข้อเสียต่างๆของเจ้าเวสป้าใหม่
แต่จะอ่านและศึกษาเป็นพิเศษสำหรับตัว 150 ทั้งเครื่องเก่าและเครื่องใหม่ (i-get)
ปัญหาเท่าที่ได้อ่านมาทั้งหมด เพื่อชั่งน้ำหนักในการตัดสินใจซื้อ ส่วนตัวพบว่า
เครื่องตัวเก่ามักจะเจอปัญหาเครื่องสั่น เบาดับ สตาร์ทติดยาก ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นทุกคัน
แต่จะเป็นซะส่วนใหญ่ ทำให้ความอยาก ต้องถูกเบรคลงด้วยปัญหาดังกล่าว
.
.
จนมีโอกาสได้ขี่ของรุ่นน้อง ซึ่งเป็นตัวเครื่องใหม่ (i-get) ซึ่งได้พัฒนาจากเครื่องเดิม
ปรับปรุงแก้ไขจุดปัญหาต่างๆมาแล้ว พอได้ขี่ครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจเลย เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมาจบที่เจ้าตัวนี้
เรื่องข้อมูลเชิงลึกหรือสเป๊กต่างๆพวกตัวเลข ผมขอไม่กล่าวถึงมากนักนะครับ
กระทู้นี้ จะเน้นฟิลการขี่และการใช้งานจริงมากกว่า
เรื่องรูปร่างภายนอก นานาจิตตังนะครับ แล้วแต่ชอบเลย
ส่วนตัวผมชอบไฟกลม และรูปทรงของเจ้า Primavera150 มากที่สุด เลยเลือกเจ้าตัวนี้มา
อัตราเร่ง การออกตัวผมว่าทำได้ดีมาก แต่พอความเร็วไต่ระดับไปที่ 50-60 อัตราเร่งแซงจะไม่ปรู้ดปร้าดเหมือนตอนออกตัว
แต่กำลังเครื่องยนต์ ไหลต่อเนื่อง สมู้ทมือมาก รอบเดินเบา ก็ไม่มีอาการเบาดับ
อาการสั่นในรอบเดินเบา มีบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับสั่นเจ้าเข้า ซึ่งตรงจุดนี้เห็นสาวกบอกว่า แก้ไขได้ดีขึ้นกว่าตัวเก่ามาก
ส่งกำลังด้วยระบบ CVT จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดอิเลกทรอนิค ตรงนี้มีส่วนที่ทำให้เครื่องสั่นน้อยลง(เดาเอานะครับ)
ปัญหาหลักๆจากคนที่เคยใช้มาคือ เวลาจอดในที่แออัด ตัวถังด้านข้างส่วนของท้ายรถมักจะโดนครูดจากมอเตอร์ไซค์คันข้างๆเสมอ
ซึ่งก็คงได้แต่ทำใจ อาจป้องกันโดยการเลือกที่จอด แต่ก็แก้ปัญหาได้แค่ตัวเราเท่านั้น ซึ่งตัวถังของเวสป้า
จะทำจากเหล็ก ดังนั้นหากครูดถึงเนื้อสี ก็คงต้องทำสีอย่างเดียวล่ะครับ
ตัวรถนั้น น้ำหนักอยู่ที่ 120 Kg. มาพร้อมกับยางTubeless หน้า 110/70 และ 120/70 ในยางหลัง
ยางเดิมติดรถให้ยาง Maxxis มา จากการใช้งานรู้สึกได้เลยว่า ค่อนข้างลื่นในพื้นแห้ง
พื้นเปียกยังไม่เคยลอง แต่อ่านจากผู้ใช้จริง เห็นว่าฝนตกนี่ลื่นสุดๆ หลายๆคนเลยเปลี่ยนยางใหม่กันเยอะ
ส่วนคันนี้ผมเลือกใช้ Pirelli สเป๊กขนาดเดิมโรงงาน โชคอัพหน้าเป็นแบบไฮดอลิกแบบเดี่ยวทำงานสองทิศทาง
