สวัสดีค่ะ เรื่องที่จะเล่าอาจจะยาวไปหน่อย ขอพื้นที่ระบายหน่อยนะคะ ทนอ่านหน่อยเนาะกลุ้มใจมากค่ะ ดิฉันอยู่กินกับสามีโดยไม่ได้แต่งงานมาประมาณ 4ปีกว่าๆ เขาอายุห่างกับดิฉัน3ปี ตอนนั้นดิฉันทำงานอยู่กรุงเทพ เขาเป็นเด็กฝึกงาน เขาเป็นคนจ.ขอนแก่น แต่ว่าพ่อแม่ไปทำงานอยู่ จ.นราธิวาสตั้งแต่เขาอายุได้ 10ปี เขาเลยตามพ่อแม่ไปอยู่ด้วย เขาเข้ามาฝึกงานในบริษัทประมาณ 5เดือน ดิฉันเป็นคนไปจีบเขาก่อนค่ะ เราเลยได้คุยกันและได้คบกันค่ะ คุยกันมาได้สักพัก จนรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว แต่เขาบอกว่าเลิกกันแล้วเราเลยเชื่อใจแล้วคุยต่อไป จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง จนเขาฝึกงานเสร็จ กำลังจะกลับ แล้วเขาก็กลับไปเรียนต่อ เขาก็โทรมาหาตลอดค่ะ จนมาวันนึงแฟนเก่าเขาส่งข้อความมาบอกดิฉันว่าให้เลิกคบกับเขาเพราะว่าเขาสองคนยังคบกันอยู่ ดิฉันก็ทะเลาะกับเขา และเสียใจมากที่เขาโกหกเรา เขาบอกว่าเขาเลือกผู้หญิงคนนั้น เพราะเขาคบกันมา6ปีแล้ว เขาเลิกไม่ได้ ตอนแรกดิฉันไม่ยอม ดิฉันเสียใจมาก คิดว่าทำไมเราต้องเสียสละด้วย ในเมื่อเราก็รักเขา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมค่ะ เพราะเรามาทีหลัง จนดิฉันคิดว่าจะไม่ติดต่อเขาอีก แล้วดิฉันก็เงียบไปแต่ก็ยังรักเขาอยู่ จนเขาติดต่อกลับมาอีก เขาบอกว่าเขาคิดถึงเรามาก เขาขอโทษเขารู้ตัวแล้วว่าเขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น เขารักดิฉัน ดิฉันเลยใจอ่อนด้วยความที่เรารักเขามากอยู่แล้ว เขาบอกว่าเขาจะไปบอกเลิกคนนั้น ดิฉันคิดว่าเขาคงไปบอกจริงๆ ก็เลยไม่ได้สงสัยอะไร ก็คุยกันต่อไป..แล้วมารู้ทีหลังว่ายังแอบคุยกันอยู่ ดิฉันเลยไม่ค่อยโทรไปหาเขา แบบว่าห่างๆออกไปอ่ะค่ะ แล้วเขาก็เริ่มหายไปด้วยโทรมาบ้าง ไม่โทรมาบ้าง เราก็ไม่ได้สนใจค่ะ ก็เริ่มทำใจได้บ้าง จนมาวันหนึ่งดิฉันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งมาโพสในเฟสบุ๊คเขา วันนั้นเป็นวันเกิดเขาพอดี ก็มาโพสว่าสุขสันต์วันเกิด เราก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร คิดว่าคงเป็นเพื่อนเขา แล้ววันหนึ่งเขาจะมาทำธุระที่กรุงเทพ เขาโทรมาบอกว่าจะมาหา เราดีใจมากค่ะ แล้วเขาก็มาเขาก็ดูแลเราดีทุกอย่างนะมาประมาณ 2วันแล้วเขาก็กลับ แล้วในวันที่เราแยกกันเราก็เปิดดูเฟสบุ๊คปกติ ดิฉันก็เห็นผญ.