ถ้าเราห่างจากเพื่อนด้วยเหตุผลแบบนี้เราผิดไหมคะ?

ขอสอบถามนะคะ

เรากับเพื่อนสนิทกันมาก คบกันมาประมาณ 10 กว่าปี ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมค่ะ
ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด คุยกันทุกคืน ไปนอนค้าง ตจว. ด้วยกันปีละ 2-3 ครั้ง
แทบไม่เคยทะเลาะกัน มีงอนกันวันสองวันก็หาย

เพื่อนเราแต่งงานมีสามีแล้ว มีลูก 2 คน บ้านสามีเพื่อนทำธุรกิจส่วนตัว
เพื่อนจึงไม่ต้องทำงาน มีเงินใช้สบายๆ มีหน้าที่เลี้ยงลูกอย่างเดียวค่ะ
เราเคยเจอสามีเพื่อนหลายครั้งแล้วก็สนิทกันระดับนึงค่ะ

เมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา เพื่อนเรามาปรึกษาเรา เรื่องผู้ชายคนนึงที่มาจีบ
เป็นผู้ปกครองที่เรียนที่เดียวกับลูกของเพื่อนค่ะ
ผู้ชายคนนี้มาส่งลูกไปโรงเรียน เพื่อนเราก็มาส่งลูกไปโรงเรียน
เจอกันเกือบทุกวัน บางทีก็สอบถามเรื่องเรียนของลูก ก็มีไปคุยกันร้านกาแฟ
คุยไปคุยมาจีบกันซะงั้น เพื่อนเราบอกว่ารู้สึกดีกับผู้ชายคนนี้มากคุยกันมาสักพักแล้ว
เราจึงเตือนเพื่อนเราว่า แกมีครอบครัวแล้วนะ ทำอะไรคิดดีๆ
แต่เพื่อนเราบอกว่า รู้แล้ว ก็แค่คุยเล่นๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอก
เราก็เลยปล่อยผ่านไป เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็คงเลิกคุย

ต่อมาไม่นาน ประมาณ 1-2 เดือนได้ เพื่อนเราชวนไปกินข้าวที่ห้างแถวบ้านเรา
พอมาเจอกัน เพื่อนดันพาผู้ชายมาคนนึง อายุประมาณ 40 ต้นๆ
เราเดินมาถึงเพื่อนก็แนะนำว่า แกนี่พี่แมนนะ(สมมุติ)
ตอนนั้นเราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ยิ้มและคุยปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เพื่อนก็จัดแจงสั่งอาหารแล้วมาถ่ายรูปคู่เราอัพลงเฟชบุ๊ค


กลับมาถึงบ้านเราเลยถามมันว่าคนที่พามาคือใคร
เพื่อนก็บอกว่า คนนั้นแหละที่เล่าให้ฟัง
เราเลยว่าเพื่อนเราไป เพราะไม่อยากให้มีปัญหา
แต่เพื่อนตอบกลับมาเหมือนเดิม ว่าแค่มากินข้าวจะเป็นไรไป ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย

จากนั้นเวลาไปไหนก็ตาม เพื่อนมักจะพาพี่แมนมาด้วยเสมอ
แต่จะมาถ่ายรูปและเช็คอินกับเรา2 คน เพื่อให้สามีของเพื่อนไว้ใจ
พอเช็คอิน พี่แมนก็จะเห็นชื่อเราและแอดเฟชบุ๊คมาต่อหน้าเรา เราเลยจำใจรับ
แต่เราไม่เคยไปคอมเม้นท์หรือไปกดไลค์เฟชบุ๊คพี่แมนนะคะ
เราก็เตือนเพื่อนทุกครั้งนะ แต่เพื่อนก็จะบอกว่ารู้ว่ากำลังทำอะไร
พอช่วงหลังๆ มา พี่แมนชอบพูดอะไรแบบสองแง่สองง่าม
เช่น วันนี้สั่งหอยให้พี่กินหน่อย พี่จะได้มีแรง แล้วก็บีบแขนเพื่อนเรายิ้มกรุ้มกริ่ม
เรามองแล้วแขยงมาก เราไม่กินหอยเลยค่ะ มันนึกภาพอะไรไม่ดีออกมา เค้าคงไปถึงไหนๆ กันแล้วจริงๆ