พร้อมคอยสปริง ผมว่ามันนิ่มๆแต่แน่นดี ไม่เคยลองขี่แบบนี้ แต่รู้สึกว่าขี่แล้ว มันนิ่มสบายดี
เหมือนทางโรงงานเขาเซตมาเน้นความสบายมากๆ พร้อมเบรค ABS กับรถเล็กๆแบบนี้ ผมว่าเหลือๆ
ส่วนโชคอัพหลัง ปรับค่าการรับน้ำหนักได้ 4 ระดับ สำหรับผม ช่วงล่างที่ให้มานั้นเหมาะกับการขับขี่แล้ว
ทั้งๆที่ผมหนักมากราวๆ 92 กิโล ช่วงล่างก็ไม่มีอาการใดๆเลย อาจเพราะว่ายังใหม่หรือเปล่าไม่แน่ใจ
ไฟหน้ามากลมๆเต็มดวง ไม่สามารถเปิดอัตโนมัติได้ ต้องเปิดปิดเอง
ผมมองว่าเป็นข้อดีเหมือนกัน แต่ข้อเสียคือ บางทีจะจอดก็มักจะดับเครื่องไปเลย
ลืมปิดสวิตก่อนทุกที
ไฟหรี่บางทีใช้ตอนกลางวัน ก็มีความสว่าง เป็นเม็ดๆข้างละ3ดวง พร้อมไฟเลี้ยวในโคมเดียว
ให้ความสว่างดีใช้ได้เลยครับ
แผงหน้าปัด เรียบง่ายอ่านค่าง่าย บอกข้อมูลสำคัญไม่กี่อย่าง แต่สำหรับผม แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
มีไฟระบบ i-get/เตือนระดับน้ำมันเครื่องขาด/เตือนระบบเครื่องยนต์มีปัญหา/ระบบ ABS/Trip AและฺB/นาฬิกา/
ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง/แจ้งเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงใกล้หมด(หากขึ้นเตือนน่าจะไปได้อีกราวๆ20กิโล)/ตำแหน่งไฟสูง
ซึ่งหน้าจอ เป็นแบบดิจิตอล ความเร็วเป็นเข็ม อ่านค่าได้ทั้ง Km/hและMph
แฮนด์ฝั่งซ้าย - จากบน ดันไปทางซ้ายคือ เปิดไฟสูงตรงกลางคือไฟใหญ่ปกติ
ส่วนดันขวาจะเด้งกลับแต่เป็นการยิงไฟสูงเป็นจังหวะสั้นๆ
- กลาง คือไฟเลี้ยว ซ้ายขวา กดตรงกลางคือปิด
- แตร ผมว่าตำแหน่งพอดีนิ้วเลยนะครับ เคยได้ใช้แบบฉุกเฉินหลายครั้ง กดโดนทุกครั้ง
แฮนด์ฝั่งขวา - บนคือดันขวา1คลิกคือไฟหรี่ ดันขวาสุดคือไฟหน้า ตรงนี้ผมชอบสับสน
เพราะผมชินกับการดันขวาสุดคือการปิดไฟ แต่เวสป้านี้จะกลับกันคือขวาสุดคือเปิดไฟ
- กลาง โหมดปรับนาฬิกาและดูทริป A B และรีเซตทริป
- ล่าง สตาร์ทไฟฟ้า รุ่นนี้ไม่มีสตาร์ทเท้านะครับ ต้องหมั่นเชคแบตดีๆ
หากหมดก็เข็นลูกเดียว ไม่มีการใช้เท้าสตาร์ทได้ แต่เครื่อง i-get นี่ สตาร์ทง่ายมาก
คือกดอย่างเดียวไม่ต้องบิดคันเร่ง เครื่องร้อนเครื่องเย็น คือเครื่องติดง่ายมากๆครับ
ช่องเก็บของใหญ่จุใจดีครับ แต่อยู่ด้านบนของเครื่องยนต์เลย
เก็บหมวกครึ่งใบได้สบาย ยังเหลือๆ แต่เต็มใบน่าจะติดนิดๆครับ
เก๊ะด้านหน้า ฝั่งซ้ายมีช่องใส่ของจุกจิกได้หน่อย+ขวดน้ำขนาดเล็ก พร้อมช่องเสียบUSB
ชาติแบตมือถือสะดวกดีครับ ฝั่งขวาเป็นที่อยู่ของกล่องฟิวต่างๆครับ