คนนั้นมาโพสในเฟสเขาอีก ว่า"โทรไปหาก็ไม่รับ 2วันแล้ว ไหนบอกจะโทรมาหา ไม่เห็นโทรมาเลย เนี้ยเหรอคนเป็นแฟนกัน" ตอนนั้นล่ะค่ะกระจ่างเลย แยกกันได้ไม่ถึง 10นาที ดิฉันโทรไปถามว่าผญ.คนนั้นเป็นใคร เขาบอกว่าเป็นรุ่นน้องในกลุ่มเพื่อน มาแอบชอบเขา แต่ไม่ได้มีอะไรกัน ดิฉันร้องไห้หนักมากค่ะเสียใจมาก เขาก็บอกว่าขอโทษเขาจะเลิกคบไม่ติดต่ออีกเลย พูดจนดิฉันใจอ่อนค่ะ แล้ววันหนึ่งเรามีโอกาสได้แอบดูมือถือของเขา มีข้อความจากผญ.คนนั้น ไม่พอมีของแฟนเก่าเขาอีก มีสายโทรเข้าโทรออกหากันตลอด แล้วก็ได้รู้ความจริงจากเพื่อนของเขาว่าเขากับผู้หญิงคนนั้นมีอะไรกันมาก่อนแล้ว ดิฉันรู้ตอนนั้นพูดอะไรไม่ออกเลยค่ะ เสียใจที่สุด คิดว่าคงเลิกแน่ๆ รับไม่ได้เลยค่ะ แล้วเขาก็ขอโทษอีกแล้ว คราวนี้ร้องไห้ค่ะ บอกว่าไม่ทำอีกแล้ว จะเลิกให้หมด จะไม่คุยกับใครทั้งนั้น จะมีแต่เราคนเดียวสัญญา ใจอ่อนอีกแล้วค่ะ แล้วก็ยอมคบกับเขาต่อไป จนมีวันหนึ่งเขาบอกว่ามาอยู่ด้วยกันไหม เขาจะเลี้ยงดูเองดิฉันก็รักเขาอยู่แล้ว ก็เลยยอมไปอยู่กับเขาที่นราธิวาสค่ะ ตอนนั้นพ่อเขาป่วยพอดีเลยขายบ้านที่ใต้เพื่อกลับไปรักษาต่อที่ขอนแก่น แต่เขาไม่ได้กลับไปด้วยเขาทำงานรับเหมาก่อสร้างต่อจากที่พ่อเขาทำ บางวันก็มีงานบ้าง ไม่มีงานบ้าง เขาชอบซ่อมมอร์ไซส์ แต่งรถซิ่งค่ะ ก็รับแต่งให้เด็กวัยรุ่นแถวนั้น กำไรก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ดิฉันกับเขาอาศัยอยู่กับน้าของเขาค่ะ อยู่ในห้องเก็บของในโรงรถข้างๆบ้าน ห้องก็ติดกับห้องน้ำ มีบ่อส้วมอยู่ในห้องดิฉันก็ยอมนอนอยู่ในนั้นแหละค่ะ ทนอยู่ค่ะเพราะรักเขาเนาะ เขาเป็นคนติดเพื่อนมาก กลางคืนกว่าจะนอนตี3 ตี4 นี่แหละค่ะเหตุผลที่น้าของเขาไม่ยอมให้นอนในบ้าน บางทีก็ถึงเช้าก็มีค่ะ ติดน้ำกระท่อมหนักมาก กินทุกวัน วันละ1-2ร้อยต่อวัน อยู่แบบนี้จนดิฉันตั้งท้อง มีกินบ้าง ไม่มีกินบ้าง แล้วมารู้ทีหลังว่าเขาทำธุรกิจผิดกฎหมาย ดิฉันรู้แต่ก็ห้ามแล้ว แต่เขาไม่ฟัง ทำจนดฉันท้องได้9เดือน