เรื่อง ปัญหาเป็นตายของประเทศคือปัญหาความเห็น
การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี ความจริงไม่ใช่ปัญหาอย่างใดทั้งสิ้น แต่ที่เป็นปัญหาก็เพราะ เกิดความเข้าใจผิด
ความเข้าใจผิด ซึ่งมีความหมายตรงกับคำว่า “ความเห็นผิด” เป็นคำธรรมดา ถ้าเป็นคำพระเรียกว่า “มิจฉาทิฏฐิ” ถ้าเป็นศัพท์วิชาการเรียกว่า “ทฤษฎีผิด” และปัญหาความเห็นเป็นปัญหา “เป็นตาย” ของประเทศไทย เรียกเป็นศัพท์บาลีว่า “มิจฉาทิฏฐิ” เรียกศัพท์สันสกฤตว่า “ปัญหาทฤษฎี” เรียกเป็นคำศัพท์อังกฤษว่า “THEORETICAL PROBLEM”
ที่ว่าบ้านเรา ปัญหาทฤษฎีเป็นปัญหาเป็นตาย ก็เพราะว่าโดยมากเรื่องจริงๆไม่เป็นปัญหา แต่ที่สับสนอลหม่านหรือเป็นเรื่องใหญ่เพราะความเห็นผิด หรือความเข้าใจผิดต่อเรื่องนั้นๆ ความเห็นผิดที่เป็นปัญหาเป็นตายของประเทศคือ บ้านเรามีการปกครองแบบเผด็จการ และเป็นระบอบเผด็จการมา 74 ปี เป็นเรื่องง่ายๆประชาชนธรรมดารู้และรู้สึกได้ดี
แต่นักการเมืองและนักวิชาการ เข้าใจผิดว่าเป็นการปกครองประชาธิปไตย จึงเกิดความสับสนอลหม่าน และขณะนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ถึงขนาดว่าไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาของประเทศกันอย่างไร นี่คือความเข้าใจผิด หรือ ความเห็นผิดทางการเมืองที่เป็นพื้นฐานที่สุดของประเทศไทย ถ้าไม่แก้ปัญหานี้ ปัญหาอื่นๆ ในประเทศก็แก้ไม่ตก
ขณะนี้ เลยเถิดไปกันใหญ่ ถ้าผิดพลาดครั้งนี้ก็เกิดมิคสัญญีกลียุคอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะความขัดแย้งรุนแรงขณะนี้ ได้ขยายกว้างขวางใหญ่โตถึงขั้นใกล้ระเบิดอยู่แล้ว โดยเฉพาะยังเป็น “ความขัดแย้งทางทฤษฎี” หรือ “ความขัดแย้งทางความเห็น” อีกด้วย
ผลร้ายของความขัดแย้งทั้งปวง ไม่มีความขัดแย้งใดจะร้ายแรงเท่า “ความขัดแย้งทางทฤษฎี” หรือ “ความขัดแย้งทางความเห็น” ความขัดแย้งที่กลายเป็นสงครามใหญ่โตนั้น ล้วนเป็นความขัดแย้งจากทฤษฎีหรือลัทธิการเมืองและศาสนา เป็นความขัดแย้งที่กินเวลายาวนาน และมีความรุนแรงกว่าสงครามใดๆ เมื่อเกิดความเห็นผิดครอบงำแล้ว ย่อมนำไปสู่ความขัดแย้งที่แก้ไม่ตก และซ้ำร้ายกว่านั้น ถ้าเป็นความเห็นที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานหลักวิชาด้วยกันทุกฝ่ายแล้ว ก็ไม่มีวันที่จะตัดสินปัญหาได้ จะมีได้ก็แต่ “มหาวินาศ” เท่านั้น
รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เป็นผลมาจาก สสร. ได้ใช้การร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
เป็นเครื่องมือในการระดมความคิดความเห็นเป็นการใหญ่ ภายใต้สภาวะการณ์ที่ ความเห็นผิดยังครอบงำอยู่หนาแน่น ขณะนี้ที่ว่า “ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแล้ว” ทั้งๆ ที่ความจริงเป็น “การปกครองแบบเผด็จการ” และ “ระบอบเผด็จการรัฐสภา”
