
สวัสดีชาวพันทิบนะคะ ออกตัวก่อนเลยดีกว่าค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่มารีวิว ส่วนตัวเป็นคนชอบเที่ยวมากๆนะคะ จะไปไหน ไปยังไงก็ตามแต่เงินในกระเป๋าเลยค่ะ ไม่พูดเยอะดีกว่า เราไปเชียงใหม่ด้วยกันเลยค่ะ Go Go Go!!

ทริปนี้นะคะมันเริ่มจากว่าเราดูกระทู้ในพันทิบนี้แหละค่ะ นั่งรถไฟไปเชียงใหม่กัน เรียกว่าแบคแพคอ่ะเนอะ ดูละเกิดอยากไปแบบนี้ อีก2วันต่อมาน้าก็ส่งไลน์มาเอ้าา!! อันเดียวกันเลย ก็เริ่มวางแผนเดินทางค่ะ แต่บอกก่อนว่าทริปนี้อาจจะไม่ได้แบบลุยมากเพราะมีสว.ไปด้วยคือน้ากับแม่ค่ะ

ทริปนี้เราเดินทางกันด้วยรถไฟค่ะ ขบวนใหม่สายเหนืออุตราวิถี จะบอกว่ามันดีงามมากนะคะ รถไฟออก 18.10 น.และเราจะถึงเชียงใหม่กันเช้าพอดีค่ะ 07.15 น.

เราไปถึงค่อนข้างเร็วนะคะ พอจะมีเวลาถ่ายบรยากาศภายในหัวลำโพง จริงๆหัวลำโพงนี่เค้าก็มีเสน่ห์ของเค้านะคะ เคยได้ยินคนพูดว่านั่งรถไฟนี่คนตังค์น้อยเค้านั่งกัน เถียงใจขาดเลยค่ะ555แพงกว่าขึ้นเครื่องอีกนะ

เราเลือกที่จะซื้อข้าว น้ำ ขนมจากร้านแถวๆนั้น ขึ้นไปกินบนรถไฟนะคะ เพราะคิดว่าราคาน่าจะถูกกว่า ซึ่งก็จริงๆแหละค่ะ
และความเข้าใจของตู้เสบียงบนรถไฟจะมีอะไรให้กินเยอะ จริงๆผิดนะคะ ผิดยังไงเดี๋ยวค่อยตามไปดูกันค่ะ

พอใกล้เวลาเราก็ไปกันเลยค่ะ ขึ้นรถไฟกันค่ะ อ่อเราลืมบอกไป เราจองรถไฟนี่ผ่านเวบไซค์นะคะ และใครที่ต้องการจอง บอกก่อนเลยค่ะว่าต้องล่วงหน้านานนิดนึงนะคะ จองบนเวบไซค์แล้วชำระผ่านบัตรเครดิตได้เลยค่ะ เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาแล้วนะเห้ยยยย!! เดี๋ยวมาต่อนะคะ

มากันเลยค่ะ จะพาชมไปด้วยกันนะคะ นี่ค่ะหน้าตารถไฟ สำหรับเรา เราให้3ผ่านเลยค่ะ คืออาจจะไม่ได้สะดวก สบาย เหมือนเอารถไปเอง แต่เชื่อเถอะค่ะมันเหนื่อยน้อยกว่ามากกก

เราจองไว้4ที่นะคะ แม่ น้า เราและคนที่คุณก็รู้ว่าใคร5555 ได้ที่นั่งตรงกันเลยค่ะ ก็จะเป็นเตียงล่าง2เตียงบน2ค่ะ

เราขึ้นมาเร็วนะคะ คนยังไม่ค่อยมี เลยพอจะถ่ายอะไรๆมาได้บ้าง ความสะดวกสบายที่มีให้คือ ประตูของแต่ละตู้นะคะเค้าจะมีที่กดค่ะ และแต่ละตู้จะมีจอให้เราดูนะคะว่าตอนนี้รถไฟเรามาถึงไหนกันแล้ว และถ้าจะเข้าห้องน้ำก็ดูได้จากตรงนี้เลยค่ะว่าห้องน้ำว่างมั้ย

แต่ละที่นั่งนะคะ จะมีไฟส่องสว่าง และปลั๊กค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยค่ะ ใครจะเอาไอแพด ไอโฟน หนังมาดูแก้เบื่อก็ได้เล้ยย

พอรถไฟออกไปได้สักพักนะคะ เราก็ไปตู้เสบียงกันดีกว่าค่ะ จริงๆเราซื้อข้าวมากินนะคะ แต่ขอมาดูว่ามีอะไรน่ากินบ้าง