เขาโดนจับ ต้องเอาเงินไปประกันตัว 3หมื่น ดิฉันวิ่งหาเงินท้องก็แก่ ตากฝนไปขอเอารถที่เขาเอาไปจำนำออกมาแล้วเอาไปขายได้เงินมา 25,000 น้าเขาช่วยอีก5,000 ก็ไปประกันตัวออกมา พอพ้นคดีเก่า อีกไม่นานก็เจอคดีใหม่อีกค่ะ คราวนี้ประกัน 8,000บาท เขาบอกให้เอาสร้อยลูก ไปจำนำก่อนเดี๋ยวซื้อคืนให้ ดิฉันก็ยอมค่ะแล้วก็ไปประกันตัวเขาออกมา ดิฉันลำบากมากทนอยู่ในห้องแคบๆ เวลามีคนเข้าห้องน้ำกดชักโครกก็ส่งกลิ่นเหม็นมากๆ ก็ทนอยู่มา2ปี เขาเลยบอกว่าอยากเปิดร้านซ่อมอยู่ข้างนอก เพื่อนเขาว่าจะใฟ้ยืมเงินก่อน เขาก็เลยพาดิฉันไปเช่าร้าน เปิดร้านซ่อมอยู่ข้างนอก เช่าเดือนละ 6000บาท ซึ่งรายได้แต่ละวันไม่พอกินเลยค่ะ แต่ละเดือนต้องคอยมาคิดว่าจะเอาเงินไหนจ่ายค่าเช่า เขาก็ไม่คิดอะไรเลยวันๆเอาแต่กินน้ำกระท่อมกับเพื่อนกลางคืนไม่ยอมหลับยอมนอนตื่นเปิดร้านบ่าย3 4โมงเย็นดิฉันพูดจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว จนมาเดือนที่2 เงินไม่มีเลยค่ะ ไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน เลยคิดว่าอยู่แบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ เลยชวนเขากลับไปอยู่บ้านดิฉันที่เชียงราย ตอนแรกเขาไม่ยอมไปค่ะ เขาว่าจะสู้ต่อ ดิฉันบอกว่าถ้าเขาไม่ไป ดิฉันจะไปเอง เขาเลยยอมค่ะ ทางบ้านดิฉันก็หาเงินให้ค่ารถกลับบ้าน หาเงินให้ไปจ่ายค่าบ้าน จนเราย้ายมาอยู่เชียงราย แม่ดิฉันเลยเปิดร้านซ่ิมให้เขาอยู่ที่บ้าน ก็มีรถมาซ่อมบ้างตามประสาบ้านนอกเนาะ แล้วพอตอนสงกรานต์เขาเลยพาดิฉันกลับไปเยี่ยมครอบครัวเขาที่ขอนแก่น ดิฉันมารู้ทรหลังค่ะว่าบ้านเขาไม่มี ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรเลยนอกจากรถกระบะคันหนึ่งที่เป็นหนี้ไฟแนนส์อยู่ ดิฉันมาเห็นสภาพ เช่าบ้านห้องแถวอยู่ มีน้องสาวเขาคนหนึ่ง พ่อเขานอนป่วยอยู่แต่ก็ช่วยเหลือตัวเองได้ค่ะ แค่แขนขาอ่อนแรง แล้วก็มีแม่เขาอีกคนหนึ่ง ดิฉันสงสารมาก เลยบอกเขาว่ามาอยู่กับพ่อแม่เขามั้ย ให้แม่เขาเลี้ยงหลาน เพราะว่าที่เขาอยู่มันก็คงเจริญกว่าที่บ้านดิฉัน คงหางานได้มากกว่าที่บ้านดิฉันแน่นอนเราสองคนเลยตัดสินใจมาอยู่ที่บ้านเขาค่ะ ดิฉันก็วิ่งหางาน แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลยค่ะ หางานยากมาก เขาบอกว่าดิฉันเป็นคนนอกพื้นที่ ไม่กล้ารับทำงานเพราะกลัวจะย้ายที่อาศัยอีก เพราะอยู่ห้องเช่า ซึ่งก็ไม่เข้าใจ ตอนนั้นหางานจนท้อ แล้วเขาก็ได้ทำงานก่อนดิฉัน เขาได้ทำงานมีเงินเดือน เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ค่อยให้ดิฉันถือเงิน ดิฉันก็ไม่ได้ทำงาน อยากซื้ออะไรก็ไม่กล้าจะขอ อดมื้อกินมื้อ เขาไปทำงานแม่เขาก็ไม่เคยสนใจเรื่องกับข้าวหลานเลยจนเราต้องไปขอข้าวข้างบ้านให้ลูกกิน เขาเปลี่ยนไปมากค่ะ เหมือนคนละคนเลย หงุดหงิดง่าย ใครว่าอะไรให้ไม่ได้ขึ้นเสียงใส่ไม่พอใจใส่ หงุดหงิดจากที่ทำงานมาก็มาลงที่ดิฉัน มาลงที่ลูก คุยกันไม่กี่คำก็ทะเลาะกัน เวลาเลิกงานก็กลับเข้าบ้านเที่ยงคืนตีหนึ่ง ลูกงอแงกลางคืนก็ด่าก็หงุดหงิดใส่ ลูกไม่สบายไม่เคยมาช่วยดูแล ไม่ช่วยอะไรเลย อุ้มลูกไม่ถึง5นาทีก็เอามาให้ดิฉันแล้ว เล่นกับลูกไม่ถึงนาทีก็ไป ทีพ่อเขาดิฉันดูแลให้ ตัดเล็บมือ เล็บเท้า ตัดผมให้ พาไปหาหมอ เขาเงินมีเท่าไรก็เอาไปใช้จนหมด เงินเข้าเงินออกดิฉันไม่เคยทราบเลยค่ะ ค่ารถก็ต้องจ่าย ค่าบ้านก็ต้องจ่าย จนเป็นหนี้ค้างค่าบ้าน3เดือน ค่ารถอีก 4เดือน จนบริษัทจะมายึดรถ ดิฉันก็ไปช่วยคุยให้ บริษัทให้รีไฟแนนส์ใหม่ ถ้าไม่รีก็ต้องหาเงินมาให้เขาสามหมื่น ซึ่งจะหาจากไหน ขนาดเงินจ่ายค่าบ้านยังไม่มี แล้วก็ต้องเป็นหนี้เพิ่มอีก เพราะเขาเอาวงเงินเพิ่ม 3หมื่นบาท ดิฉันก็ไม่ใช้สักบาทนะคะ แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรค่ะ พอดีมือถือพังไม่ได้ติดต่อที่บ้านเลย ก็เลยบอกเขาว่าอยากได้มือถือใหม่ เขาบอกว่าอยากได้ก็เอาเงินไปซื้อแล้วผ่ินใช้คืนเดือนละ500 ตอนนั้นก็ได้ทำงานพอดีค่ะ เลยไปทำงาน แม่ของเขาก็ไม่ค่อยดูแลหลานดีเท่าไร ดิฉันเลิกงานทุ่มกว่า กลับมาลูกยังไม่อาบน้ำ ยังไม่ได้กินข้าว ดิฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมแม่ของเขาไม่ทำ ดิฉันเหนื่อยมากค่ะ แต่ก็ต้องทน เขาไม่เคยช่วยดิฉันแบ่งเบาอะไรเลยค่ะ แม้กระทั่งเปลี่ยนกางเกงให้ลูกเขายังไม่ยอมทำ อาบน้ำให้ลูกนับครั้งได้ อาบแต่ไม่เคยจะใส่เสื้อผ้าให้ ลูกอึ ลูกเยี่ยวก็ต้องรอดิฉันตลอด