หมวยอินดี้มีเรื่องเล่า ---- ท่านมีส่วนร่วมใน Social Movement อะไรบ้างและอย่างไรบ้าง?

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ

ตอนนี้ Social Movement กำลังเป็นที่สนใจสำหรับคนหมู่มากเลยทีเดียว
อีกทั้งยังมองได้หลายแง่หลายมุม ซึ่งถ้าจะมองในเรื่องของการประกวดนางงามแล้ว
น่าสนใจว่า คำตอบของคำถามนั้นสมควรจะเป็นไปในลักษณะใด

"สิ่งใด เป็น Social movement" ที่สำคัญในยุคของคุณ?

คำถามนี้ จะแปลคำว่า Social movement ว่าอย่างไรดี?

คำว่า Social นั้น นิยามไม่ยาก ว่าเป็นเรื่องของ สังคมนิยม แต่คำว่าสังคมนิยมล่ะคืออะไร

สังคมนิยม ก็เป็นไปได้หลายหลาย เพราะมนุษย์นั้น เป็นสัตว์สังคม และคำว่าสังคม คือการอยู่ร่วมกัน
มากกว่า 1 คนขึ้นไป น่าสนใจว่า ลักษณะของสังคมมนุษย์นั้น มนุษย์ 1 คน มีสังคมได้มากกว่า 1 สังคม
ต่างจาก ช้าง ม้า วัว .. ที่หากตัวไหนเป็นสมาชิกกลุ่มเมื่อถูกทิ้ง หรือพลัดกลุ่มแล้ว ยากที่จะเข้ากลุ่มอื่นได้โดนง่าย

แต่มนุษย์นั้น ไม่ต้องถูกทิ้ง ไม่ต้องพลัดหลง ก็สามารถมีหลายๆสังคมได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจเลย

มาถึงเรื่อง Social movement ที่เหล่านักวิชาการทางการเมือง นำมาพูดคุยกันแพร่หลาย
ยิ่งในห้องการเมือง ณ ที่นี้ คงช่วยไม่ได้ ที่จะมอง movement เป็นความเคลื่อนไหว ของกลุ่มก้อน
ที่เป็นไปในทางการเมืองและเห็นเด่นชัดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เราทำแล้วให้ผลกระทบกับสังคมนั้น อาจจะเป็นเรื่องเล็กใกล้ตัว หรือเป็นเรื่องใหญ่
ที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็ได้

โดยส่วนตัวแล้ว ขอยืนยันอีกหนว่า คิดว่าตัวเองมีหัวอนุรักษ์ ที่รักความก้าวหน้า นั่นหมายถึง รักการก้าวหน้า
หรือการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่กระทบต่อสิ่งที่ดำรงอยู่ หรือพยายามให้การเปลี่ยนแปลงนั้นกระทบกับสิ่งที่มีอยู่น้อยที่สุด


จำไม่ได้ว่า นานแค่ไหนแล้ว ที่พยายามลดใช้พลาสติก

อย่างที่ทุกคนทราบกันอยู่ว่า พลาสติกนั้น ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และทุกครั้งที่เกิดการเผาทำลาย จะสร้าง CO2 ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก และสภาพอากาศแปรปรวน ผลกระทบที่ยิ่งใหญ่
เรียกว่า เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ณ จุดนั้น จึงได้พยายาม "ลดใช้" พลาสติกให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ซึ่งการกระทำนี้ ได้ส่งผลไปยังสมาชิกครอบครัว เพื่อนๆรอบข้าง ให้หันมาใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก

น่าจะเป็นสัก 15-16 ปีก่อน ที่อาศัยอยู่ ณ ประเทศฮ่องกง สภาพอากาศที่นั้นหากใครเคยสัมผัสจะต้องบอกได้ว่า
"แย่มาก" ฝุ่นควัน ไอเสียรถยนต์ หรืออะไรก็ไม่รู้ (สมัยนั้นยังเอ๊าะเลยไม่ได้ตั้งใจศึกษาสังคมของเขา)
สังเกตง่ายๆ หากใครใส่รองเท้าแตะ กลับมาบ้านจะพบว่า ส้นเท้าดำปิ้ดปี๋ ทั้งๆที่ไม่ได้เดินย่ำโคลนหรือสิ่งปฏิกูลที่ไหนเลย
เหมือน นิวยอร์คซิตี้ แดนสิวิไลซที่ใครๆก็อยากไปสัมผัส แต่กลับมาบ้าน เท้าดำปื้ด ขี้มูกแข็งติดจมูก ดำปี้ดปี๋

ตอนอยู่ที่นั่น ห้างสรรพสินค้าเริ่มรณรงค์การงดใช้ถุงพลาสติก ด้วยการ "คิดค่าถุง" ใครไม่นำถุงพลาสติก
มาใส่สินค้า ทางห้างจะ "คิดตังเพิ่ม" ทำให้ผู้คนเริ่มน้ำถุงผ้าออกมาจ่ายตลาดกัน

กลับมาเมืองไทย เหมือนจะมีรณรงค์กันพักนึง ว่าจะคิดตัง แต่ก็เหมือนถูกประนามกันไป ทำให้พับโครงการ
โดยหันกลับมาอยู่ในรูปของ "ใช้ถุงผ้าได้สะสมคะแนนเพิ่ม" แทน

เมืองไทยก็แบบนี้ อะไรที่ประชาชนต้องซึมซับหรือรับผิดชอบมากขึ้น ก็มักจะโดน "ติทั้งโกลน" ทำให้
การพัฒนาในเรื่องที่สมควรบางเรื่องต้องชะงักลง และหันไปใช้วิธีที่ "ละมุนละม่อม" แต่ไม่ได้ผลอะไรแทน
และคนพัฒนาก็จะโดนต่อว่าอีกว่า "คิดมาแต่ละอย่าง" ไม่ได้ประโยชน์เท่าไหร่นัก

ก็ว่ากันไป

ตั้งแต่กลับมาที่บ้าน ก็บอกพระมารดาว่า ท่านกรุณานำถุงพลาสติกไปซื้อของนะเจ้าคะ
พระมารดาท่าน แรกๆ ก็ไม่ได้ใส่ใจมากเท่าไหร่ เพราะถือว่า ถุงพลาสติกต่างๆนั้น สามารถนำมาใช้เป็น
ถุงขยะได้ แต่ข้าพเจ้า ก็ได้ซื้อทั้งถุงผ้า ตระกร้าหวาย เพื่อความสะดวกของท่าน จนบัดนี้ ท่านเอง ได้นำ
แนวคิดมาใช้เป็นสิบๆปีแล้ว และมีการซื้อถุงผ้าจ่ายตลาด แจกจ่ายให้คนรอบข้าง ญาติสนิทมิตรสหายอีกด้วย


อย่างข้าพเจ้าเอง ถุงผ้านั้นอาจจะไม่ได้ใช้บ่อยนักเพราะไม่ใช่แม่บ้านช้อปปิ้ง แต่การซื้อสินค้าเล็กๆน้อยๆ
เช่นในร้านสะดวกซื้อ น้ำเต้าหู้ หมูปิ้ง กล้วยทอด ผลไม้ ฯลฯ ข้าพเจ้ามักนำถุงเหล่านี้ติดตัวไปด้วยเสมอ
แน่นอน เราไม่สามารถใส่หมูปิ้งในถุงกระดาษได้ แต่เราสามารถงดใช้ถุงก้อบแก้บที่ใช้หิ้วของได้
งดขยะไปได้ 1 ชิ้น
(เคยพยายามนำกล่องข้าวไปใส่หมูปิ้งแล้ว แต่มันไม่เวิร์คล่ะ 555)


(ที่ให้ดูนี่แค่ตัวอย่าง ที่จริงมีหลายไซส อยู่ในกระเป๋า)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่