วันนั้นถึงบ้านเราบอกเพื่อนเราไปว่า อย่าทำอย่างนี้เลยต่างคนต่างมีครอบครัวแล้ว ถึงขั้นเลยเถิดมีอะไรกันได้ไง
ถ้าสามีแกจับได้แล้วเค้าเลิกมาแกจะเดือดร้อนนะ แล้วลูกอีกแกจะมองหน้าลูกยังไง
เพื่อนเราเงียบไปแล้วบอกว่า แกชั้นไม่เคยขออะไรแก แต่ขอเรื่องพี่แมนไว้เรื่องนึงได้ไหม
ชั้นรู้ว่ายังไงก็ไปคบกับเค้าจริงจังไม่ได้หรอก เดี๋ยวชั้นก็เลิก แต่ขอเวลาหน่อยนะ

ตอนนั้นเราก็คุยกับแฟนเรานะ ว่าเราไม่โอเค แฟนเราก็บอกว่าให้ห่างๆ มานะ
เราก็เลยไม่ค่อยไปหาเพื่อนเท่าไหร่ แต่เพื่อนก็เอาชื่อเราไปเช็คอินด้วยเสมอ
จนถึงแพลนที่เรานัดเพื่อนเราไป ตจว.ด้วยกัน จองแพคเกจล่วงหน้าไว้หลายเดือนแล้ว
เราเลยถามว่า เพื่อนเราบอกว่าจะพาพี่แมนไป ตอนนั้นเราเซ็งมาก บอกเพื่อนอย่าพาไปเลย
เพื่อนบอกว่า บอกพี่แมนไปแล้วจะไม่พาไปได้ไง ขอให้เราทำตัวเหมือนเดิมได้ไหม
ตอนนั้นเราเซ็งมากไปบ่นให้แฟนฟัง แฟนเราบอกว่าไม่ต้องไปแล้ว
เราบอกว่าจ่ายเงินไปหมดแล้ว ตั๋วเครื่องบินอะไรก็จ่ายหมดแล้ว เป็นหมื่นจะไม่ไปหรอ
เลยมาคิดว่าเออ ช่างเค้าถือว่าไปเที่ยวกับแฟนเราสองคนก็ได้
แฟนเราบอกว่าถ้ามีแบบนี้จะไปกับเพื่อนเราครั้งนี้ครั้งสุดท้ายจะไม่ไปอีกแล้วนะ
เราก็ตกลง เพราะเราก็ไม่อยากไปเหมือนกัน

พอถึงวันไปเที่ยว สามีเพื่อนก็มาส่ง และคุยกับเราว่าช่วงนี้เราพาเพื่อนไปเที่ยวถี่จังนะ
เหมือนเค้าสงสัย เราก็ได้แต่ยิ้ม เพราะไม่รู้จะตอบยังไง เพื่อนเอาชื่อเราไปเช็คอิน
แฟนเราหน้าบึ้งมาก ไม่คุยกับเพื่อนกับพี่แมนเลย
แล้วเพื่อนเราก็พยายามมาเซลฟี่กับเรา เพื่อส่งให้สามีดู บางครั้งสามีเค้าก็วีดีโอคอลมา
พี่แมนก็รีบวิ่งไปหลบ บอกเลยเราสมเพชพวกเค้า และเราก็ไม่สบายใจมาก
ถ้าสามีของเพื่อนรู้เค้าต้องคิดว่าเราสมรู้ร่วมคิดแน่ๆ  
แต่เค้าสองคน ไม่สนใจอะไรเลย มีความสุขกันมากดื่มด่ำเหมือนอยู่บนสวรรค์กันสองคน


