เนื่องจากเดือนที่ผ่านเป็นเดือนที่รวยที่สุด
เพราะ hr โอนเงินเดือนเกินมา 20 บาท ก็เลยชอปปิ้งแบบหน้ามืด อยากได้อะไรก็หยิบๆๆ ให้หมดเลยค่ะ 5555
ถือว่าเป็นจังหวะดี เพราะปลายเดือนนี้เราแพลนจะไปเที่ยวทะเล
ด้วยความที่อยากทำตัวคูลๆ ผิวแทนๆ ไปอาบแดดทะเลใต้ซักหน่อย
เลยไปหยิบโลชันผิวแทนมาค่ะคุณขา
ซื้อเสร็จ ตอนนั่งรถกลับบ้านภาพฝันคือนอนอาบแดดตอนกลางวัน (แดดก็ต้องตอนกลางวันอยู่แล้วป่ะ) ในชุดบิกินิพร้อมอวดผิวสีแทน!
ว๊ายตายแล้ว แค่คิดก็เขินแรงแล้วค่ะ
แต่ฝันต้องสลาย พอกลับถึงบ้านกลับพบว่าสิ่งที่ซื้อมามันคือโลชั่นทาผิวอ่ะ!
งานนี้ หน้าแตกไปเลยดิพวก!

แต่ไม่เป็นไรค่ะ พื้นฐานเป็นคนคิดบวก เพราะหารไม่เก่ง คูณก็ไม่ถนัด ;p
ยังไงโลชั่นกระปุกนี้ก็ได้ใช้ในหน้าหนาวนี้อยู่ดี
ที่ซื้อมาก็เอามารักษาหน้าแตกแทนแล้วกันค่า 5555
ปกติเราก็ใช้ Vaseline อยุ่แล้ว
ด้วยความที่กลิ่นหอม ไม่ระคายผิว เนื้อครีมไม่เหนียวเหนอะหนะ เราก็เลยตกเป็นสาวกโลชันยี่ห้อนี้
(ถึงกับต้องพกต่างประเทศด้วยเลย และเมื่อไปถึงกลับต้องพบว่าที่อเมริกาก็มีขายย่ะ หล่อนพกไปทำไมมมม๊!)
โอเค! วกกลับมาที่ Vaseline Cocoa glow ขวดนี้กันต่อค่ะ
ถึงเราจะไม่ได้ไปต่อที่ทะเลใต้ ไปอาบแดดและผึ่งลมด้วยกันเหมือนที่ฝันเอาไว้
ช่วงนี้กรุงเทพฯ ก็หนาว เลยถือโอกาสเอามาใช้ช่วงนี้เเทน
และเพื่อไม่ให้หน้าแตกแบบเสียเที่ยวก็เลยจับมารีวิวซะเลยนี่!
มาเริ่มกันที่กลิ่นและเนื้อโลชั่นก่อนนะคะ เนื้อโลชั่นจะมีสีเบส นิ้ดๆ

กลิ่นโกโก้กลิ่นใหม่นี้ทาแล้วตัวหอมมากก
กลิ่นหอมแบบ cocoa butter ตอนที่กดครีมออกมาจะทาขนมปังกินแล้วเนี่ย
หอมน่ากินจนจะอดใจไม่ไหว 55555

ส่วนเนื้อครีมตอนสัมผัสที่ผิวก็ไม่ผิดหวังเลย และด้วยความที่เราผิวแทนและผิวแห้ง
หลังจากทาแล้วพบว่าช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและโกลขึ้นค่ะ

ทาแล้วไม่ต้องไปอวดผิวไกลถึงทะเลใต้หรอกค่ะ
ใส่สายเดี่ยวเดินมันทั่วกรุงฯ หรือจะไปเที่ยวสายใต้แทนก็ยังได้เลย

จากที่ได้ทำการทดลองมาตั้งแต่วันที่ไปผลาญเงินเดือนมา
(นี่ถ้าแม่รุ้แม่ล๊อคอินเข้ามาด่าเลยนะเนี่ย 555)
ก็สัมผัสได้ว่ามันช่วยในเรื่องของการบำรุงผิว ให้ผิวพรรณดูมีน้ำมีนวลและเปล่งประกาย

ผิวเนียนขึ้น ทาแล้วไม่เหนอะเหนาะเพราะเนื้อโลชันซึมซาบสู่ผิวเร็วดีค่ะ
นั่นแหละค่ะ ถึงจะหน้าแตกแต่หน้าหนาวนี้ขาไม่ลายน่องไม่แตกนะจ้ะ