ผลการระดมความคิดเห็นของ สสร.นี้ ทำให้เกิดความคิดผิดที่เกิดจากความเห็นผิด ”ใหญ่โตมโหฬาร” เพราะความคิดย่อมเป็น”พลังอำนาจ”เสมอ ไม่ว่าจะเป็น ความคิดผิด และ ความคิดถูก ก็ตาม ถ้าความคิดนั้นอยู่ในคนหมู่มากก็ยิ่งมี พลังอำนาจมาก โดยเฉพาะความคิดจากความเห็นผิดที่ขัดแย้งตรงข้ามกัน จากกรณีที่มีความเคลื่อนไหวของประชาชนแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายขัดแย้งกัน เช่นที่กำลังมีบทบาทใหญ่โตอยู่ในขณะนี้นั้น นั้นคือผลอันเกิดจากการที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้มี “การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง”
ปัญหาการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีนี้ เป็นปัญหา หลักวิชา ไม่ใช่ปัญหาทฤษฎี หรือปัญหานโยบายธรรมดาๆ ดังนั้น ถ้าจะพิจารณาเพื่อให้มีการแก้ปัญหานี้ได้จริง จะต้องพิจารณาปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม แยกแยะปัญหาและพิจารณาปัญหาอย่างละเอียดสัมพันธ์กัน ปัญหาเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี เป็นปัญหาหลักวิชา จึงต้องแยกพิจารณาออกเป็น 2 ปัญหา คือ “ปัญหาการเลือกตั้ง” และ “ปัญหานายกรัฐมนตรี” อย่าเอามาปนกัน
ปัญหาการเลือกตั้ง อันเป็นหลักหนึ่งของ การปกครองแบบประชาธิปไตย (PRINCIPLE OF DEMOCRATIC GOVERNMENT) จึงเป็นปัญหา การปกครองแบบประชาธิปไตย (DEMOCRATIC GOVERNMENT) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ ปัญหานายกรัฐมนตรี
ปัญหานายกรัฐมนตรี อันเป็นปัญหาประมุขของการปกครอง ซึ่งขึ้นต่อประมุขของรัฐ(ประเทศ) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ ปัญหาการเลือกตั้ง
ถ้าเอา 2 ปัญหานี้มาปะปนกัน ก็จะผิดหลักวิชาการอย่างร้ายแรง และจะนำไปสู่การขัดแย้งรุนแรงถึงขนาดมิคสัญญีกลียุค.
อ่านเพิ่มเติมที่ลิงค์แนบนะครับ
https://www.facebook.com/notes/democracy-process/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4/2058003591098825/

#ปัญหาความเห็น
ปัญหาเป็นตายของโลก คือ ปัญหาความเห็น เรียกเป็นศัพท์บาลีว่า ปัญหา “ทิฏฐิ” เรียกเป็น ศัพท์สันสกฤตว่า ปัญหา “ทฤษฎี” เรียกเป็นศัพท์อังกฤษว่า “Theoretical Problem”
ปัญหาความเห็น ดูผิวเผินเป็นเรื่องเล็กน้อยมากในชีวิตของคนเรา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลดี ผลร้ายทั้งหลายในมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือประเทศชาติหรือโลกนั้น มีต้นเหตุมาจาก ความเห็น ถูก (Right Theory) หรือ ความเห็นผิด (Wrong Theory) ทั้งสิ้น
พระพุทธเจ้าทรงเป็นบุคคลแรกในโลกที่ทรงค้นพบบทบาทอันสำคัญเป็นเอกของ ความเห็น จึงได้ทรงบัญญัติ สัมมาทิฏฐิ ไว้เป็นข้อแรกของ มัชฌิมาปฏิปทา (Moderate) และเป็นองค์แรกของ มรรคมีองค์แปด
ข้อเท็จจริงพิสูจน์ให้เห็นอย่างแน่นอนแล้วว่า การปฏิบัติไปสู่ โมกษธรรม นั้น ถ้าปราศจาก ความควบคุมโดย สัมมาทิฏฐิ หรือที่เรียกใน ปฏิจจสมุปบาทธรรม ข้อแรกว่า “อวิชชา” (ความหลงผิด) เสียแล้ว ไม่ว่าจะมี เจตนาดีสักเพียงใด ไม่ว่าจะประกอบด้วย ความเพียรแก่กล้า สักปานใดก็ตาม ก็จะ ประสบกับ ความล้มเหลว เสียทั้งสิ้น เป็น “Good Intention Paves the Way to Hell”
https://www.facebook.com/Democracy.process/notes/
