สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
1 คนไทยเอาจริงจัดว่าฟุ่มเฟือยนะกินอาหารนอกบ้านเป็นหลัก ดูอย่างญี่ปุ่นแม้รายได้ดีกว่าคนไทยแต่ก็ยังมีไม่น้อยที่ทำอาหารเองแล้วห่อไปกินตอนเที่ยง พูดไปแล้วคนไทยก็ต้องเปลี่ยนแปลงนิสัยด้วยแหละว่าต้องเน้นการทำอาหารกินเองเพิ่มขึ้นไม่ใช่เอาแต่ซื้อ พ่อค้าแม่ค้าจับจุดได้ว่าคนไทยไม่ค่อยทำอาหารเองจึงทำอาหารมาขายราคาสูงได้แบบไม่กลัวขายไม่ออก ถ้าคนไทยหันมาเน้นทำอาหารเองมากๆพ่อค้าแม่ค้าขายไม่ดีสุดท้ายราคาก็ต้องลดลง
2 รัฐบาลไทยทุกสมัยมีความเชื่อฝังหัวว่าเงินเฟ้ออ่อนๆจะดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าราคาสินค้าจะคงเดิมได้นาน เงินเฟ้อทุกปีราคามันก็ต้องปรับตามเช่นกัน
3 ปัญหาอย่างหนึ่งคือค่าครองชีพมันพุ่งไปแต่รัฐบาลไม่ค่อยอยากปรับค่าแรงตามค่าครองชีพแต่ต้องการคงค่าแรงให้ต่ำไว้เพื่อดึงดูดนักลงทุน พอค่าแรงไม่สัมพันธ์กับค่าครองชีพคนไทยก็ไม่ค่อยอยากจะทำงานแรงงานเพราะไม่คุ้มค่า พอแรงงานคนไทยขาดแคลนแทนที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานและการผลิตก็ยังไปดึงเอาแรงงานต่างด้าวมาทำแทนกดค่าแรงเอาไว้ต่ำต่อไป ปกติเมื่อค่าแรงสูงทำให้ราคาสินค้าสูงตามผู้ผลิตก็ต้องพัฒนาตนเองไปผลิตสินค้าคุณภาพดีขึ้นให้สมกับราคาเพื่อสู้กับสินค้าอื่นในตลาด แต่พอบรรดาผู้ผลิตมีแรงงานราคาถูกมาเรื่อยๆสุดท้ายก็ไม่เกิดการพัฒนาตนเองไป
4 การที่บรรดาร้านอาหารและของกินข้างทางขายของราคาขนาดนี้ในทางกลับกันก็ชัดเจนว่ารายได้ของพ่อค้าแม่ค้าจริงๆนั้นสูงมาก แต่พ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ไม่เคยต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพราะไม่อยู่ในระบบ ปัจจุบันภาครัฐจึงพยายามดึงพวกร้านเหล่านี้เข้ามาอยู่ในระบบให้ได้เพื่อสะท้อนเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศรวมไปถึงรายได้ของประเทศชาติที่จะเพิ่มขึ้น นโยบายที่เห็นชัดเจนในปัจจุบันคือการพยายามเปลี่ยนจากการใช้เงินสดมาเป็น E-Money ซึ่งทำให้ภาครัฐสามารถตรวจสอบรายได้ของพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ตามจริงได้จะมาอ้างว่าหาเช้ากินค่ำรายได้นิดเดียวไม่จ่ายภาษีไม่ได้
2 รัฐบาลไทยทุกสมัยมีความเชื่อฝังหัวว่าเงินเฟ้ออ่อนๆจะดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าราคาสินค้าจะคงเดิมได้นาน เงินเฟ้อทุกปีราคามันก็ต้องปรับตามเช่นกัน
3 ปัญหาอย่างหนึ่งคือค่าครองชีพมันพุ่งไปแต่รัฐบาลไม่ค่อยอยากปรับค่าแรงตามค่าครองชีพแต่ต้องการคงค่าแรงให้ต่ำไว้เพื่อดึงดูดนักลงทุน พอค่าแรงไม่สัมพันธ์กับค่าครองชีพคนไทยก็ไม่ค่อยอยากจะทำงานแรงงานเพราะไม่คุ้มค่า พอแรงงานคนไทยขาดแคลนแทนที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานและการผลิตก็ยังไปดึงเอาแรงงานต่างด้าวมาทำแทนกดค่าแรงเอาไว้ต่ำต่อไป ปกติเมื่อค่าแรงสูงทำให้ราคาสินค้าสูงตามผู้ผลิตก็ต้องพัฒนาตนเองไปผลิตสินค้าคุณภาพดีขึ้นให้สมกับราคาเพื่อสู้กับสินค้าอื่นในตลาด แต่พอบรรดาผู้ผลิตมีแรงงานราคาถูกมาเรื่อยๆสุดท้ายก็ไม่เกิดการพัฒนาตนเองไป