ช่องเสียบกุญแจและปุ่มเปิดเบาะ หากดึงกุญแจออก ปุ่มนี้จะไม่สามารถกดเปิดเบาะได้
ข้อเสียอีกอย่างของเจ้าเวสป้านี้สำหรับผมคือเจ้านี่
พักเท้าคนซ้อน มันเล็กและอยู่ในตำแหน่งที่อยู่หน้ามากไปหน่อย
หากซ้อนนาน คนซ้อนจะปวดต้นขามาก โดนบ่นประจำ
แต่ก็มีของแต่งที่ทำให้คนซ้อนพักเท้าได้สะดวกขึ้น แต่ราคาก็มหาโหด
มีตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปถึงครึ่งหมื่น
สรุปจากที่ได้ขี่มา
ผมว่า เวสป้าเครื่องใหม่ เหมาะกับการขับขี่ในเมือง มุดง่าย คล่องตัว
อาจต้องมีปรับตัวแรกๆ เพราะรถค่อนข้างหนักนิดนึง แต่ไม่มาก
เครื่องยนต์ไม่จุกจิกจากที่ใช้มา ระยะยามไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่ถามคนรู้จักที่ใช้เครื่องตัวนี้ วิ่งไปสามหมื่นกว่าแล้ว
ก็ยังไม่เจอปัญหาใดๆ
ความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป คงตอบไม่ได้ เพราะความคุ้มค่าของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน
แต่ถ้าชอบในความน่ารัก และการขับขี่ที่นุ่มนวลก็ ซื้อได้ครับ
ส่วนประโยคที่คนอื่นมักจะพูดเสมอว่า รถก็เล็กแพงก็แพง ขี่นู้นนี่นั่นดีกว่า ผมยังไม่เคยได้ยินนะครับ
แต่โดยรวม ผมว่ามันก็เป็นรถที่ดี ที่ขี่ง่ายมากๆคันหนึ่ง
หลังจากขี่มาได้ซักพัก ก็อยากแชร์ประสบการณ์การขับขี่ New Vespa 150 i-get
แต่จะอ่านและศึกษาเป็นพิเศษสำหรับตัว 150 ทั้งเครื่องเก่าและเครื่องใหม่ (i-get)
ปัญหาเท่าที่ได้อ่านมาทั้งหมด เพื่อชั่งน้ำหนักในการตัดสินใจซื้อ ส่วนตัวพบว่า
เครื่องตัวเก่ามักจะเจอปัญหาเครื่องสั่น เบาดับ สตาร์ทติดยาก ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นทุกคัน
แต่จะเป็นซะส่วนใหญ่ ทำให้ความอยาก ต้องถูกเบรคลงด้วยปัญหาดังกล่าว
.
.
จนมีโอกาสได้ขี่ของรุ่นน้อง ซึ่งเป็นตัวเครื่องใหม่ (i-get) ซึ่งได้พัฒนาจากเครื่องเดิม
ปรับปรุงแก้ไขจุดปัญหาต่างๆมาแล้ว พอได้ขี่ครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจเลย เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมาจบที่เจ้าตัวนี้
เรื่องข้อมูลเชิงลึกหรือสเป๊กต่างๆพวกตัวเลข ผมขอไม่กล่าวถึงมากนักนะครับ
กระทู้นี้ จะเน้นฟิลการขี่และการใช้งานจริงมากกว่า
เรื่องรูปร่างภายนอก นานาจิตตังนะครับ แล้วแต่ชอบเลย
ส่วนตัวผมชอบไฟกลม และรูปทรงของเจ้า Primavera150 มากที่สุด เลยเลือกเจ้าตัวนี้มา
อัตราเร่ง การออกตัวผมว่าทำได้ดีมาก แต่พอความเร็วไต่ระดับไปที่ 50-60 อัตราเร่งแซงจะไม่ปรู้ดปร้าดเหมือนตอนออกตัว