ปัญหาเป็นตายของประเทศคือปัญหาความเห็น
การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี ความจริงไม่ใช่ปัญหาอย่างใดทั้งสิ้น แต่ที่เป็นปัญหาก็เพราะ เกิดความเข้าใจผิด
ความเข้าใจผิด ซึ่งมีความหมายตรงกับคำว่า “ความเห็นผิด” เป็นคำธรรมดา ถ้าเป็นคำพระเรียกว่า “มิจฉาทิฏฐิ” ถ้าเป็นศัพท์วิชาการเรียกว่า “ทฤษฎีผิด” และปัญหาความเห็นเป็นปัญหา “เป็นตาย” ของประเทศไทย เรียกเป็นศัพท์บาลีว่า “มิจฉาทิฏฐิ” เรียกศัพท์สันสกฤตว่า “ปัญหาทฤษฎี” เรียกเป็นคำศัพท์อังกฤษว่า “THEORETICAL PROBLEM”
ที่ว่าบ้านเรา ปัญหาทฤษฎีเป็นปัญหาเป็นตาย ก็เพราะว่าโดยมากเรื่องจริงๆไม่เป็นปัญหา แต่ที่สับสนอลหม่านหรือเป็นเรื่องใหญ่เพราะความเห็นผิด หรือความเข้าใจผิดต่อเรื่องนั้นๆ ความเห็นผิดที่เป็นปัญหาเป็นตายของประเทศคือ บ้านเรามีการปกครองแบบเผด็จการ และเป็นระบอบเผด็จการมา 74 ปี เป็นเรื่องง่ายๆประชาชนธรรมดารู้และรู้สึกได้ดี
แต่นักการเมืองและนักวิชาการ เข้าใจผิดว่าเป็นการปกครองประชาธิปไตย จึงเกิดความสับสนอลหม่าน และขณะนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ถึงขนาดว่าไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาของประเทศกันอย่างไร นี่คือความเข้าใจผิด หรือ ความเห็นผิดทางการเมืองที่เป็นพื้นฐานที่สุดของประเทศไทย ถ้าไม่แก้ปัญหานี้ ปัญหาอื่นๆ ในประเทศก็แก้ไม่ตก
ขณะนี้ เลยเถิดไปกันใหญ่ ถ้าผิดพลาดครั้งนี้ก็เกิดมิคสัญญีกลียุคอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะความขัดแย้งรุนแรงขณะนี้ ได้ขยายกว้างขวางใหญ่โตถึงขั้นใกล้ระเบิดอยู่แล้ว โดยเฉพาะยังเป็น “ความขัดแย้งทางทฤษฎี” หรือ “ความขัดแย้งทางความเห็น” อีกด้วย
ผลร้ายของความขัดแย้งทั้งปวง ไม่มีความขัดแย้งใดจะร้ายแรงเท่า “ความขัดแย้งทางทฤษฎี” หรือ “ความขัดแย้งทางความเห็น” ความขัดแย้งที่กลายเป็นสงครามใหญ่โตนั้น ล้วนเป็นความขัดแย้งจากทฤษฎีหรือลัทธิการเมืองและศาสนา เป็นความขัดแย้งที่กินเวลายาวนาน และมีความรุนแรงกว่าสงครามใดๆ เมื่อเกิดความเห็นผิดครอบงำแล้ว ย่อมนำไปสู่ความขัดแย้งที่แก้ไม่ตก และซ้ำร้ายกว่านั้น ถ้าเป็นความเห็นที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานหลักวิชาด้วยกันทุกฝ่ายแล้ว ก็ไม่มีวันที่จะตัดสินปัญหาได้ จะมีได้ก็แต่ “มหาวินาศ” เท่านั้น
รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เป็นผลมาจาก สสร. ได้ใช้การร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
เป็นเครื่องมือในการระดมความคิดความเห็นเป็นการใหญ่ ภายใต้สภาวะการณ์ที่ ความเห็นผิดยังครอบงำอยู่หนาแน่น ขณะนี้ที่ว่า “ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแล้ว” ทั้งๆ ที่ความจริงเป็น “การปกครองแบบเผด็จการ” และ “ระบอบเผด็จการรัฐสภา”
