@~มาลาริน~** ข่าวดีของชาวนามาแล้วค่ะ..ไทย-บังกลาเทศเตรียมทำสัญญาซื้อขายข้าวนึ่ง1.5แสนตัน🌾🌾🌾🌾🌾

ไทย-บังกลาเทศเตรียมทำสัญญาซื้อขายข้าวนึ่ง1.5แสนตัน


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผย ไทย-บังกลาเทศ เตรียมทำสัญญาซื้อขายข้าวนึ่ง 150,000 ตัน คาดเริ่มส่งมอบธันวาคมนี้
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่กรมการค้าต่างประเทศได้เจรจาซื้อขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือ จีทูจี กับกระทรวงอาหารของบังกลาเทศนั้น ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กระทรวงอาหารบังกลาเทศมีหนังสือแจ้งว่า รัฐบาลบังกลาเทศได้อนุมัติการซื้อข้าวนึ่ง 5% จากไทย ปริมาณ 150,000 ตัน โดยขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างดำเนินกระบวนการภายในประเทศ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเสนอประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติการทำสัญญา

หลังจากนั้นจะเชิญผู้แทนรัฐบาลบังกลาเทศเดินทางเยือนไทยเพื่อลงนามในสัญญาต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มส่งมอบข้าวให้รัฐบาลบังกลาเทศได้ภายในเดือนธันวาคมนี้

และจากคำสั่งซื้อดังกล่าว จะช่วยรองรับผลผลิตข้าวฤดูใหม่ของไทยที่กำลังทยอยออกสู่ตลาด นับว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกที่จะกระตุ้นให้ราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรจะได้รับสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลดีต่อราคาข้าวไทยทั้งระบบ


http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=824767




มารู้จักข้าวนึ่งกันค่ะ...




ข้าวนึ่ง (parboiled rice) คือผลิตภัณฑ์จากข้าว (rice) ที่ได้จากการนำข้าวเปลือกมาแช่ในน้ำจนมีความชื้นประมาณ 30-40% แล้วนึ่งหรือต้มจนสุก จากนั้นจึงนำมาทำให้แห้ง (dehydration) แล้วจึงสีเอาเปลือกออก

การทำข้าวนึ่งเป็นการปรับปรุงคุณภาพการสี
ทำให้ข้าวหักน้อยลงและปรับปรุงคุณค่าทางโภชนาการของข้าว เพราะสารอาหารจากชั้นเปลือกจะซึมเข้าไปในเนื้อระหว่างการแช่ และ การนึ่ง ขจะทำให้ข้าวที่ได้มีสีเหลืองอ่อน



ระบบการผลิตข้าวนึ่งระดับอุตสาหกรรม

ที่มา: http://en.bishan.com.


กรรมวิธีการผลิตข้าวนึ่ง

การผลิตข้าวนึ่งทำได้ทั้งในระดับครัวเรือน จนถึงระดับอุตสาหกรรม โดยมีขั้นตอนที่สำคัญ ดังนี้

1. การแช่ (soaking หรือ steeping) นำข้าวเปลือก มาแช่ในน้ำให้มีความชื้นประมาณ 30-40% เพื่อให้แป้งอ่อนตัวลง น้ำที่แช่อาจเป็นน้ำเย็นหรือน้ำร้อนก็ได้ ระยะเวลาของการแช่ขึ้นอยู่กับน้ำ น้ำเย็นใช้เวลาแช่ 2-3 วัน น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เวลาการแช่ลดลง

2. การต้มหรือนึ่ง (steaming) นำข้าวเปลือกขึ้นจากขั้นตอนแรกมาต้มหรือนึ่งให้สุก เพื่อให้สตาร์ซ (starch) ภายในเมล็ดเกิดการเจลาติไนซ์ (gelatinization) เม็ดสตาร์ชขยายตัวสังเกตจากข้างนอกจะเห็นเปลือกเมล็ดข้าวปริออกเล็กน้อย


3. การทำให้แห้ง (dehydration) หลังจากต้มหรือนึ่งแล้วข้าวเปลือกจะถูกนำไปทำให้แห้ง ซึ่งอาจจะใช้ตากแดด (sun drying) หรือผ่านเครื่องอบแห้ง (dryer) การทำแห้งมีจุดประสงค์เพื่อลดความชิ้นให้เหลือ 12-14% ก่อนการนำไปสี


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

Reference

http://www.ricethailand.go.th/brrd/tech/m6_3_2.htm


ยินดีกับชาวนาและรัฐบาลด้วยค่ะ..ที่จะขายข้าวได้ในเร็วๆนี้


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่