ภายในตู้เสบียงก็จะมีโต๊ะอยู่ประมาณ10โต๊ะค่ะ มีที่ขายอาหาร ขายน้ำ อยู่มุมนึง

แต่ๆๆๆใครคิดจะมาฝากท้องแบบอิ่มแปร้นี่คิดผิดค่ะ อาหารบนตู้เสบียงมีแค่ อาหารเวฟนะคะ คือมีข้าวต้ม เกี๊ยวกุ้ง และข้าวหน้าเป็ดอะไรสักอย่าง นอกนั้นก็แซนวิชค่ะ ขนมคบเคี้ยวค่ะ เราเตยขึ้นรถไฟบ่อยนะคะตอนเด็กๆตู้เสบียงคือมีข้าวแบบตามสั่งเลยอ่ะค่ะ แต่อันนี้มีแค่นี้ แต่ก็ยังค่ะ ยังไม่วายสั่งมากิน5555

ไปค่ะกลับไปที่ตู้ของเราดีกว่า แต่ละตู้จะมีพนักงานประจำอยู่1คนนะคะ เรียกว่าบริการดีเลยค่ะ ช่วยยกเป๋าตอนขึ้นและลง ปูที่นอน มีปัญหาขาดเหลืออะไร ต้องการปูที่นอนตอนไหนก็แจ้งพี่เค้าได้เลยค่ะ

ได้เวลาละคะ นั่งๆกันไปสักพัก แม่กับน้าเริ่มไม่มีอะไรจะทำค่ะ เลยเรียกให้พี่เค้ามาปูที่นอนให้ค่ะ

และแน่นอนค่ะ สว.นอนข้างล่าง เรากับโวเดอร์มอนอนข้างบน กลางคืนก็ปีนขึ้นปีนลงปันเพลินเลยค่ะ ลืมพูดถึงห้องน้ำเผื่อใครที่ห่วงเรื่องความสะอาด ไม่ต้องห่วงนะคะ ค่อนข้างสะอาดเลยทีเดียวค่ะ

เรามาถึงเชียงใหม่กันตอน7โมงนิดๆค่ะ ถือว่าเร็วเลยละคะ นอนบนรถไฟนี่ก็ไม่ได้สบายเหมือนนอนที่บ้านนะคะ แต่สำหรับเราก็หลับยาวเลยค่ะมาตื่นอีกทีตอนตี3กว่าๆ เข้าห้องน้ำ ละก็หลับต่อตื่นอีกทีก็เกือบสว่างละคะ

เราเช่ารถเอาไว้นะคะ ราคาก็วันละ1000บวกประกันเพิ่มวันละ100ค่ะ ได้รถแล้วเราก็ไปกันเล้ยย

เช้านี้แพลนของเราคือเราจะไปกินข้าวกันที่ร้านโจ๊กสมเพช แล้วไปตลาดวโรรสค่ะหาซื้อน้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว ข้าวเหนียวไปกินบนดอยกันค่ะ กินข้าว แวะตลาดซื้อของเสร็จเราว่ามันก็ยังเร็วเกินไปที่จะขึ้นไปเชียวดาว อ่อลืมบอกค่ะแพลนของเราคืนแรกเราจะนอนที่บ้านสายหมอกเชียงดาวนะคะ กลับมาที่ทริปของเรากันค่ะ เมื่อเร็วเกินไปเราเลยไปม่อนแจ่ม เพราะเส้นทางเดียวกับเชียวดาว แค่ชะแวบไปม่อนแจ่มแปปนึงเนาะ ก่อนขึ้นไปม่อนแจ่ม เรากับโวเดอร์มอร์แวะกันที่จังเกิ้ลโคลสเตอร์ค่ะ ที่นี่จะมีโคลสเตอร์กับซิปไลน์นะคะ ซิปไลน์นี่มี2ราคาค่ะ แบบ900จะมี12ฐาน กับ 2200จะมี34ฐานค่ะ เล่นซิปไลน์นี่เราจะได้เล่นโคลสเตอร์ฟรี1รอบนะคะ แต่ถ้าใครเล่นโคลสเตอร์อย่างเดียวก็คนละ150บาทค่ะ

คณะสูงวัยอุ่นใจทัวร์ของเราขึ้นมาถึงม่อนแจ่มกันตอนเกือบเที่ยงค่ะ อากาศวันนี้ค่อนข้างร้อนค่ะ แต่ก็เย็นๆนิดนึง งงมั้ยคะ คือมันก็ร้อนแดดค่ะ แต่อากาศมันก็เย็นๆ ไม่ถึงกับร้อนมาก ปกติเราจะขึ้นเหนือทุกปีแต่เราจะไปช่วงเดือนมกราค่ะ พอมาช่วงนี้ถึงไ้ด้รู้ว่าดอกไม้จะยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ สตอเบอรี่ยังไม่เยอะค่ะ ราคาก็อาจจะแพงกว่าปกตินิดนึง