ดิฉันทนอยู่แบบนี้2ปีกว่า จนตัดสินใจว่าจะพาลูกไปอยู่บ้าน เลยบอกเขาว่าจะพาลูกไปเยี่ยมครอบครัวนะ สัก 3-4วัน เขาไม่ยอมค่ะ เขาบอกว่าให้ดิฉันไปแค่คนเดียวลูกเขาไม่ยอมให้ไปค่ะ ซึ่งดิฉันไม่ยอมหรอกค่ะ ยังไงก็จะพาลูกไปด้วย ที่เราจะกลับบ้านไม่ใช่ตัวเรา แต่ดิฉันทำเพื่อลูกดิฉันห่วงอนาคตลูกถ้าลูกโตมาจะอยู่ยังไง ไหนจะเข้าโรงเรียนอีก ดิฉันก็พูดทุกวันจนเขายอมค่ะ ดิฉันเลยพาลูกกลับมาอยู่ที่บ้าน เขาก็ถามตลอดเวลาว่าจะกลับเมื่อไรคิดถึงลูก ดิฉันเลยบอกความจริงไปว่าจะไม่กลับไปที่นั่นอีก เขาโกรธมากค่ะ เขาบอกว่าจะไปพาลูกกลับมา เขาจะเอาลูกคืน ดิฉันเลยว่าถ้าจะทำแบบนั้นดิฉันจะพาลูกหนี เขาเลยยอมค่ะเขาก็โทรมาหาลูกทุกวันนะคะคอลมาทุกวัน แล้วก็ไลน์มาคุยกับดิฉันบ้างเป็นบางครั้ง คุยกันทีไรก็ทะเลาะกันตลอด ล่าสุดเขาด่าดิฉันว่าดิฉันคงทนความลำบากไม่ได้ ดิฉันรักแต่ตัวเอง ไม่เคยคิดถึงคนอื่น ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นคนอื่น คิดว่าตัวเองเก่งกว่าใคร ดิฉันโมโหมากค่ะ ทั้งๆที่ผ่านมาดิฉันทำเพื่อเขายอมเขาตลอด แต่ก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรค่ะ เพราะรู้ว่าเขานิสัยยังไงเป็นคนไม่ยอมใคร จะเอาชนะตลอด แล้วพอมาอีกวันก็มาคุยดีด้วย บอกว่าอยากให้ดิฉันกลับไปเป็นเหมือนเดิม คุยกันดีๆเหมือนตอนแรกที่คบกัน ดิฉันสับสนมากค่ะ ไม่รู้จะเอายังไงต่อไป ถ้ากลับไปเป็นเหมือนเดิมดิฉันกลัวจะเจออะไรแบบเดิมๆ ดิฉันทุกข์ใจมากค่ะเวลาทะเลาะกัน เวลาอยู่ด้วยกันทะเลาะกันตลอด ดิฉันไม่อยากเจอปัญหาแบบเดิมๆอีก ดิฉันควรทำยังไงดีคะ จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม กลับไปให้อภัยเขาอีก หรือว่าเดินหน้าต่อไป เลิกกับเขาแล้วเริ่มต้นใหม่หางานหาเงินเลี้ยงลูกเอง ดิฉันควรทำยังไงดีคะ 😟😟😟 ที่กลับมาบ้านก็ไม่ได้คิดจะเลิกกับเขาหรอกค่ะ คืออยากให้เขาเปลี่ยนตัวเอง แต่พอมาเจอเขาพูดเหมือนกับว่าเขาไม่รู้ตัวเองว่าเขาผิด คือเขาโทษแต่คนอื่น ดิฉันควรทำยังไงดีคะ??? รบกวนช่วยดิฉันคิดหน่อยค่ะ จะเลิกก็สงสารลูก จะคบต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น 😢😢
อยู่กันมา 5ปี ไม่มีอะไรดีขึ้น ควรไปต่อ หรือพอแค่นี้