แต่ถ้าจะดีกว่านี้ ขอประท้วงให้วาสลีนนำเข้าครีมผิวแทนซักทีนะคะ :p
คิคิ ไปทะเลแล้วค่ะ <3
[CR] หนาวนี้ทา Vaseline Cocoa glow กันหน้าแตกหรือว่าหน้าแหกหมอไม่รับเย็บ ก็ได้เหมือนกันนะคะ :p
เนื่องจากเดือนที่ผ่านเป็นเดือนที่รวยที่สุด
เพราะ hr โอนเงินเดือนเกินมา 20 บาท ก็เลยชอปปิ้งแบบหน้ามืด อยากได้อะไรก็หยิบๆๆ ให้หมดเลยค่ะ 5555
ถือว่าเป็นจังหวะดี เพราะปลายเดือนนี้เราแพลนจะไปเที่ยวทะเล
ด้วยความที่อยากทำตัวคูลๆ ผิวแทนๆ ไปอาบแดดทะเลใต้ซักหน่อย
เลยไปหยิบโลชันผิวแทนมาค่ะคุณขา
ซื้อเสร็จ ตอนนั่งรถกลับบ้านภาพฝันคือนอนอาบแดดตอนกลางวัน (แดดก็ต้องตอนกลางวันอยู่แล้วป่ะ) ในชุดบิกินิพร้อมอวดผิวสีแทน!
ว๊ายตายแล้ว แค่คิดก็เขินแรงแล้วค่ะ
แต่ฝันต้องสลาย พอกลับถึงบ้านกลับพบว่าสิ่งที่ซื้อมามันคือโลชั่นทาผิวอ่ะ!
งานนี้ หน้าแตกไปเลยดิพวก!
แต่ไม่เป็นไรค่ะ พื้นฐานเป็นคนคิดบวก เพราะหารไม่เก่ง คูณก็ไม่ถนัด ;p
ยังไงโลชั่นกระปุกนี้ก็ได้ใช้ในหน้าหนาวนี้อยู่ดี
ที่ซื้อมาก็เอามารักษาหน้าแตกแทนแล้วกันค่า 5555
ปกติเราก็ใช้ Vaseline อยุ่แล้ว
ด้วยความที่กลิ่นหอม ไม่ระคายผิว เนื้อครีมไม่เหนียวเหนอะหนะ เราก็เลยตกเป็นสาวกโลชันยี่ห้อนี้
(ถึงกับต้องพกต่างประเทศด้วยเลย และเมื่อไปถึงกลับต้องพบว่าที่อเมริกาก็มีขายย่ะ หล่อนพกไปทำไมมมม๊!)
โอเค! วกกลับมาที่ Vaseline Cocoa glow ขวดนี้กันต่อค่ะ
ถึงเราจะไม่ได้ไปต่อที่ทะเลใต้ ไปอาบแดดและผึ่งลมด้วยกันเหมือนที่ฝันเอาไว้
ช่วงนี้กรุงเทพฯ ก็หนาว เลยถือโอกาสเอามาใช้ช่วงนี้เเทน
และเพื่อไม่ให้หน้าแตกแบบเสียเที่ยวก็เลยจับมารีวิวซะเลยนี่!
มาเริ่มกันที่กลิ่นและเนื้อโลชั่นก่อนนะคะ เนื้อโลชั่นจะมีสีเบส นิ้ดๆ
กลิ่นโกโก้กลิ่นใหม่นี้ทาแล้วตัวหอมมากก
กลิ่นหอมแบบ cocoa butter ตอนที่กดครีมออกมาจะทาขนมปังกินแล้วเนี่ย
หอมน่ากินจนจะอดใจไม่ไหว 55555
ส่วนเนื้อครีมตอนสัมผัสที่ผิวก็ไม่ผิดหวังเลย และด้วยความที่เราผิวแทนและผิวแห้ง
หลังจากทาแล้วพบว่าช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและโกลขึ้นค่ะ
ทาแล้วไม่ต้องไปอวดผิวไกลถึงทะเลใต้หรอกค่ะ
ใส่สายเดี่ยวเดินมันทั่วกรุงฯ หรือจะไปเที่ยวสายใต้แทนก็ยังได้เลย
จากที่ได้ทำการทดลองมาตั้งแต่วันที่ไปผลาญเงินเดือนมา
(นี่ถ้าแม่รุ้แม่ล๊อคอินเข้ามาด่าเลยนะเนี่ย 555)
ก็สัมผัสได้ว่ามันช่วยในเรื่องของการบำรุงผิว ให้ผิวพรรณดูมีน้ำมีนวลและเปล่งประกาย
ผิวเนียนขึ้น ทาแล้วไม่เหนอะเหนาะเพราะเนื้อโลชันซึมซาบสู่ผิวเร็วดีค่ะ
นั่นแหละค่ะ ถึงจะหน้าแตกแต่หน้าหนาวนี้ขาไม่ลายน่องไม่แตกนะจ้ะ
แต่ถ้าจะดีกว่านี้ ขอประท้วงให้วาสลีนนำเข้าครีมผิวแทนซักทีนะคะ :p
คิคิ ไปทะเลแล้วค่ะ <3