มากันเกือบเที่ยง สว.ค่ะเค้าก็จะต้องกินข้าวกันเป็นเวลานิดนึง จัดน้ำเงี๊ยวกันไปคนละชาม ก็ตกชามละ60บาทค่ะ พอดีตรงซุ้มๆไม่ว่างเลย เดินขึ้นมาหน่อยนะคะ วิวดีเหมือนกัน

เราพาคณะสูงวัยถ่ายรูปจนพอใจ ก็ได้เวลาไปกันต่อแล้วค่ะ ไปค่ะ เราจะพาไปเชียงดาว ไปกันเล้ยยย วาร์ปมาถึงทางขึ้นอุทยานเลยนะคะ ตรงนี้เพื่อนๆจะต้องลงมาจ่ายค่าธรรมเนียมก่อนนะคะ คนละ20บาท รถก็คันละ30ค่ะ จ่ายละไปต่อได้ค่ะ ต่อจากตรงนี้เส้นทางจะค่อนข้างชันและแคบนะคะ ควรขับกันด้วยความระมัดระวังค่ะ อย่าคิดว่าเราขับรถเก่งนะคะ พ่อเคยบอกว่า คนขับรถเก่งตายไปหมดแล้วค่ะ5555

ถึงแล้วววววเราพาทุกคนมาถึงบ้านสายหมอกแล้วค่ะ กว่าจะมาถึงนี่ก็สว.ตื่นเต้นกับเส้นทางมากก ให้เราบีบแตรเป็นระยะๆพอถึงช่วงโค้งหักศอก ไปค่ะไปดูวิวที่เชียงดาวกัน

ไปถึงเราก็เก็บของเข้าเต๊นท์เสร็จแล้วก็ออกมาเดินเล่นรอบๆกันค่ะ เราไม่ได้ถ่ายในเต๊นท์มาให้ดูนะคะ ลืมค่ะ แต่ก็มีหมอนผ้าห่มให้ค่ะไม่ต้องห่วง รับรองว่าอุ่นเนอะ ที่นี่จะคิดค่าเข้าพักเป็นคนนะคะ คนละ500อาหาร2มื้อเช้ากับเย็นค่ะ ไปค่ะไปเดินเล่นกัน

ข้างบนนี้มีหมูกะทะให้กินนะคะ ตามไปทุกดอยค่ะ5555ราคาก็ที่ถามๆมาจะอยู่ที่399-499ค่ะ ส่งให้ถึงหน้าเต๊นท์ เดินนานเริ่มหิวน้ำ พักกินน้ำแปปนะคะ กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้กินน้ำจากถุงแบบนี้ มันรู้สึกมีความสุขแบบบอกไม่ถูกเลยค่ะ
เดินเล่นต่อสักพักก็ได้เวลาที่เค้าจะให้เอาอาหารเย็นมาให้แล้วค่ะ กลับที่พักไปกินข้าวกันดีกว่า

จะบอกว่าอาหารที่นี่ค่อนไปทางจืดหรือจืดมากนะคะ แต่พอดีว่าเราแวะซื้อน้ำพริกหนุ่มแคปหมูมาเลยสบายหน่อย แต่วิวแบบนี้กินอะไรก็อร่อยแล้วละคะจริงมั้ย

หลังจากอิ่มกับมื้อเย็นไปแล้วที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้ทำนะคะ นอกจากนอนดูท้องฟ้า นอนดูดาว จะบอกว่าที่นี่เหมาะมากกับการดูดาว คือชัดมาก เรานี่เอาผ้าห่มมานอนดูดาวอยู่จนดึกเลยค่ะไม่อยากจะหลับเลย โอกาสแบบนี้คนในเมืองไม่ได้เห็นบ่อยๆต้องรีบตักตวงนิดนึงค่ะ วันนี้ขอไปนอนก่อนแล้วเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ บายยย

เช้านี้เราตื่นมาประมาณ6โมงกว่าๆ หวังจะดูหมอกหนาๆ แต่ต้องผิดหวังมีแค่ หมอกจางๆ และควัน คล้ายกันกันจนบางทีไม่อาจรู้ พอ!!!