4 การที่บรรดาร้านอาหารและของกินข้างทางขายของราคาขนาดนี้ในทางกลับกันก็ชัดเจนว่ารายได้ของพ่อค้าแม่ค้าจริงๆนั้นสูงมาก แต่พ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ไม่เคยต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพราะไม่อยู่ในระบบ ปัจจุบันภาครัฐจึงพยายามดึงพวกร้านเหล่านี้เข้ามาอยู่ในระบบให้ได้เพื่อสะท้อนเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศรวมไปถึงรายได้ของประเทศชาติที่จะเพิ่มขึ้น นโยบายที่เห็นชัดเจนในปัจจุบันคือการพยายามเปลี่ยนจากการใช้เงินสดมาเป็น E-Money ซึ่งทำให้ภาครัฐสามารถตรวจสอบรายได้ของพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ตามจริงได้จะมาอ้างว่าหาเช้ากินค่ำรายได้นิดเดียวไม่จ่ายภาษีไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 17
ความจน-รวย มันเป็นเรื่องสัมพัทธ์ขึ้นกับจิตใจของเรานะ ตอนนี้มันไม่สมดุลกันใช่ไหม ระหว่าง ความต้องการกับรายรับปัจจุบัน
1 เลือกที่จะเรียนรู้ทักษะต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มคุณค่าให้ตนเองจนได้รายได้สูงขึ้นๆไปถึงความอยากเป็น ปัจจุบันมีคอร์สออนไลน์จำนวนมากเรียนได้ตลอดชีวิตเลยครับ คอร์สฟรีๆ ก็มีมากมาย ทำให้นานไปเราจะได้เงินเดือนมากขึ้นๆ จนซื้อหาข้างของได้โดยกังวลลดลง
2 ถ้าไม่ชอบเรียนรู้ บางทีเราก็ไม่อยากเรียนไรเยอะๆ ก็มีอีกทางนะ ต้องเลือกที่จะลดความอยากของตนลง และใช้ชีวิตให้น้อยกว่ารายได้แทนครับ เลือกทางไหนชีวิตก็ดีขึ้นนะครับ เพราะอย่างเรื่องกิน ทานอะไรหวานๆ เยอะๆ ก็ไม่ได้ดีกับสุขภาพนะ
โดยส่วนตัวผมทำทั้งสองทางมาเป็นสิบปีแล้วครับ ดังนั้นความรู้สึกเป็นสุขจากการรู้สึกไม่ขาดแคลน(แบบสัมพัทธ์)มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปตามเวลา ยิ่งนานก็จะยิ่งมีสินทรัพย์มากขึ้นโดยที่ความต้องการใช้จ่ายเท่าเดิมหรือลดลง ความต้องการในชีวิตน้อยลง และ รายรับยังเพิ่มขึ้น ๆ ชีวิตมันจสบายขึ้นนะ จะเงินเฟ้อของแพงไปอีกเท่าไหร่ (ซึ่งจริงๆ 3-4 ปีนี้มันไม่ได้เฟ้อเยอะแยะนะ) ก็จะไม่กระทบเรามากนักหรอกครับ
แต่คนส่วนใหญ่ ไม่ทำทั้งสองทางน่ะสิ เอาแต่โทษรัฐ โทษโชคชะตา โทษบริษัท โทษราคาของ มันก็จะทุกข์(ที่ใจของเขาเอง) กรณีเราถ้าเพิ่งทำงานไม่นาน แนะนำให้ใช้เวลาช่วงวัยทำงานตอนต้น เรียนรู้สิ่งใหม่ให้เยอะๆ ขยันขันแข็ง ใช้จ่ายให้น้อยกว่ารายรับ ชีวิตก็จะดีขึ้นเรื่อยๆไปตามเวลาเองอ่ะครับ