แต่กำลังเครื่องยนต์ ไหลต่อเนื่อง สมู้ทมือมาก รอบเดินเบา ก็ไม่มีอาการเบาดับ
อาการสั่นในรอบเดินเบา มีบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับสั่นเจ้าเข้า ซึ่งตรงจุดนี้เห็นสาวกบอกว่า แก้ไขได้ดีขึ้นกว่าตัวเก่ามาก
ส่งกำลังด้วยระบบ CVT จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดอิเลกทรอนิค ตรงนี้มีส่วนที่ทำให้เครื่องสั่นน้อยลง(เดาเอานะครับ)
ปัญหาหลักๆจากคนที่เคยใช้มาคือ เวลาจอดในที่แออัด ตัวถังด้านข้างส่วนของท้ายรถมักจะโดนครูดจากมอเตอร์ไซค์คันข้างๆเสมอ
ซึ่งก็คงได้แต่ทำใจ อาจป้องกันโดยการเลือกที่จอด แต่ก็แก้ปัญหาได้แค่ตัวเราเท่านั้น ซึ่งตัวถังของเวสป้า
จะทำจากเหล็ก ดังนั้นหากครูดถึงเนื้อสี ก็คงต้องทำสีอย่างเดียวล่ะครับ
ตัวรถนั้น น้ำหนักอยู่ที่ 120 Kg. มาพร้อมกับยางTubeless หน้า 110/70 และ 120/70 ในยางหลัง
ยางเดิมติดรถให้ยาง Maxxis มา จากการใช้งานรู้สึกได้เลยว่า ค่อนข้างลื่นในพื้นแห้ง
พื้นเปียกยังไม่เคยลอง แต่อ่านจากผู้ใช้จริง เห็นว่าฝนตกนี่ลื่นสุดๆ หลายๆคนเลยเปลี่ยนยางใหม่กันเยอะ
ส่วนคันนี้ผมเลือกใช้ Pirelli สเป๊กขนาดเดิมโรงงาน โชคอัพหน้าเป็นแบบไฮดอลิกแบบเดี่ยวทำงานสองทิศทาง
พร้อมคอยสปริง ผมว่ามันนิ่มๆแต่แน่นดี ไม่เคยลองขี่แบบนี้ แต่รู้สึกว่าขี่แล้ว มันนิ่มสบายดี
เหมือนทางโรงงานเขาเซตมาเน้นความสบายมากๆ พร้อมเบรค ABS กับรถเล็กๆแบบนี้ ผมว่าเหลือๆ
ส่วนโชคอัพหลัง ปรับค่าการรับน้ำหนักได้ 4 ระดับ สำหรับผม ช่วงล่างที่ให้มานั้นเหมาะกับการขับขี่แล้ว
ทั้งๆที่ผมหนักมากราวๆ 92 กิโล ช่วงล่างก็ไม่มีอาการใดๆเลย อาจเพราะว่ายังใหม่หรือเปล่าไม่แน่ใจ
ไฟหน้ามากลมๆเต็มดวง ไม่สามารถเปิดอัตโนมัติได้ ต้องเปิดปิดเอง
ผมมองว่าเป็นข้อดีเหมือนกัน แต่ข้อเสียคือ บางทีจะจอดก็มักจะดับเครื่องไปเลย
ลืมปิดสวิตก่อนทุกที
ไฟหรี่บางทีใช้ตอนกลางวัน ก็มีความสว่าง เป็นเม็ดๆข้างละ3ดวง พร้อมไฟเลี้ยวในโคมเดียว
ให้ความสว่างดีใช้ได้เลยครับ
แผงหน้าปัด เรียบง่ายอ่านค่าง่าย บอกข้อมูลสำคัญไม่กี่อย่าง แต่สำหรับผม แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
มีไฟระบบ i-get/เตือนระดับน้ำมันเครื่องขาด/เตือนระบบเครื่องยนต์มีปัญหา/ระบบ ABS/Trip AและฺB/นาฬิกา/
ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง/แจ้งเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงใกล้หมด(หากขึ้นเตือนน่าจะไปได้อีกราวๆ20กิโล)/ตำแหน่งไฟสูง