ผลการระดมความคิดเห็นของ สสร.นี้ ทำให้เกิดความคิดผิดที่เกิดจากความเห็นผิด ”ใหญ่โตมโหฬาร” เพราะความคิดย่อมเป็น”พลังอำนาจ”เสมอ ไม่ว่าจะเป็น ความคิดผิด และ ความคิดถูก ก็ตาม ถ้าความคิดนั้นอยู่ในคนหมู่มากก็ยิ่งมี พลังอำนาจมาก โดยเฉพาะความคิดจากความเห็นผิดที่ขัดแย้งตรงข้ามกัน จากกรณีที่มีความเคลื่อนไหวของประชาชนแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายขัดแย้งกัน เช่นที่กำลังมีบทบาทใหญ่โตอยู่ในขณะนี้นั้น นั้นคือผลอันเกิดจากการที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้มี “การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง”
ปัญหาการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีนี้ เป็นปัญหา หลักวิชา ไม่ใช่ปัญหาทฤษฎี หรือปัญหานโยบายธรรมดาๆ ดังนั้น ถ้าจะพิจารณาเพื่อให้มีการแก้ปัญหานี้ได้จริง จะต้องพิจารณาปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม แยกแยะปัญหาและพิจารณาปัญหาอย่างละเอียดสัมพันธ์กัน ปัญหาเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี เป็นปัญหาหลักวิชา จึงต้องแยกพิจารณาออกเป็น 2 ปัญหา คือ “ปัญหาการเลือกตั้ง” และ “ปัญหานายกรัฐมนตรี” อย่าเอามาปนกัน
ปัญหาการเลือกตั้ง อันเป็นหลักหนึ่งของ การปกครองแบบประชาธิปไตย (PRINCIPLE OF DEMOCRATIC GOVERNMENT) จึงเป็นปัญหา การปกครองแบบประชาธิปไตย (DEMOCRATIC GOVERNMENT) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ ปัญหานายกรัฐมนตรี
ปัญหานายกรัฐมนตรี อันเป็นปัญหาประมุขของการปกครอง ซึ่งขึ้นต่อประมุขของรัฐ(ประเทศ) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ ปัญหาการเลือกตั้ง
ถ้าเอา 2 ปัญหานี้มาปะปนกัน ก็จะผิดหลักวิชาการอย่างร้ายแรง และจะนำไปสู่การขัดแย้งรุนแรงถึงขนาดมิคสัญญีกลียุค.
อ่านเพิ่มเติมที่ลิงค์แนบนะครับ
https://www.facebook.com/notes/democracy-process/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4/2058003591098825/
#ปัญหาความเห็น
ปัญหาเป็นตายของโลก คือ ปัญหาความเห็น เรียกเป็นศัพท์บาลีว่า ปัญหา “ทิฏฐิ” เรียกเป็น ศัพท์สันสกฤตว่า ปัญหา “ทฤษฎี” เรียกเป็นศัพท์อังกฤษว่า “Theoretical Problem”
ปัญหาความเห็น ดูผิวเผินเป็นเรื่องเล็กน้อยมากในชีวิตของคนเรา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลดี ผลร้ายทั้งหลายในมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือประเทศชาติหรือโลกนั้น มีต้นเหตุมาจาก ความเห็น ถูก (Right Theory) หรือ ความเห็นผิด (Wrong Theory) ทั้งสิ้น
พระพุทธเจ้าทรงเป็นบุคคลแรกในโลกที่ทรงค้นพบบทบาทอันสำคัญเป็นเอกของ ความเห็น จึงได้ทรงบัญญัติ สัมมาทิฏฐิ ไว้เป็นข้อแรกของ มัชฌิมาปฏิปทา (Moderate) และเป็นองค์แรกของ มรรคมีองค์แปด
ข้อเท็จจริงพิสูจน์ให้เห็นอย่างแน่นอนแล้วว่า การปฏิบัติไปสู่ โมกษธรรม นั้น ถ้าปราศจาก ความควบคุมโดย สัมมาทิฏฐิ หรือที่เรียกใน ปฏิจจสมุปบาทธรรม ข้อแรกว่า “อวิชชา” (ความหลงผิด) เสียแล้ว ไม่ว่าจะมี เจตนาดีสักเพียงใด ไม่ว่าจะประกอบด้วย ความเพียรแก่กล้า สักปานใดก็ตาม ก็จะ ประสบกับ ความล้มเหลว เสียทั้งสิ้น เป็น “Good Intention Paves the Way to Hell”
https://www.facebook.com/Democracy.process/notes/