1 เลือกที่จะเรียนรู้ทักษะต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มคุณค่าให้ตนเองจนได้รายได้สูงขึ้นๆไปถึงความอยากเป็น ปัจจุบันมีคอร์สออนไลน์จำนวนมากเรียนได้ตลอดชีวิตเลยครับ คอร์สฟรีๆ ก็มีมากมาย ทำให้นานไปเราจะได้เงินเดือนมากขึ้นๆ จนซื้อหาข้างของได้โดยกังวลลดลง
2 ถ้าไม่ชอบเรียนรู้ บางทีเราก็ไม่อยากเรียนไรเยอะๆ ก็มีอีกทางนะ ต้องเลือกที่จะลดความอยากของตนลง และใช้ชีวิตให้น้อยกว่ารายได้แทนครับ เลือกทางไหนชีวิตก็ดีขึ้นนะครับ เพราะอย่างเรื่องกิน ทานอะไรหวานๆ เยอะๆ ก็ไม่ได้ดีกับสุขภาพนะ
โดยส่วนตัวผมทำทั้งสองทางมาเป็นสิบปีแล้วครับ ดังนั้นความรู้สึกเป็นสุขจากการรู้สึกไม่ขาดแคลน(แบบสัมพัทธ์)มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปตามเวลา ยิ่งนานก็จะยิ่งมีสินทรัพย์มากขึ้นโดยที่ความต้องการใช้จ่ายเท่าเดิมหรือลดลง ความต้องการในชีวิตน้อยลง และ รายรับยังเพิ่มขึ้น ๆ ชีวิตมันจสบายขึ้นนะ จะเงินเฟ้อของแพงไปอีกเท่าไหร่ (ซึ่งจริงๆ 3-4 ปีนี้มันไม่ได้เฟ้อเยอะแยะนะ) ก็จะไม่กระทบเรามากนักหรอกครับ
แต่คนส่วนใหญ่ ไม่ทำทั้งสองทางน่ะสิ เอาแต่โทษรัฐ โทษโชคชะตา โทษบริษัท โทษราคาของ มันก็จะทุกข์(ที่ใจของเขาเอง) กรณีเราถ้าเพิ่งทำงานไม่นาน แนะนำให้ใช้เวลาช่วงวัยทำงานตอนต้น เรียนรู้สิ่งใหม่ให้เยอะๆ ขยันขันแข็ง ใช้จ่ายให้น้อยกว่ารายรับ ชีวิตก็จะดีขึ้นเรื่อยๆไปตามเวลาเองอ่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
What!! ทำไมปัจจุบันค่าครองชีพสูงจัง อะไรๆก็ดูแพงไปหมด...?
- อาหารตามสั่ง มาตราฐานที่เห็นทั่วไปราคา ถูกสุดก็ 30 บาท(ซะส่วนน้อยแทบจะไม่มี) ส่วนใหญ่ที่เห็นก็ 40 บาท อัพล่ะ ได้น้อยอีกตะหากไม่อิ่มเลย
- ก๋วยเตี๋ยวทั่วไปก็ 40 บาท พิเศษ 50 ทั้งๆที่ต้นทุนมาไม่กี่ตังแต่ยังจะขายแพงอีกก
- ขนมข้างทาง เดี๋ยวนี้ก็แพงใช่ย่อย อย่างเครป 3 ไส้ 40 บาท บ้าไปแล้วว กินข้าวได้มื้อหนึ่งเรยนะนั่น แต่ก่อน 3 ไส้ 20 บาทเอง
- ผลไม้ชิ้นล่ะ 20 บาท ขนมครกกล่องล่ะ 25 น้ำเต้าหู้ใส่เครื่อง 15 โตเกียวชิ้นล่ะ 10 ซื้อหลายๆอย่างรวมกันก็หมดเป็นร้อยล่ะ
- ชานมไข่มุขก็เช่นกัน เป็นอะไรที่แพงมาก แก้วล่ะ 30 ใส่ไข่มุกอีกก็ 35 ราคาเกือบๆข้าวจานหนึ่งเรย
- ค่ารถอีก เมล์แดง 6.50 เมล์น้ำเงิน 9 รถแอร์คิดตามระยะทาง ค่าเรื่องข้ามฟาก 4 บาท นั้งรถหลายๆต่อ ทั้งไปล่ะกลับ อย่ามองข้ามรวมๆแล้วเกือบร้อย
สรุปคือ เวลาออกไปข้างนอกทีไรใช้แบบประหยัดสุดๆก็ 200 แทบจะไม่ได้ใช้ทำไร นอนอยู่บ้าน ทำอาหารกินเองประหยัดสุดล่ะ
ทำงานเดือนๆหนึ่ง ได้เงินมาใช้จ่ายเกือบหมด ไหนจะให้ครอบครัว ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิน ค่ารถ ค่าของจิปะถะอีก แทบไม่พอเก็บ
สมัยนี้เงินเดือนให้เท่าเดิมแต่ค่าครองชีพนี่ สูงเอ๊า สูงเอา
มนุษย์เงินเดือนตัวเล็กๆอย่างเรา จะทำไงดี เมื่อไรจะตั้งตัวได้ .