พอกลับมาประมาณ 2 อาทิตย์ เรากำลังเล่นเฟชบุ๊คในคอมพิวเตอร์ และใส่หูฟังฟังเพลงในยูทูป
มีผู้หญิงคนนึงทักมาหาเรา ว่าขอคุยด้วยหน่อย เราตอบไปว่าใครคะ?
ผู้หญิงคนนั้นเลยโทรเข้ามาทางเฟชบุ๊ค เราก็กดรับ
จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ใส่เราใหญ่เลย
ว่าเราหน้าด้านแย่งแฟนชาวบ้านนู่นนั่นนี่ เราก็อึ้งพยายามพูดสวนไปว่าเดี๋ยวนะคะๆๆ
แต่เหมือนเค้าไม่ได้ยินเสียงเรา เพราะคอมพิวเตอร์เราไม่ได้ตั้งค่าเปิดไมค์ค่ะ เราตั้งไม่เป็น
เค้าก็ยังใส่เราใหญ่เลยว่าอยากได้นักหรอก ผู้ชายแบบนี้ มันเจ้าชู้จับได้หลายรอบแล้วนู่นนั่นนี่ ถ้าไม่จริงก็เถียงมาสิ
เราก็ไม่รู้ว่าเค้าไม่ได้ยินเสียงเรา เพราะเราไม่เคยคอลในคอมพิวเตอร์ เราก็พยายามพูดให้เค้าฟังเราก่อน
แฟนเราเลยถามว่าใครโทรมา เราบอกไม่รู้เหมือนกันเค้าหาว่าเราไปแย่งแฟนเค้า
แฟนเราเลยเอาหูฟังไปฟัง และไปกดตั้งค่าเปิดไมค์ในคอมฯ
แต่ระหว่างนั้นมีเสียงผู้ชายคนนึงแทรกเข้ามา ให้วางสายเดี๋ยวนี้
แล้วก็มีการยื้อแย่งโทรศัพท์กันแล้วสายก็ตัดไปโดยที่เรายังไม่ทันพูดอะไรเลย

พอสายตัดไป ตอนแรกเรานึกว่าแฟนเรามีกิ๊ก แฟนเราบอกไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น
เราเลยกดเข้าไปดูเฟชบุ๊คของผู้หญิงคนนั้น สรุปเป็นเมียพี่แมน เราก็งงว่าทำไมเค้าคิดว่าเราเป็นกิ๊กพี่แมน
เราก็เลยพิมพ์แชทไปหาผู้หญิงคนนั้น แต่พิมพ์แล้วส่งไม่ได้ เพราะเค้าบล๊อคแชท บล๊อคเฟชบุ๊คเราไปแล้ว
เราเลยรีบพิมพ์ไปหาเพื่อนเรา ว่าเมียพี่แมนเค้ามาหาว่าเราเป็นกิ๊กนะ
เพื่อนเราแทนที่จะกลัวกลับบอกว่าจะให้พี่แมนด่าให้ แล้วบอกอีกว่า
โล่งอกที่เมียพี่แมนไม่คิดว่าเป็นมัน ไม่งั้นมันเดือดร้อนแน่ บอกให้เราไม่ต้องแก้ตัวอะไรนะ
แฟนเราอ่านอยู่โมโหมากบอกให้เราด่าเพื่อนเราลงไปเลย ว่าให้เรามารับแทนได้ไง
ถ้าผู้หญิงคนนี้เค้าก๊อปรูปเราไปประจาน หรือเอาไปให้คนอื่นดูว่าเราแย่งสามีชาวบ้านล่ะเราจะทำไง
หรือถ้าเค้าตามมาตบเรา จะเป็นยังไง เพื่อนไม่คิดถึงเราบ้างหรอ

เราเลยบอกเพื่อนไปว่าเราจะไม่ช่วยแล้วนะ เพราะเราไม่อยากเดือดร้อนและมีปัญหากับแฟนเรา เมียพี่แมน และสามีเพื่อน
เพื่อนเราก็บอกว่าแค่นี้ช่วยกันหน่อยไม่ได้หรอ เราบอกว่าจะให้ช่วยอะไร ตอนนี้เมียพี่แมนก็คิดว่าเราเป็นชู้ไปแล้ว
แก้ตัวก็ไม่ได้เพราะเค้าบล๊อคเราไปเลย
แฟนเราเลยเอาเฟชบุ๊คของเค้าพิมส่งไปว่าเราไม่ใช่กิ๊กพี่แมนนะ แต่เหมือนโทรศัพท์อยู่ที่พี่แมนเพราะ
ไม่มีการอ่านหรือตอบกลับจากผู้หญิงคนนั้นอีกเลยค่ะ  เราก็ไม่รู้ว่าโดนลบหรือโดนบล๊อคไปอีกคน

ตอนนี้แฟนเรายื่นคำขาดให้เราเลิกคบเพื่อนคนนี้
ถ้าเราเลิกคบไป เราจะใจดำเกินไปไหมคะ ?
เพื่อนเราดีกับเราทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียว
แล้วเราควรจะพูดกับเพื่อนยังไงดีให้เข้าใจว่าเราไม่สะดวกไปไหนมาไหนหรือให้เค้าอ้างชื่อเราอีกแล้ว
หรือไม่ต้องคุยไปเลยดีคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่