พอเราตื่น เค้าจะเอา โอวัลตินมาให้เราค่ะ แล้วตามด้วยข้าวต้มหมู มาเป็นขันโตกเลยค่ะ เราติดนิดนึงกับที่นี่ เรามาที่นี่เป็นครั้งที่2นะคะ ครั้งแรกที่เรามารสชาติอาหารทำได้ดีกว่านี้น๊าา กินอาหารเช้าเสร็จ เก็บของเรียบร้อย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอาบน้ำ5555 ที่บ้านไม่เคร่งค่ะ ก็ได้เวลาบอกลาบ้านสายหมอกแล้ว แต่เราจะพบกันใหม่แน่นอน

เราออกจากบ้านสายหมอก ตอน9โมงกว่าๆ ขับมาทางเดิมผ่านร้านกาแฟริมน้ำ แต่เราไม่ได้แวะเหมือนทุกครั้งเพราะจุดหมายในการกินกาแฟวันนี้เราอยู่ที่ร้านดังแห่งแม่กำปอง ขับมาเรื่อยๆไม่ได้รีบร้อนอะไร แวะล้างหน้าตา เข้าถึงตัวหมู่บ้านแม่กำปองก็ประมาณเกือบเที่ยงค่ะ

เราจองบ้านสำราญชนไว้ ที่นี่จะคิดค่าเข้าพักคนละ700พร้อมอาหารเช้า-เย็น ห้องที่เราได้เป็นห้องแบบ4คน ไม่มีห้องน้ำในตัว เดี๋ยวเราค่อยเข้าที่พักกันค่ะ ขับเข้ามาในตัวหมู่บ้านผ่านร้านฮิมห้วย ซ้ายมือจะมีวัด จอดรถไว้แล้วลงมาเดินเล่นกันก่อน


บ้านแม่กำปองวันที่เราไป คนยังไม่เยอะมาก แต่ก็ไม่น้อย5555 เดินผ่านร้านนี้ขายไข่ป่ามจะลองกินแต่พี่คนขายบอกยังไม่สุกต้องรอ เลยผ่านไปก่อน ได้เวลามื้อเที่ยงของสว.พอดี เราเลือกเข้าร้านข้าวซอยกลอยใจตรงข้ามบ้านฮิมห้วย กินข้าวซอยไก่กันไปคนละชาม และหมูย่างกับส้มตำ ตามเคย

กินกันจนอิ่มแล้วก็โทรหาที่พัก ได้ความว่าขับเลยวัดที่จอดไป300เมตร อยู่ขวามือ ไปถึงหาที่จอดรถแทบจะไม่มี เพราะเค้าไม่มีที่จอดให้ค่ะ ต้องจอดแอบๆ แต่เราโชคดี รถของบ้านพักเค้าออกพอดี เลยได้จอดแอบเข้ามาหน่อย ที่นี่ลักษณะเป็นบ้านไม้เก่าๆหน่อย แต่ก็คลาสสิคดี หลังบ้านมีน้ำตกน้อยๆไหลผ่าน



ตัวบ้านจะเล่นระดับหน่อยๆ มันไม่เชิงเป็นบ้าน2ชั้นน่ะค่ะ
ลืมถ่ายในห้องนอนมาให้ดู ถ้ามาคนเดียวก็แอบๆกลัวเหมือนกัน
[CR] เมื่อแม่อยากมา น้าก็อยากไป ฉันก็เลยพานั่งรถไฟ ไปๆๆเชียงใหม่กัน
ทริปนี้นะคะมันเริ่มจากว่าเราดูกระทู้ในพันทิบนี้แหละค่ะ นั่งรถไฟไปเชียงใหม่กัน เรียกว่าแบคแพคอ่ะเนอะ ดูละเกิดอยากไปแบบนี้ อีก2วันต่อมาน้าก็ส่งไลน์มาเอ้าา!! อันเดียวกันเลย ก็เริ่มวางแผนเดินทางค่ะ แต่บอกก่อนว่าทริปนี้อาจจะไม่ได้แบบลุยมากเพราะมีสว.ไปด้วยคือน้ากับแม่ค่ะ
และความเข้าใจของตู้เสบียงบนรถไฟจะมีอะไรให้กินเยอะ จริงๆผิดนะคะ ผิดยังไงเดี๋ยวค่อยตามไปดูกันค่ะ
เดินเล่นต่อสักพักก็ได้เวลาที่เค้าจะให้เอาอาหารเย็นมาให้แล้วค่ะ กลับที่พักไปกินข้าวกันดีกว่า
ลืมถ่ายในห้องนอนมาให้ดู ถ้ามาคนเดียวก็แอบๆกลัวเหมือนกัน