หลัมเล่า ที่มาไอ้ติมการเมือง

กระทู้สนทนา
น้าหลัม ทำไหร พ้มถามหน้าหลัม เมื่อเห็นแก่นั่ง ๆ เงย ๆ อยู่ข้างโอ่ง  โอ่งมันซึม ๆ วะ ไอ้บ่าว น้าหลัมตอบพลาง  เดินมาหาพ้มพลาง

แหล้ว.. ยกชั้นไปไหนฮั้น ไปวัดไปกับพ้มหม้าย ไป.. น้าหลัม ตอบพร้อมกับยกขันน้ำล้างหน้า แหล้วเดินไปหยิบผ้าซักอาบ ที่ปากโอ่งมาพาดบ่า

ไป... น้าหลัมออกเดินนำหน้าพ้มไปวัด ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางปลั๊กออกประมาณ 2 โล ทางเดิน ระหว่างทางน้าหลัมกะชวนพ้มคุยไปเรื่อย เล่าเรื่อง

พ่อรบกับสมภาร น้าหลัมเล่าออกรถชาด อย่างหนุกหนาน โดยเฉพาะเรื่องทางเข้าวัดหรือประตูเข้าวัด น้าว่าเรื่องนี้พ่อพ้ม กับสมภาร เถียงกันประจำ

พอถึงหน้าฝน เพราะวัวของเกลอพ่อที่อยู่ นอก (ชาวนา สำนวนการเรืยกของคนปักษ์ใต้ นคร ที่ใช้เรียกคุณแถบลุ่มน้ำปากนัง)

จะเอาวัวมาฝากเลี้ยง เพราะ นอก จะเป็นฤดูทำนาหม้ายที่ลัมวัว โหม่นอก จะเอาวัวมาฝากเกลอที่หยู่ทางเหนือให้ช่วยเลี้ยง พ่อและญาติ ๆ จะเอาวัว

ไปล่าม ไว้ที่ดอนหลังเปลว ซึ่งเป็นดอนใหญ่ และหยู่ติดวัด และปล่อย ให้ลูกหลานได้ช่วยแล บางวันวัวแหกฝูงเดินเข้าวัดกินของวัดเสียหาย

ต้องเดิอดร้อนพ่อ กับ น้า ๆ ออกมาขอโทษ ขอโพย สมภาร  น้าหลัมว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง สมภาร อีทำรั้ววัดกับไม้ไผ่ พ่อและน้า ๆ ออกปากคน

ไปช่วยกันหลายคนหยู่ แต่หยู่  ๆ ขณะที่กำลังทำรั่ว สมภารเดินมา

ถามว่า โหม่ สู้ทำรั่วไหร ไตร ทำ 3 ชั้น

น้าหลัม บอกว่าตอนนั้นเป็น น้าสะหม้อที่พึงย้ายมาหยู่บ้านเรา ตอบไปว่า ทำรัวสัตว์ ทำ 3 ชั้นพอ

ทำรั่วคนค่อยทำ 4 ชั้น สมภารได้ยินพันนั้น โกรธใหญ่ เพราะรัวที่ทำนั้น ทำล้อมวัด  

หาว่าน้าสะหม้อ พูดว่าแก เป็นวัวเป็นควาย เดือนร้อนถึง พ่อกับผู้ใหญ่ ต้องขอโทษ ขอโพยกันยกใหญ่หลาว


เสร็จ แหล้ว อือ น้าหลัมถามพ้ม หลังจากที่เห็นพ้มเดินลงมาจากกุฏิสมภาร ครับ  พร้อมตอบกับหันไปทางน้าหลัม

แหล้วน้าหลัมละเสร็จยัง พ้มถามเพราะไม่เห็นน้าหลัมหิ้วถุงปูน ที่จะเอาไปยาโอ่ง ไอ้สะหม้อมันเอาไปแหล้ว น้าหลัมตอบ แขบไปหิด ไป น้าซื้อ

ไอ้ติม ของไอ้ตุด ไปฝาก ไอ้สองตัวฮั้น  น้าหลัมพูดพลางออกเดินพลาง ฝนอีตกหม้ายไอ้บ่าว