ซึ่งหน้าจอ เป็นแบบดิจิตอล ความเร็วเป็นเข็ม อ่านค่าได้ทั้ง Km/hและMph
แฮนด์ฝั่งซ้าย - จากบน ดันไปทางซ้ายคือ เปิดไฟสูงตรงกลางคือไฟใหญ่ปกติ
ส่วนดันขวาจะเด้งกลับแต่เป็นการยิงไฟสูงเป็นจังหวะสั้นๆ
- กลาง คือไฟเลี้ยว ซ้ายขวา กดตรงกลางคือปิด
- แตร ผมว่าตำแหน่งพอดีนิ้วเลยนะครับ เคยได้ใช้แบบฉุกเฉินหลายครั้ง กดโดนทุกครั้ง
แฮนด์ฝั่งขวา - บนคือดันขวา1คลิกคือไฟหรี่ ดันขวาสุดคือไฟหน้า ตรงนี้ผมชอบสับสน
เพราะผมชินกับการดันขวาสุดคือการปิดไฟ แต่เวสป้านี้จะกลับกันคือขวาสุดคือเปิดไฟ
- กลาง โหมดปรับนาฬิกาและดูทริป A B และรีเซตทริป
- ล่าง สตาร์ทไฟฟ้า รุ่นนี้ไม่มีสตาร์ทเท้านะครับ ต้องหมั่นเชคแบตดีๆ
หากหมดก็เข็นลูกเดียว ไม่มีการใช้เท้าสตาร์ทได้ แต่เครื่อง i-get นี่ สตาร์ทง่ายมาก
คือกดอย่างเดียวไม่ต้องบิดคันเร่ง เครื่องร้อนเครื่องเย็น คือเครื่องติดง่ายมากๆครับ
ช่องเก็บของใหญ่จุใจดีครับ แต่อยู่ด้านบนของเครื่องยนต์เลย
เก็บหมวกครึ่งใบได้สบาย ยังเหลือๆ แต่เต็มใบน่าจะติดนิดๆครับ
เก๊ะด้านหน้า ฝั่งซ้ายมีช่องใส่ของจุกจิกได้หน่อย+ขวดน้ำขนาดเล็ก พร้อมช่องเสียบUSB
ชาติแบตมือถือสะดวกดีครับ ฝั่งขวาเป็นที่อยู่ของกล่องฟิวต่างๆครับ
ช่องเสียบกุญแจและปุ่มเปิดเบาะ หากดึงกุญแจออก ปุ่มนี้จะไม่สามารถกดเปิดเบาะได้
ข้อเสียอีกอย่างของเจ้าเวสป้านี้สำหรับผมคือเจ้านี่
พักเท้าคนซ้อน มันเล็กและอยู่ในตำแหน่งที่อยู่หน้ามากไปหน่อย
หากซ้อนนาน คนซ้อนจะปวดต้นขามาก โดนบ่นประจำ
แต่ก็มีของแต่งที่ทำให้คนซ้อนพักเท้าได้สะดวกขึ้น แต่ราคาก็มหาโหด
มีตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปถึงครึ่งหมื่น
สรุปจากที่ได้ขี่มา
ผมว่า เวสป้าเครื่องใหม่ เหมาะกับการขับขี่ในเมือง มุดง่าย คล่องตัว
อาจต้องมีปรับตัวแรกๆ เพราะรถค่อนข้างหนักนิดนึง แต่ไม่มาก
เครื่องยนต์ไม่จุกจิกจากที่ใช้มา ระยะยามไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่ถามคนรู้จักที่ใช้เครื่องตัวนี้ วิ่งไปสามหมื่นกว่าแล้ว
ก็ยังไม่เจอปัญหาใดๆ
ความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป คงตอบไม่ได้ เพราะความคุ้มค่าของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน
แต่ถ้าชอบในความน่ารัก และการขับขี่ที่นุ่มนวลก็ ซื้อได้ครับ
ส่วนประโยคที่คนอื่นมักจะพูดเสมอว่า รถก็เล็กแพงก็แพง ขี่นู้นนี่นั่นดีกว่า ผมยังไม่เคยได้ยินนะครับ
แต่โดยรวม ผมว่ามันก็เป็นรถที่ดี ที่ขี่ง่ายมากๆคันหนึ่ง