น้าหลัม หันมาแหลงกับพ้มหลังจากที่เหิดแลหวันอยู่หลายรอบ น้าหลัม วิ่งไปก่อนกะได้ พ้มตอบเมื่อเห็นเม็ดฝนพลัดลงมา

หลังจากน้าหลัมออกวิ่งไม่นานฝนกะตกลงมาห่าเติบ


ถามไอ้บ่าวแลเอาเอง เสียงน้าหลัมดังมาจากนอกชาน เมื่อพ้มทำท่าอีขึ้นได

ไอ้บ่าว ไอ้หลัม มันบอกหว่ามัมซื้อไอติม มาฝากน้าสองคน แต่พอมาถึงน้าเหลือแต่ไม้ไอ้ติม กับใบกล้วยแห้งเปียกฝน น้าถามมันตรง ๆ

ว่าไม่ต้องแกล้ง ไม่ต้องเหยาะเย้ยที่ได้กินไอติม แหล้วเอาไม้ไอติมมาเหยาะเย้ยกัน ไอ้หลัมมันบอกว่ามันไม่ช้ายนักการเมือง ที่กินงบ

ประมาณชาวบ้าน  มันว่าผู้ใหญ่แหลงให้ฟัง

ผู้ใหญ่ว่าพรือนะ น้าหลัม พ้มถามด้วยความยากรู้เหมือนกัน

แต่หวา..  ตอนที่น้าไปช่วยผู้ใหญ่ซ่อม แทงก์น้ำโรงเรียน  น้าถามผู้ใหญ่ว่าไตร มันพังเร็วสร้างมาปีหวาเอง ผู้ใหญ่หวา อัตราส่วนผสมระหว่าง

หิน ทราย ปูน ไม่ได้กัน หลังจากนั้นแก่กะบ่นตามประสาของแก น้าจับใจความได้ว่า แรกก่อน พวกเรา แกหมายถึง กำนัน ผู้ใหญ่ของแก่

กะหยู่กันแบบธรรมดา ตางส์งบประมาณได้มาเท่าใดกะทำเท่านั้นบางครั้งไม่พอกะต้องขวักเป้าเองให้ให้มันเสร็จ แต่หลังจากโครงการคึกฤิทธ์

เข้ามาแก่ว่า กำนันคนก่อน แก่ทำบัญชีรายงานการทำงานขุดสระ ไตามปรกติที่เคยทำ ลงจำนวนเงินจำนวนวัน ไปตามปรกติ  แต่คนบนอำเภอ

กลับหยิกให้กำนันกลับไปแก้จำนวนเงินกลับมาใหม่ โดยแนะนำให้เสร็จสรรพว่าไตรต้องทำพันนั้น

แหล้วมันเกี่ยวไรกับไอ้ติมที่   ึงกินตรงไหน  น้าสะหม้ถามแทรกขึ้นมา

อยู่มาสักสองสามวัน น้าหลัมเล่าต่อ  กำนันแก่เอาบัญชีนั้นไปส่งที่อำเภอ  พอดี ไอ้ตุด มันขายไอติมอยู่แถวนั้น กำนันแกเลยซื้อไอติมเดินดูดขึ้นอำเภอ

พอ ๆ ไม่ต้องเล่าแหล้ว ไอ้หลัม กูเข้าใจแหล้ว ไม่ต้องเล่าแหล้ว. น้าเจ็กจ้องร้องบอกน้าหลัม

ไปไหน ไอ้หม้อ น้าเจ็กจ้อง ร้องถามเมือเห็น น้าหม้อ..เดินลงจากเริ่น  

กูอีไปหาไอติมกิน...ไปกันหม้าย....เผือทีนายเป็นนายมั้ง...

ฝนยังตกอยู่เหลยฮั้น.....

ตกกะ - ุ ไป

ฮ่าา น้าเจ็กจ้องขำในท่าทางของน้าสะหม้อ ก่อนวิ่งลงจากเริ่น ตามน้าหม้อไป..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่